“ชะ… ชะ…ชอบ…!”
หลังจากที่ครวญครางงึมงำมาหลายรอบ ดูเหมือนจิตใจของมิซากิจะถึงขีดจำกัดแล้ว เธอเริ่มพูดไม่ชัดแถมหน้าแดงจัดจนเหมือนกำลังมีไอน้ำลอยออกมาจากหัว ส่วนดวงตาก็ลอยเคว้งคว้างเหมือนกำลังหมุนอยู่
ว่าแต่แขนของผมที่โอบรอบตัวเธอไว้ ตอนนี้รู้สึกว่ามีน้ำหนักกดลงมาเต็มแรง ถ้าผมปล่อยมือละก็เธอน่าจะล้มพับไปเลยแน่ๆ
จะให้พูดก็พูดเถอะ มาถึงจุดนี้แล้วถ้าเธอเป็นลมล้มฟุบขึ้นมาคงจะวุ่นวายพอตัว
ผมเลยยื่นมือไปจับแก้มของเธอแล้วนวดเบาๆ เพื่อเรียกสติเธอกลับคืนมา
“นะ… น่ะ… นี่นายทำอะไรน่ะ…”
ดูเหมือนว่าจะได้ผล เพราะมิซากิหันมามองผมด้วยแววตาเขินๆ แต่ก็ไม่ได้ปัดมือผมออกแต่อย่างใด แสดงว่าจริงๆ แล้วเธอก็ไม่ได้รังเกียจที่ผมแตะตัวเธอมากนัก
อืม… จะว่าไปโคโคอะก็ชอบให้ผมจับแก้มเหมือนกัน พวกเธออาจจะเป็นคนประเภทเดียวกันก็ได้
“ก็ถ้ามิซากิหมดสติไปละก็เรื่องมันจะวุ่นน่ะสิ”
โดยเฉพาะกับเธอนี่แหละที่ดูยังไงก็มีแววจะโพล่งว่า ‘ทุกอย่างเป็นแค่ความฝัน’ ขึ้นมาได้ตลอดเวลา
ผมว่าพอเธอกลับไปบ้าน ผมคงต้องส่งแชทย้ำเตือนเรื่องเมื่อกี้ไว้อีกที เผื่อเจ้าตัวจะพยายามตีเนียนว่าเรื่องทั้งหมดไม่เคยเกิดขึ้นจริง
“ไม่เป็นไรหรอก…”
พอผมปล่อยมือออกจากแก้ม มิซากิก็หันหน้าหนีเล็กน้อยแล้วตอบกลับมาเสียงแผ่วเบา
…แต่แววตาคู่นั้นแหละที่กำลังส่งเสียงดังยิ่งกว่าคำพูดทั้งหมด
มันบอกอยู่ชัดๆ เลยว่าเธอเองก็รู้ดีว่าถ้าไม่ได้ผมพยุงไว้ละก็มีหวังล้มลงไปแน่ๆ
“ทั้งที่น่าจะโดนสารภาพรักมาจนชินแล้วแท้ๆ จะมาเขินอะไรตอนนี้กันเล่า…”
จำนวนคนที่เคยมาสารภาพรักกับมิซากิน่ะมากซะจนเจ้าตัวเองก็คงจำได้ไม่หมดเลยด้วยซ้ำ
ถึงผมจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรด้วย แต่ก่อนที่จะเริ่มทำตัวเป็นแฟนปลอมๆ ให้เธอ ผมก็เห็นคนพวกนั้นเข้ามาหาอยู่บ่อยๆ แต่ทว่า-
“ก็คนที่ฉันชอบมาสารภาพต่อหน้ากับคนที่ฉันไม่ได้ชอบแล้วมาสารภาพ ความรู้สึกมันไม่เหมือนกันสักหน่อยนี่นา…!”
ดูเหมือนคำพูดของผมจะไปขัดใจเธอเข้าให้ มิซากิเลยเดินเข้ามาใกล้ผมด้วยท่าทีฮึดฮัด เธอนี่เป็นคนที่อารมณ์ขึ้นลงง่ายจริงๆ เลยนะ
“คนที่ชอบงั้นเหรอ…”
ผมหยิบประโยคหลุดปากของเธอขึ้นมาแล้วจ้องหน้ามิซากิอย่างไม่วางตา
“อะ-! มะ… เมื่อกี้น่ะมัน…!”
ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวเข้าให้แล้ว มิซากิรีบปล่อยมือจากแขนผมแล้วเอาสองมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้แน่น
ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ตอบคำสารภาพรักของผมเลยแท้ๆ กลับกลายเป็นว่าเธอเผลอพูดความรู้สึกออกมาก่อนซะงั้น สมกับเป็นมิซากิจริงๆ
“ขอถือว่านั่นคือคำตอบได้ไหม?”
“…นั่นมัน”
เธอเบือนสายตาหนีอีกครั้ง เหงื่อผุดขึ้นมาเล็กน้อยที่ข้างแก้มของเธอ ส่วนผมเองก็ได้แต่มองเงียบๆ รอคำตอบ
ในเมื่อผมสารภาพรักไปแล้ว เธอก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องหลบเลี่ยงอีก
“ไม่เอา…”
ในที่สุดมิซากิก็เอ่ยปาก แต่สิ่งที่ออกมากลับเป็นคำปฏิเสธ
ผมเผลอใจผิดจังหวะไปนิดหนึ่ง คิดไปว่าเธอกำลังจะปฏิเสธผม แต่พอลองคิดทบทวนดีๆ ก็ดูจะไม่ใช่แบบนั้น ผมก็เลยตัดสินใจไม่พูดอะไรแล้วรอฟังต่อไป
“ฉันอยากพูดออกมาให้ชัดๆ ด้วยคำพูดของตัวเอง… ฉันไม่อยากโกหกอีกแล้วล่ะ…”
𝓜𝓪𝓶𝓫𝓸
MANGA DISCUSSION