“ห้องน่ารักจังเลย…”
ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องผม มิซากิก็เอ่ยออกมาแบบนั้น
สีห้องออกโทนชมพูอ่อนและเต็มไปด้วยตุ๊กตาหมี ตุ๊กตาแมว และตุ๊กตาอีกสารพัดตัว
จะว่าไปห้องนี้แทบจะสะท้อนรสนิยมของโคโคอะเต็มร้อยเลยด้วยซ้ำ เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นก็เลือกมาตามใจเจ้าตัวน้อยทั้งนั้น
ตั้งแต่เธอเกิด ผมก็ค่อยๆ ซื้อสะสมจากเงินค่าขนมของตัวเองทีละชิ้นสองชิ้นมาเรื่อยๆ
“ขอโทษด้วยนะที่ห้องมันดูไม่ค่อยแมนเลย”
ผมว่าไว้ก่อน เพราะถ้ามิซากิจะต้องเล่าเรื่องห้องผมให้ใครฟังทีหลัง มันคงเลี่ยงไม่ได้ที่คนอื่นจะเอาไปล้อแน่นอน
…แต่ก็คงไม่น่าเป็นห่วงหรอก ถ้าเป็นซูซุมิเนะซังอย่างน้อยคงไม่ใช่คนที่ชอบล้อเรื่องแบบนั้น
“ไม่หรอก… ฉันว่าห้องนี้น่ารักมากเลยนะ มันเต็มไปด้วยความอ่อนโยนกับความรักที่ไรโตะคุงมีให้น้องสาวนี่นา…”
มิซากิพูดพลางมองไปรอบๆ ห้องด้วยสายตานุ่มนวล แก้มของเธอก็เริ่มแต้มสีแดงระเรื่ออย่างไม่รู้ตัว
ตอนนี้เธอกำลังคิดอะไรอยู่กันนะ?
เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผมพาเพื่อนเข้ามาในห้อง ผมเองก็ไม่มีอะไรมาเปรียบเทียบได้เหมือนกัน แต่ก็คงไม่ยากที่มิซากิจะเดาออกว่าทำไมถึงตกแต่งห้องแบบนี้ ที่ห้องเป็นแบบนี้ก็เพราะโคโคอะที่เป็นคนสำคัญที่สุดของผมนั่นแหละ
“มิซากินี่มองทุกอย่างในแง่ดีเกินไปแล้วล่ะ…”
ปกติผู้หญิงทั่วไปถ้าเห็นห้องแบบนี้อาจจะมองว่าประหลาดด้วยซ้ำ
“ไม่ใช่หรอก ฉันเองก็มีเรื่องที่ไม่ค่อยชอบเหมือนกันนะ”
“แต่กับฉัน เธอก็มองในแง่ดีอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”
“ก็เพราะไรโตะคุงน่ะทำด้วยใจจริงๆ ไงล่ะ…”
พอพูดไปได้แค่นั้น มิซากิก็รีบเบือนหน้าไปอีกทางเหมือนพยายามซ่อนความเขิน
ใบหน้าที่มองเห็นจากมุมข้างๆ แดงขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
“เธออาจจะเข้าใจผิดก็ได้นะ?”
“ฟุฟุ… ฉันว่าไม่ผิดหรอก~”
ไม่รู้ไปเอาความมั่นใจแบบนี้มาจากไหน ทั้งที่ปกติเจอซูซุมิเนะซังทีไร เธอก็กลายเป็นคนซุ่มซ่ามทุกทีแท้ๆ
“เอาเถอะ จะนั่งตรงไหนก็ได้ตามสบายเลยนะ”
ผมว่าพลางค่อยๆ วางโคโคอะลงบนเตียงอย่างเบามือ
โคโคอะยังคงหลับปุ๋ยอย่างสบายเหมือนกำลังฝันดี แค่เห็นเธอนอนหลับอย่างมีความสุขแบบนี้… หัวใจก็รู้สึกอบอุ่นไปหมด
“…………”
“เอ่อ… นั่งตรงไหนก็ได้เลยนะ”
แม้ผมจะบอกให้เธอนั่งไปแล้ว แต่มิซากิก็ยังคงยืนนิ่งมองผมอยู่เหมือนเดิม ผมเลยต้องย้ำอีกครั้ง แต่เธอก็แค่ส่ายหน้าเบาๆ
“รอให้ไรโตะคุงนั่งก่อนน่ะ”
ดูเหมือนเธอจะตั้งใจรอให้ผมนั่งก่อนจริงๆ ไม่รู้ว่าคราวนี้เธอจะคิดอะไรอีกนะ…
ก็เอาเถอะ ยืนเก้อๆ แบบนี้ก็ดูประหลาดดี ผมเลยพิงตัวลงนั่งข้างเตียงอย่างไม่คิดอะไรมาก แล้วทันใดนั้น—
“ฮึบ…”
มิซากิก็มานั่งลงข้างๆ ผม ชนิดที่ว่าห่างกันไม่ถึงคืบ ไม่สิ แบบนี้มันติดกันเลยด้วยซ้ำ
“…ไม่ใกล้ไปหน่อยเหรอ?”
“ก็… อยากให้ดูเหมือนเป็นแฟนกันนี่นา…”
เธอพูดพลางเบือนสายตาไปทางอื่นอย่างเขินๆ แน่นอนว่าผมเข้าใจความหมายของเธอ แฟนกันก็ต้องนั่งใกล้กันแบบนี้น่ะนะ
“แต่ตอนนี้ไม่มีใครเห็นนะ? โคโคอะก็นอนอยู่ด้วย…”
พวกเราไม่ต้องทำตัวเป็นแฟนกันเพื่อหลอกใครในตอนนี้เลยด้วยซ้ำ
“ถ้าไม่ทำให้เคยชินไว้แล้วพอถึงเวลาจริงๆ อาจเผลอลืมได้นะ”
“ถึงขนาดต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ…? แล้วไม่อึดอัดบ้างเหรอ?”
