ผมมาถึงหน้าฮะจิโคที่ชิบูย่าตรงเวลาพอดี ต่างจากตอนก่อนตายในโลกที่แล้ว พูดตามตรงแล้วมันควันโขมง แถมตามทางก็มีแต่ก้นบุหรี่เต็มไปหมด แค่ไม่กี่ปีเองนะ แต่พอมาคิดว่าชิบูย่าเคยสกปรกขนาดนี้ก็ทำให้รู้สึกได้จริงๆ ว่าได้ย้อนเวลากลับมาแล้วสินะ อายาชิโระทำหน้าเรียบเฉย แต่ยูซึริฮะกลับทำหน้าบึ้งเพราะกลิ่นบุหรี่ ให้ความรู้สึกเหมือนกับการรับน้องของเมืองกรุงเลย
“โย่ว รอนานไหม? ก๊ากๆๆ!”
“เอ๊ะ? รุ่นพี่? มาทำอะไรที่นี่ครับ?”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย คนที่เข้ามาทักผมคือรุ่นพี่เคไคนั่นเอง ต่างจากคราวที่แล้ว วันนี้เขาแต่งตัวดูดีมีสไตล์อย่างเหมาะสม
“ฉันมาแทนมิซากิที่กำลังเตรียมตัวยุ่งอยู่น่ะ! เอ้า ตามมาๆ!”
พวกเราต่างก็เอียงคอสงสัย แต่รุ่นพี่เคไคคงจะไม่มาโกหกอะไรพวกเราหรอก ก็เลยเดินตามหลังเขาไป พวกเราเดินผ่านหน้าตึก 109 แล้วก็มาถึงซอยเล็กๆ แห่งหนึ่ง ที่นั่นมีเลิฟโฮเทลอยู่ประปราย
“ตอนนั้นของฉันน่ะมันเป็นการค้างคืนหรือว่าแค่พักชั่วคราวนะ? ฮะๆ!”
ยูซึริฮะมองไปที่ป้ายราคาของเลิฟโฮเทลด้วยความสนใจปนความรังเกียจและรอยยิ้มที่เยาะเย้ยตัวเอง ดูเหมือนว่าเรื่องในวันนั้นเธอคงจะทำใจได้แล้วถึงได้เอามาพูดเป็นมุกตลกได้ ผมคิดว่าเธอมีจิตใจที่เข้มแข็งกว่าผมเยอะเลย
“ที่เลี้ยงฉลองของพวกแกก็คือที่นี่เองจ้า!! อะฮะฮ่า!”
ที่นั่นคือสถานที่ที่เรียกว่าคลับ มีป้ายไฟที่ดูมีบรรยากาศตั้งอยู่ จากป้ายดูเหมือนว่าจะเปิดตอนสี่ทุ่ม แต่พวกวัยรุ่นที่ดูไม่น่าไว้ใจก็มายืนต่อแถวกันแล้ว ที่ทางเข้ามีผู้ชายที่ดูแข็งแรงเหมือนกับการ์ดยืนอยู่
“อ๊ะอ๋า จะว่าไปแล้วมิซากิเคยบอกว่าไปเต้นตามคลับต่างๆ อยู่นี่นา นี่น่าสนุกนะ! ฉันเองก็เพิ่งจะเคยมาที่แบบนี้เป็นครั้งแรกเหมือนกัน!”
“…นี่มันโตเกียว…?! ในเกมจีบหนุ่มหรือเกมจีบสาวก็ไม่เคยเห็นภาพแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ!! กรี๊ดดดดดด!!”
ดูเหมือนว่าผู้หญิงสองคนจะตื่นเต้นกันน่าดู ผมเองก็ใจเต้นแรงเหมือนกัน
“ดีเลยนะ! ใสซื่อดีจริงๆ! พวกแกน่ะเป็นเพื่อนของมิซากิก็เลยจะได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษนะ! มีโต๊ะเสิร์ฟให้ที่ห้องวีไอพีด้วย! โชคดีนะ! ก๊ากๆๆ!”
รุ่นพี่เคไคเดินไปทางทางเข้าแล้วก็คุยอะไรบางอย่างกับการ์ด จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกพวกเรา แล้วพวกเราก็ได้เข้าไปข้างในทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาเปิดร้าน
“ดันเจี้ยนเหรอคะ! ที่นี่มันดันเจี้ยนเหรอคะ?! กรี๊ด!”
