มิรันที่โดนคุกคามด้วยตรรกะจนสติแตก เธอตัวสั่นระริกแล้วก็โต้กลับ
“ที่จริงแล้วทุกคนเข้าใจผิดกันหมดนะ! การที่จะแสดงให้สมจริงน่ะไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์จริงเสมอไปหรอกนะ!! อย่างเช่นถ้ามีบทนักบินอวกาศ! คิดว่าจะมีคนที่สามารถไปอวกาศจริงๆ เพื่อสร้างบทบาทได้รึไง! ไม่มีหรอก!! นักแสดงน่ะสามารถใช้จินตนาการของตัวเองสร้างการแสดงขึ้นมาได้!! เพราะงั้นการแสดงเรื่องความรักก็ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ความรักก็ได้!! นี่คือการหักล้าง! หักล้างโดยสิ้นเชิง!! ประสบการณ์น่ะไม่จำเป็นหรอกนะ! สำหรับผมแล้วน่ะ!!!”
ท่าทางที่พูดรัวเร็วปรื๋อนั้นช่างน่าสมเพชยิ่งนัก แต่ณ ที่แห่งนั้น ราชินีแห่งเหตุผลปัญญาอ่อนของเรา ศาสตราจารย์อายาชิโระ ก็ได้ทำการโจมตีซ้ำอย่างโหดเหี้ยม
“แต่ในความเป็นจริงเธอก็ยังแสดงมันออกมาไม่ได้ไม่ใช่เหรอ ถ้าจะขอยืมตรรกะของเธอมาใช้ล่ะก็ นั่นก็คงเป็นเพราะเธอขาดจินตนาการเกี่ยวกับความรัก ไม่ใช่เพราะขาดประสบการณ์ใช่ไหมล่ะ? การที่ขาดจินตนาการมันก็คือการที่เธอพยายามไม่พอไม่ใช่เหรอ? ยัยสาวซิงเอ๊ย!”
“อ๊าก! สาวซิง?! ผมเนี่ยนะสาวซิง?! ไม่จริงงงงงงงงงงง!!!”
คุณมิรัน (สาวซิง) ทรุดเข่าลงแล้วก็กุมหัวตัวเอง เสียงคร่ำครวญนั้นช่างน่าเห็นใจเสียนี่กระไร
“การแสดงบทผู้ชายของเธอมันมีบรรยากาศที่ดูบริสุทธิ์อยู่หน่อยๆ ก็เพราะว่าเธอยังซิงอยู่นั่นแหละนะ ยัยสาวซิง! เป็นคำที่ฟังดูดีจริงๆ!! อ๊า!”
ยัยสาวซิง…ช่างเป็นคำที่โหดร้ายอะไรอย่างนี้ แตกต่างจากคำว่าสาวบริสุทธิ์ตรงที่มันดูไม่มีค่าเลยสักนิด ผมเองก็เหมือนกันไม่ใช่รึไง? ในโลกที่แล้วก็มีประสบการณ์กับผู้หญิงแค่คนเดียว พอย้อนเวลากลับมาแล้วร่างกายก็เลยยังซิงอยู่ ทางด้านจิตใจก็เป็นหนุ่มซิงรอบสอง ส่วนร่างกายก็เป็นหนุ่มซิงของแท้! คิดแล้วก็น่าเศร้าจนน้ำตาจะไหล!
“อายาชิโระ พอได้แล้ว ปลอบเธอหน่อยเถอะ ฉันเองก็รู้สึกสงสารจนน้ำตาจะไหลแล้วเหมือนกัน ช่วยเธอทีเถอะ”
“เอ๋? ทั้งที่อยากจะแกล้งอีกหน่อยแท้ๆ…แต่ช่างเถอะน่า มิซากิ การแสดงของเธอน่ะขาดจินตนาการเกี่ยวกับความรักอย่างสิ้นเชิง เพราะงั้นการแสดงของเธอถึงได้เก่งแต่น่าเบื่อ ถ้างั้นแล้วจะทำยังไงดีล่ะรู้ไหม?”
มิรันลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด
“จะไปสละพรหมจรรย์เดี๋ยวนี้แหละ โทคิวะคุง…ทำกันที่ห้องน้ำตรงนั้นดีไหม? อะฮะ อะฮะฮ่า…เพื่อการแสดงแล้วมันช่วยไม่ได้นี่นา…”
มิรันที่พูดแบบนั้นด้วยแววตาที่เลื่อนลอยทำให้ผมรู้สึกเห็นใจเธอมากขึ้นไปอีก
“อย่าเพิ่งรีบร้อนสิ วิธีที่จะทำให้เธอไม่ต้องสละพรหมจรรย์อันล้ำค่าน่ะมันมีอยู่แล้วน่า ถ้าจะเล่นบทนักบินอวกาศล่ะก็ แค่ไปลองบินแบบไร้แรงโน้มถ่วงด้วยเครื่องบินเพื่อสัมผัสกับสภาวะไร้น้ำหนัก จินตนาการที่จำเป็นต่อการแสดงมันก็จะเกิดขึ้นมาเองนั่นแหละ พูดง่ายๆ ก็คือแค่หาประสบการณ์จำลองก็พอแล้ว ถ้าเป็นความรักล่ะก็ง่ายกว่านั้นเยอะ มิซากิ เธอไปเดทกับโทคิวะในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ซะสิ!”
ผม ยูซึริฮะ และมิรันต่างก็ตกใจไปตามๆ กัน พอมาคิดดูแล้วมันก็จริง ไม่จำเป็นต้องมีความรักจริงๆ ก็ได้ แค่หาประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับความรักแล้วก็ใช้จินตนาการจากตรงนั้นก็พอแล้ว
“เป็นไอเดียที่ดีเลยนะคะ!! ฉันอยากจะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำค่ะ!! ไปเดทแบบคลาสสิกกันเถอะค่ะ! เอาแบบคลาสสิกเลย!!”
ยูซึริฮะพูดอย่างสนุกสนาน แต่ว่าคนที่เดทน่ะไม่ใช่เธอนะ!
“นั่นสินะ เป็นไอเดียที่ยอดเยี่ยมไปเลย! โทคิวะคุง! ขอร้องล่ะนะ!?”
มิรันคงจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์แล้วล่ะมั้ง ดวงตาของเธอเปล่งประกายระยิบระยับเลย น่ารักจังเลยนะ ผู้หญิงที่กำลังพยายามเพื่อความฝันแบบนี้
“ฉันน่ะไม่ว่าอะไรหรอกนะ แต่อายาชิโระ รายละเอียดของเดทจะทำยังไงล่ะ?”
“นั่นสินะ อย่างแรกเลยก็คือ เพื่อความสบายใจ ในวันนั้นฉันกับยูซึริฮะจะแอบตามไปด้วยก็แล้วกันนะ ยัยสาวซิงน่ะพอถึงเวลาเดทจริงๆ คงจะประหม่าจนตัวแข็งทื่อไปหมดแน่ๆ มีคนคอยซัพพอร์ตอยู่ด้วยน่าจะดีกว่าใช่ไหมล่ะ?…แล้วอีกอย่างก็น่าสนุกดีด้วย”
ไอ้ข้างหลังนั่นแหละที่เป็นเหตุผลจริงๆ สินะ แต่การที่ตามไปด้วยก็ช่วยได้มากอยู่หรอกนะ
“แล้วก็ฉันอยากจะไปทะเลด้วยค่ะ!! การที่ได้เดินเล่นริมหาดทรายกับคนรักน่ะเป็นความฝันของฉันเลยค่ะ!!”
ก็บอกแล้วไงยูซึริฮะ! คนที่เดทน่ะไม่ใช่เธอ!!
“อืม…ทั้งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำทั้งทะเล…ถ้าจำไม่ผิดที่เอโนะชิมะน่าจะตรงตามเงื่อนไขนะ เอาที่นั่นก็แล้วกันนะ ส่วนจะไปเที่ยวที่ไหนบ้างก็ให้โทคิวะกับมิซากิสองคนไปตัดสินใจกันเอง พอกำหนดได้แล้วก็ให้ทำรายงานตารางกิจกรรมมาส่งให้ฉัน แล้วฉันจะตรวจแก้ให้เอง”
“เอ๋…รายงานเหรอ ฟังดูไม่มีอารมณ์เลยนะ…! เดทแบบนั้นฉันไม่เอาด้วยหรอกนะ!!”
ถึงที่นี่จะเป็นมหาวิทยาลัยก็เถอะ แต่จะให้เดทเหมือนกับเป็นการเรียนการสอนมันก็เกินไปหน่อยมั้ย!!
