“ซู้… ซู้…”
หลังจากอิ่มหนำกับอาหารกลางวันแล้ว โคโคอะก็รอจนพวกเรากินเสร็จแล้วก็มานั่งบนตักผมก่อนจะเริ่มเคลิ้มหลับไป
ถึงตอนกลางคืนเธอจะนอนที่เตียงอย่างดี แต่ตอนกลางวันดูเหมือนว่าตักของผมนี่แหละจะเป็นที่นอนในดวงใจ
…นางฟ้าชัดๆ
“หน้าง่วงๆ ของเธอแบบนี้มันน่ารักเกินไปแล้ว…”
มิซากิก็โดนพิษของความน่ารักเข้าไปเต็มๆ
โคโคอะน่ะมีพลังทำลายล้างในระดับที่น่ากลัวจริงๆ เมื่ออยู่ในโหมดหลับแบบนี้
“ขอจิ้มแก้มได้ไหมนะ?”
“ไม่ได้ เดี๋ยวตื่น”
“………”
ดูเหมือนมิซากิจะอดใจไม่ไหวกับแก้มเด้งๆ นั่น แต่พอโดนปฏิเสธ เธอก็ทำหน้าเศร้าแล้วห่อไหล่อย่างน่าสงสาร
“ตอนตื่นน่ะ เธอก็ยอมให้จิ้มได้อยู่แล้ว จำได้ไหม?”
“อื้ม… งั้นเดี๋ยวรอให้โคโคอะจังตื่นก่อนก็ได้~”
พอผมปลอบไปแบบนั้น มิซากิก็ยิ้มกว้างแล้วนั่งมองหน้าโคโคอะที่กำลังหลับอย่างมีความสุข
ไม่นะ… อย่าบอกนะว่าจะนั่งมองแบบนี้ไปจนโคโคอะตื่นจริงๆ น่ะ แต่ก็เข้าใจได้อยู่หรอก… เพราะการดูหน้าเธอตอนหลับมันไม่เบื่อเลยจริงๆ
“ขอบคุณสำหรับข้าวห่อไข่นะ อร่อยมากเลย”
ผมถือโอกาสนี้พูดขอบคุณและให้ความเห็นไปด้วย
“ฟุฟุ ดีใจจัง โคโคอะจังก็เหมือนจะชอบมากเลยด้วย”
“สำหรับโคโคอะน่ะ การได้กินข้าวห่อไข่นุ่มๆ แบบนั้นนี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยนะ ฉันว่าต่อไปเธออาจจะยอมกินแต่ข้าวห่อไข่แบบนั้นอย่างเดียวก็ได้”
ตอนกินก็เอาแต่พูดว่า ‘อร่อยจัง…!’ ไม่หยุด เห็นได้ชัดเลยว่าถูกใจสุดๆ
“ฟุฟุ คงไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ว่าแต่จะให้ฉันบอกพิกัดร้านข้าวห่อไข่นุ่มๆ แบบนั้นไหมล่ะ? เผื่อจะได้ไปกินกันได้อีก”
มิซากิเสนอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความหวังดี แต่ผมก็มองหลบตาเล็กน้อยก่อนตอบกลับไป
“อ่า… ขอโทษนะ… แต่บ้านเราไม่ค่อยได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านกันเท่าไหร่…”
ทั้งที่เธออุตส่าห์เสนอมาด้วยความหวังดีแท้ๆ แต่ผมก็ไม่อยากทำตัวให้ลำบากใจด้วยการรับปากในสิ่งที่ทำไม่ได้
“งั้นเหรอ… ขอโทษนะ…”
มิซากิไม่ได้ซักถามอะไรต่อ เธอแค่ทำหน้าเศร้าเล็กน้อยแล้วเอ่ยขอโทษอย่างจริงใจ จริงๆ ไม่เห็นจำเป็นต้องขอโทษเลยด้วยซ้ำ
“ไม่เป็นไรหรอก แค่เธอคิดจะบอกสถานที่นั้นให้ฉันก็ดีใจแล้ว ขอบคุณมากนะ”
เพราะไม่อยากให้เธอต้องกังวล ผมจึงรีบขอบคุณออกไป
“อะ… เอ่อ…”
แล้วไม่รู้เธอคิดอะไรขึ้นมา มิซากิก็ทำท่าลุกลี้ลุกลนเหมือนมีอะไรอยากจะพูดอีก
“ถ้าอยากได้ล่ะก็… ฉันสอนวิธีทำข้าวห่อไข่แบบนั้นได้นะ…?”
