พอจบคาบเรียนที่สอง ภรรยาก็หันมายิ้มกริ่มให้ผมทันที คงจะอยากจะชวนไปกินข้าวกลางวันสินะ อยากจะได้ข้ออ้างในการปฏิเสธสุดๆ เลย ที่จริงแล้วสายตาของคนรอบข้างมันน่าอึดอัดมาก วันนี้เป็นวิชารวมของคณะวิศวกรรมศาสตร์ อัตราส่วนผู้ชายในห้องนี้เลยสูงอย่างไม่น่าเชื่อ ทุกคนต่างก็จ้องมองมาที่ภรรยาแล้วก็รอหาโอกาสอยู่ทั้งนั้น ส่วนมาชิบะที่เป็นผู้หญิงสายห้าวซึ่งน่าจะเป็นทางรอดในการหาข้ออ้างปฏิเสธได้นั้น ก็วิ่งออกจากห้องเรียนไปอย่างร่าเริงด้วยรอยยิ้มที่เหมือนกับสาวน้อยทันทีที่เสียงกริ่งดังขึ้น ยัยนั่นมันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ ในตอนที่จนตรอกแบบนั้น โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น ชื่อ ‘คุรามาตะ ชิเงโยชิ’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ผมรีบรับสายทันที
“ว่าไง! คานาตะ! ตอนนี้ว่างไหม?”
เสียงที่ดังมาจากโทรศัพท์คือเสียงของรุ่นพี่คนนั้น คนที่ผมได้มอบพรหมจรรย์ในการเซลฟี่ให้ในวันปฐมนิเทศ เบอร์สามของชมรมอีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดในมหาวิทยาลัยเรา และยังเป็นเหรัญญิกซึ่งเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในโรงเรียนอีกด้วย ทุกคนต่างก็เรียกเขาด้วยความสนิทสนมว่ารุ่นพี่เคไค ซึ่งเป็นการผวนคำว่าเหรัญญิกนั่นเอง
“ครับ! ว่างมาก! ว่างสุดๆ เลยครับ! ครับผม!”
“โคตรจะร่าเริงเลยนี่หว่า! ดีนะ! อะฮะฮ่า! มาที่หอพักทาโยชิด่วนเลย! ฉันเพิ่งจะอบพิซซ่าเสร็จ! มากินซะ! อะฮะฮะฮะฮ่า!”
หอพักทาโยชิคือหอพักนักศึกษาที่บริหารจัดการกันเองซึ่งตั้งอยู่ในวิทยาเขต เป็นที่พักราคาถูกสุดๆ แต่ถ้าจะให้พูดตรงๆ ก็คือเป็นสถานที่ที่ละเมิดกฎหมายต่างๆ นานาอย่างน่าอัศจรรย์ ทางมหาวิทยาลัยอยากจะทุบทิ้งใจจะขาด แต่ก็ยังทำไม่ได้เพราะมีการต่อต้านจากนักศึกษา ศิษย์เก่า หรือแม้กระทั่งศาสตราจารย์ที่เคยอาศัยอยู่ที่นั่น
“ครับผม! ไปเดี๋ยวนี้เลยครับ! จะรีบไปให้เร็วที่สุดเลยครับ!”
“เออ รออยู่นะ!”
แล้วโทรศัพท์ก็ตัดไป ผมยิ้มกริ่มออกมาโดยไม่รู้ตัว
“ขอ…โทษ…ทีนะ…พอดี…รุ่นพี่…เรียกตัวน่ะ…ถ้าไม่ไปล่ะก็…คงจะแย่แน่ๆ…ล่ะมั้ง?”
ผมอารมณ์ดีสุดๆ ไปเลย การที่รุ่นพี่เคไคโทรมาเรียกเป็นการส่วนตัวแบบนี้แสดงว่าผมต้องเป็นที่โปรดปรานของเขามากแน่ๆ วัยหนุ่มสาวของผมกำลังจะเปล่งประกายแล้วสินะ
“งั้นก็พาฉันไปด้วยสิ เมื่อกี้ได้ยินว่าพิซซ่าอะไรสักอย่างนี่นา! ฉันก็อยากกินเหมือนกัน!”