“ช่วยไม่ได้นี่นา ถ้าไม่ทำให้มันได้ฟีลล่ะก็จินตนาการที่จำเป็นต่อการแสดงมันก็อาจจะไม่เกิดขึ้นมาก็ได้นะ ฉันจะช่วยเพิ่มความได้ฟีลให้ในมุมมองของบุคคลที่สามเอง แล้วอีกอย่างการที่ผู้ชายกับผู้หญิงทำรายงานด้วยกันสองคนแล้วพอรู้ตัวอีกทีก็คบกันแล้วน่ะเป็นเรื่องปกติในมหาวิทยาลัยนะ ประสบการณ์นั้นก็จะกลายเป็นวัตถุดิบในการแสดงได้ด้วยนะ มิตรภาพระหว่างชายหญิงไม่มีอยู่จริง เพราะฉะนั้นถ้าผู้ชายกับผู้หญิงทำอะไรด้วยกันสองคนมันก็คือการเดทโดยปริยายนั่นแหละ”
“สมกับที่เป็นราชินีแห่งเหตุผลปัญญาอ่อน…! น่าเชื่อถือสุดๆ ไปเลย…!?”
ผมเริ่มจะคิดแล้วว่าสิ่งที่อายาชิโระพูดมามันอาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ ที่จริงแล้วส่วนตัวผมก็อยากจะลองทำรายงานของวิชาเรียนกับผู้หญิงสองต่อสองดูบ้างเหมือนกัน พูดตามตรงแล้วรายงานของสายวิทย์มันมีแต่ทฤษฎีกับตรรกะเป๊ะๆ ต่อให้ทำด้วยกันก็มักจะตึงเครียดอยู่ดีนั่นแหละ ถ้าเป็นหัวข้อที่ดูคลุมเครืออย่างการวางแผนเดทล่ะก็อาจจะเป็นหัวข้อรายงานที่สามารถทำด้วยกันได้อย่างสนุกสนานก็ได้
“ศาสตราจารย์อายาชิโระ! ผมผู้เป็นสาวซิงที่ยังด้อยประสบการณ์ ขอฝากเนื้อฝากตัวรับคำชี้แนะด้วยครับ!!”
มิรันโค้งคำนับให้อายาชิโระอย่างสวยงามและลึกซึ้ง
“อื้ม! ไว้ใจได้เลย! ศาสตราจารย์อายาชิโระ ฮิเมน่า แห่งภาควิชาความรักบริสุทธิ์ คณะความรัก มหาวิทยาลัยโคโตะคนนี้จะทำให้เธอเป็นสาวไม่ซิงที่สง่างามให้ดูเอง!!”
พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นศาสตราจารย์ไปซะแล้ว แปลกจังเลยนะเพิ่งจะงานปฐมนิเทศไปเมื่อวันก่อนแท้ๆ!
“ผู้ช่วยศาสตราจารย์โคโย ยูซึริฮะ แห่งภาควิชารักโรแมนติกคอมเมดี้ร่วมสมัย คณะความรัก มหาวิทยาลัยโคโตะคนนี้ก็จะขอติดตามไปด้วยนะคะ!! วางใจได้เลยค่ะ!!”
ได้ยินมาว่าสมัยนี้เขาไม่เรียกผู้ช่วยแต่เรียกผู้ช่วยศาสตราจารย์กันแล้วสินะ แต่พูดตามตรงแล้วลำดับตำแหน่งของอาจารย์ในมหาลัยมันน่าสับสนจริงๆ นะ ไม่ค่อยจะเข้าใจความแตกต่างระหว่างศาสตราจารย์พิเศษกับศาสตราจารย์กิตติคุณกับศาสตราจารย์ธรรมดาเลย! พูดตามตรงแล้วถ้าให้เกรดง่ายๆ ล่ะก็จะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ! และแล้วการเดทเพื่อการแสดงของมิรันก็ได้ถูกกำหนดขึ้นมา
แล้ววันคืนแห่งการวางแผนเดทของคนสองคนพร้อมกับการฝึกซ้อมการแสดงก็ได้เริ่มต้นขึ้น น่าแปลกที่หลังจากที่กำหนดเรื่องเดทได้แล้ว การแสดงของมิรันก็ดีขึ้นมาทันทีถึงแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ตาม อายาชิโระทำหน้าภูมิใจแล้วก็พูดว่า ‘ก็ความคาดหวังที่จะได้ไปเดทมันก็เป็นส่วนหนึ่งของความรักนั่นแหละ จินตนาการนั้นมันช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้กับการแสดงของเธอยังไงล่ะ’ นี่ถ้าเดทกันจริงๆ แล้วการแสดงอาจจะสุดยอดไปเลยก็ได้นะ อายาชิโระอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความรักจริงๆ ก็ได้! แล้วในขณะที่ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนานแบบนั้น วันศุกร์สุดสัปดาห์ก็มาถึงอย่างรวดเร็ว
“การตรวจแก้รายงานของอายาชิโระนี่มันจริงจังเกินไปจนตลกเลยนะ”
ผมกับมิรันกำลังทานอาหารเย็นกันที่โรงอาหารพลางอ่านรายงานแผนการเดทที่ศาสตราจารย์อายาชิโระ (ฮา) ส่งกลับมาให้
“แต่ว่าสำนวนมันดูสูงส่งมากเลยนะ แถมความรู้ก็ดูเหมือนจะเป็นของจริงด้วยนี่สิ วิธีการเพิ่มค่าความชอบในอีเวนต์ต่างๆ ก็มีเอกสารทางจิตวิทยาอะไรพวกนั้นอ้างอิงอย่างเป็นระบบด้วย!”