ดูเหมือนเธอจะตั้งใจเสนอทางเลือกใหม่ให้ จะได้ทำให้โคโคอะกินได้อีกครั้ง หากวันไหนเจ้าตัวน้อยเกิดอยากกินขึ้นมา
“ให้เธอสอนสูตรที่เธอตั้งใจฝึกมาเพื่อทำให้โคโคอะดีใจแบบนี้มันก็รู้สึกเกรงใจอยู่นะ”
ผมเอ่ยพลางรู้สึกกระอักกระอ่วนอยู่เล็กน้อย
“จริงจังจังเลยนะ”
มิซากิที่มองหน้าผมอยู่ถึงกับยิ้มแห้งๆ เหมือนทำอะไรไม่ถูก
คำพูดนั้นทำให้ผมรู้สึกนึกอะไรขึ้นมาได้
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามิซากิจะเป็นคนพูดคำคำนั้นกับฉันได้นะเนี่ย”
“ฉันเป็นคนแบบไหนในสายตาของนายกันแน่เนี่ย?”
“ก็เป็นคนที่จริงจังไง”
จริงจังจนอยากเติมคำว่า ‘โคตร’ ข้างหน้าเลยด้วยซ้ำ
แน่นอนว่าผมไม่ได้พูดออกไปหรอก ไม่งั้นเธอคงงอนผมแน่ๆ
“จริงจังมันก็ดีไม่ใช่เหรอ…?”
มิซากิพูดพลางเบือนสายตาหนี อีกทั้งยังพองแก้มเล็กๆ เหมือนคนกำลังงอน
ดูจากท่าทางแล้วเธอก็คงรู้ตัวเหมือนกันแหละ
“ฉันก็ไม่ได้บอกว่ามันไม่ดีหรอกนะ แต่พอเธอพูดแบบนั้นออกมา ก็แปลว่าเธอเองก็คิดว่าตัวเองจริงจังเกินไปเหมือนกันใช่ไหมล่ะ?”
“พูดแกล้งกันแบบนี้มันไม่ดีเลยนะ”
ดูเหมือนเธอจะรู้ตัวทันทีว่าผมกำลังแกล้งเธอ
ก็แน่ล่ะ… เพราะเธอกำลังทำหน้างอนใส่ผมอย่างเห็นได้ชัดขนาดนี้
จริงๆ แล้ว ผมไม่ได้เกลียดการได้แหย่กับมิซากิแบบนี้หรอกนะ ถึงเธออาจจะไม่ค่อยสนุกด้วยเท่าไหร่ก็เถอะ…
“ยังไงก็เถอะ การจริงจังมันเป็นเรื่องดีอยู่แล้วล่ะ แต่การจริงจังจนเกินไปนั่นแหละที่บางทีมันก็…”
“นี่หมายความว่าฉันจริงจังเกินไปงั้นเหรอ…?”
“คิดไปเองแล้วล่ะ”
พูดจริงๆ นะ ถ้าจะให้พูดตามตรง ผมเองก็คิดว่าเธอจริงจังเกินไปจริงๆ แต่ครั้งนี้น่ะไม่ได้ตั้งใจจะเหน็บแนมเธอเลยสักนิด
“ไรโตะคุงเองก็ใจดีอยู่หรอก… แต่ก็มีนิสัยเสียที่ชอบแกล้งคนอื่นอยู่เหมือนกันสินะ…”
มิซากิจ้องผมเขม็งด้วยสายตางอนๆ แล้วก็บึนปากใส่ผมด้วยท่าทางงอนตุ๊บป่อง
วันนี้ดูเหมือนเธอจะเก็บมาคิดมากกว่าปกติด้วยสิ ทั้งๆ ที่จริงผมก็ไม่ได้พูดว่ามิซากิเป็นคนจริงจังเกินไปสักหน่อย…
“มิซากิน่ะ สมบูรณ์แบบจนไม่มีที่ติเลยนะ”
ผมตัดสินใจเอาใจเธอไว้ก่อน เพราะถ้าโคโคอะตื่นมาแล้วเจอมิซากิทำหน้าบึ้งใส่ ผมอาจโดนเจ้าตัวน้อยมองเป็นฝ่ายผิดได้ง่ายๆ
แต่แล้ว—.
“ก–การพูดชมเกินจริงแบบนั้นก็ไม่ดีเหมือนกันนะ…!”
ไม่รู้ทำไมกลับโดนเธอดุซะงั้น
พอมองดีๆ ก็เห็นได้ชัดว่าหน้าของมิซากิแดงขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันไม่ได้พูดเกินจริงนะ…”
“พูดแบบนั้นโดยไม่รู้ตัวน่ะก็ไม่ดีเหมือนกัน!”
พออธิบายไปว่าผมพูดออกมาตามตรง เธอกลับยิ่งโกรธกว่าเดิมอีก
สำหรับผมแล้ว มิซากิน่ะเป็นคนที่อ่อนโยน จริงจัง แล้วก็เรียนเก่ง เป็นคนที่ดีมากจริงๆ แต่ผู้หญิงนี่อาจจะเข้าใจยากจริงๆ แฮะ
MANGA DISCUSSION