“ตายซะ บูลริก ออร์ไบรท์!!”
“ข้าจะสาปแกไปจนตายเลยโว้ย!!”
“กล้าดียังไงถึงมารุกรานแคว้นฮันกาเรีย!!”
เสียงโกรธแค้นและตะโกนลั่นไปทั่วคฤหาสน์
ขณะที่ชาวเมืองกว่าหนึ่งแสนคนล้อมอาคารไว้ทุกทิศ ฉันจึงเอ่ยกับบลูริค
“เคเนริคเขาเล่าให้ฉันฟังหมดแล้ว ว่าแกเอาแม่เขามาขู่บังคับใช่ไหมล่ะ”
“อั้ก…!”
ฉันนั่งอยู่บนโซฟารับแขก ส่วนบลูริคน่ะ… นั่งกับพื้น
“ข-ข้า…ไม่สิ…คุณหนูเรย์เต้ ฮังกาเรีย…ตระกูลออร์ไบรท์ของข้ากับท่านก็เป็นญาติกันมาตั้งนาน! ข้ายังแก่กว่าท่านอีกนะ! ทำไมถึงปฏิบัติกับข้าแบบนี้!?”
“ใช่เลย นึกไม่ถึงจริงๆ ว่าญาติผู้ใหญ่จะต่ำตมถึงขั้นส่งคนมาขโมยเทคโนโลยีจากแคว้นของฉัน”
“อึก!?”
น่าประทับใจดีนะ—เลวได้โล่เลยล่ะ เหมาะจะใช้ข่มเหงชาวเมืองที่ไม่มีทางสู้จริงๆ นั่นล่ะ น่าสนใจดีนะ ขอบคุณสำหรับบทเรียน
แต่ก็เถอะ…
“แกกล้าล้ำเส้นฉันนะ รู้ไหม?”
“น-นั่นมัน…”
“เริ่มจากขอโทษมาก่อนเลย”
ฉันกระแทกส้นเท้าลงไปยังมือข้างเดิมที่เพิ่งเหยียบจนหักไปก่อนหน้านี้
“อ๊ากกก!!?”
“ถ้าเศรษฐกิจของแคว้นฉันพัง ใครจะรับผิดชอบ? ถ้าชาวเมืองฉันต้องลำบากลำบนล่ะ? ตอนนี้เรายังต้องรับมือกับพวกสัตว์ประหลาดจาก ‘ป่ามรณะ’ อยู่เลยนะ ที่ยังเอาตัวรอดได้ก็เพราะมีอาวุธกับเวชภัณฑ์ครบมือ ถ้าของพวกนั้นหายไปล่ะ แกคิดจะรับผิดชอบยังไง?”
ชาวเมืองจะตายบ้างก็ช่างเถอะ ฉันไม่แคร์หรอก
แต่ถ้ามันมาทำลายชีวิตหรูหราของฉันล่ะ… แกจะรับผิดชอบยังไง?
“ถ้าแกแค่เอาผลิตภัณฑ์ของเรามานั่งแงะแล้วลอก ก็ยังพอถือว่าเป็นความพยายามของตัวเอง ฉันจะยอมรับมันแบบข่มใจ แต่…”
ฉันดีดนิ้วเบาๆ จากนั้น แอชลีย์พ่อบ้านผู้นอบน้อมก็นำหญิงที่ดูอิดโรยเข้ามา ข้างเธอคือเคเนริค ที่ประคองดูแลอย่างอ่อนโยน
ผู้หญิงคนนั้นคือแม่ของเคเนริค และก็เป็นภรรยาของไอ้หมอนี่ตรงหน้า
“ขู่คนในครอบครัวตัวเองให้ลอบเข้ามาขโมยเนี่ยนะ… แกนี่มันต่ำสุดๆ ไปเลยว่ะ”
“อึกกก…!”
ฉันไม่ได้ตำหนิความโหดของแกหรอก ก็ฉันเองก็ร้ายเหมือนกันนั่นแหละ
ประเด็นมันอยู่ที่เป้าหมายต่างหาก ถ้าจะแสดงความโหดก็ไปลงกับพวกลูกบ้านในเขตตัวเองสิ
“ญาติที่แอบแทงข้างหลังเนี่ย แย่กว่านักฆ่าอีก ทุกวันนี้มือสังหารยังกล้าบุกมาแบบซึ่งหน้าเลย”
“…ขออภัยอย่างสุดซึ้งเลยขอรับ…”
ฉันหัวเราะเบาๆ เมื่อเซ็ตจังหน้าแดงพลางขอโทษ ก็สนุกใช้ได้อยู่นะวันนั้นน่ะ
“อึก… งั้นคิดจะทำอะไรกับข้ากันแน่!? ข้าขอบอกไว้นะว่าการเอาชีวิตกันระหว่างขุนนางมันผิดกฎนะ!”
