“ฉันน่ะ ตกลงคบกับเธอคนนี้แล้วนะ!”
“—หา?”
ภาพใบหน้าของเจ้าคนที่เป็นดั่งคำสาปประจำชีวิต พุ่งเข้ามาในสายตาของยูระ นัตสึกิอีกครั้ง
“เอ๊ะ เดี๋ยวสิ…หา? นี่เรา…กลับมาแล้วเหรอ!?”
นัตสึกิกวาดสายตามองรอบตัว เห็นเด็กนักเรียนมัธยมต้นมัธยมปลายเดินเล่นพลางจ้องมือถือ เห็นผู้ใหญ่ในชุดสูทเดินสวนกันขวักไขว่ เห็นรถวิ่งอยู่บนถนน… เป็นภาพของ “ชีวิตประจำวัน” ที่คุ้นเคยจนปวดใจ
“นัตสึกิ? พูดอะไรของนายเนี่ย?”
เสียงของมิฮาระ ยูโตะ—เจ้าตัวต้นเหตุของความหายนะทั้งมวล—ดังขึ้นเบาๆ พลางมองมาที่เขา
ชายหนุ่มผมสีอำพันอ่อนตัดเรียบระดับใต้ใบหู ตัวสูงกว่านัตสึกินิดหน่อย ดูสะอาดสะอ้านและสุขุมเกินวัย แม้จะยังเป็นเพียงเด็กมัธยมสามก็ตาม
เขาคือ “เพื่อนสมัยเด็ก” ที่เคยอยากลืมให้พ้นๆ ไปเสียที แต่พอเห็นหน้าอีกครั้งในรอบหลายปี เขากลับรู้สึก…คิดถึงขึ้นมาอย่างประหลาด
“นายสบายดีนะ? โอ้ ให้ตายสิ คิดถึงชะมัด! ดูท่าจะยังคงฮอตไม่เปลี่ยนเลยสินะ! เอาล่ะ ฉันมีธุระ ไปละ! บ๊ายบาย!”
“เดี๋ยวสิ! นัตสึกิ!?”
ไม่รอให้เจ้าคนน่ารำคาญพูดอะไรต่อ นัตสึกิรีบออกตัววิ่งพรวดหนีออกมา
เสียงฝีเท้าของรองเท้าผ้าใบกระทบกับพื้นถนนคอนกรีต เสียงเด็กวัยเดียวกันหยอกล้อกันไร้สาระ ร้านสะดวกซื้อที่มีทุกอย่างขายครบ ร้านค้าซูเปอร์ที่อยู่มาตั้งแต่จำความได้ ร้านอาหารที่ป้าข้างบ้านเป็นคนดูแล คาเฟ่ตกแต่งสวยงามที่เพิ่งเปิดใหม่—ทุกอย่าง ทุกอย่างล้วน “โคตรน่าคิดถึง!”
—นัตสึกิเชื่อแล้ว ไม่มีผิดแน่… เขาได้กลับมาแล้วจริงๆ!
จากวันนั้น…วันที่ถูกเรียกตัวไป “ยังอีกฟาก”
“…ฉันกลับมาแล้วโว้ยยยยยยย!!”
เสียงตะโกนดังลั่นเรียกสายตาจากผู้คนรอบตัวให้หันมามอง แต่นัตสึกิไม่สนใจเลยสักนิด
(หกปีเต็ม… ในที่สุด ฉันก็กลับมาญี่ปุ่นแล้ว! กลับมายังโลก! กลับสู่โลกของฉันเอง!)
น้ำตาแทบไหลด้วยความตื้นตัน
(จากต่างโลกบัดซบนั่น… ฉัน…ฉัน—)
“ฉันกลับมาแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย!!!”