เหวอ…แอบฟังบทสนทนาอยู่เหรอเนี่ย
“แต่ว่าเขาเรียกฉันคนเดียวนะ”
“เอ๋ ขี้เหนียว! ไม่เห็นจะเป็นไรเลย! ฉันก็อยากกินพิซซ่าเหมือนกัน!”
เริ่มจะงอแงซะแล้ว ในชีวิตรอบแรก ยัยนี่เป็นผู้หญิงที่ไม่ค่อยจะเอาแต่ใจในเรื่องไร้สาระเท่าไหร่ แต่บางครั้งก็จะงอแงอย่างดื้อรั้นสุดๆ แน่นอนว่าผมไม่เคยเอาชนะเธอได้เลยสักครั้ง แต่ตอนนี้เรายังเป็นนักศึกษาอยู่ ผมมีความมั่นใจว่าจะเอาชนะได้
“นี่ๆ คิดดูดีๆ สิ เมื่อวันก่อนเธอก็เพิ่งจะไปกินข้าวกับพวกคนในสาขาเดียวกันไม่ใช่เหรอ? งั้นคราวนี้ก็ลองขยายวงไปที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ดูบ้างสิ?”
เมื่อไม่นานมานี้ภรรยาเพิ่งจะพูดแบบนั้นไป นี่เป็นการจับผิดคำพูดของเธออย่างหนึ่ง
“คนในคณะวิศวกรรมศาสตร์น่ะหลังจากนี้ก็คงจะได้เรียนด้วยกันบ่อยๆ นะ มีทั้งการทดลองและการฝึกงานด้วยนะ ทำความสนิทสนมกันไว้ตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่าไม่ใช่เหรอ?”
“อึ…อืม…นั่นสินะ”
“คณะวิศวกรรมศาสตร์มีผู้หญิงน้อยด้วย ลองจัดงานเลี้ยงเฉพาะผู้หญิงดูบ้างสิ เธอทำได้อยู่แล้ว! สู้ๆ!”
“อ่า…นั่นสินะ…อืม…นั่นสินะ ลองทำดูดีกว่า!”
ดูเหมือนว่าภรรยาจะยอมรับแล้ว เธอก็เดินเข้าไปหาพวกผู้หญิงที่อยู่ใกล้ๆ ทันที ดูเหมือนว่าจะลืมเรื่องพิซซ่าไปในพริบตาเลย คึคึคึ ผมรีบออกจากห้องเรียนแล้วก็มุ่งหน้าไปยังหอพักทาโยชิ
คานาตะหนีไปแล้ว!
เขาสลัดภรรยาหลุดได้สำเร็จ!!
หอพักทาโยชิอยู่ตรงสุดขอบของวิทยาเขต หอพักชายกับหอพักหญิงสร้างอยู่ตรงข้ามกัน และระหว่างนั้นก็มีลานกว้างอยู่ ที่ลานกว้างมีบูธดีเจตั้งอยู่ และนักศึกษาของเราทั้งชายและหญิงต่างก็กำลังเต้นกันอย่างบ้าคลั่งตั้งแต่กลางวันแสกๆ ผมเดินผ่านไปเฉยๆ แล้วก็มุ่งหน้าไปยังมุมของลานกว้างใกล้ๆ กับหอพักชาย ที่สุดขอบของลานกว้างนั้นมีบูธบาร์บีคิวอยู่ ที่นั่นนักศึกษาต่างก็กำลังย่างเนื้อและผักกันอย่างสนุกสนาน และท่ามกลางนั้นก็มีสิ่งที่โดดเด่นออกมาคือเตาอิฐ…เตาอบพิซซ่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่มหาวิทยาลัยสร้างขึ้น แต่เป็นสิ่งที่นักศึกษาสร้างขึ้นมาเอง ที่หอพักทาโยชิแห่งนี้เดิมทีเป็นหอพักที่มีประวัติศาสตร์และประเพณีอันยาวนาน แต่พอรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นสถานที่ที่อิสระเสรีไปซะแล้ว บางครั้งก็จะมีการจัดปาร์ตี้กันที่ลานกว้างแห่งนี้ ในชีวิตรอบแรกผมไม่สามารถปรับตัวเข้ากับบรรยากาศแบบนี้ได้เลย แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว ผมเองก็เติบโตขึ้นแล้วเหมือนกัน
“โอ๊ะ! มาแล้วเหรอคานาตะ! มาได้จังหวะพอดีเลย! ชีสเยิ้มๆ เลยนะเว้ย! โคตรจะอร่อยเลย! วะฮะฮะฮะฮ่า!”