“กฎการอ้างอิงเอกสารนี่มันเหมือนกับวิทยานิพนธ์ทางวิทยาศาสตร์ของจริงเลยนะ ยัยนั่นเป็นนักศึกษาปีหนึ่งจริงๆ เหรอ? หรือว่าเป็นนักศึกษาปริญญาโทปีหนึ่งหรือปริญญาเอกปีหนึ่งกันแน่? ต่อให้ยัยนั่นเป็นนักศึกษาปริญญาโทฉันก็ไม่แปลกใจเลยสักนิด”
ก็คงจะไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ แต่ความรู้ของยัยนั่นมันของจริงจริงๆ นั่นแหละ ไม่เหมือนกับพวกที่เก่งแต่เรียน ความสามารถในการวิจัยอะไรพวกนั้นก็ดูจะสูงมากด้วย สุดยอดไปเลย
“พรุ่งนี้ถ้าจำไม่ผิดต้องไปซื้อชุดเดทให้มิรันกันสามคนสินะ?”
“อื้ม! ใช่แล้ว! ผมน่ะช่วงหลังๆ มานี้ใส่แต่กางเกงมาตลอดเลยนะ! ไหนๆ จะไปเดทแล้วก็ต้องแต่งตัวให้ดูเป็นผู้หญิงหน่อย! น่าสนุกจังเลย! ผมน่ะฝันมาตลอดเลยนะว่าจะได้ไปช็อปปิ้งกับเพื่อนผู้หญิงด้วยกันอย่างสนุกสนานน่ะ!”
มิรันยิ้มอย่างตื่นเต้นและสนุกสนาน จะว่าไปแล้วคำพูดของเธอมันก็แฝงความดำมืดอยู่หน่อยๆ นะ แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปขุดคุ้ยเลยดีกว่า
“เหรอ! จะรอดูนะ”
“เอะเฮะ! คาดหวังไว้ได้เลยนะ!”
การที่ได้ยิ้มให้กันและยืนยันถึงความคาดหวังที่มีร่วมกันมันช่างสนุกสนานจริงๆ ผมคิดว่ามันคงจะใกล้เคียงกับบรรยากาศของความสุขนั่นแหละ แต่แล้วก็มีเสียงหนึ่งที่ดังขึ้นมาตัดบรรยากาศนั้น
“อ้าว? โทคิวะคุง แล้วก็นั่นมิซากิไม่ใช่เหรอ? หวัดดี! ทำอะไรกันอยู่เหรอ?”
พอหันไปทางต้นเสียงที่หวานและสบายๆ นั้น ก็เห็นภรรยาในชุดเทนนิสยืนอยู่ ข้างหลังเธอคือมาชิบะเพื่อนสนิทสายห้าว (ที่ผมเกลียดมาก) กับพวกนักศึกษาแพทย์ชายที่เคยอยู่ข้างๆ ฮาโทกิริในเหตุการณ์ที่โรงอาหารครั้งนั้น ทุกคนต่างก็อยู่ในชุดเทนนิส ผมรู้สึกได้ในทันทีว่าตัวเองทำหน้าบูดบึ้งไปโดยไม่รู้ตัว
MANGA DISCUSSION