ในความรู้สึก เขาใช้ชีวิตที่โลกนั่นมานานนับหกปี
แต่ในโลกนี้… มันเพิ่งจะผ่านไปไม่กี่อึดใจเท่านั้น
ใช่—ยูระ นัตสึกิ เคยถูกอัญเชิญไปยังต่างโลกในฐานะ “ผู้กล้า”
เขาถูกลากเข้าไปในสงครามระหว่างมนุษย์กับมาร
ได้รับภารกิจอันแสนซ้ำซากว่า “หากอยากกลับบ้าน ก็จงสังหารจอมมารซะ”
เขาจำใจสู้ สู้ และสู้ เขายืนอยู่ฝั่งมนุษย์ที่เหยียบย่ำกันเอง ทั้งที่แสร้งว่าร่วมมือกัน ต่อสู้กับฝ่ายมารที่รวมใจเป็นหนึ่งเพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการมีชีวิตอยู่บนโลก
เขาถูกใช้ประโยชน์ ถูกผลักให้เผชิญหน้ากับการนองเลือดอันน่าสะอิดสะเอียน เขาไม่อยากตาย—จึงสู้
เขาฆ่ามอนสเตอร์ ฆ่ามาร ฆ่ามนุษย์ ฆ่าแม้กระทั่งภูติ สัตว์วิเศษ และแม้แต่…เทพ และในที่สุด เขาก็ได้กลับมา—ยังโลกใบนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! สมน้ำหน้า! ไอ้พวกบ้า! เอาฉันไปใช้จนสาแก่ใจนักนะ ถ้าอยากฆ่ากัน ก็เชิญฆ่ากันเองไปให้ตายเลยเถอะ! ฉันไม่เอาแล้วเฟ้ย!”
เขาตะโกนด่าทอกลุ่มคนที่ไม่มีทางได้พบเจออีกไปตลอดชีวิต
แม้เขาจะแปลกใจ เรื่องที่เวลาของโลกนี้ไม่ขยับเลยตั้งแต่เขาหายตัวไป แต่ก็รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
ไม่ถูกแจ้งว่าหายตัว ไม่ถูกเข้าใจว่าตาย
ไม่ต้องทำให้ครอบครัวต้องเสียใจ—แค่นี้ก็เพียงพอ
และเหนือสิ่งอื่นใด… สิ่งที่ดีที่สุดคือ “ช่วงวัยรุ่น” อันแสนมีค่า—ไม่ได้สูญหายไปในโลกบัดซบนั่น!
ร่างกายของเขาในตอนนี้ ไม่ใช่ร่างที่เติบโตมาในต่างโลก แต่มันคือร่างเดิมของเขาในวัย 14 ปี เด็กมัธยมต้นปีสามคนหนึ่ง
ความสูงก็แค่พอประมาณ หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
ขายังสั้นเหมือนเดิม และบ้านก็เป็นแค่ครอบครัวทั่วไป
แต่เพราะแบบนั้นแหละ… “ความธรรมดา” นี้มันถึงน่าทนุถนอมจนแทบจะร้องไห้
เขารู้สึกขอบคุณจากใจจริง ที่ได้ร่างนี้กลับคืนมา
“วันนี้อาหารเย็นกินอะไรนะ? จำไม่ได้เลยแฮะ… อ้อ! วันนี้ของที่สั่งทางเน็ตมาส่งนี่นา! ฉันทุ่มเงินอั่งเปาและค่าขนมทั้งหมดซื้อสนีกเกอร์กับชุดใหม่เพื่อเป็นของขวัญขึ้นชั้นปี! อยากกลับบ้านเร็วๆ แล้ว! อยากกินข้าวฝีมือแม่! อยากนอนบนเตียงตัวเอง!”
เขาวิ่งอย่างสุดแรง
เขารู้ซึ้งถึงความแตกต่างของร่างกาย—ร่างนี้ไม่ใช่ร่างที่ฝึกฝนจนเหนือมนุษย์อีกต่อไป
แม้จะไม่ถึงกับสุขภาพแย่ แต่ก็ไม่ได้แข็งแรงพิเศษอะไร แค่วิ่งนิดเดียวก็หอบแทบขาดใจแล้ว
อยากปั่นจักรยานอีกครั้ง ขอโทษนะ รถม้าบ้าอะไรนั่น เขาไม่อยากเห็นอีกแล้วตลอดชีวิต!
เส้นทางกลับบ้านที่ผ่านตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายของอดีต และทันใดนั้น สายตาเขาก็จับจ้องไปยังบ้านสองชั้นหลังเล็ก มีหลังคาสีแดงที่คุ้นเคย
—บ้านของเขา… บ้านที่แสนคิดถึง
“กลับมาแล้วครับ! วันนี้ข้าวเย็นเป็นอะไรเหรอ!?”
MANGA DISCUSSION