หลังจากกวาดล้างฝูงก็อบลินเรียบร้อย ฉันก็ตัดหูจากซากศพที่เสียหายเก็บใส่ถุงผ้าสำหรับใช้เป็นหลักฐานการปราบมอนสเตอร์
เพราะเจ้าคนตัวเล็กคนนั้นพาฝูงมากันตั้งยี่สิบตัว เป้าหมายแค่แปดตัวก็ทะลุไปตั้งนานแล้ว
…แต่ถึงอย่างนั้น สองตัวในยี่สิบนั้นหาหัวไม่เจอ จึงไม่อาจเก็บชิ้นส่วนยืนยันการปราบได้ก็เถอะ
“…คานาตะซัง เก่งมากเลยนะคะ…”
โพเมร่าพูดเสียงเบา แววตาเศร้าหมองลงเล็กน้อย
…เรื่องนี้ฉันเข้าใจดี การที่คู่หูร่วมล่ามีเลเวลสูงกว่าตัวเองมากขนาดนี้ สำหรับเธอแล้วมันไม่ใช่เรื่องน่ายินดีนัก แถมยังรู้สึกเป็นภาระด้วยซ้ำ
“ขอโทษนะที่ไม่ได้พูดไว้ก่อน… ฉันแค่ไม่อยากให้เธอต้องรู้สึกแย่หรือรู้สึกเป็นภาระน่ะ”
“ม-ไม่ค่ะ! ฉันรู้ว่าคานาตะซังแค่เกรงใจ ไม่ได้มีเจตนาอื่นเลยจริงๆ…!”
“เพราะหาคนที่ไว้ใจได้มันยากน่ะ… แถมเธอยังสอนฉันหลายอย่างเกี่ยวกับตัวเมืองกับการเป็นนักผจญภัยอีก ฉันต้องขอบคุณจริงๆ”
“แต่… ฉันคงปล่อยให้ตัวเองเป็นภาระกับคานาตะซังแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอกค่ะ…”
โพเมร่าเอ่ยพลางก้มหน้าลง
…ในมุมของเธอ ก็คงเป็นแบบนั้นแหละ
สำหรับฉันแค่มีคนช่วยอธิบายระบบของเมืองกับการเป็นนักผจญภัยก็ดีใจจะแย่แล้ว
ถ้าคนอื่นรู้เรื่องเลเวลของฉัน หรือพวกไอเท็มที่ถืออยู่เข้า ก็อาจเป็นเป้าหมายของพวกผู้กล้าที่ได้พรวิเศษจากเทพเจ้าอย่างที่ลูนาเอลเคยพูดถึง หรือกระทั่ง《มนุษย์มังกรอสูร》ที่เป็นศัตรูกับทั้งโลกด้วยตัวคนเดียว
เพราะแบบนั้น ฉันถึงไม่สามารถหาพวกพ้องใหม่ได้ง่ายๆ
แล้วโพเมร่าเองก็ถือว่าเป็นคนที่ไว้ใจได้มาก — ทั้งนิสัยดี ทั้งเป็นคนที่หาคบได้ยากในโลกนี้
“ฉันยังไม่เข้าใจอะไรเกี่ยวกับเมืองนี้หรือระบบนักผจญภัยนัก แถมที่นี่ก็ไม่ใช่เมืองที่ปลอดภัยนักด้วย ถ้าจะหาคนที่เชื่อใจได้ คงต้องใช้เวลา… ฉันก็เลยคิดว่าถ้าเธอไม่รังเกียจ อยากจะให้เราร่วมปาร์ตี้กันต่อไปน่ะ”
โพเมร่าเงียบไป ไม่ตอบอะไร
เหมือนจะกำลังใช้ความคิดอย่างหนัก
โพเมร่าเองก็เป็นนักผจญภัย และมีเป้าหมายอยากช่วยเหลือคนอื่นให้ได้ สร้างมิตรภาพที่เท่าเทียมกับเพื่อนร่วมทาง
แต่ถ้าแค่ติดตามฉันไปช่วยเรื่องไม่เกี่ยวกับการต่อสู้ มันก็ห่างไกลจากเป้าหมายของเธอมาก
แม้ฉันจะเสนอค่าตอบแทนสูงแค่ไหน เธอก็คงไม่ยอมรับอยู่ดี
“อะ-เอ่อ คานาตะซัง!”
โพเมร่าเงยหน้าขึ้น
“คานาตะซังเป็น…คือ เป็นจอมเวทย์ใช่ไหมคะ?”