“…เหอะ”
ไม่อายเลยสักนิดนะคนแบบนี้… จิตใจด้านขนาดนี้ก็ต้องยอมรับแหละว่าแกมันสุดจริง
“ใช่เลย กฎหมายระบุไว้ว่า ‘ขุนนางทุกคนต้องทำหน้าที่เป็นดาบและโล่ของพระราชาและแผ่นดิน ห้ามรุกรานกันเองโดยเด็ดขาดตลอดกาล’”
“ชะ ใช่ไหมล่ะ!?”
“แต่แกคงรู้ใช่ไหมว่า ‘รุกราน’ ที่ว่าน่ะ มันรวมถึงการขโมยทรัพย์สินทางปัญญาด้วย?”
“หา!?”
พูดง่ายๆ ก็คือ แกเป็นฝ่ายเริ่มก่อนนั่นแหละ
“แกชกฉันก่อน ฉันก็แค่ตอบโต้กลับ—ถ้าฉันเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ราชสำนักฟังล่ะก็… แกคิดดูสิว่าใครจะงานเข้า?”
“มะ-ไม่-แบบ-แบบนั้นมัน…!!”
สีหน้าของบลูริกซีดเผือดยิ่งกว่าเดิม
ไม้ตายที่เตรียมไว้ใช้หนีคือ “อ้างกฎหมาย” แต่ตอนนี้ก็โดนฉีกทิ้งแบบไม่เหลือชิ้นดี
“อื้ม แค่ได้เห็นหน้าแกตอนนี้ก็คุ้มแล้วล่ะ งั้น…มาเข้าเรื่อง ‘ค่าชดเชย’ กันเลยดีมั้ย?”
“อึก!?”
โอ้โห หน้าซีดยิ่งกว่าเดิมอีกนะเนี่ย ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ ฉันใจดีจะตาย
“เรื่องคราวนี้—ลืมๆ มันไปซะดีมั้ยล่ะ!”
“…………ห๊า!?”
อย่ามา “ห๊า” ใส่ฉันนะ ฉันยังคงยิ้มแล้วพูดต่ออย่างสบายอารมณ์
“บูลริก ฉันเสียใจนะที่โดนแกหักหลัง แต่ที่ยกพวกมาบุกทั้งกองแบบนี้ มันก็ดูใจร้อนไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยนะ กลัวแย่เลยล่ะสิ?”
“ปะ เปล่า ฉันก็…”
“เพราะงั้น—เราถือว่าไม่เคยเกิดอะไรขึ้นเลยก็แล้วกัน แค่ ‘เข้าใจผิดกันนิดหน่อย’ เท่านั้นเอง ถือว่าจบเรื่องแล้วนะ”
ฉันพูดตัดบทฝ่ายเดียวเลยล่ะ เพราะไม่มีอะไรที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
“งั้นฉันกลับล่ะนะ… อ้อ แล้วเคเนลริคกับคุณแม่เขาจะไป ‘ศึกษาดูงาน’ ที่ดินแดนของฉันสักพักนึงละกัน? แกเองก็คงไม่อยากเจอหน้าพวกเขาไปอีกพักใช่ไหมล่ะ”
“อะ อ้า ใช่แล้ว ถูกต้องเลย คราวนี้มันก็แค่ความเข้าใจผิดจริง ๆ นั่นแหละ… เฮ้อ ถ้าเคเนลริคไม่เผลอปากพูดไปก็คงไม่วุ่นวายแบบนี้…”
บลูริกเหลือบตามองลูกชายอย่างดุดันเพียงแวบเดียว ทำเอาเคเนลริคสะดุ้งด้วยความหวาดกลัว
“ชิ… อ-อะ ขอโทษทีนะ เรย์เทะคุง!”
บลูริกรีบเปลี่ยนสีหน้าแล้วหัวเราะแห้ง ๆ อย่างประจบประแจง
“อา เรย์เทะคุงก็ยังเหมือนเดิมเลยนะ เหมือนตุ๊กตาตัวน้อยที่น่ารักเรียบร้อย ฉันนึกว่าเธอเปลี่ยนไปหมดแล้วซะอีก ที่แท้ก็ยังใจดีเหมือนเดิมเลยนะ ฮะ ฮะ ฮะ…”
“ขอบใจสำหรับคำชม งั้น—ทุกคน! กลับกันได้แล้ว”
ฉันไม่รอช้า รีบสั่งถอนกำลัง เคเนลริคยังยืนอึ้งอยู่ แต่พอฉันดึงแขนเสื้อเขาเบา ๆ เขาก็รีบขอโทษแล้วรีบขยับตัวตามมาอย่างตื่นตระหนก
…ไม่เหมือนเขาเลยนะ ดูยังกับลูกกระต่ายตัวสั่น
“เอ้า—พวกแกด้วย กลับบ้านได้แล้ว”
““ว๊ากกกกก—เรย์เต้ซาม๊าาาาาาา!!!””
