“ว่าแต่… ‘อันสึ’ นี่ใครน่ะ?”
“ไอ้เจ้าบ้า พูดอะไรของนาย—!”
ยูโตะทรุดตัวลงกับพื้น หน้าแนบกับพื้นเย็น มือกุมเป้ากางเกงพลางกระตุกเกร็งราวกับปลากำลังดิ้นตาย ขณะนั้น นัตสึกิยืนมองลงมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงง
…เขาเผลอเตะเป้าไปจนได้ แต่ยังดีที่ยั้งแรงทันก่อนจะเตะเต็มแรง
(เกือบทำลายอนาคตตระกูลหมอนี่แล้วสิ…ไม่นึกเลยว่าจะถึงวันที่ต้องโดนชกกลับแบบนี้ ความรู้สึกหงุดหงิดขนาดนี้—ก็นับตั้งแต่ตอนที่เจอขุนนางโรคจิตที่โผล่มาแล้วพูดหน้าตายว่า “ช่วยปรนนิบัติข้าหน่อยสิ” ครั้งนั้นก็เตะเป้ามันไปเหมือนกัน…เออ โคตรคิดถึงเลยว่ะ—จะบ้าเรอะไง!)
“เฮ้…ฉันไปทำอะไรให้ต้องโดนต่อยเนี่ย?”
นัตสึกิคุกเข่าลงข้างๆ แล้วชะโงกหน้ามองใบหน้าของยูโตะ
“ก็นายทำให้อันสึร้องไห้นี่! ทำให้น้องสาวตัวเองร้องไห้ นายมันเลวสุดๆ ไปเลยรู้มั้ย!?”
“…เฮ้อ ลืมเรื่องนั้นไปอีกแล้ว แล้วก็…อดีตน้องสาวต่างสายเลือดน่ะ ‘อดีต’ เข้าใจมั้ย? แล้วเธอร้องไห้แล้วไปฟ้องนายเนี่ยนะ?”
“อันสึเธอดูแปลกๆ ฉันเลยตามหาเธอ พอเจอก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอบอกว่านายพูดอะไรแย่ๆ กับเธอ ใช่มั้ยล่ะ!? ทำผู้หญิงร้องไห้ นายมันแย่สุดๆ!”
“จะเริ่มเถียงจากตรงไหนดีล่ะเนี่ย…หรือควรเถียงดีมั้ยยังไม่รู้เลย แต่ก่อนอื่นนะ จะบอกให้—ที่อันสึร้องไห้ มันไม่ใช่เพราะฉันหรอก มันเพราะ ‘นาย’ นั่นแหละ เข้าใจไว้ให้ชัดเลยนะ”
นัตสึกิถอนหายใจยาว ไม่เคยคาดคิดเลยว่าตัวเองจะโดนต่อยเพราะถูกหาว่าทำอันสึร้องไห้
จะว่าไป อันสึก็ใจกล้าใช่เล่นนะ ถึงขั้นไปฟ้องไอ้หมอนี่ที่เมื่อครู่เธอยังเรียกว่า “ไอ้บ้านั่น” อยู่เลย…นิสัยนี่ไม่ไหวจะเคลียร์จริงๆ
ถึงเธอจะพูดว่าโดนยูโตะหลอก แต่เธออธิบายว่ายังไงก็ช่างเถอะ—ไม่อยากรู้แล้วล่ะ ที่แน่ๆ คือที่พูดไปก่อนหน้านี้น่ะ ถูกต้องแล้ว
“…ว่าแต่นี่นายตามหาฉันตั้งแต่ก่อนเรียนเพราะอยากต่อยฉันแค่หมัดเดียวเนี่ยนะ?”
ยูโตะยันตัวลุกขึ้นด้วยแรงเท่าที่มีกับขาอันสั่นเทาเหมือนกวางเพิ่งเกิดใหม่ แล้วมองเขาตาขวางราวกับตัวเองคือผู้ถูกกระทำ
“นายจะบอกว่าเป็นความผิดฉันเหรอะ?”
“ก็ไม่อยากจะพูดเท่าไหร่ แต่นี่มันโอกาสดี ขอพูดตรงๆ ละกัน—ก็เพราะนายทำตัวครึ่งๆ กลางๆ แบบนั้นกับเธอมาตลอด แล้วจู่ๆ ก็ไปมีแฟนขึ้นมา อันสึก็เลยช็อกไงล่ะ”
“…เหรอ?”
“เออ ใช่เลย น่าสงสารจะตาย อยากให้นายสนใจจนต้องโกหกว่าโดนฉันทำให้ร้องไห้อะไรแบบนั้นเลยนะ…แสดงว่าช็อกจริงๆ นั่นแหละ”
ทั้งที่ในใจไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยสักนิด แต่นัตสึกิกลับพูดออกไป ยูโตะก็ทำท่าคล้อยตามเหมือนเข้าใจโลกขึ้นมาทันที
“…จริงด้วยสิ ฉันก็แอบคิดไว้นิดๆ แล้วนะว่าอาจจะเป็นแบบนี้ ถ้าเธอบอกมาตรงๆ ก็คงดี”
(…เชื่อจริงดิ!?)