“ครับผม! ขอรับประทานนะครับ!”
มีโซฟาตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเตาอบพิซซ่า มีผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งยึดโซฟานั้นอยู่คนเดียว ผู้ชายคนนั้นก็คือรุ่นพี่เคไคที่เรียกผมมาที่นี่นั่นเอง รุ่นพี่เคไคแต่งตัวได้สบายๆ เกินไปจนเรียกได้ว่าซอมซ่อจะดีกว่า เขาใส่กางเกงบ็อกเซอร์กับรองเท้าแตะ ส่วนท่อนบนก็เป็นเสื้อเชิ้ตฮาวายที่เปิดกระดุมออกจนหมด แต่งตัวอะไรของเขากันนะ
“เคคุง จะกินอีกแผ่นไหม?”
“เออ! กินแน่นอน”
“งั้นอ้าปากสิ อ้า~ม!”
แล้วก็มีผู้หญิงที่แต่งตัวได้ยิ่งกว่านั้นอีกคนหนึ่งอยู่ด้วย เธอสวมแค่ชุดชั้นในแล้วก็สวมทับด้วยเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ของผู้ชายเท่านั้นเอง ร่องอกที่ใหญ่โตของเธอมองเห็นได้อย่างชัดเจน นั่นมันเป็นชุดที่ควรจะใส่ตอนอยู่นอกห้องแฟนรึไงนะ? ผมเผลอเข้าสู่โหมดนักปราชญ์ไปซะแล้ว ผู้หญิงที่ดูเหมือนกับสาวสวยผมลอนที่น่าจะอาศัยอยู่ในย่านมินาโตะคนนั้นกำลังนั่งอยู่บนตักของรุ่นพี่เคไคแล้วก็ป้อนพิซซ่าที่เพิ่งจะอบเสร็จใหม่ๆ ให้เขา
“อร่อย! คานาตะแกเองก็กินสิ! ไปหยิบจากเตาได้เลยตามใจชอบ! แล้วก็นี่! ยาครอบจักรวาล!”
เขายื่นกระป๋องเบียร์ที่หยิบออกมาจากกล่องเก็บความเย็นที่วางอยู่ข้างๆ โซฟามาให้ผม ผมรับมาแล้วก็ชนแก้วกับรุ่นพี่ จากนั้นก็เปิดกระป๋องแล้วก็ดื่มรวดเดียว
“อ่า…ซึมซาบไปทั่วร่างเลย! คาบเรียนที่สองมันหนักหนาจริงๆ”
ส่วนใหญ่แล้วก็เพราะภรรยานั่นแหละที่ทำให้ผมเหนื่อย เบียร์เลยอร่อยเป็นพิเศษ!
“นั่นสิ! อะฮะฮ่า!”
รุ่นพี่เคไคก็ดื่มเบียร์อย่างเมามัน
“นี่ๆ เคคุง”
“อะไรเหรอคิรินจัง?”
ดูเหมือนว่าผู้หญิงที่ใส่เสื้อเชิ้ตของผู้ชายจะชื่อคิรินนะ เป็นชื่อจริงหรือชื่อเล่นกันนะ? อยากรู้จัง
“หนุ่มหล่อหน้าตาโหดๆ สไตล์ฮอลลีวูดคนนี้เป็นใครเหรอ?”
