“อย่า…อย่าพูดเล่นแบบนั้นสิ ก็พี่นัตสึกิ พี่ของอันสึไง”
“…อันสึ…อ้อ!”
เด็กสาวตรงหน้าดูหงุดหงิดเล็กน้อย จนเขานึกออกในที่สุด — เด็กสาวที่เขาลืมหน้าตาไปหมดแล้วเพราะไม่ได้พบกันถึงหกปี อดีตน้องสาวต่างสายเลือดของเขา — อายากาวะ อันสึ
สำหรับเธอแล้ว เหมือนเพิ่งเห็นเขาเมื่อวาน แน่นอนว่าถ้าโดนพูดใส่ว่า “ใครเหรอ?” คงไม่พอใจเป็นธรรมดา
แต่ถึงอย่างนั้น… พวกเขาก็ไม่ใช่พี่น้องกันอีกต่อไปแล้ว
เรื่องที่เธอเคยหลงรักยูโตะอย่างบ้าคลั่งก็เรื่องหนึ่งเถอะ แต่ความจริงที่ว่าเธอเคยแสดงท่าทีดูหมิ่นต่อตัวเขาและแม่จนเป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวต้องแตกแยกนั้น ก็ไม่อาจปฏิเสธได้
ไม่ว่าจะโทษว่าเป็นเพราะความไร้เดียงสาในวัยเด็กก็ตาม การที่เธอยังจะมาเรียกเขาว่า “พี่ชาย” มันก็ดูหน้าด้านเกินไป
“แล้ว…มีอะไร?”
นัตสึกิตอบอย่างเย็นชา ทำให้อันสึไหล่สะดุ้งขึ้นเล็กน้อย
เขาอดเอียงคอมองด้วยความแปลกใจไม่ได้
ก็เพราะว่าอันสึเคยเปรียบเทียบนัตสึกิกับยูโตะอย่างเสียๆ หายๆ มาตลอด
แล้วตอนนี้จะมาเรียกเขาว่า “พี่ชาย” ด้วยเจตนาอะไรกันแน่ — มันเกินจะเข้าใจได้
ที่สำคัญ เขาไม่ใช่พี่ของเธออีกแล้ว
“อะ…อะนะ คือว่า…พี่นัตสึกิ…ฉันน่ะ ตอนนั้นฉันมันแปลกไปเองน่ะ… ฉันโดน ‘หมอนั่น’ ทำให้เป็นแบบนั้นน่ะ!”
“หือ?”
อยู่ๆ ก็พูดเรื่องอะไรขึ้นมาเนี่ย?
“หมอนั่น” ที่ว่า ก็คงหมายถึงยูโตะที่เธอหลงรักจนไม่ลืมหูลืมตานั่นเอง
“เหมือนกับถูกสะกดจิตยังไงไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็ชอบหมอนั่นแบบบ้าๆ บอๆ! แต่ตอนนี้…ตอนนี้ฉันไม่รู้สึกอะไรแล้ว!”
“…นั่นไม่ใช่แค่เธอรักเขาตั้งแต่แรก แต่พออกหักเลยตัดใจได้แค่นั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่! ไม่ใช่แบบนั้น!”
อันสึขึ้นเสียงอย่างวิตก ทำให้นัตสึกิเริ่มรู้สึกเหนื่อยหน่ายขึ้นมา
(ก็จริงอยู่ที่ยูโตะไม่เคยประกาศว่าชอบใครเป็นพิเศษ แถมไม่เคยมีแฟน พอเขามีแฟนขึ้นมาจริงๆ สาวๆ ที่เคยโดนดึงความสนใจไว้ก็คงช็อกกันหมดนั่นแหละ… แต่พูดว่าถูกควบคุมจิตใจเนี่ย มันเกินไปมั้ยเนี่ย…)
อีกอย่างที่ติดใจคือตรงที่เธอบอกว่า “อยู่ดีๆ ก็ไม่สนใจแล้ว”
อันสึในอดีต หลงใหลในยูโตะถึงขั้นว่าหงุดหงิดเวลามีสาวคนอื่นเข้าใกล้ เข้าวีนใส่แม่ตอนโดนตักเตือนอย่างรุนแรง ทำถึงขนาดนั้นแท้ๆ
แล้วอยู่ดีๆ จะไม่รู้สึกอะไรอีก มันเป็นไปได้จริงๆ เหรอ?
