“อา— โทษทีๆ! พอดีช่วงนี้มีเรื่องยุ่งนิดหน่อย แต่ว่า…คาสึโตะนี่โตขึ้นเยอะเลยแฮะ”
“พูดอะไรน่ะ? เราเพิ่งเจอกันเมื่อวานก่อนเองไม่ใช่รึไงครับ?”
เด็กหนุ่มที่ใส่ต่างหูสามรูที่หูซ้าย แต่งเครื่องแบบอย่างไม่เรียบร้อย ดูภายนอกเหมือนหนุ่มเจ้าชู้ แต่จริงๆ แล้วคาสึโตะเป็นคนดีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
เนื่องจากเพื่อนสมัยเด็กอีกคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิท—ยูโตะ—เอาแต่เล่นกับผู้หญิงมาตั้งแต่ยังเล็ก นัตสึกิจึงมักจะวิ่งเล่นในป่าข้างบ้านกับคาสึโตะ ไล่จับจักจั่น จับด้วงกว่าง พออยากตกปลาตอนกลางวันแต่ไม่มีอุปกรณ์ ก็เลยไปขอเป็นลูกศิษย์คุณลุงขาประจำที่แม่น้ำจนเรียนรู้การตกปลาได้ ตอนนี้ถึงจะไม่ค่อยชอบแมลงแล้ว แต่ก็มั่นใจว่าฝีมือตกปลาของตัวเองไม่ธรรมดา
คาสึโตะในฐานะน้องชายของยูโตะ ย่อมต้องเจอความลำบากมากกว่านัตสึกิเป็นธรรมดา
ไม่ว่าจะเพื่อนผู้หญิงหรือเด็กสาวที่เริ่มสนิทกันแค่ไหน ไม่นานก็กลายเป็นคนคลั่งยูโตะกันหมด แถมยูโตะยังชอบไปยุ่งกับเพื่อนสนิทหรือคนที่คาสึโตะสนใจอีกต่างหาก
พอขึ้นมัธยมต้น ซึ่งเป็นวัยที่เริ่มไวต่อเพศตรงข้ามและเรื่องเพศ บรรดารุ่นน้องต่างก็เริ่มรู้สึกรังเกียจยูโตะ จนคาสึโตะเองเกือบจะกลายเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง
จนได้นัตสึกิเข้าไปพูดกับรุ่นน้องว่า “ยูโตะน่ะเป็นเหมือนภัยธรรมชาติล่ะนะ” จึงช่วยคลี่คลายสถานการณ์ไปได้ แต่เรื่องนั้นก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นให้คาสึโตะเริ่มแหกคอก
เขาเริ่มไม่ยอมกลับบ้าน เริ่มคบกับพวกที่ประพฤติตัวไม่ดี จนในที่สุดนัตสึกิก็ต้องเข้าไปปะทะกับคาสึโตะตอนดึกกลางถนน ถึงกับมีการลงไม้ลงมือกันเลยทีเดียว แต่ก็ช่วยให้เขาไม่หลงผิดได้
เพราะไม่ควรปล่อยให้ชีวิตวัยรุ่นอันมีค่าต้องหมดไปเพราะยูโตะ
แล้วนัตสึกิก็ยังได้ยินมาว่า ยูโตะไม่ได้มีแฟนคลับแค่ผู้หญิง แต่ยังมีแฟนคลับที่เป็นผู้ชายด้วย
ตอนนั้นก็คิดว่าน่าขยะแขยงพอตัวแล้ว แต่พอกลับมาจากต่างโลก เจอหน้ายูโตะอีกครั้ง เขาก็ยังรู้สึกขยะแขยงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน
“เหรอ? อ่า ช่างเถอะ แล้วเรื่องข้อความน่ะ?”