“รุ่นน้องของฉันเอง ชื่อคานาตะ เป็นคนดีนะ!”
“เห…อย่างนั้นเหรอ ยินดีที่ได้รู้จักนะ”
ผู้หญิงคนนั้นยื่นกระป๋องเบียร์มาทางผม ผมก็ยื่นกระป๋องของผมไปชนแก้วด้วย
“คุณเป็นแฟนของรุ่นพี่เคไคเหรอครับ?”
“ไม่ใช่หรอก”
ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่จริงๆ ด้วยแฮะ เรื่องแบบนี้แหละที่ผมที่เป็นพวกเก็บตัวในอดีตไม่ค่อยจะชินเท่าไหร่ ในปาร์ตี้ของพวกตัวท็อปในระดับมหาวิทยาลัยขึ้นไปมักจะมีผู้ชายกับผู้หญิงที่ไม่ได้เป็นแฟนกันแต่ก็ทำตัวสนิทสนมกันอยู่เสมอ สำหรับคนที่มีประสบการณ์เรื่องผู้หญิงน้อยอย่างผมแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าตกใจทางวัฒนธรรมพอสมควรเลย
“เมื่อวานโดนหิ้วกลับมาน่ะ”
คำตอบที่น่าตกใจยิ่งกว่าเดิมกลับมาซะงั้น หมายความว่ายังไงกันนะ…? โดนหิ้วกลับมา…?
“…เอ๊ะ…เอ๋…อย่างนั้นเหรอครับ…”
“อืม เมื่อวานเจอกันที่ปาร์ตี้ในคลับที่ชิบูย่าน่ะ แล้วก็คุยกันว่าอยากจะลองมีเซ็กส์แบบบ้าๆ บอๆ ดู ก็เลยไปทำกันบนหอนาฬิกานั่นแหละ! วิวสวยแล้วก็รู้สึกเหมือนทำเรื่องที่ไม่ควรทำด้วย สนุกมากเลยล่ะ อิอิ”
“บนหอนาฬิกานั่นน่ะเหรอ?! แถมยังข้างบนอีก?!”
หอนาฬิกาที่มักจะปรากฏอยู่ในโบรชัวร์ของวิทยาเขตโคมาบะของเรา ไปทำกันบนนั้นเนี่ยนะ?! บ้ารึเปล่า?!
“เคคุงบ้าเนอะ! ตกใจเลย! มหาวิทยาลัยโซคาวะน่ะถึงจะดูเพลย์บอยกันทุกคนแต่ก็เป็นมหาวิทยาลัยที่หัวดีไม่ใช่เหรอ? เคคุงนี่ตกชั้นรึเปล่าเนี่ย? อุฟุฟุ”
“พูดอะไรของแก? ฉันน่ะหน่วยกิตเหลือเฟือจนเอาไปแบ่งให้คนอื่นได้เลยนะเว้ย! คึฮะฮ่า!”
รุ่นพี่เคไคหัวเราะอย่างสะใจ
“เห…เคคุงหัวดีเหรอเนี่ย แบ่งหน่วยกิตให้คนอื่นได้ด้วย ใจดีจัง!”
คุณคิรินลูบหัวของรุ่นพี่เคไคพลางพูดว่าเก่งมากเก่งมาก นี่มันภาพอะไรที่ดูโง่ๆ แบบนี้กันนะ? หน่วยกิตมันแบ่งให้คนอื่นไม่ได้สักหน่อย แล้วอีกอย่างชื่อมหาวิทยาลัยก็ผิดด้วย ดูเหมือนว่าคุณคิรินจะไม่ใช่นักศึกษามหาวิทยาลัยนะ
“มหาวิทยาลัยโซคาวะ? ไม่ใช่ครับ ที่นี่ไม่ใช่มหาวิทยาลัยโซคาวะนะครับ?”
