พอรู้สึกตัวอีกที ท้องฟ้าก็กลายเป็นยามราตรีแล้ว
ในฟ้ายามค่ำคืนที่ดวงดาวระยิบระยับของเมืองมุโคจิมะ นัตสึกิกำลังขี่จักรยานไปพร้อมกับมนุษย์ต่างดาว
“นั่นแหละ ที่นั่นล่ะ ที่คู่หมั้นของฉันโดนจับตัวไป”
“…ดูเผินๆ ก็แค่ตึกธรรมดาแฮะ เอาล่ะ ถึงจะเป็นเอเลี่ยนก็เถอะ คนที่กล้าลักพาตัวแบบนี้ต้องไม่ใช่พวกคนดีแน่ แบบนี้ฉันพังตึกไปเลยก็ไม่ผิดใช่มั้ย?”
จากร่างของนัตสึกิ แสงสายฟ้าสีม่วงแผ่กระจายออกมา
เสียงปะทุเปรี๊ยะๆ ดังไม่ขาดสาย แสดงให้เห็นว่าพลังนั้นพร้อมจะระเบิดออกทุกเมื่อ
“รอก่อนเถอะนะ เพื่อนนัตสึกิ… ถ้าใช้พลังนั้น คู่หมั้นของฉันจะกลายเป็นขี้เถ้าไปด้วยเอา”
“รู้หน่า แต่ก่อนอื่นฉันอยากจัดการกล้องวงจรปิดกับพวกเครื่องมือในตึกก่อนน่ะ”
“…เรื่องนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเถอะ”
“โอ้! จะใช้เทคโนโลยีระดับจักรวาลอะไรบางอย่างเหรอ!?”
“เปล่า แค่แฮ็กธรรมดาๆ… ท่าทางจะผิดหวังอย่างแรงเลยนะ เพื่อน”
นัตสึกิคาดหวังอะไรที่ยิ่งใหญ่แบบ ‘ปิ้วๆ ปริิ๊ง!’ แต่สิ่งที่เห็นคือแจ็คหยิบของที่ดูเหมือนสมาร์ตโฟนขึ้นมากดๆ อย่างคล่องแคล่วเท่านั้น
“เพื่อนเอ๋ย… คู่หมั้นฉันอยู่ที่ชั้นสามของตึกนั่น”
“แล้วกล้องล่ะ?”
“ทำให้ใช้ไม่ได้หมดแล้ว รวมทั้งลบภาพบันทึกย้อนหลังด้วย”
“เจ๋งแจ๋ว! แล้วข้างในมีพวกมันกี่คน?”
“มีมนุษย์ธรรมดา ห้าคน… กับอีกหนึ่งคน ที่มีพลังแบบเดียวกับนายล่ะ”
“ในที่สุดก็จะได้ประลองพลังเหนือธรรมชาติกับใครสักที… เลือดสูบฉีดเลยเว้ย!”
“…เมื่อเทียบกับพลังของนายแล้ว เอาเถอะ ไม่พูดดีกว่า ไปช่วยเธอกันเถอะ คู่หมั้นฉันน่ะ เป็นถึงผู้เข้าชิงตำแหน่งมิสแพลเน็ตเลยนะ… ถ้ามีใครทำอะไรน่าอดสูลงไปก่อนที่เราจะไปถึง ฉันคงให้อภัยตัวเองไม่ได้”
“หะ?” นัตสึกิหลุดพูดออกมาด้วยความตกใจ
โชคดีที่เอเลี่ยนอย่างแจ็คมัวแต่เป็นห่วงคู่หมั้นเลยไม่ได้ยิน
…ดูเหมือนว่าสำหรับพวกเอเลี่ยนแล้ว เธอจะเป็นสาวงามมากทีเดียว
นัตสึกิพยายามไม่ตัดสินจากภายนอก แต่มันก็ยังเกินไปหน่อย
“ขอโทษทีนะ แต่คงไม่มีมนุษย์คนไหนในโลกที่ถึงขั้นหลงใหลได้กับเอเลี่ยนแบบเกรย์อ่ะ จะว่าไป ฉันกลัวมากกว่าว่าเธอจะโดนจับไปชำแหละน่ะสิ”
“ชำแหละอย่างงั้นรึ!? มนุษย์โลกช่างน่าสะพรึงจริงๆ! ครั้งก่อน ตอนสมัยวัยรุ่นที่เคยไปซ่าส์ในรอสเวลล์กับหลายๆ ที่ ก็มีเพื่อนร่วมดาวของฉันหลายคนถูกจับและไม่ได้กลับมาอีกเลย…”
“อ๊าาา~! ไม่อยากได้ยิน! ไม่อยากรู้เรื่องความลับของโลกเลยคร้าบ~!”