“ก็เรื่องอันสึไงครับ เราอยู่ห้องเดียวกันด้วยนี่ พอไอ้พี่ห่วยแตกของผมมีแฟน อันสึก็เริ่มแปลกไป เมื่อวานก็ถามเรื่องของนัตสึกิคุงเยอะแยะเลย ผมเลยคิดว่าเกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า แล้วก็จะเตือนเพราะรู้ว่านัตสึกิคุงไม่ชอบอันสึ ว่าให้ระวังเธอทำอะไรน่ารำคาญใส่ล่ะ…แต่ดูเหมือนจะสายไปแล้วสินะครับ”
“ขอโทษนะ ทั้งที่นายเป็นห่วงแท้ๆ อันสึอะไรนั่น โผล่มาถึงตัวฉันเลยล่ะ”
นัตสึกิถอนหายใจแล้วอธิบายให้คาสึโตะฟังว่า อันสึโผล่มาแล้วพูดอะไรเพ้อเจ้ออย่าง “โดนยูโตะทำให้เพี้ยนไป” จากนั้นพอยูโตะรู้ว่าเธอร้องไห้ ก็ชกเขาทันที
“เจอแบบนั้นนี่แย่จริงๆ แต่ผมว่าอันสึก็แปลกๆ ไปอยู่นะครับ”
“เหรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิครับ ผมเข้าใจว่านัตสึกิคุงไม่สนใจเธอแล้ว แต่สำหรับผมยังไงก็ปล่อยไว้ไม่ได้น่ะ ถึงนิสัยจะไม่ดี แต่เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กเลยด้วย”
(…ว่าไปแล้ว คาสึโตะก็เคยชอบอันสึนี่นา ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไง แต่ดูเหมือนจะยังใส่ใจอยู่สินะ)
ถ้ายูโตะเข้าใจผิดว่านัตสึกิชอบโนอาแค่เพราะเขามีท่าทีสนใจ แล้วไปยุ่งกับเธอ งั้นการที่ไปยุ่งกับอันสึ—ซึ่งเป็นน้องสาวบุญธรรมของนัตสึกิและเป็นคนที่คาสึโตะชอบ—ก็คงเป็นเรื่องตั้งใจเหมือนกัน
แต่กับอันสึนั้น ไม่มีร่องรอยของพลังล่อลวงหรือควบคุมจิตใจแต่อย่างใด อย่างน้อยก็เท่าที่นัตสึกิเห็น
ถึงจะมีอะไรเป็นจุดเริ่มต้นก็ตาม แต่ที่ผ่านมาก็เป็นความรู้สึกของอันสึเองที่ชอบยูโตะ เพราะงั้นจะไปห้ามหรือโทษใครก็ไม่ถูก
แต่ถ้าคาสึโตะยังชอบอันสึอยู่…ควรจะช่วยจัดการอะไรสักอย่างดีมั้ยนะ? แต่ในแง่ความรู้สึกส่วนตัวแล้ว นัตสึกิคิดว่า ผู้หญิงที่ด่าแม่และพี่ชายบุญธรรม ดื้อรั้นอาละวาด แล้วไม่เคยสำนึกสิ่งที่ตัวเองทำลงไป ไม่เหมาะกับคาสึโตะเลยสักนิด
“เด็กผู้หญิงในห้องผมก็เริ่มแปลกๆ ไปเหมือนกัน โดยเฉพาะทาบุจิ เอรินี่แย่สุดเลย”
“ทาบุจิ เอริ?”
“สนใจคนอื่นบ้างสิครับ! เธอเป็นเด็กปีสองที่น่ารักที่สุดเลยนะ พวกรุ่นพี่ก็ยังปลื้มเลย แต่ก็โดนพี่ผมแตะไปแล้วเหมือนกัน”
“…หมอนั่นมันมือไวจริงๆ”
“ไม่ได้ล้อเล่นเลยล่ะครับ เหมือนจะมีเด็กคนอื่นที่โดนด้วยเหมือนกัน”
นัตสึกิถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
ในฐานะชายแท้บริสุทธิ์ เขารู้สึกไม่เข้าใจเอาเสียเลย ว่าทำไมถึงมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงที่ไม่ใช่คนรักได้
เขาอดคิดไม่ได้ว่า “ไม่มีความรักเลยเหรอ?” หรือ “เด็กผู้หญิงพวกนั้นไม่เป็นอะไรเลยเหรอ?”
ถึงยูโตะจะมีพลังเสน่ห์ล่อลวงอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ได้รุนแรงหรือไร้เทียมทานขนาดนั้น
(…หน้าตาดี ปฏิบัติตัวดีกับผู้หญิง พลังเสน่ห์ก็เหมือนเครื่องปรุงเล็กๆ งั้นเหรอ? งั้นก็แปลว่าหมอนั่นจีบเก่งแต่แรกอยู่แล้วน่ะสิ)
“ทาบุจิ เอริน่ะ เมื่อวานหลังเลิกเรียนอยู่ๆ ก็เป็นลมไป หลังจากนั้นก็หลบหน้าพี่ผมเลย ถึงยูโตะจะพยายามเข้าหา ก็เอาแต่หลบอยู่หลังเพื่อน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นแค่เห็นหน้าก็วิ่งไปหาแล้วแท้ๆ”
“…อืม แล้วเด็กคนนั้นความสัมพันธ์กับเพื่อนๆ เป็นยังไงล่ะ?”
“ดีมากเลยล่ะ ไม่เหมือนยัยอันสึ เธอไม่เคยด่าผมหรือด่านัตสึกิคุงว่าไม่ดีเหมือนพี่ชาย แล้วเวลาอยู่กับยูโตะหรือกับคนอื่นก็ยังยิ้มอยู่ตลอด เราเลยรู้สึกดีกับเธอ และคิดว่าเธอเป็นเด็กดีล่ะนะ”
“แล้วคนอื่นคิดยังไงกับอันสึบ้าง?”
“ไม่อยากพูดหรอกนะ…แต่ก็ ประสาทแดก เสียมารยาท เอาแต่ใจ ชอบนินทาคนอื่น ประจบประแจง น่าเอาอย่างทาบุจิซะบ้าง อะไรทำนองนี้แหละ”
“บอดว่าไม่อยากพูด…แต่ก็พูดซะหมดเปลือกเลยนี่หว่า!”
นัตสึกิกับคาสึโตะหัวเราะออกมาพร้อมกัน แล้วก็ถอนหายใจพรืดด้วยสีหน้าหมดแรงพอกัน
MANGA DISCUSSION