ผมเผลอตบมุกไปโดยไม่รู้ตัว มหาวิทยาลัยผิดมันก็แปลกเกินไปแล้วสิ
“เอ๋? แต่ว่าที่นี่ก็อยู่ใกล้ๆ ชิบูย่าไม่ใช่เหรอ? นั่งแท็กซี่มาแป๊บเดียวเองนะ? มหาวิทยาลัยโซคาวะก็อยู่ที่ชิบูย่าไม่ใช่เหรอ? งั้นที่นี่ที่ไหนล่ะ?”
ไม่คิดเลยว่าจะมีผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าตัวเองถูกหิ้วมาที่ไหนอยู่ด้วย! พวกตัวท็อปที่แท้จริงมันสุดยอดขนาดนี้เลยเหรอ?!
“ที่นี่คือมหาวิทยาลัยโคโตะครับ”
“เอ๊ะ? โคไดนั่นน่ะเหรอ? มหาวิทยาลัยโคโตะไม่ได้อยู่ที่โคราคุเอ็นเหรอ? เคยเห็นจากบนรถบัสอยู่นะ! ประตูสีแดงที่ดูยิ่งใหญ่ๆ น่ะ!”
“นั่นมันวิทยาเขตฮงโกะครับ สำหรับนักศึกษาปี 3-4 น่ะครับ ที่นี่คือวิทยาเขตโคมาบะ สำหรับนักศึกษาปี 1-2 ครับ”
คุณคิรินทำตาโตด้วยความประหลาดใจ
“จริงดิ? ไม่รู้เลยนะเนี่ย งั้นคานาตะคุงก็เป็นนักศึกษาโคไดสินะ? คราวหน้าไปนัดบอดกันไหม? รุ่นน้องของฉันมีแต่เด็กน่ารักๆ ทั้งนั้นเลยนะ! รุ่นน้องต้องดีใจแน่ๆ เลย!”
คุณคิรินหัวเราะอย่างร่าเริง ส่วนผู้ชายที่เธอนั่งอยู่บนตัก รุ่นพี่เคไค ก็หัวเราะคึคึคึ
“จะว่าไปแล้วรุ่นพี่เคไคที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็เป็นนักศึกษาโคไดเหมือนกันนะครับ”
“เอ๋? เหรอ? เคคุงก็ด้วยเหรอ? แต่ว่าๆ! เมื่อวานตอนที่เคคุงมีอะไรด้วยน่ะ มีแต่ท่าบ้าๆ บอๆ ทั้งนั้นเลยนะ! ถึงจะรู้สึกดีก็เถอะแต่ฉันหัวเราะจนปวดท้องไปหมดเลย! ไม่ใช่นักศึกษาโคไดแน่ๆ!! ก็มันโง่นี่นา!”
“ก๊ากๆๆ! หยุดเลยนะ! อย่าเอาเรื่องรสนิยมทางเพศของฉันไปแฉให้รุ่นน้องฟังนะ! ก๊ากๆๆๆๆๆ!”
รุ่นพี่เคไคหัวเราะลั่น แล้วผมก็อดที่จะหัวเราะไปกับเรื่องไร้สาระของทั้งสองคนไม่ได้ หลังจากที่หัวเราะกันจนพอใจแล้ว ผมก็หยิบพิซซ่าขึ้นมาแล้วก็กินเข้าไปอย่างเอร็ดอร่อย ชีสที่เยิ้มๆ กับซอสมะเขือเทศที่เข้มข้นมันอร่อยอย่างรุนแรงเลยทีเดียว แต่ว่า
“รุ่นพี่ครับ นี่อร่อยดีนะครับ แต่ว่ามันไม่มีหน้าเลยไม่ใช่เหรอครับ?”
“หืม? นี่มันคือความฝันของผู้ชายยังไงล่ะ! พิซซ่าหน้าชีสอย่างเดียวน่ะ! แต่ว่าก็ใส่ชีสไปตั้งสิบชนิดเลยนะเว้ย! ก๊ากๆๆๆๆๆ!”