“ถ้าอึดอัดฉันก็คงไม่ทำตั้งแต่แรกแล้วล่ะ…”
พูดจบ มิซากิก็โน้มศีรษะลงมาแตะกับไหล่ของผมเบาๆ แล้วเธอก็เอานิ้วมาเกี่ยวมือตัวเองกับมือของผม… เหมือนกับการจับมือแบบคนรัก… นี่มัน..
ถ้าโดนสาวสวยระดับมิซากิทำแบบนี้ใส่ทุกวัน จะไม่หลงรักก็แปลกแล้วล่ะ
แค่รู้ตัวว่าเธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับผมในแบบนั้น ผมก็เลยยังคงพยายามเก็บอารมณ์ตัวเองไว้ได้ แต่ถ้าเป็นคนอื่นล่ะก็คงโดนทำให้เข้าใจผิดไปแล้วแน่นอน…
“…………”
มิซากิเริ่มขยับมือที่จับอยู่เบาๆ
พอมองไปก็เห็นว่าเธอไม่ได้มองหน้าผมเลย แต่มองต่ำไปที่มือที่กำลังจับกันอยู่แทน
ไม่รู้ว่าเพราะรู้สึกเก้อๆ หรือแค่เล่นเพลินๆ กันแน่ แต่การที่เธอขยับมือไปมาแบบนี้มันให้ความรู้สึกเหมือนกำลังอ้อนยังไงยังงั้น
“ถ้ามีคนเห็นภาพแบบนี้เข้าไปก็คงเชื่อสนิทใจเลยล่ะนะว่าเราเป็นแฟนกันจริงๆ”
“เอ๊ะ?”
“…………”
ผมพูดลอยๆ โดยนึกว่าเธออาจจะกำลังฝึกทำตัวเป็นแฟนอยู่ แต่พอมองหน้าเธอ เธอกลับทำหน้ามึนๆ งงๆ ใส่ ดูท่าจะไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้นแฮะ… สรุปว่าเล่นมือเพลินเฉยๆ จริงๆ ด้วย
“นี่มิซากิ… หรือว่าจริงๆ แล้วเธอเป็นพวกขี้อ้อนเหรอ?”
“ถามตรงๆ แบบนี้ไม่ดีเลยนะ…”
มิซากิหน้าแดงแปร๊ดแล้วก้มหน้าหนีแทบไม่ทัน ดูท่าว่าเธอจะรู้ตัวเองอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
“แต่ถ้ามีพี่ชายอย่างไรโตะคุงล่ะก็น่าจะดีนะ…”
คำพูดที่แผ่วเบาเหมือนพึมพำออกมาแบบนั้นควรจะถือว่าเธอยอมรับแล้วใช่ไหมเนี่ย?
มองดูแล้ว มิซากิเองก็มีบางอย่างที่คล้ายโคโคอะเหมือนกัน
เวลาโคโคอะงอนก็มักทำท่าแบบนี้ หรือเวลาอ้อนก็ชอบมาเล่นกับมือเหมือนกันไม่มีผิด
บางทีพอโคโคอะโตขึ้นอาจจะกลายเป็นผู้หญิงแบบมิซากิก็ได้ ไม่สิ… คงไม่ถึงขั้นนั้นหรอก
โคโคอะคงจะโตมาเป็นเด็กสาวที่สดใส ร่าเริงกว่า อย่างน้อยก็คงไม่ใช่คนที่เก็บงำความรู้สึกและคอยระวังคนรอบตัวแบบนี้แน่
“ถ้าได้ฉันเป็นพี่ชายล่ะก็น่าจะลำบากไม่ใช่เหรอ?”
“ไม่จริงหรอก ดูสิ โคโคอะจังมีความสุขขนาดไหน”
มิซากิพูดพร้อมรอยยิ้มบางๆ แล้วหันไปมองโคโคอะที่ยังคงหลับสนิทบนเตียง
ก็จริงอยู่… โคโคอะน่ะหลับไปพร้อมกับสีหน้าเปี่ยมสุขแบบสุดๆ แต่ความจริงก็เพราะเธอกำลังฝันดีอยู่นั่นแหละ
“ยังไงก็เถอะ ฉันก็อยากให้โคโคอะมีความสุขไปตลอดนั่นแหละ”
“ไรโตะคุงอยู่ด้วยแบบนี้ เธอต้องมีความสุขแน่นอน”
ไม่รู้ว่าความเชื่อมั่นแบบนั้นของเธอมาจากไหนกันนะ…
“ฮึม~ ฮึม~”
ดูเหมือนว่าเธอยังไม่พอใจกับแค่การจับมือเฉยๆ
มิซากิเริ่มขยับมือไปมาเหมือนเด็กเล่นพร้อมฮัมเสียงเบาๆ ด้วยความอารมณ์ดี
เธอเอานิ้วมาเล่นวนไปวนมากับมือผมอย่างสนุกสนาน
มันแอบจั๊กจี้อยู่นิดหน่อยเหมือนกัน แต่ได้เห็นเธอยิ้มแบบนี้แล้วผมก็ยอมปล่อยให้เธอเล่นตามใจต่อไป
MANGA DISCUSSION