นัตสึกิกับมิยาโกะที่พึ่งคิดจะรีบไปฟ้องครู กลับต้องหยุดชะงักเพราะ…ดันไม่รู้ว่า อาสึกะ อยู่ที่ไหน
ทั้งที่เจ้าตัวเป็นคนชวนเขาแท้ๆ แต่กลับไม่บอกอะไรเลยว่าจะไปทำอะไรกันที่ไหน
แบบนี้มันดูหลุดๆ หรือว่าพูดเล่นกันแน่ก็ไม่รู้
แต่ต่อให้จะเป็นจริงหรือเล่น ถ้าไม่รู้ว่าเธออยู่ไหนก็แจ้งครูไม่ได้ มิยาโกะเลยลองปล่อย ชิคิกามิแบบง่ายๆ ออกไปสืบ
แล้วก็ไม่ถึงห้านาที…ก็พบตัว
“…อุแหวะ”
เสียงสำลักเบาๆ หลุดออกจากปากของมิยาโกะ
สาวงามที่หน้าตาเหมือนตุ๊กตาญี่ปุ่นขนาดนั้น กลับทำสีหน้าแบบที่ไม่อยากเห็นเลยจริงๆ
“อยู่ในห้องเก็บของที่โรงยิม…น่าจะเคยเป็นห้องล็อกเกอร์มาก่อน ตอนนี้…มัตสึชิมะซังกับ—”
“อะ ไม่ต้องบรรยายนะครับ ฟังไม่ไหว”
“ฉันเองก็ไม่ได้อยากเห็นค่ะ ถึงจะพูดว่าเด็กมัธยมทำอะไรกันก็เรื่องของเขา…แต่ยัยนั่น มันผิดปกติจริงๆ ค่ะ”
ดูเหมือนว่า อาสึกะ กำลัง ‘เพลิดเพลิน’ อยู่เลย
ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่ต้องทำก็คือ…แค่ไปหาครูเท่านั้น
ทั้งคู่รีบมุ่งหน้าไปห้องพักครูทันที โดยทำหน้าซีดอย่างกับเห็นอะไรสยองขวัญ พร้อมทำทีเป็นแทบจะอ้วกอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้สมจริง
…แต่ในเคสของมิยาโกะ เธอไม่ได้แกล้งแสดงเลย
“อ้าว ยูระคุงกับมินาซึกิซัง…ไม่ค่อยเห็นเดินด้วยกันเลยนะ ดูหน้าซีดๆ ทั้งคู่เลย เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เสียงทักทายอย่างอ่อนโยนดังขึ้นจากครู สึคุโยมิ หัวหน้าชั้นปีและครูประจำวิชาประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
เขาเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ใส่แว่นกลม หน้าตาใจดี ผมขาวสนิท—เจ้าตัวบอกว่าเกิดมาก็เป็นแบบนี้แล้ว อายุราวๆ สี่สิบ แต่หน้าดูเหมือนสามสิบต้นๆ มากกว่า
เป็นครูที่นักเรียนหลายคนไว้ใจเรื่องแนะแนวชีวิต
แต่ถึงจะไม่อยู่ในความทรงจำของนัตสึกิ
ก็ได้ยินมาว่าเวลาครูคนนี้โกรธล่ะก็…น่ากลัวพอๆ กับภูเขาไฟก่อนปะทุเลยทีเดียว
เหมาะเลย! ครูคนนี้นี่แหละเป้าหมายที่ใช่!
นัตสึกิยิ้มในใจอย่างลับๆ
“เอ่อ…คือว่า มันพูดยากมากเลยครับ…ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ก็เลย…”
“หนูก็ไม่รู้จะพูดยังไง…คือ มันเป็นเรื่องที่ไม่รู้จะเหมาะจะบอกครูมั้ยด้วยซ้ำน่ะค่ะ…”
ทั้งนัตสึกิและมิยาโกะต่างก็แสดงบทบาทของ ‘นักเรียนที่เจอเรื่องสะเทือนใจ’ ได้อย่างแนบเนียน
สึคุโยมิยิ้มอย่างอ่อนโยน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
“ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้ามีอะไรที่เป็นปัญหา เดี๋ยวครูจะช่วยดูให้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในหรือนอกโรงเรียน หรือเรื่องที่ไม่กล้าบอกผู้ปกครอง แต่คุณครูจะช่วยได้ก็ต้องอาศัยคำพูดของพวกเธอก่อน พยายามพูดออกมานะครับ”
แม้จะรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ใช้ความห่วงใยนั้นเป็นเครื่องมือ แต่นัตสึกิก็ยังตัดสินใจพูดต่อไป
“คือว่า…มัตสึชิมะ อาสึกะ ซังจากชมรมบาสหญิงน่ะครับ…”
“เธอทำอะไรไปเหรอครับ?”