(แต่ก็…ไม่เกี่ยวกับฉันอยู่ดีนี่หว่า!)
หลังจากเลิกเป็นพี่น้องกัน อันสึก็ยังมีบ้างที่มาพูดคุยกับเขา — ไม่สิ จริงๆ คือมาว่ากล่าวเสียๆ หายๆ มากกว่า บางทีก็ลากเพื่อนสาวที่เคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กมาร่วมด้วย ช่วยกันตำหนิเขาอีกแรง
ส่วนยูโตะ ก็ได้แต่หัวเราะแห้งๆ แล้วพูด “ขอโทษแทนพวกเธอนะ” แบบไม่รู้เรื่องรู้ราว
สำหรับนัตสึกิแล้ว…การที่คนพวกนั้นยังมายุ่งกับเขานั้น น่าเวทนาจนอยากจะถามว่า “ถ้างั้นจะมายุ่งกับฉันทำไม?”
ตอนนี้ก็เหมือนกัน
ต่อให้อันสึจะเลิกหลงรักยูโตะแล้ว มันก็ไม่เกี่ยวกับเขาอยู่ดี
ไม่จำเป็นต้องรายงาน และเขาก็ไม่เคยใส่ใจเรื่องนั้นเลยด้วยซ้ำ
(เหมือนกำลังเข้าใจผิดนะ ว่าฉันยังสนใจเรื่องของเธอ… สงสัยต้องเคลียร์ให้ชัดเจน?)
ระหว่างที่นัตสึกิกำลังคิด อันสึก็ยังพูดพร่ำต่อไปเรื่อยๆ ถึงแม้เขาจะไม่ได้ตั้งใจฟังเท่าไร แต่พอจับใจความได้ก็ประมาณว่า “ทั้งที่ไม่ได้ชอบ ไม่ได้สนใจ แต่กลับคลั่งไคล้หมอนั่น” อะไรทำนองนี้
พูดตรงๆ เลย มันฟังดูน่าสะอิดสะเอียน
(หิวจัง… นานๆ ทีจะได้กินข้าวกล่องจากบ้านซักที กินบนดาดฟ้าเลยดีกว่า)
ขอโทษทีนะ แต่เขาไม่มีอารมณ์สนใจเรื่องของเธออีกต่อไปแล้ว
อันสึเหมือนจะรู้สึกว่าการตอบสนองของนัตสึกิช้ามาก จึงรีบเข้ามาใกล้
นัตสึกิจึงรีบก้าวขึ้นบันไดหนีไปอีกขั้น เว้นระยะห่างออกไป
ไม่แน่ใจว่าเธอรับรู้ท่าทีของเขาว่าเป็นการปฏิเสธ หรือคิดเป็นอย่างอื่น แต่หลังจากยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง สีหน้าของอันสึก็เปลี่ยนเป็นจริงจัง แล้วจ้องเขาตรงๆ
“ฉันนะ…เมื่อก่อน ฉันเคยชอบพี่นัตสึกินะ”
“อ้อ เรื่องมันแล้วก็แล้วไปนะ”
“――เอ๊ะ?”
ปล่อยให้อันสึยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น นัตสึกิก็รีบเดินขึ้นบันไดต่อไป มุ่งหน้าไปยังดาดฟ้า
(……เอาจริงๆ นะ คนอะไร น่าขนลุกสุดๆ)
คำสารภาพของเด็กสาวที่เคยด่าทอเขา ทำให้แม่ต้องเสียน้ำตา ไม่ได้ทำให้ใจเขาสั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียว
ตรงกันข้าม — เขารู้สึกขยะแขยงแทนด้วยซ้ำ
นัตสึกิไม่ลังเลเลยสักนิด รีบหนีออกจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด
MANGA DISCUSSION