“ฉ…ฉัน…ไม่อยากตื่นแล้ว..ว…”
เช้าวันถัดมาหลังจากซื้อตัวพวกทาสบาดเจ็บมาทั้งกอง ฉันก็ตื่นขึ้นมาด้วยอารมณ์หมดแรงสิ้นดี
ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ ว่าทาสที่ฉันซื้อมามั่ว ๆ ดันกลายเป็นเศษซากของรัฐบาลเก่า… แถมยังมีเจ้าชายปะปนอยู่ด้วยเนี่ย!
ที่หนักกว่านั้นคือ ฉันเผลอพูดอะไรไปเล่น ๆ พวกเขาก็ฮึกเหิมขึ้นมาจะ “ก่อปฏิวัติ” ขึ้นมาเฉยเลย!? บ้าไปแล้ว?
…เดี๋ยวนะ ไม่สิ เรื่องแบบนี้มันไม่น่าเกิดขึ้นจริงได้หรอก
“ชะ ใช่สิ! มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริงได้หรอก! เมื่อวานน่ะ…ต้องเป็นฝันแน่ ๆ!”
ใช่ ๆๆๆ ทุกอย่างก่อนหน้านี้น่ะ… ฝันทั้งนั้นแหละ!
“ข้ามาปลุกแล้ว คุณหนูเรย์เต้”
ไม่ใช่ฝันสินะ
เสียงผู้ชายดังขึ้นกลางห้องแบบไม่ให้ตั้งตัว
ฉันหันไปทางประตู และ…
“วะ…ไวซ์คุง”
“ใช่ ข้าเอง”
คนที่ยืนอยู่ตรงนั้นไม่ใช่ใครอื่น นอกจาก องค์ชายไวซ์ ตัวเป็น ๆ และเป็นต้นเหตุของฝันร้ายเมื่อวาน!
“อ๊าาา… แสดงว่าเมื่อวานไม่ใช่ความฝันจริง ๆ ด้วย…”
“ยังงัวเงียอยู่รึเปล่า คุณหนูเรย์เต้? ฝันถึงอะไรล่ะ?”
“ฝันว่าตัวเองโดนล้อมรอบด้วยระเบิดน่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็วางใจเถอะ ข้าจะปกป้องจากระเบิดพวกนั้นเอง”
อย่าพูดอะไรเท่ ๆ แบบนั้นเซ่! ระเบิดก็คือเอ็งนั่นแหละ ไอ้ชาย!!
“ยังไงก็ลุกเถอะ วันนี้เช้าอากาศดี มีเสียงนกร้องด้วย”
ไวซ์เดินเข้ามาโดยไม่รู้สึกถึงความว้าวุ่นในใจของฉันเลยแม้แต่น้อย
อ้อ ลืมบอกไป ตอนนี้เขาแต่งตัวเป็นชุดทหารดูน่าเกรงขาม เหมือนพวกบอดี้การ์ดส่วนตัวเลยล่ะ
“อ้อ จริงด้วย… เมื่อวานฉันส่งเหล่าอัศวินไปช่วยกองกำลังในเขตแดน แล้วให้นายมาเป็นบอดี้การ์ดกับคนรับใช้ส่วนตัวของฉัน”
จำเหตุการณ์เมื่อวานได้ชัดเจนเลย…
พวกอัศวินกับไวซ์คลั่งหนักมาก พากันตะโกน “ทวงคืนอาณาจักร!”
แถมพวกคนใช้ฉันยังไปโหวกเหวกตะโกนลั่น “เมื่อปฏิวัติสำเร็จ ท่านเรย์เตต้องได้เป็นจักรพรรดินี !!”
ไม่ ไม่เด็ดขาด! ฉันแค่อยากกลั่นแกล้งชาวบ้านสนุก ๆ ไม่ได้อยากไปยุ่งกับการเมืองการปกครองของชาติซักหน่อย!!