ในขณะที่พนักงานกำลังตรวจสอบความเรียบร้อยครั้งสุดท้ายในฮอลล์ที่ยังไม่มีคนอยู่ พวกเราก็เดินเข้าไปข้างในอย่างสบายอารมณ์ ยูซึริฮะที่หน้าแดงก่ำแล้วก็กระโดดโลดเต้นอย่างสนุกสนานนั้นน่ารักมาก
“เหรอ…เป็นพื้นที่ที่วิเศษดีนะ ที่นี่เองสินะที่ชายหญิงจะมาใช้ชีวิตอย่างเสื่อมโทรมกัน อืม…โรแมนติก!”
อายาชิโระเองก็ดูตื่นเต้นกว่าปกติ พื้นที่ที่ไม่ใช่ชีวิตประจำวันมันทำให้คนเราเสียสติได้ง่ายๆ เลย แล้วพวกเราก็มาถึงพื้นที่ที่เงียบสงบซึ่งเต็มไปด้วยแสงสีฟ้าที่อยู่ลึกเข้าไปข้างใน เป็นพื้นที่ที่มีโต๊ะกับโซฟาที่กั้นเป็นครึ่งวงกลมเรียงรายอยู่ บนโต๊ะตัวหนึ่งมีกระดานดำเล็กๆ ที่เขียนว่า ‘กลุ่มโทคิวะ’ ตั้งอยู่
“เชิญเลยครับกลุ่มโทคิวะทุกท่าน! วันนี้เชิญสนุกกับที่นั่งวีไอพีนี้ได้เลยครับ! ก๊ากๆ!”
รุ่นพี่เคไคแนะนำที่นั่งให้พวกเราเหมือนกับเป็นพนักงานต้อนรับ อายาชิโระกับยูซึริฮะนั่งลงบนโซฟาอย่างสนุกสนาน ผมเองก็กำลังจะนั่งลงเหมือนกัน
“ฉันได้ยินเรื่องความสำเร็จของแกมาแล้วนะ คานาตะ ที่นั่งของแกคือที่นั่งประธานที่อยู่ลึกเข้าไปข้างในนั่น! นั่งอย่างสง่าผ่าเผยไปเลย! ก๊ากๆๆ!”
ผมถูกรุ่นพี่กระตุ้นก็เลยนั่งลงบนโซฟาที่อยู่ลึกเข้าไปข้างใน มีทั้งยูซึริฮะและอายาชิโระอยู่สองข้างให้ความรู้สึกที่หรูหรามาก
“นี่มันให้ความรู้สึกเหมือนกับมาเฟียในนิวยอร์กเลยนะคะ! ดีจังเลยค่ะ! ดีมากเลยค่ะคุณคานาตะ!”
ความชอบมาเฟียอเมริกันของยูซึริฮะนี่มันคืออะไรกันนะ? อายาชิโระก็พยักหน้าเห็นด้วย
“ทำแบบนั้นแล้วเหมือนกับเศรษฐีใหม่จากวงการไอทีเลยนะ! ที่ทำงานที่เป็นกันเองที่มุ่งสู่การเข้าตลาดหลักทรัพย์ค่ะ!!”
นั่นมันบริษัทมืดชัดๆ เลยครับ
“จะขอรับไว้เป็นคำชมก็แล้วกันนะ แต่ว่าที่นี่…”
“””สุดยอดไปเลย! เย้ーーーーーー!!!”””
ใครๆ ก็รำคาญพวกปาร์ตี้พีเพิล ที่จริงแล้วก็น่ารำคาญแถมยังสร้างความเดือดร้อนให้บ่อยๆ ด้วย แต่ก็มีบางครั้งที่มองจากที่ไกลๆ แล้วก็รู้สึกว่าน่าสนุกดีเหมือนกันนะ
“เครื่องดื่มกับชนแก้วน่ะมิซากิยังเตรียมตัวอยู่ก็เลยขอให้รอก่อนนะ”
“มิรันทำอะไรอยู่เหรอครับ?”
เธอพูดอะไรที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าจะไปสละซิงแล้วก็วิ่งจากไป แต่ว่าเธอจะทำอะไรกันแน่นะ?
“หืม? ก็พอเปิดร้านแล้วคนในร้านเริ่มจะนิ่งแล้วก็ให้ไปที่ฮอลล์ C นะ แล้วก็ที่นั่งนี้น่ะวันนี้เป็นของพวกแกก็เลยจะใช้เป็นที่พักผ่อนตามสบายเลยก็ได้ แต่ว่าตอนนี้หิวกันแล้วใช่ไหมล่ะ? เดี๋ยวจะเสิร์ฟของว่างให้เอง!”
