หลังจากรออยู่ประมาณยี่สิบนาที มินาซึกิ คายะกับมิโอะก็กลับมาพร้อมกับเสื้อนักเรียนของนัตสึกิในมือ
“––ท่านยูระนัตสึกิ ขอบพระคุณที่ช่วยท่านมิสึจิ… ไม่สิ… ที่ช่วยสามีของฉัน และสำหรับเวลาที่มอบให้กับครอบครัวของเรา… ฉันไม่รู้จะขอบคุณอย่างไรดี”
“ยูระคุง ขอบคุณมากนะ”
นัตสึกิรับเสื้อนักเรียนจากสองแม่ลูกที่มีดวงตาแดงก่ำด้วยน้ำตา
“ไม่ครับ ทางนี้ต่างหากที่ขอโทษ ที่เข้าไปปั่นป่วนเรื่องของพวกคุณตามอำเภอใจ… ถ้าเป็นไปได้ ผมก็หวังว่าเราจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันในอนาคตได้”
คายะพยักหน้าหนักแน่น
“บุญคุณครั้งนี้ เราจะไม่มีวันลืม ตราบใดที่ตระกูลมินาซึกิยังคงอยู่ หากมีสิ่งใดที่เราทำให้ได้ ขอเพียงเอ่ยมา”
“อา ถ้างั้น ขอใช้โอกาสนั้นตอนนี้เลยจะได้มั้ยครับ?”
“แน่นอนค่ะ”
“ถ้ามีใครพยายามสืบเรื่องของผมหลังจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ผมขอฝากไว้กับพวกคุณได้มั้ย?”
“ได้เลยค่ะ ทั้งในและนอกตระกูลมินาซึกิ เราจะปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่านยูระให้ถึงที่สุด”
“ขอบคุณมากครับ”
ความจริง พวกเขาน่าจะอยากรู้ว่านัตสึกิเป็นใครกันแน่ๆ แต่เพราะเขาคือผู้มีพระคุณ พวกเขาจึงเลือกที่จะไม่ซักไซ้ และนัตสึกิก็รู้สึกขอบคุณในจุดนั้น
“แล้วก็… แม่ผมเป็นคนธรรมดา ขอให้เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความลับด้วยนะครับ”
“……จริงๆ แล้ว เราควรเป็นฝ่ายไปขอโทษที่ปล่อยให้บุตรชายของเธอตกอยู่ในอันตราย”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายอะไรเลย”
ในฐานะพ่อแม่ พวกเขาย่อมมีความรู้สึกบางอย่าง แต่ก็ไม่ได้มีอะไรที่น่ากังวลเกิดขึ้นกับเขา
ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่อยากพูดมากจนพาแม่เข้าไปพัวพันด้วย
(แค่ฉันเป็นเลือดบริสุทธิ์ก็น่าหัวเราะขนาดนี้แล้ว แม่ก็น่าจะใช่เหมือนกันสินะ? ถึงโคอุเมะจังบอกว่าถ้าเป็นมนุษย์ด้วยกันจะมองไม่ออกก็เถอะ แต่กันไว้ดีกว่าแก้)
“อีกเรื่อง ถ้าจะให้ช่วยพูดกับพวกผู้ใช้พลังของมินาซึกิที่มีท่าทีเป็นศัตรูกับผมอย่างชัดเจนด้วย ก็จะขอบคุณมากเลยครับ”
“ข้อนั้นไม่ต้องห่วงค่ะ พวกเขาโดนพลังของท่านยูระไปจนรู้ตัวแล้วว่าห่างชั้นกันมากแค่ไหน”
“งั้นก็ดีครับ ผมไม่อยากฆ่าคนโดยไม่จำเป็นน่ะ”
“……ฉันจะคอยจับตาดูให้ด้วยอีกแรงค่ะ”
“ฝากด้วยครับ”
แม้จะยังไม่หมดกังวลทั้งหมด แต่นัตสึกิก็เลือกที่จะเชื่อในความจริงใจของคายะ
จากนั้น เขาก็หัวเราะแห้งๆ ก่อนจะก้มหัว
“เอ่อ… ขอโทษด้วยนะครับ ที่ทำบ้านกับภูเขาพังไป”
“……ไม่เป็นไรค่ะ ท่านได้แจ้งไว้ล่วงหน้าแล้ว และโชคดีที่ภูเขานั้นเป็นพื้นที่ของตระกูลมินาซึกิ เราจะจัดการให้เรียบร้อยเอง”
“อา โล่งอกไปที”
ถึงเขาจะไม่ได้ปลดปล่อยพลังเกินกว่าที่จำเป็นเพื่อสังหารมิสึจิ และด้วยบาเรียของโคอุเมะกับแจ็คก็สามารถลดความเสียหายลงได้มาก
แต่มันก็ยังนับว่าเสียหายไม่น้อยอยู่ดี
นัตสึกิเพ่งควบคุมพลังเต็มที่ขณะใช้พลัง แต่ถึงอย่างนั้น “ดาบศักดิ์สิทธิ์” ก็ยังร้ายพอจะเกือบควบคุมไม่ได้
แม้แต่ร่างที่เติบโตแล้วในต่างโลกยังเกือบต้านไม่ไหว จึงไม่แปลกที่เขาจะกลัวการใช้มันอีกครั้งในอนาคต
ขออย่าได้มีโอกาสต้องใช้มันอีกเลย…
“งั้น ผมขอตัวไปโรงเรียนก่อนนะครับ”
“งั้นให้พวกฉันไปส่ง…”
“ไม่เป็นไรครับ ผมอยากเดินไปเอง”
เขาอยากไปรวมกลุ่มกับโคอุเมะกับแจ็คก่อน จึงปฏิเสธอย่างสุภาพ
ขณะนัตสึกิก้มหัวเล็กน้อยแล้วหันหลังเดินออกไป คายะก็ถามขึ้นจากข้างหลัง
“ท่านยูระ… จะใช้พลังนั้นทำอะไรต่อไปคะ?”
“ก็…ไม่ทำอะไรเป็นพิเศษหรอกครับ แค่อยากใช้ชีวิตสบายๆ เรื่อยๆ …แต่ถ้าใครมาแหย่เท้าหากันก่อนล่ะก็… ผมก็แค่ป้องกันตัวบ้างก็พอ”
เขาตอบทั้งที่ไม่ได้หันกลับไป
และคายะก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ
นัตสึกิเดินจากคฤหาสน์มินาซึกิไปอย่างสงบ
“ยูระคุง!”
“ครับ?”
เสียงเรียกชื่ออย่างกะทันหันทำให้เขาหันกลับไปโดยไม่ตั้งใจ
มิโอะวิ่งตรงเข้ามา และเมื่อเขาหยุด เธอก็คว้ามือเขาไว้
“…ฉันสามารถเรียกท่านมิสึจิว่าคุณพ่อได้เต็มปากแล้ว คุณพ่อ… ท่านมีใบหน้าที่สงบมากเลย ขอบคุณนะ!”
ก่อนหน้านี้ มิโอะดูเหมือนจะมีเงามืดในใจเสมอ
แต่ตอนนี้เธอดูแตกต่างออกไป
ราวกับดอกไม้เพียงหนึ่งเดียวที่ผลิบานอย่างสดใสท่ามกลางแสงแดดยามเช้าเลย
MANGA DISCUSSION