“ฟุฟุ ดีใจจังเลยที่หนูมองลูกชายแม่ในแง่ดีแบบนี้น่ะ”
แม่พูดพลางยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีตามที่พูดจริงๆ
สายตาอ่อนโยนที่มองมานั่นทำเอาผมรู้สึกเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย
“ก็เพราะเขาใจดีกับหนูมาตลอดเลยนี่คะ…”
มิซากิยิ้มน้อยๆ อย่างเขินอาย
พอแม่เห็นสีหน้าแบบนั้น แววตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
เดี๋ยวนะ… รู้สึกไม่ดีแฮะ… เหมือนแม่กำลังจะถามอะไรแปลกๆ ขึ้นมาแน่ๆ
“เช่น… ยังไงเหรอ?”
“แม่ หยุดเลยนะ”
แม่เอียงคอถามด้วยใบหน้าระรื่น ผมเลยรีบขัดเธอไว้ทันที
อย่ามาสืบเรื่องความสัมพันธ์ลูกชายตัวเองนักได้ไหม แถมคนที่ถูกถามดันเป็นมิซากิอีก… แบบนี้มีสิทธิ์ที่เธอจะเผลอเล่าออกไปทุกเรื่องเลยมั้งเนี่ย
“เอ่อ…”
มิซากิหน้าแดงขึ้นทันทีแล้วก็หันมามองหน้าผมนิดหนึ่งเพราะคงไม่รู้จะทำยังไงดี
เธอจะเมินคำถามของแม่แฟนก็ไม่ได้ และตอนนี้ผมก็หยุดแม่ไม่ให้ถามเธอ เธอเองก็คงไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงดี
“ไม่ต้องตอบก็ได้น่า”
ผมเลยบีบมือเธอที่ยังจับกันอยู่ใต้โต๊ะแน่นขึ้นเล็กน้อย
แน่นอนว่าไม่ได้แรงขนาดทำให้เจ็บหรอก
“อ-อืม…”
ดูเหมือนเธอจะเข้าใจแล้วว่าไม่ต้องฝืนตอบก็ได้
“โธ่ ไรโตะ อย่ามาขัดแม่ตอนี้สิ”
“จะไม่ให้ขัดได้ยังไงล่ะ เรื่องแบบนี้โดนแม่ถามตรงๆ น่ะ มันน่าอายจะตายไป”
ผมถอนหายใจตอบแม่ที่ดูจะไม่ค่อยพอใจ
ตอนแรกก็แอบคิดเหมือนกันว่าจะให้มิซากิตอบอะไรนิดๆ หน่อยๆ
แต่พอคิดดีๆ แล้ว ถ้าเกิดเธอเผลอหลุดพูดอะไรออกมา มันจะยิ่งแย่กว่าเดิม
“มิซากิ เดี๋ยวขึ้นไปทำการบ้านที่ห้องฉันกันดีกว่า แล้วก็แม่ ผมฝากดูแลโคโคอะด้วยนะ”
ผมตัดสินใจแล้วว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปไม่ดีแน่ ผมเลยรีบชวนมิซากิขึ้นห้องไปด้วยกัน
“อ๊ะ อ๊ะ~ ทั้งๆ ที่แม่ก็อยู่แท้ๆ ยังจะชวนแฟนขึ้นไปบนห้องตัวเองอีก… นี่คิดจะทำอะไรกันจ๊ะ?”
“ก็บอกแล้วไงว่าจะไปทำการบ้าน…”
“ทำการบ้าน… เหรอ~?”
แม่หรี่ตายิ้มแล้วเหลือบมองไปทางมิซากิอย่างมีนัย ผมเลยเผลอมองตามสายตานั้นไปด้วย-
แล้วก็ต้องสะดุ้งเล็กน้อย เพราะมิซากิกำลังก้มหน้าด้วยแก้มที่แดงจัด
เดี๋ยวนะ…
“นี่พวกลูกคิดจะทำอะไรกันเหรอ~?”
แม่หันกลับมายิ้มเจ้าเล่ห์ใส่ผม นั่นก็คงเพราะท่าทีของมิซากินั่นแหละ ที่ดูยังไงก็ไม่เหมือนคนจะไปนั่งทำการบ้านกันจริงๆ
ทั้งที่ผมเองก็ไม่ได้พูดโกหกเลยแท้ๆ…
“อย่าทำแบบนั้นสิมิซากิ ทำตัวแบบนี้มันจะทำให้เข้าใจผิดกันไปหมดนะ…”
ผมหันไปกระซิบเตือนมิซากิ เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงทำท่าทางแบบนี้
แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือสายตาอันแสนอบอุ่นของเธอ
“ก็เพราะว่าเราสองคนไม่ค่อยได้อยู่กันสองต่อสองในห้องของไรโตะคุงเลยนี่นา…”
ก็จริง… ส่วนมากก็มีโคโคอะอยู่ด้วยตลอดถึงแม้ว่าเธอจะหลับ แต่เราก็มักจะอยู่ห้องเดียวกันอยู่ดี ไม่เคยแยกไปอยู่กันสองต่อสองแบบนี้
พอจู่ๆ ต้องอยู่ในห้องด้วยกันสองคนแบบนี้ เธอเลยอาจจะรู้สึกเกร็งก็ได้
ความผิดผมเองล่ะที่รีบชวนเธอขึ้นห้องโดยไม่ทันคิด…
“ขอโทษนะ… งั้นเดี๋ยวพวกเรานั่งทำอยู่ตรงนี้ก็ได้”
“ม-ไม่เป็นไร! ห้องของไรโตะคุงก็… ก็ได้นะ! อ๊ะ! ไม่ใช่… หมายถึงว่าฉันอยากเข้าไปทำในห้องของไรโตะคุงต่างหาก!”
จู่ๆ เธอก็รีบแก้คำพูดก่อนที่จะพูดจบ แถมยังพูดแทรกขึ้นมาซะเร็วเชียว
ไม่ต้องเดาก็รู้เลยว่าแม่ที่กำลังฟังอยู่คงยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิมแน่นอน…
MANGA DISCUSSION