“อาริกาโต เด็กหนุ่มแห่งโลก”
“ไม่ต้องขอบคุณก็ได้ แต่อธิบายให้รู้เรื่องกว่านี้ไม่ได้เหรอ?”
“ขอเวลาเล็กน้อย”
มนุษย์ต่างดาวปล่อยมือแล้วใช้นิ้วแตะลำคอตัวเอง จากนั้นก็เปล่งเสียง “อา…” “อือ…” ราวกับว่ากำลังปรับจูนเสียงอะไรบางอย่างเข้าให้พอดี
สักพักหลังจากนั้น เขาก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งโดยหันหน้ามาทางนัตสึกิ
“แบบนี้ใช้ได้ไหม เด็กหนุ่มแห่งโลก”
“เสียงหล่อกระชากใจ!”
เสียงแข็งทื่อจืดชืดราวเครื่องจักรเมื่อครู่นี้ กลายเป็นเสียงเทเนอร์ที่นุ่มนวลอย่างน่าประหลาด
(เสียงโคตรหล่อ… ทำเอาใจเต้นเลยแฮะ)
“อะแฮ่ม… โอเค ในเมื่อคุยกันรู้เรื่องแล้ว ก็ตอบคำถามมาหน่อยสิ”
“ตกลง”
“อย่างแรกเลย นั่นมันอะไรอะ?”
นัตสึกิชี้ขึ้นไปบนฟ้า
ระหว่างคุยกันเขาก็ลองสำรวจไปด้วย ดูเหมือนว่ามีอะไรบางอย่างกำลังปิดล้อมพื้นที่ส่วนหนึ่งเอาไว้
“สมแล้วที่มีพลังแข็งแกร่ง นั่นคือ ‘ม่านกั้นแยก’ ม่านนี้ดึงนายเข้ามาภายในวง ทำให้คนข้างนอกไม่สามารถสัมผัสถึงนายหรือฉันได้ และในทางกลับกัน เราก็ไม่สามารถสัมผัสถึงคนภายนอกได้เช่นกัน”
“ทำได้ยังไงน่ะ?”
“…เป็นพลังลึกลับแห่งจักรวาลน่ะ”
“โอ้ ถ้าเป็นพลังลึกลับแห่งจักรวาลล่ะก็ งั้นก็ช่วยไม่ได้นะ~”
ถ้าเรียนรู้ได้ก็อยากจะลองจดจำดูเหมือนกัน
“ต่อไป นายไม่มีพลังต่อสู้เลยเหรอ? บอกว่าไม่อยากทำร้ายใครนี่นา?”
“พวกเรามีทักษะในการต่อสู้ แต่ไม่ได้โปรดปรานการสู้รบ อีกทั้งหากทำร้ายมนุษย์โลกก็จะมีบทลงโทษ แน่นอนว่าถ้าเพื่อคู่หมั้นล่ะก็ ฉันก็พร้อมจะรับโทษ แต่พลังของดาวดวงนี้กับพลังที่ฉันมีเข้ากันไม่ดีนัก พอใช้แล้วจะเกิดความเสียหายมากเกินไป”
“เพราะงั้นเลยต้องเป็นฉันสินะ?”
“ใช่แล้ว ฉันตรวจสอบแล้วว่าแถวนี้มีแค่นายที่แข็งแกร่งที่สุด”
“ก็คนมันแข็งแกร่งอะนะ จะให้มนุษย์ต่างดาวมาพึ่งก็ช่วยไม่ได้!”
ถ้ามีกฎก็ต้องปฏิบัติตาม
แค่ได้คุยกันก็พอรู้ว่าอีกฝ่ายไม่คิดทำร้ายใครก่อนแน่นอน
ถึงจะร้อนใจเพราะคู่หมั้นถูกจับตัวไป แต่ก็ยังพยายามควบคุมตัวเองไม่ให้ทำอะไรบุ่มบ่าม
“…ขอสารภาพตามตรง พ่อแม่ของฉันกับคู่หมั้นนั้นมีตำแหน่งสำคัญบนดาวบ้านเกิด หากฉันก่อเรื่อง พ่อของฉันก็จะเดือดร้อน และมันจะลุกลามไปถึงพ่อแม่ของคู่หมั้นฉันด้วย”
“แค่นั้นก็พอแล้วล่ะ เราไปช่วยคู่หมั้นนายกันเถอะ รู้มั้ยว่าอยู่ที่ไหน?”