นัตสึกิตกใจที่คำพูดส่งเดชของตัวเองดันได้ผลไปซะงั้น—แต่ก็คิดว่า “ก็ยังเป็นเหมือนเดิมดีนะ”
ยูโตะเนี่ย เป็นพวกยึดติดกับความคิดตัวเองมาก ถ้าเชื่ออะไรแล้วล่ะก็ จะไม่ฟังใครอีกเลย โดยเฉพาะคำพูดจากผู้ชายด้วยกัน
แต่ถ้าเป็นผู้หญิงมาพูดแบบ “ยูโตะคุง ไม่ใช่แบบนั้นหรอก~” แบบนี้ถึงจะพอฟังบ้าง
ยังไงก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องที่ตัวเองไม่พอใจล่ะก็ ต่อให้เข้าหูไปก็ไหลออกอีกข้างแทบจะทันที
แต่ถ้าเรื่องไหนมันทำให้ตัวเองรู้สึกเหนือกว่า หรือเข้าทางล่ะก็ ไม่ว่ามาจากใครก็พร้อมเปลี่ยนใจทันที
(…เผลอๆ ถ้าอันสึร้องไห้เพราะฉัน แล้วเขาจะโกรธแทนก็พอเข้าใจได้ แต่พอเปลี่ยนเป็นเพราะตัวเองมีแฟนแล้วอีกฝ่ายเสียใจปุ๊บ…ก็กลายเป็น “แง~ฉันมันหล่อเกินไปเอง” ในหัวไปซะงั้น…คิดเองเออเองขั้นสุดจริงๆ)
แต่เอาเถอะ ก่อนจะมานั่งคุยกัน ทำไมไม่คิดก่อนจะต่อยฟะ!?
“แต่ถึงงั้นก็เถอะ นายไม่ควรเตะเป้าคนอื่นนะ!”
แม้จะเข้าใจเรื่องอันสึแล้ว ยูโตะก็ยังไม่พอใจที่ตัวเองโดนเตะจุดสำคัญ
ก็เข้าใจได้นะ คนที่มีข่าวลือว่า “เก่งมาก” ตั้งแต่ม.ต้น คงหวงเป้าเป็นพิเศษ
“ถ้านายไม่ชกหน้าฉันก่อน ฉันก็ไม่เตะหรอก”
“แต่มันก็เกินไปอยู่ดี!”
“ฟังนะ ขอร้องล่ะ นายเล่นลงไม้ลงมือใส่เพื่อนร่วมชั้นแบบไม่ทันตั้งตัวแบบนี้ ฉันก็ต้องป้องกันตัวสิ หรือจะให้ฉันไปรายงานครูว่า ‘มิฮาระคุงต่อยผมครับ’ ดีล่ะ?”
นัตสึกิพูดเสียงเนือยๆ อย่างสุดจะรำคาญ ยูโตะกลับทำหน้างงแล้วพึมพำอะไรแปลกๆ
“เป็นไปไม่ได้…จะบ้าเหรอ…”
อยู่ดีๆ ก็ทำหน้าหวาดกลัวขึ้นมาแล้วพูดขึ้นว่า
“…พูดอะไรของนายเนี่ย? พวกเราน่ะ เป็นเพื่อนสนิทกันไม่ใช่เหรอ?”
“…หา?”
คราวนี้นัตสึกิเป็นฝ่ายอึ้งบ้าง
ทั้งที่โดนทำตัวเป็นปัญหามาตลอด ทั้งที่ยูโตะทำตัวเจ้าชู้ แถมยังเข้าใจผิดว่าตนเป็นคนทำร้ายอันสึจนถึงขั้นต่อยมาก่อน
แล้วไหงมาทำเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ได้วะ?
“ฟังให้ดีนะ มิฮาระ ยูโตะคุง”
“อ…อืม?”
“ฉันกับนาย แค่บังเอิญได้นั่งข้างกันตอนอนุบาล แล้วแม่เราดันสนิทกันก็เลยได้เจอกันบ่อย—แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเราเป็นเพื่อนสนิทกัน!”
ได้พูดออกไปซะที นัตสึกิรู้สึกโล่งใจสุดๆ
ก่อนหน้านี้ไม่พูดอะไรเพราะกลัวจะโดนมองแปลกๆ จากสาวๆ รอบข้าง แต่ตอนนี้เขาไม่แคร์อีกต่อไป
ใครที่ไม่ใช่เพื่อนจะมองว่าเขาเป็นยังไงก็ช่าง ไม่มีผลอะไรเลย
กลับกัน ต้องมาคอยแคร์คนแบบยูโตะนี่แหละ ที่ทำให้ชีวิตวุ่นวายสุดๆ
“มิฮาระคุงอะนะ ชอบไปยุ่งกับแต่ผู้หญิงก็ไม่ผิดหรอก แต่ลองสนิทกับผู้ชายบ้างก็ดีนะ อ๊ะ—ลืมไป นายชอบอยู่กับสาวๆ มากกว่านี่นา ขอโทษนะที่เจือก!”
พูดประชดเสร็จ นัตสึกิตบไหล่อีกฝ่าย “แปะๆ” แล้วหันหลังจะเดินจากไป…แต่เขาก็ชะงัก
(…เดี๋ยว—อะไรกัน!? ไม่อยากจะเชื่อเลย! พอแตะตัวถึงเพิ่งรู้ว่า ไอ้หมอนี่ มี ‘พลังเสน่ห์’ นี่หว่า!?)
เขาเพิ่งรู้สึกได้ถึง ‘เสน่ห์’ ของยูโตะ ตอนที่แตะตัวเขา
MANGA DISCUSSION