พอรุ่นพี่เคไคตบมือ พนักงานก็นำของว่างเบาๆ อย่างเช่นมันฝรั่งทอดหรือแฮมมาให้ เมื่อกี้นี้เอาแต่อ่านหนังสือก็เลยรู้สึกขอบคุณมาก
“งั้น! ฉันจะไปจีบสาวก่อนนะ บ๊ายบาย! ฝากบอกมิซากิด้วยว่ายินดีด้วยนะ! ก๊ากๆๆ!”
รุ่นพี่เคไคพูดแบบนั้นแล้วก็หายตัวไปอย่างรวดเร็ว คนคนนั้นนี่มันปริศนาจริงๆ นะ พวกเราก็เลยกินของว่างไปพลางๆ แล้วก็รอให้ร้านเปิดและคนเริ่มจะนิ่ง
คลับที่นี่มันกว้างเหมือนกับดันเจี้ยนจริงๆ เลยเหรอเนี่ย มีพื้นที่หลากหลายโซนแล้วก็เพลงที่เปิดก็แตกต่างกันไปหมด ผู้คนที่เดินไปมาต่างก็เต้นหรือจีบกันอยู่ เป็นบรรยากาศที่พวกเก็บตัวไม่มีทางใช้ชีวิตอยู่ได้เลย ที่จริงแล้วตอนแรกยูซึริฮะก็กลัวคนเยอะๆ อยู่เหมือนกัน แต่หลังจากที่ผมบอกให้เธอเกาะแขนผมไว้ เธอก็ดูสนุกสนานขึ้นมา
“แบบว่า! บรรยากาศมัน! สุดยอดไปเลยค่ะ!! เสียงมันสั่นไปถึงท้องเลย! แล้วตาก็พร่าไปหมด! แต่ว่าไม่รู้ทำไมถึงได้ยิ้มไม่หุบเลยค่ะ!! อะฮะฮ่า! อะฮะฮะฮ่า!!”
ยูซึริฮะที่เกาะแขนผมอยู่ยิ้มออกมาอย่างน่าประหลาดใจ ทั้งที่ดูเหมือนจะเขินอายแต่ก็ตื่นเต้นไปพร้อมกัน ความแตกต่างจากใบหน้าที่จริงจังในฐานะนักคณิตศาสตร์ที่เห็นอยู่เป็นประจำนั้นดีจริงๆ
“เฮ้! ดีเจ! ขอเสียงดังกว่านี้! แรงๆ เลยโว้ยยยย!!”
ในทางกลับกันอายาชิโระกลับปล่อยตัวเต็มที่เลย ตั้งแต่เมื่อกี้นี้เธอก็ไฮทัชกับผู้หญิงที่เดินสวนไปมาด้วยความตื่นเต้นที่สูงเกินปกติ การที่ไม่ทำแบบนั้นกับผู้ชายน่ะให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเธอได้รับการอบรมมาดีหรือรู้จักกาลเทศะอยู่เหมือนกันนะ แล้วพวกเราก็มาถึงฮอลล์ C ที่นั่นไม่ได้มีดีเจแล้วก็คนเต้นรำอยู่ แต่ให้บรรยากาศเหมือนกับไลฟ์เฮาส์มากกว่า มีเวทีอยู่ แล้วก็มีบรรยากาศเหมือนกับว่าลูกค้ากำลังรออะไรบางอย่างอยู่
“หืม…ได้ยินมาว่าท่านมิรันจะจัดไลฟ์ฉุกเฉินก็เลยรีบมาดู แต่ไม่คิดว่าจะเป็นคลับอันดับหนึ่งของชิบูย่าเลยนะขอรับ ช่างน่าประทับใจจริงๆ…”
“นั่นสิขอรับ ท่านมิรันในที่สุดก็เอาจริงแล้วสินะขอรับ วันนี้ที่นี่จะเป็นจุดสิ้นสุดและจุดเริ่มต้นของโลกเลยนะขอรับ บูฮิโฮะโฮะโฮะ”
อะไรกันน่ะพวกนั้น? มีกลุ่มหนึ่งที่ดูแปลกประหลาดอย่างเห็นได้ชัด เป็นกลุ่มชายหญิงที่ใส่เสื้อฮัปปิเหมือนกัน ในมือของพวกเขาและเธอมีแท่งไฟอยู่ ถึงจะไม่ได้เข้ากับบรรยากาศของคลับเลยสักนิด แต่พวกเขาก็ไม่สนใจเลยสักนิด
‘เอาล่ะทุกท่านที่รอคอย!! ไลฟ์ฉุกเฉินของมิรันจะเริ่มขึ้นแล้ว!!’