ฉันเลยรีบหาทางลดความเดือดทันที ด้วยการพูดว่า—
“บุกตะลุยเลยตอนนี้มันบ้าระห่ำเกินไปนะ เราควรใช้ชีวิตปกติไปก่อน แล้ว ค่อย ๆ สะสมกำลังดีกว่า”
พวกงี่เง่าก็ดันไปชมอีกว่า “สมกับเป็นท่านเรย์เต้! ตัดสินใจได้เยี่ยมยอด!”
เปล่าหรอก พวกนายต่างหากที่เพี้ยนกันไปเอง!
“เอาเถอะ ยังไงก็ฝากตัวด้วยแล้วกันนะ ไวซ์คุง”
“รับทราบ ในฐานะบอดี้การ์ด ข้าสามารถเชือดคอเจ้าตอนนอนได้อย่างง่ายดาย แต่การที่เจ้ามอบตำแหน่งนี้ให้ แสดงว่าเชื่อในตัวข้าสินะ”
ไม่ใช่โว้ย!! อย่ายิ้มแบบเปล่งประกายตอนพูดอะไรน่ากลัวขนาดนั้นสิ!!
แกมันอาวุธมีชีวิตเลยนะ! ถ้าเมืองหลวงรู้ตัวเข้า พวกเขาจะบุกมาทันทีแน่!
เพราะงั้นฉันก็เลยต้องคุมไว้ใกล้ ๆ ยังไงล่ะ!
“ต้องอยู่ข้าง ๆ ฉันตลอดเข้าใจไหม!?”
“…เขินนะเนี่ย”
เดวแม่ตบกลิ้ง
“เฮ้อ…เอาเถอะ ตอนออกไปข้างนอก ใส่นี่ไว้ด้วยล่ะ”
ฉันหยิบผ้าพันแผลออกมาจากลิ้นชักข้างเตียง
ก็มันเรื่องปกติของนางร้ายล่ะนะ ที่จะเตรียมอุปกรณ์ปถมพยาบาลไว้ข้างเตียง เผื่อมีคนใช้บ้าจี้มาลอบโจมตีตอนหลับ
แต่เอาเข้าจริงจนถึงตอนนี้ เคยได้ใช้แค่ครั้งเดียวเอง
ตอนสาวใช้ฝึกหัดสะดุดล้มแล้วหัวเข่าถลอกนั่นแหละ
ปล่อยให้มีเลือดหยดเลอะเทอะบ้านตอนทำงานมันรับไม่ได้หรอกนะ
“พันไว้แค่ครึ่งหน้า โดยเฉพาะรอบดวงตาก็พอ แค่นั้นต่อให้มีใครจากเมืองหลวงมาเห็นหน้าก็จำไม่ได้หรอก”
“หืม แต่ถ้าพันรอบตา ข้าก็จะมองไม่เห็นสิ”
“ก็อย่าพันตรงลูกตาสิยะ”
“หืม?”
“ก็หมายถึงพันให้รอบหัว แต่เว้นช่องตาไว้ให้มองได้ไง…”
“หืมมมมม?”
เสียง “หืมมมมม” แบบนั้นคืออะไร!?
“…โอ๊ย ยอมก็ได้ เดี๋ยวฉันพันให้เอง นายไปนั่งที่เตียงเลย”
“ขอบคุณมาก”
ไวซ์นั่งลงบนเตียงอย่างสุภาพ
ว้าย เตียงดังเอี๊ยดเลยแฮะ
แรงกระแทกจนก้นฉันแทบกระเด้งตามแรงยุบของเตียงเลย
น้ำหนักต่างกันแค่ไหนเนี่ย…?
“เตียงของคุณหนูเรย์เตนุ่มดีจังเลย…สบายมากๆ”
“แน่นอนสิ มันของแพงนี่นา ว่าแต่เจ้าชายอย่างนายก็น่าจะคุ้นเคยกับเตียงหรูอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“ข้ามักจะฝึกหนักจนหลับคาสนามฝึกบ่อยๆ หลังจากซ้อมกับกองทหารไปสี่ชั่วโมง ข้าก็จะซ้อมคนเดียวต่ออีกสิบหกชั่วโมง แล้วก็สลบตรงนั้นเลย สบายดีออก”
“แบบนั้นมันไม่ปกติแล้ว เจ้าชายแบบไหนซ้อมดุขนาดนั้นฟะ!?”