“ซาบซึ้งใจยิ่งนัก คู่หมั้นของฉันถูกคุมขังอยู่ที่สถานวิจัยชื่อ ‘ชมรมศึกษากัปปะกับสึจิโนโกะ’ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชานเมืองแห่งนี้”
“มีที่บ้าบออะไรแบบนั้นด้วยเหรอ!? อ๊ะ… ถ้าเป็นโลกแฟนตาซีก็อาจจะมีแฮะ”
ฟังดูเป็นองค์กรที่น่าสนใจ แต่ตอนนี้ต้องจัดการเรื่องสำคัญก่อน
นัตสึกิขึ้นคร่อมจักรยานแล้วดีดนิ้วโป้งขึ้นอย่างมั่นใจ
“ไปกันเถอะ ขึ้นมาเลย!”
“ขอบคุณมาก ยานอวกาศจะเป็นจุดเด่นเกินไป งั้นขออนุญาตล่ะ”
มนุษย์ต่างดาวพูดขอบคุณแล้วกำลังจะขึ้นนั่งบนตะแกรงหลังจักรยาน แต่นัตสึกิรีบห้ามไว้
“เจ้าบ้า! เวลามนุษย์ต่างดาวขึ้นจักรยาน ต้องนั่งหน้าตะกร้าไม่ใช่เรอะ!”
“มีธรรมเนียมเช่นนั้นด้วยรึ? ขออภัยที่ฉันไม่รู้… ค่อนข้างคับไปหน่อย แต่คงพอไหวล่ะนะ”
มนุษย์ต่างดาวลงนั่งในตะกร้าอย่างคล่องแคล่ว
แม้มองทางด้านหน้าจะลำบากไปนิด แต่ก็เป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ
“โอเค! ยกม่านกั้นออกได้เลย!”
“แต่…”
“ไม่เป็นไร ฉันบินได้!”
“โอ้! ไม่ผิดจริงๆ ที่เลือกนาย!”
นัตสึกิกับมนุษย์ต่างดาวชกกำปั้นเข้าหากัน
“ว่าแต่นายชื่ออะไรเหรอ?”
“จริงด้วย นายบอกชื่อให้ฉันแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้แนะนำตัวเลย ฉันชื่อ แจ็ค แรนด็อก แจสเปอร์ วิลเลียมสัน แชมเบอร์ ฮานามากิ”
“ยาวชิบ! แล้วทำไมชื่อลงท้ายเป็นฮานามากิฟะ!?”
“เพื่อนสนิทมักเรียกฉันว่า แจ็ค”
“ไม่ค่อยเข้าใจเลยแฮะ แต่ฝากตัวด้วยล่ะ แจ็ค!”
“อา ฝากตัวด้วยนะ นัตสึกิ!”
นัตสึกิที่ได้กลายเป็นเพื่อนกับมนุษย์ต่างดาวแล้ว เหยียบแป้นจักรยานอย่างแรง
“งั้นยกม่านกั้นออกได้เลย!”
“เอาล่ะ!”
ทันทีที่ม่านถูกยก จักรยานที่มีทั้งสองคนอยู่บนนั้นก็ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ฝากนำทางด้วยล่ะ!”
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันได้เลย!”
แล้วจักรยานคันหนึ่งก็บินตัดฟ้าของเมืองมุโคจิมะไป โดยมีมนุษย์ต่างดาวกับมนุษย์โลกโดยสารอยู่ด้วยกัน—
(TN: E.T. กลับบ้านนนน)
MANGA DISCUSSION