“”””โอ้วววววววววววววววววววววーーーーーーーーーーーーーー!!!!””””
ทั้งพวกที่ไม่น่าไว้ใจและกลุ่มปริศนาที่ใส่เสื้อฮัปปิต่างก็ชูมือขึ้นฟ้าแล้วก็ตะโกนออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน คนที่อยู่ที่นี่ถึงจะไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลยแต่กลับมีไฟกันเกินไปแล้ว…?!
‘อย่างที่ทุกคนรู้กันนั่นแหละว่ามิรันน่ะไม่ได้เป็นแค่นักเต้นข้างถนนที่นี่ที่เดียว แต่ยังไปเต้นตามที่ต่างๆ ในโตเกียวแล้วก็ค่อยๆ สะสมแฟนคลับขึ้นมาอย่างยากลำบาก! แล้วในที่สุดวันนี้! ก็มีข่าวดีเข้ามาว่ามิรันได้เซ็นสัญญากับสังกัดบันเทิงอย่างเป็นทางการแล้ว!!’
“”””มิ・รัน! มิ・รัน!””””
…อะไรกันเนี่ย? ที่นี่มันไม่ให้ความรู้สึกเหมือนกับคลับเลย แต่เป็นไลฟ์เฮาส์ของจริงเลยนี่นา? หมายความว่ายังไงกัน?
‘บางทีนี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วก็ได้ที่จะได้เห็นมิรันในระยะใกล้ขนาดนี้! ทุกคน! มาสนุกกันให้เต็มที่เลย!!’
“”””””โอ้ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー มิรันนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน!!””””””
แล้วเสียงของแฟนๆ ก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งฮอลล์ แล้วเวทีก็สว่างจ้าขึ้นมาพร้อมกับการปรากฏตัวของมิรัน เธอสวมชุดที่ทั้งเซ็กซี่และน่ารักไปพร้อมกัน กระโปรงสั้นจนเกือบจะเห็นข้างใน แต่ก็คงจะเป็นกางเกงขาสั้นล่ะมั้ง น่าเสียดายจริงๆ! แล้วเพลงที่หนักหน่วงก็ดังขึ้นมา เป็นเพลงคัฟเวอร์ของเพลงดังที่ทุกคนรู้จักเริ่มดังขึ้น
“กรี๊ด! คุณอิซุมิค่ะ! วิเศษไปเลย! นานิอาเระ! สุดยอดไปเลยค่ะ!! น่ารักมากค่ะ!! กรี๊ด”
“นี่มันอะไรกันไอดอลเหรอ? อ้าว? เด็กคนนั้นตั้งใจจะเป็นนักแสดงไม่ใช่เหรอ?”
อายาชิโระเอียงคอสงสัยอยู่บ่อยๆ ผมเองก็เข้าใจความรู้สึกนั้นดี
“ก็น่าจะอย่างนั้นแหละนะ แต่คนในวงการบันเทิงน่ะทำได้ทุกอย่างนี่นา”
ตอนที่ซ้อมละครกับมิรันก็ได้ยินมาว่า นักแสดงน่ะถ้าทำอะไรไม่ได้หลายๆ อย่างก็คงจะไม่ได้หรอกนะ ตัวมิรันเองก็บอกว่าชอบละครเพลงเป็นพิเศษด้วย แบบนี้ก็คงจะถือว่าโอเคล่ะมั้ง อืม
“””””มิ・รัน! มิ・รัน!”””””*
ผู้ชมต่างก็หลงใหลไปกับเสียงร้องที่ทั้งงดงามและได้อารมณ์กับการเต้นที่ทั้งเซ็กซี่และได้อารมณ์ของมิรันในทันที ไม่ใช่แค่นั้น ลูกค้าธรรมดาที่ไม่ได้สนใจมิรันพอเดินผ่านใกล้ๆ ฮอลล์แล้วได้ยินเสียงเพลงก็พากันเข้ามาอย่างสนุกสนาน แล้วพวกเขากับเธอก็โบกมือให้เวทีแล้วก็เริ่มเต้นไปพร้อมกับเสียงเพลง การแสดงของเธอสามารถดึงดูดได้แม้กระทั่งคนที่ไม่รู้จัก ออร่าที่ท่วมท้น ตอนนี้มิรันกำลังท็อปฟอร์มสุดๆ เลย
“นี่ๆ คานาตะ แถวหน้าของลูกค้าน่ะ ช่วยดูให้หน่อยสิ?”
