“ขอโทษนะ ขอออกไปข้างนอกแป๊บนึง”
หลังจากเรานั่งพักผ่อนกันในห้องของไรโตะคุงได้สักพักหลังมื้ออาหาร เขาก็ลุกขึ้นพูดแบบนั้นแล้วเดินออกจากห้องไป เขาคงจะไปทำธุระส่วนตัว
พอคนที่คอยเอาอกเอาใจหายไป ฉันก็เลยหันไปมองใบหน้าของโคโคอะจังที่กำลังนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงของเขาอย่างสบายใจ
เด็กที่นอนหลับเก่งมักจะเติบโตได้ดี… ถ้าคิดตามหลักนั้น เด็กคนนี้ก็คงจะเติบโตมาอย่างแข็งแรงแน่ๆ
…ถึงฉันจะไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันกับเธอก็เถอะ แต่เพราะได้อยู่ด้วยกันบ่อยๆ ฉันเลยรู้สึกว่าเธอเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของตัวเอง หรือไม่แน่… ในอนาคตเธออาจจะได้เป็นน้องสาวจริงๆ ก็ได้นะ
“ฟุฟุ… ถ้าได้เป็นพี่สาวของโคโคอะจังจริงๆ ก็คงจะดีใจมากเลยล่ะ”
ตั้งแต่เด็กฉันก็อยากมีน้องสาวอยู่แล้ว โคโคอะจังเองก็เรียกฉันว่า ‘พี่สาว’ อยู่บ่อยๆ แล้วก็เป็นเด็กดี น่ารัก สดใส เรียกได้ว่าเป็นน้องสาวในอุดมคติเลยด้วยซ้ำ
ก็แน่นอนล่ะ ถ้ามีพี่ชายอย่างไรโตะคุงคอยดูแลด้วยความเอาใจใส่แบบนั้น ใครๆ ก็ต้องเติบโตมาอย่างอบอุ่นและน่ารักอยู่แล้ว
คุณแม่ของเขาเองก็ใจดี ไรโตะคุงก็แสนจะอบอุ่น โคโคอะจังก็น่ารักน่าชัง… บ้านหลังนี้สำหรับฉันแล้วช่างเป็นสถานที่ที่รู้สึกสบายใจที่สุดเลย
ถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากจะอยู่แบบนี้ไปตลอดเลยด้วยซ้ำ…
…แน่นอนว่า คงจะพูดอะไรอย่าง ‘รบกวนขออยู่บ้านนี้ด้วยคนนะคะ’ ออกไปไม่ได้หรอก
“มิซากิจัง ขอรบกวนหน่อยได้ไหม?”
“คุณแม่…?”
จู่ๆ ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น แล้วคุณแม่ของไรโตะคุงก็ชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง
ถ้าเป็นเรื่องของไรโตะคุงล่ะก็คงมาเวลาผิดพอดีเลย แต่ในเมื่อเรียกชื่อฉัน แสดงว่าคงมีธุระจะพูดกับฉันโดยตรง
“มีอะไรหรือเปล่าคะ?”
“ออกมาคุยกันข้างนอกหน่อยได้ไหมจ๊ะ?”
ตอนแรกฉันก็นึกว่าจะพูดอะไรกันตรงนี้ แต่ดูเหมือนเธออยากจะย้ายที่คุยมากกว่า ฉันเลยหันไปมองโคโคอะจังแวบหนึ่ง
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เดี๋ยวไรโตะก็กลับมาแล้วล่ะ”
ดูเหมือนคุณแม่จะเดาออกทันทีว่าทำไมฉันถึงหันไปมองเธอ เธอเลยเอ่ยปลอบให้
ถึงจะหลับอยู่ก็เถอะ แต่การปล่อยให้เด็กเล็กอยู่คนเดียวลำพังในห้องมันก็อดรู้สึกกังวลไม่ได้… แต่ถ้าเป็นไรโตะคุงล่ะก็ เขาคงกลับมาในอีกไม่กี่นาทีแน่ๆ แล้วฉันเองก็ไม่อยากให้คุณแม่มองฉันในแง่ไม่ดีด้วย…
คิดแบบนั้น ฉันจึงตัดสินใจลุกตามเธอออกไปตามคำชวน
จากนั้น พอฉันลงมาที่ห้องนั่งเล่นก็ได้ยินเธอพูดว่า-
“ไรโตะไม่ยอมปล่อยให้มิซากิจังคลาดสายตาเลยน่ะสิ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็คงไม่มีโอกาสได้คุยกันสองคนหรอก เด็กคนนั้นขี้หวงจริงๆ”
คุณแม่พูดพลางวางถ้วยชาและขนมหวานลงตรงหน้าฉัน ดูจากท่าทีแล้วน่าจะตั้งใจจะคุยยาวเลยล่ะ…
ไรโตะคุงคงจะรู้แน่ๆ ว่าฉันไม่อยู่ในห้องแล้ว แต่จะไม่เป็นอะไรจริงๆ เหรอ?
“ก็ถือว่าเป็นความสุขของคนเป็นแฟนล่ะนะคะ…”
จริงๆ แล้วไรโตะคุงไม่ได้หวงอะไรขนาดนั้นหรอก เขาแค่ให้ฉันอยู่ในห้องด้วยเพื่อที่ฉันจะได้ไม่เผลอหลุดพูดอะไรต่อหน้าคุณแม่มากกว่า
แต่ถ้าคุณแม่เข้าใจผิดไปแบบนั้น… มันก็ดีแล้วล่ะ เพราะถือว่าเป็นผลดีต่อ ‘เราสองคน’
แต่แล้วท่ามกลางความคิดที่กำลังประมวลอยู่ในหัว คำพูดของคุณแม่ที่ไม่คาดคิดก็พุ่งเข้ามาตรงๆ จนแทงทะลุความคิดทั้งหมด
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าเป็นแฟนตัวจริงน่ะนะ”
“……เอ๊ะ?”
ฉันเผลอจ้องหน้าคุณแม่เข้าอย่างจังเพราะนึกว่าตัวเองฟังผิดไป
ทว่าคุณแม่กลับยิ้มบางๆ อย่างอ่อนโยนก่อนจะเอียงคอพลางพูดต่อว่า
“ทำไมถึงต้องแกล้งทำเป็นคนรักกันล่ะจ๊ะ?”
วันนี้แปล 52 – 59 นะครับ แต่เว็บมันน่าจะเด้งแค่ว่าแปลบท 59 ตอนเดียว
MANGA DISCUSSION