ทั้งที่ทำหน้าขรึมตลอด แต่หมอนี่ก็มีมุมเพี้ยนเหมือนกันนะเนี่ย…
“องค์ชายสายฝึกโหมจนหมดสติ… แบบนี้มันอะไรกัน?”
“ข้ากำลังเปิดรับสมาชิกอยู่ ทหารคนอื่นก็พยายามร่วมฝึก แต่ก็อ้วกแตกเกือบตายกันหมด”
ก็แน่นอนสิยะ
…ว่าแต่ฉันก็เริ่มอยากเห็นฝีมือดาบของหมอนี่ขึ้นมาซะแล้วสิ ถ้าฝึกหนักขนาดนั้นจริง ก็น่าจะเก่งเอาเรื่องแหละ
“โอเค อยู่นิ่ง ๆ นะ”
ฉันยืนตรงหน้าหมอนี่ แล้วเริ่มพันผ้าตั้งแต่หน้าผากลงมา
“หมุนๆ พัน ไปเรื่อยๆๆ……อืม เอาปิดตาข้างนึงไว้ก่อนก็แล้วกัน เผื่อไว้ใช้แค่ชั้นเดียวคงพอมองทะลุได้ ไม่ลำบากหรอก”
“อ้อ จริงสิ ตาข้างที่เป็นสีทองของข้าน่ะเด่นเกินไป ควรซ่อนไว้จนกว่าจะถึงวันปฏิวัติดีกว่า”
ฉันภาวนาให้วันนั้นไม่มีวันมาถึงเลย…
แล้วก็หยุดพูดสักที! ลมหายใจนายมันมาถึงต้นคอ ฉันจั๊กจี้นะ!
“ผูกตรงนี้แน่น ๆ… เสร็จแล้ว แบบนี้คงไม่มีใครจำหน้าได้หรอก”
“ขอบคุณ ข้าฝากเจ้าทำทุกเช้าเลยละกัน”
“ไม่เฟ้ย! ทำเองสิ!”
เฮ้อ… หมอนี่มันเจ้าชายจริง ๆ นั่นแหละ ทั้งเคยตัวเรื่องมีคนดูแล แถมยังมีออร่า “หลุดโลก” อยู่นิด ๆ ด้วย
“ให้ตายเถอะ นายไม่ใช่เด็กแล้วนะ ช่วยทำตัวให้สมกับวัยหน่อยเถอะ”
“เจ้าพูดถูก เมื่อเทียบกับคุณหนูเรย์เตแล้ว ข้ายังห่างชั้นนัก ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่จริง ๆ”
“ว้าย แหม ปากหวานจังเลยนะคะ~!”
หึ พูดอะไรเข้าหูแบบนี้ ฉันล่ะปลื้มเลย
ใช่แล้ว! ฉันนี่แหละ เลดี้ผู้สง่างามเต็มขั้น!
เข้าใจอะไรดีเหมือนกันนี่นะ ไวซ์คุง~
“อุฟุฟุ~ ถ้าโกหกละก็ ไม่ให้อภัยแน่!!”
“ข้าพูดจริงนะเจ้าช่างน่าอัศจรรย์มาก สำหรับเด็กอายุสิบขวบน่ะนะ”
ฉันอายุสิบหกแล้วเฟ้ยยยยยยยยยยยย!!!!
——————————————————————–
ไวซ์: หนุ่มหล่อหน้าตายที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าชายน้ำแข็ง” แต่ข้างในคือบ้าซ้อมระดับสายโหด เคยเข้าใจว่าเรย์เตอายุแค่สิบขวบ
เรย์เต: ↑ ไอ้หมอนี่มันเสียมารยาทสุด ๆ!!!
MANGA DISCUSSION