“หืม? ไหนๆ…อ๊ะ…”
ที่แถวหน้าของลูกค้ากับกำแพงสองข้างของฮอลล์มีพวกที่ใส่เสื้อฮัปปิโบกแท่งไฟแล้วก็เต้นโอตาเกะอยู่ พอดูดีๆ แล้วยูซึริฮะก็แอบไปผสมโรงเต้นโอตาเกะกับเขาด้วยเหมือนกันนะ เธอน่ะที่เป็นพวกเก็บตัวพอมาสดใสขึ้นแบบนี้แล้วก็ดีใจจริงๆ นะ! ดูสนุกสนานดีจริงๆ
“พลังในการดึงดูดนี่มันสุดยอดไปเลยนะ ฉันเองก็อยากจะลืมทุกสิ่งทุกอย่างแล้วก็เต้นอย่างเมามันส์ด้วยความร้อนแรงและความตื่นเต้นนี้เลย!”
ที่จริงแล้วตั้งแต่เมื่อกี้นี้อายาชิโระก็เต้นสเต็ปสวยๆ แล้วก็โบกมือไปตามจังหวะเพลงอยู่เหมือนกัน จะว่าไปแล้วก็เต้นเก่งอย่างไม่น่าเชื่อเลยนะ ยัยนี่ทั้งมีความรู้รอบตัว แถมยังเต้นแบบนี้ได้อีก ได้รับการศึกษาแบบไหนมากันแน่นะ? น่าสนใจจริงๆ
“แต่ว่ามันคืออะไรกันนะ? ปกติแล้วดนตรีหรือไลฟ์น่ะพวกสายปาร์ตี้ก็อยู่กับพวกสายปาร์ตี้ พวกสายโอตากุก็อยู่กับพวกสายโอตากุ ต่างคนต่างแยกกันไป แต่ศิลปะของมิซากิกลับไม่มีแบบนั้นเลย เธอยอมรับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ใช่แล้ว เธอน่ะต้องเป็นพวกอุดมคติแน่ๆ เลย เพราะงั้นแฟนๆ ถึงได้ไม่ถูกย้อมไปด้วยคุณสมบัติเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง…”
“จะพูดอะไรกันแน่?”
“อุดมคตินั่นน่ะมันดูเหมือนกับพวกหนุ่มซิงมากกว่าสาวบริสุทธิ์ซะอีกนะ! โธ่! ไม่รู้จัก ‘แฟนหนุ่มผู้เข้าอกเข้าใจ’ รึไง! เหมือนกับหนุ่มซิงที่ไปยอมรับสาวแรดได้ทุกอย่างนั่นแหละ!! มิซากิก็เป็นแบบนั้นแหละ! เพราะงั้นเธอถึงได้สละความเป็นสาวซิงไม่ได้ยังไงล่ะ คิกคิก วิเศษไปเลยนะ!”
เหมือนกับที่หนุ่มซิงยอมรับทุกอย่างของแฟนสาวที่แรด ศิลปะของมิรันก็โอบกอดทุกคนอย่างได้ฟีลเช่นกัน หรือก็คือหนุ่มซิงคือคนที่อ่อนโยนที่สุดนั่นเอง
“สุดท้ายก็เป็นหนุ่มซิงเหรอ! หนุ่มซิงถูกสาปก็เลยสละไม่ได้เหรอ! มันก็แค่การแถไปเรื่อยเท่านั้นแหละ! อ่า! ฮ่าๆๆ!”
ผมเองก็เหนื่อยที่จะมานั่งตบมุกแล้ว ก็เลยเต้นไปพร้อมกับอายาชิโระ ที่จริงแล้วหลังจากที่ย้อนเวลากลับมาผมก็แอบไปฝึกเต้นมาเหมือนกันนะ จะแสดงผลลัพธ์ให้ดูเดี๋ยวนี้แหละ!! แล้วพวกเราก็เต้นกันต่อไปจนกระทั่งไลฟ์ของมิรันจบลง
MANGA DISCUSSION