รถของอาโอยามะ กิงโกะ พาทุกคน—รวมถึงนัตสึกิ—มุ่งหน้าไปยังบ้านยูระ
เพราะสารวัตรอาโอยามะพาตำรวจฝีมือดีหลายคนมาด้วย การส่งมอบพื้นที่เกิดเหตุจึงราบรื่นขึ้นมาก…แต่ถึงอย่างนั้น แค่เจอ “เทวทูตลูซิเฟอร์” กับ “มนุษย์ต่างดาว” ก็ทำเอาทุกคนแทบขากรรไกรค้าง
ตอนที่หัวหน้าอาโอยามะเอามือวางบนไหล่นัตสึกิพลางพูดเสียงสั่นว่า “ครั้งนี้มันเกินไปแล้วจริงๆ…” ก็ใช่ว่านัตสึกิจะอยากไปก่อเรื่องอะไรเองเสียเมื่อไหร่
ในกรณีของแจ็ค ฝ่ายที่ลักพาตัวแนนซี่คู่หมั้นเขาไปต่างหากที่ผิด ส่วนลูซิเฟอร์ โคอุเมะนั้นก็เข้าใจผิดว่าเป็นเผ่าปีศาจ จึงต้องยอมรับว่าไม่อาจเลี่ยงได้
พอจัดการปัญหาต่างๆ เสร็จแล้ว นัตสึกิก็กะจะกลับบ้านเสียที แต่โคอุเมะที่ไม่มีที่พักก็งอแงจะตามไปด้วย แถมแจ็คกับแนนซี่ก็อยากไปด้วยอีกต่างหาก เลยขอให้กิงโกะช่วยขับรถพาทุกคนไป
จู่ๆ จะพาสามคนกลับบ้าน ที่แย่กว่านั้นคือสองในสามยังเป็นมนุษย์ต่างดาว นัตสึกิถึงกับกุมขมับ แต่โชคดีที่แจ็คกับแนนซี่สามารถ “แปลงร่าง” เป็นมนุษย์ได้ ก็เลยให้ช่วยจัดการทันที
แล้วก็ปรากฏว่าทั้งคู่กลายเป็นชายหนุ่มผมทองตาฟ้าแสนหล่อกับหญิงสาวสวยสง่างามในพริบตา
โคอุเมะเองก็เป็นสาวสวยระดับนางแบบ กิงโกะก็เป็นสาวยิ้มเก่งมีเสน่ห์ สุดท้ายก็มีแต่นัตสึกิคนเดียวที่หน้าตาธรรมดาเลยรู้สึกแอบกระอักกระอ่วนเล็กน้อย
“—รถนี่มันแคบเกินไปแล้วนะ”
“อย่าบ่นรถพระเจ้าเหาแบบนี้สิคะ! นี่มันรถห้าคนนะ ถึงจะดูคับไปหน่อยก็เถอะ!”
รถยนต์คันกะทัดรัดของกิงโกะ บอกได้คำเดียวว่า ไม่มีความสบายเลยสักนิด
กิวโกะนั่งที่คนขับ ส่วนโคอุเมะยืนยันว่าเธอจะเมารถถ้าไม่ได้นั่งข้างคนขับเลยจองที่ไว้ก่อน นัตสึกิก็นั่งเบียดอยู่เบาะหลัง ระหว่างแจ็คกับแนนซี่อย่างเลี่ยงไม่ได้
“ว่าแต่ ถึงจะไม่หลุดโป๊ะเรื่องเป็นมนุษย์ต่างดาวกับนางฟ้า ก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าเอาชาวต่างชาติตั้งสามคนกลับบ้านจะไม่เป็นปัญหาหรือเปล่า?”
“จากที่คุณพ่อบอก คุณแม่ของนัตสึกิคุงดูไม่น่ามีปัญหานะ แต่…คุณแม่เป็นคนยังไงเหรอ? เราเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งก็เลยไม่รู้จักดีเท่าไหร่”
“อืม…ก็แค่คนธรรมดาทั่วไปนั่นแหละ?”
“จริงเหรอ…?”
รถที่สั่นอยู่เป็นพักๆ พอผ่านช่วงเงียบๆ ไป กิงโกะก็พูดขึ้นมาเหมือนนึกบางอย่างออก
“ว่าแต่ เจ้า ‘ดาบมารทาโร่’ ที่นัตสึกิคุงให้มา สุดยอดไปเลยนะ!”
“ชื่อโคตรเชยเลยนะนั่น! เซนส์ในการตั้งชื่อไม่มีเอาซะเลย!”