“ในห้องเก็บของที่โรงยิม…กับพวกนักบาสชาย…เอ่อ…”
“อย่าบอกนะว่าสูบบุหรี่?”
“เปล่าครับ…ไม่ใช่แบบนั้น…คือ…เรื่องอย่างว่า…ของชายกับหญิง…”
แม้จะเคยโค่นจอมมารและเทพมารในต่างโลกมาแล้ว
แต่นัตสึกิก็ยังเขินอายเกินกว่าจะพูดคำว่า “มีเพศสัมพันธ์” ต่อหน้าครูได้
แต่สึคุโยมิก็พอเข้าใจเมื่อได้ยินคำว่า “ความสัมพันธ์ไม่เหมาะสมระหว่างชายหญิง”
“ขอโทษนะครับ คุณครูกอนโด ขอเวลาสักครู่ได้มั้ยครับ?”
สึคุโยมิยืนขึ้นอย่างสงบ แล้วเดินไปเรียก ครูกอนโด ครูพละร่างใหญ่หน้าดุ
“มีอะไรรึเปล่าครับ ครูสึคุโยมิ?”
ครูสึคุโยมิพูดกระซิบสั้นๆ ข้างหูโกนโดะ
ทันใดนั้น…หน้าของโกนโดะก็ขึ้นสีแดงก่ำด้วยความโกรธ!
(เอ๊ะ…ใช่แล้ว ครูกอนโดเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาชมรมบาสนิหว่า…)
นัตสึกิคิดในใจว่า จบแน่ยัยนั่น…
กอนโดตบไหล่นัตสึกิแรงจนสะเทือน
“ยูระ มินาซึกิ…รู้ว่ามันพูดยาก แต่ดีแล้วที่พวกเธอแจ้งมา ที่เหลือให้พวกครูจัดการเอง พวกเธอกลับบ้านได้เลย เรื่องบอกผู้ปกครอง…ไม่ห้าม แต่ขออย่าบอกเพื่อนนักเรียนคนอื่นก็พอ เข้าใจมั้ย?”
“ครับ เข้าใจครับ”
“เรื่องแบบนี้จะไปเล่าให้ใครได้ล่ะคะ…”
“ขอบใจมากนะ ฝากที่เหลือด้วย!”
ว่าแล้วกอนโดก็เดินตรงดิ่งไปยังโรงยิม
“รออยู่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ พวกเธอกลับบ้านได้เลยนะ ถ้ามีอะไรที่ต้องถามเพิ่มเติม อาจจะโทรไปก็ได้ ฝากด้วยนะครับ”
สึคุโยมิก็เดินตามไปติดๆ
นัตสึกิกับมิยาโกะโค้งตัว “ขอบคุณครับ/ค่ะ”
ก่อนจะเดินออกจากห้องพักครู ทำหน้าหงอยต่อไปจนถึงล็อกเกอร์ เปลี่ยนจากรองเท้าในอาคารเป็นรองเท้าสำหรับออก
พอเดินออกจากตัวอาคาร จนเกือบจะผ่านประตูโรงเรียนไปแล้ว…
“พวกแก๊รรรรรรรรร!!! พวกแกทำบ้าอะไรรรรรรร๊!!!”
เสียงตะโกนลั่นของกอนโดดังขึ้นจากฝั่งโรงยิม
ทันใดนั้น สีหน้าซึมเศร้าของทั้งคู่ก็แปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มสดใส แล้วก็ยกมือไฮไฟว์กันอย่างเริงร่าทันที “เย้~!”
MANGA DISCUSSION