พิซซ่าก็เป็นผลผลิตที่ดูโง่ๆ เหมือนกันสินะ สุดยอดไปเลยจริงๆ!
“รุ่นพี่นี่มันสุดยอดแห่งความโรแมนติกเลยนะครับ! ตลกชะมัดเลย! อะฮะฮะฮะฮ่า!”
ในตอนที่กำลังหัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่นั้นเอง เพลงที่ดีเจเปิดอยู่ก็เปลี่ยนไป บนเวทีที่ตั้งอยู่กลางลานกว้างมีผู้หญิงที่ใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อกล้ามที่สั้นจนเห็นสะดือขึ้นมา
“นั่นแหละดีเลย นั่นแหละ พวกนั้นคือพวกชมรมเต้นน่ะ เต้นได้เซ็กซี่มากเลยนะเว้ย!”
“จะว่าไปแล้วเมื่อวานเคคุงก็เต้นส่ายสะโพกด้วยนะ อันนั้นน่ะโคตรจะบ้าเลย! แบบนี้ไง!”
คุณคิรินยืนขึ้นบนโซฟาแล้วก็ส่ายสะโพกไปมาข้างหน้าข้างหลัง เสื้อเชิ้ตสีขาวของเธอเลิกขึ้นจนเห็นกางเกงในสีดำแวบๆ
“เดี๋ยวสิ! เห็นแล้วนะครับ!”
ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว แต่พวกผู้ชายรอบๆ ก็จ้องเขม็งกันเป็นแถว
“ว้าย…โดนเห็นซะแล้ว♡”
“แก! โชว์ให้มันดูอีกสิ! ก๊ากๆๆ! อย่าขี้เหนียวสิ! เอาเลยๆ!”
รุ่นพี่เคไคก็ยืนขึ้นบนโซฟาแล้วก็เริ่มทำอะไรที่ดูแปลกๆ โดยการจับชายเสื้อของคุณคิรินแล้วก็ถลกขึ้นมา
“ว้าย เคคุงลามก! คิกคิก”
ดูยังไงก็เป็นการคุกคามทางเพศชัดๆ แต่คุณคิรินกลับแลบลิ้นออกมาอย่างซุกซนแล้วก็หัวเราะอย่างสนุกสนาน ทั้งสองคนหยอกล้อกันบนโซฟาด้วยอารมณ์ที่ดูบ้าๆ บอๆ แล้วพวกผู้ชายรอบๆ ก็ยกมือไหว้แล้วก็จ้องมองด้วยสายตาที่ลุกเป็นไฟ ช่างเป็นภาพที่น่าสมเพชของผู้ชายที่กำลังสั่นคลอนอยู่ระหว่างความอิจฉากับความลามกจริงๆ! ช่างเป็นภาพที่ดูโง่ๆ อะไรอย่างนี้! ไม่เหมาะสมเลย! ถ้ามีแฟนเมื่อไหร่จะทำแบบนี้บ้าง!! ผมสาบานกับตัวเองในใจ แล้วเพลงก็เริ่มจะพีคขึ้นเรื่อยๆ เสียงเชียร์ดังขึ้นมาจากบนเวที
“ว้าย! ท่านมิรัน!”
“มิรันจัง! มองมาทางนี้หน่อย!”
“มิ・รัน! มิ・รัน!”
ท่ามกลางผู้ชายกับผู้หญิงที่กำลังสนุกสนานกันอยู่นั้นก็มีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่ดูโดดเด่นออกมา พวกเธอสวมผ้าคาดหัวกับเสื้อคลุมที่เขียนว่ามิรัน
“เชียร์ใครกันวะ?…ไม่สิ…ดูยังไงก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่นา…!”