“ขอร้องล่ะ อย่าไปสนใจเลยค่ะ! แต่ คือว่าดาบวิญญาณเล่มเดิมมันไม่ค่อยเชื่อฟังแล้วน่ะสิ”
“…เพราะตั้งชื่อให้แค่เล่มเดียวหรือเปล่า?”
นัตสึกิแซวเล่น แต่กิงโกะกลับทำหน้าจริงจังแล้วพึมพำว่า “หืม อาจจะใช่ก็ได้นะคะ…”
“ดาบมารทาโร่ เรียกสั้นๆ ว่า ‘มันตะ’!”
“ได้ฟีลเหมือนสัตว์ทะเลว่ายน้ำสบายๆ ในมหาสมุทรเลยแฮะ”
“อยากไปโอกินาว่าจังเลย~!”
“อีกเล่มนึงฟีลผู้หญิง งั้นชื่อว่า ‘ดาบวิญญาณฮานาโกะ’ แล้วก็เรียกสั้นๆ ว่า ‘มัน—’” (TN: มันโกะ=ก็ อวัยวะเพศหญิงนั่นแหละ)
“ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก!”
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด!”
คำที่กิงโกะกำลังจะพูดต่อไปนั้นมัน…อันตรายเกินไป ทั้งนัตสึกิและโคอุเมะจึงร้องออกมาพร้อมกัน
กิงโกะยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนพอใจอะไรบางอย่าง
“อ้าว? ทำไมถึงร้องเสียงหลงกันแบบนั้นล่ะ~? หรือว่า…เผลอเข้าใจผิดว่าฉันจะพูดอะไรแปลกๆ กันไปแล้วเหรอ~? โอ๊ยๆ วัยรุ่นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อกับนางฟ้าเจ้าเล่ห์นี่เข้าใจคิดไปได้จริงๆ น้า~”
“เดี๋ยวก่อน—!”
“เธอ…!”
“แล้วคิดว่าฉันจะพูดอะไรต่อกันแน่เหรอ? พูดมาเลยสิ ด้วยริมฝีปากน่ารักๆ นั่น กับท่าทีขัดเขินแบบนั้น~ เอ้า~!”
“…ช่างเป็นคนประหลาดอะไรอย่างนี้! ขนาดต่างโลกก็ไม่มีใครแปลกแบบนี้เลย!”
“ก็เธอพูดอะไรให้น่าสงสัยก่อนนี่นา! จาก ‘มันตะ’ ต่อไป…มันเหลือคำตอบเดียวเท่านั้นไม่ใช่เรอะ!”
“คำตอบนั่นแหละที่ฉันอยากได้! พูดออกมาเลยค่ะ เร็วๆ!”
แจ็คกับแนนซี่ที่นั่งประกบสองฝั่งนัตสึกิ มองกิงโกะแล้วก็เหมือนกำลังคิดทบทวนความประทับใจใหม่อีกรอบ
“มนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสนุกดีนะ วุ่นวายได้ขนาดนี้เชียว”
“จริงด้วยนะคะ ที่รัก”
“ฟุฟุฟุ”
“ฟุฟุ”
ทั้งคู่หวานใส่กันต่ออย่างไร้ยางอาย
ไม่นานนัก รถที่บรรทุกเสียงหัวเราะกับคำพูดลวนลามจากกิงโกะก็มาถึงหน้าบ้านยูระ
“กลับมาแล้วค้าบ~!”
“โธ่เอ๊ย! ถ้าจะกลับดึกขนาดนี้ก็ควรโทรมาบ้างสิ! รู้ไหมว่าแม่เป็นห่วงแค่ไหน!”
“อ๊ะ…”
“ดีนะที่ฮิซาชิคุงบอกว่า ‘นัตสึกิไปช่วยคนอยู่’ ไม่อย่างนั้นแม่คงเป็นห่วงแย่เลยนะ!”
“ขอโทษนะครับ แม่”
นี่เป็นครั้งแรกในรอบหกปีที่โดนแม่ดุด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนี้
…แม้มันจะไม่เหมาะนักที่จะรู้สึกแบบนี้ แต่หัวใจก็อดอบอุ่นและน้ำตาคลอไม่ได้
“อ๊ะๆ นี่คือแขกจากต่างประเทศที่รู้จักกับนัตสึกิเหรอจ๊ะ? เชิญๆ เข้ามาเลยนะจ๊ะ แม่เตรียมอาหารเย็นไว้แล้ว ลองทานดูสิจ๊ะ”
MANGA DISCUSSION