ฉันก้มมองเสื้อคลุมของตัวเอง
…ก็คงเพราะการแต่งตัวสินะ เธอเลยคิดแบบนั้น
จริงๆ แล้ว การใช้เวทมนตร์มีพลังทำลายสูงกว่า มีระยะไกล ปลอดภัยกว่า ถ้าต้องสู้กับศัตรูเลเวลเดียวกันหรือสูงกว่าก็คงต้องใช้เวทนำแล้วใช้ดาบเสริม
แถมลูนาเอลเองก็ไม่ได้สอนเรื่องการใช้ดาบให้ฉันด้วย
เวท《จิตคู่ขนาน》ที่ฉันฝึกจนแทบตาย ถ้าไม่ใช้เวทมนตร์มันก็ไร้ความหมาย
แม้จะต่อสู้ประชิดพร้อมร่ายเวทไปด้วยก็เถอะ สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับเวทมนตร์อยู่ดี
พูดให้ถูก ฉันก็คือสายเวทนั่นแหละ
“ใช่ ฉันเป็นจอมเวทย์”
แม้ว่าตั้งแต่มาอยู่บนพื้นดินยังไม่ได้ใช้เวทมนตร์เลย เพราะการต่อสู้ด้วยมือเปล่าควบคุมแรงได้ง่ายกว่า
โพเมร่าก้มหัวให้ฉัน
“อะ-เอ่อ! ถ้ามันไม่เป็นการรบกวนมากเกินไป… คานาตะซังจะช่วยสอนเวทมนตร์ให้โพเมร่าหน่อยได้มั้ยคะ!?”
“ให้ฉัน… สอนให้เธอ?”
“รู้ค่ะ ว่ามันเห็นแก่ตัว… แต่ฉันไม่มีใครให้พึ่งได้เลยจริงๆ ก็พยายามฝึกเองมาตลอด แต่ก็เริ่มรู้สึกถึงขีดจำกัดแล้ว… ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันก็คงเป็นได้แค่ภาระ เหมือนตอนอยู่กับรอยซังนั่นแหละค่ะ”
จริงอยู่ เวทมนตร์ไม่ใช่อะไรที่เรียนรู้ด้วยตัวเองได้ง่ายๆ
ฉันเองก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้ก็เพราะมีตำราเวทของลูนาเอล คำอธิบาย การวางแผน รวมถึงพลังของ《การแสวงหาของราชาจอมเวท》กับ《อีเธอร์โลหิตเทพนิรมิต》
ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านั้น แม้จะมีเวลาพันปีก็อาจไปไม่ถึงจุดนี้
ถึงฉันจะไม่เชี่ยวชาญเวทขาวที่โพเมร่าใช้ หรือเวทภูติที่เหมาะกับเอลฟ์ แต่ก็ยังมีตำราของลูนาเอลอยู่
การจะเพิ่มระดับขั้นเวทก็ต้องอาศัยทั้งพลังเวทและเลเวลที่มากขึ้น
…ถ้าให้คำแนะนำได้ ก็คงมีหลายอย่างอยู่
“ถ้าโพเมร่ามีพลังพอจะสู้ได้จริงๆ… ฉันคิดว่ารอยซังกับโฮลี่ซังอาจจะยอมเป็นเพื่อนกับฉันจริงๆ สักที…”
…สองคนนั้น ไม่น่าไว้ใจเท่าไหร่นะ…
แต่ฉันก็เข้าใจแล้วว่าเส้นทางที่เธอต้องการเดินคือแบบไหน
ตั้งแต่ที่ชวนกันเป็นปาร์ตี้ ฉันก็ตัดสินใจไว้แล้วว่า จะช่วยสนับสนุนความฝันของโพเมร่าเท่าที่ฉันทำได้
ถ้าแค่ช่วยฝึกเวท แล้วเธอจะยอมอยู่ในปาร์ตี้ต่อ — งั้นก็ดีเลย
“เข้าใจแล้ว ถึงฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองจะช่วยเธอได้มากแค่ไหน… แต่ถ้าเธอไม่รังเกียจ ยังไงก็ฝากตัวด้วยนะ”
ฉันยื่นแขนออกไป
โพเมร่ามองซ้ายขวาอย่างประหม่า แล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง เหมือนถามว่า “กับฉันเหรอ?”
…ดูท่าชีวิตเธอก่อนหน้านี้คงไม่เคยมีใครยื่นมือให้แบบนี้
ฉันพยักหน้าให้ เธอก็ยิ้มอย่างดีใจแล้วจับมือฉันไว้
“ย-ยินดีที่ได้ร่วมงานกับคานาตะซังค่ะ!”
และแล้ว ฉันกับโพเมร่าก็ตัดสินใจร่วมปาร์ตี้กันต่อ
ต่อจากนี้… ฉันก็คงเป็นอาจารย์ของเธอล่ะมั้ง?
…คิดแบบนี้แล้วมันก็รู้สึกจั๊กจี้พิลึก
ในขณะเดียวกัน ก็อดนึกถึงลูนาเอลไม่ได้อีกครั้ง
อยากไปหาเธอทันทีเลย แต่ถ้าไปเร็วจนเกินไป ก็คงเป็นการฝืนใจเธอ
…ต้องทิ้งช่วงแค่ไหนกันนะ ถึงจะได้พบกันโดยที่เธอยอมรับฉันอีกครั้ง?
MANGA DISCUSSION