ท่ามกลางนักเต้นมีผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูโดดเด่นออกมา ผมสีเงินกับดวงตาสีแดง เป็นสาวสวยที่สวยมากจริงๆ ถ้ามองจากด้านหน้าจะดูเหมือนกับผมบ็อบสั้น แต่พอเธอสะบัดหัวก็จะเห็นว่าเธอรวบผมด้านหลังเป็นหางม้า เธอให้ความรู้สึกที่เป็นกลางทางเพศอย่างบอกไม่ถูก มีอะไรบางอย่างที่เกินกว่าคำว่าทอมบอยจะอธิบายได้
“””””วู้วววววววว! มิ・รัน!! มิ・รัน!!”””””
แล้วเสียงของผู้ชายก็เริ่มจะดังขึ้นมาบ้าง ผู้หญิงผมสีเงินคนนั้นคงจะเป็นมิรันสินะ เธอสะกดสายตาของผู้ชมไว้ได้อยู่หมัด พูดตามตรงแล้วทักษะการเต้นของเธอเองก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นเท่าไหร่หรอกนะ แต่สีหน้าที่เคร่งขรึมกับการเคลื่อนไหวของร่างกายที่เย้ายวนซึ่งตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง และเรือนร่างที่สวยงาม ทั้งหมดนั้นรวมกันแล้วทำให้ผมรู้สึกถึงความเย้ายวนที่น่าหลงใหลจากผู้หญิงคนนั้น ถ้าจะให้พูดสั้นๆ ก็คือ
“ทั้งซึ้งทั้งเซ็กซี่”
ใช่แล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของร่างกายของเธอที่ถูกเรียกว่ามิรันนั้นมันกระตุ้นอารมณ์ขึ้นมาได้ มันซึ้งอย่างน่าเหลือเชื่อ แล้วก็ทำให้รู้สึกถึงความตื่นเต้นและความปรารถนาทางเพศขึ้นมาได้
“โอ๊ะ! คานาตะเข้าใจนี่หว่า! มิซากิน่ะสุดยอดจริงๆ นะเว้ย! โคตรจะเซ็กซี่เลย!”
เขาเรียกมิรันว่ามิซากินี่นา ไม่น่าจะพูดผิดนะ?
“เซ็กซี่! ซึ้ง! อะไรบางอย่างมันสุดยอดไปเลยเคจัง! แค่มองเด็กผมเงินคนนั้นก็รู้สึกร้อนขึ้นมาแล้วล่ะ!…นี่…”
“เออ! รู้แล้วๆ!”
รุ่นพี่เคไคอุ้มคุณคิรินในท่าเจ้าหญิง
“ว้าย! ช่างรุนแรงอะไรอย่างนี้นะ! อุฟุฟุ”
ทั้งสองคนหยอกล้อกันแล้วก็เดินเข้าไปในหอพักชาย เอ๋?! จะทำกันตั้งแต่กลางวันแสกๆ เลยเหรอ?! นี่มันคือชีวิตมหาลัยของพวกตัวท็อปที่แท้จริงเหรอ?! ผมตัดสินใจว่าจะติดตามรุ่นพี่เคไคไปตลอดชีวิตเลยครับ แล้วเพลงก็จบลง การเต้นก็จบลงเช่นกัน เสียงเชียร์และเสียงปรบมือดังกึกก้อง แล้วชมรมเต้นก็เดินกลับเข้าไปในหอพักหญิงไป ผู้ชมต่างก็พูดถึงแต่มิรันกันทั้งนั้น ตอนนั้นเอง
“เฮ้ย ปีหนึ่งตรงนั้นน่ะ คุรามาตะไปไหน?”
ผู้ชายใส่แว่นกันแดดที่ดูเหมือนกับพวกอยากป๊อปน่าจะเป็นรุ่นพี่กับพวกที่ดูเหมือนจะเป็นรุ่นน้องของเขาเดินเข้ามาหาผม พวกเขามีบรรยากาศที่ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ รุ่นพี่เคไคตัวเองไปสนุกสนานกับสาวสวย ส่วนผมกลับต้องมาหงุดหงิดกับพวกผู้ชายเนี่ยนะ? มันเกินไปแล้ว! ผมอยากจะตะโกนออกมาจากใจจริงๆ
MANGA DISCUSSION