ไม่ว่าจะรอสอะไรก็ช่อง นัตสึกิก็ไม่อยากรู้สักอย่าง
ไม่อยากข้ามจากโลกแฟนตาซีไปถึงไซไฟ และยังไม่พร้อมจะรู้เรื่องนอกญี่ปุ่นด้วย
“ช่างเถอะ! ภารกิจช่วยคู่หมั้นเริ่มขึ้นแล้ว! พร้อมรึยัง แจ็ค!?”
“พร้อมแล้วล่ะ!”
“งั้น บุกทะลวงกันเลย!”
สองสหายบนจักรยานเหาะได้ พุ่งทะลุกำแพงชั้นสามของตึก “สมาคมวิจัยกัปปะและสึจิโนโกะ”
เสียงตึงตังดังกึกก้อง เศษปูนและฝุ่นฟุ้งกระจาย
นัตสึกิยกแขนเสื้อปิดจมูก แล้วโบกนิ้วเล็กน้อย
สายลมเวทพัดไล่ฝุ่นให้กระจายหายไปในพริบตา
“แย่แฮะ ล้อหน้าจักรยานพังซะแล้ว แบบนี้ต้องให้พวกสมาคมวิจัยกัปปะจ่ายค่าซ่อมล่ะ” (TN: เอ็งเล่นชนเข้ามาเองแท้ๆ)
“ถึงจะเละเทะไปหน่อย แต่ก็น่าวางใจเหลือเกิน… ระวังตัวด้วยนะนัตสึกิ ที่นี่มีคนที่ใช้พลังประหลาดอยู่ด้วยคนหนึ่ง”
“รู้แล้ว พลังนั่นกำลังเคลื่อนมาทางนี้… รีบหาคู่หมั้นก่อนเถอะ รู้ตำแหน่งมั้ย?”
“…ห้องข้างๆ นี่แหละ”
“ได้เลย!”
นัตสึกิกำหมัดแน่น ใช้ทั้งแรงกายและแรงเวทเล็กน้อย ก็ระเบิดกำแพงไปได้ทันที
เขาไม่รู้ว่าที่นี่ติดกับดักอะไรไว้บ้าง
แต่แทนที่จะเดินเปิดประตูเช็กอย่างสุภาพ ทะลุกำแพงไปซะเลยมันรวดเร็วกว่า
พอทะลุกำแพงเข้ามาในห้องข้างๆ
ตรงกลางมีโต๊ะแบบเดียวกับที่ใช้ในห้องผ่าตัด บนโต๊ะนั้นมีมนุษย์ต่างดาวทรงเกรย์นอนอยู่
แขนขาและหน้าท้องถูกมัดด้วยเข็มขัดหนัง ไม่สามารถขยับตัวได้
ดูเหมือนจะทุกข์ทรมานไม่น้อย น้ำตาใสๆ ไหลรินจากดวงตาดำสนิทของเธอ
“แนนซี่!”
แจ็ครีบวิ่งเข้าไปหาพยายามปลดเข็มขัดหนัง
แต่ดูเหมือนมันจะเป็นแบบมีล็อก ไม่ใช่เปิดได้ง่ายๆ
พอนัตสึกิเข้าไปใกล้ แนนซี่ก็มีท่าทีหวาดกลัว
“ไม่ต้องกลัวนะ แนนซี่ นี่น่ะ ยูระ นัตสึกิ เพื่อนจากโลกของฉันเอง”
“ไง ฉันชื่อยูระ นัตสึกิ! เป็นเพื่อนของแจ็ค แรนด็อก แจสเปอร์ วิลเลียมสัน แชมเบอร์ ฮานามากิเอง! ยินดีที่ได้รู้จัก!”
นัตสึกิยิ้มกว้างก่อนจะกระชากเข็มขัดหนังขาดด้วยมือเปล่า
พอสัมผัสก็รู้ทันที ว่านี่ไม่ใช่เข็มขัดรัดธรรมดา มันทำจากหนังสัตว์และเคลือบไว้ด้วยเลือดและหมึก อาจเป็นเครื่องมือทางเวทของญี่ปุ่นก็ได้
(…พวกที่นี่คิดจะชำแหละเธอจริงๆ สินะ… น่าขยะแขยงสุดๆ!)
ข้างๆ เตียงมีเครื่องมือมากมาย เช่น มีดผ่าตัดวางอยู่เต็มไปหมด
นัตสึกิเห็นแนนซี่และแจ็คกอดกันแน่น ก็ได้แต่คิดว่าโชคดีที่ยังมาได้ทัน
และในใจของเขา… ตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้พวกมนุษย์ที่อยู่ที่นี่ “ปลิว” ไปซะให้หมด!
MANGA DISCUSSION