“เสียงดังอะไรนักหนา!”
พอออกจากคฤหาสน์ ฉันก็หันไปตะโกนบอกพวกลูกบ้าน
ไม่ต้องมาโห่ร้องทุกครั้งที่ฉันพูดก็ได้ มันรบกวนชาวบ้านเขานะยะ
“ฉันมีคติว่า ‘ต้องใจดีกับประชาชนเขตอื่น’ นะ เพราะตามกฎหมายมันห้ามรังแกกันนี่นา~ เพราะงั้นคราวนี้อาจจะวุ่นวายนิดหน่อย ขอโทษด้วยนะจ๊ะ เคเนลริค”
“เอ๊ะ อะ เอ่อ ไม่ ๆ ๆ…! คราวนี้มันผมต่างหากที่ทำให้เรย์เต้เดือดร้อน…”
เคเนลริคก้มหัวขอโทษอย่างลึกซึ้ง ไม่เหมือนตัวเขาเลยจริง ๆ
จากนั้นเขาก็พูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “ขอบคุณมาก…”
“ตอนที่เธอบอกว่าจะ ‘บดขยี้พ่อฉัน’ น่ะ ฉันก็แอบสงสัยอยู่ว่าเธอจะทำอะไร… ถึงจะมีลงไม้ลงมือบ้าง แต่แค่นั้นแล้วจบเนี่ยนะ…”
“คิดว่าฉันจะทำอะไรเหรอ?”
“ก็แบบ…ประหาร หรือไม่ก็เรียกค่าเสียหายก้อนโตอะไรประมาณนั้น…”
“บ้าเหรอ~ อันแรกผิดกฎหมาย ส่วนอันหลังก็มีแต่จะทำให้ชาวเมืองออร์ไบรท์ลำบากกันหมด”
เฮ้อ~ ฉันมันวายร้ายสายเนียน ต้องรู้จักเข้ากับกฎหมาย แล้วก็ใจดีกับชาวบ้านเขตอื่นสิจ๊ะ
“อาา~ วันนี้ฉันก็รู้สึกผิดจริง ๆ นะเนี่ย บลูริกน่ะช่างมันเถอะ แต่ชาวเมืองออร์ไบรท์คงลำบากกันน่าดูเลยใช่ม้า~?”
““จริงด้วยย~! ควรจะขอโทษเลยล่ะค่าาาาา~!””
เห็นมั้ย~ ชาวบ้านเขาก็เห็นด้วย… อ๊ะ? เคเนลริคเป็นอะไรน่ะ? ทำท่าโบกไม้โบกมือ “ไม่ ๆ ไม่ต้องแบบนั้นหรอก!”
“ท-ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ล่ะเรย์เต้!? แล้วพวกชาวบ้านก็ดูแปลกๆไปด้วย! ฉันยอมรับว่าทำให้ทุกคนกลัว แต่มันก็เพราะพ่อฉันขู่ไว้… ทุกอย่างเป็นความผิดฉันเอง… เพราะงั้นเธอไม่จำเป็นต้อง—”
“ไม่ได้หรอก เคเนลริค”
ฉันวางมือลงบนบ่าเขา
ในฐานะคนที่สืบทอดตำแหน่งมาก่อน ฉันต้องสั่งสอนวิถีแห่งขุนนางให้เขาหน่อยแล้ว
“ขุนนางน่ะ เป็นคนที่มีทั้งอำนาจและทรัพย์สิน นั่นแหละคือเหตุผลที่ต้องรับผิดชอบให้มากกว่าคนอื่น ถ้าทำผิด ก็ต้องขอโทษอย่างจริงใจและชดใช้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเหตุผลมันจะเริ่มต้นยังไงก็ตาม”
“เพราะงั้นไงล่ะ” ฉันยิ้ม แล้วพูดต่อกับเพื่อนสมัยเด็ก
“จากนี้ไป ใครในออร์ไบรท์ที่อยากย้ายถิ่นฐาน ฉันจะให้ย้ายได้ฟรีหมดทุกขั้นตอนเลย”
ยัง ยังไม่หมดแค่นั้นนะ
“ฉันจะให้เงินเตรียมตัว ให้เงินช่วยเหลือด้วย”
“จะมีที่ดินให้ บ้านก็ให้ อาชีพก็จัดให้ แล้วก็รับประกันเลยว่ารายได้จะมากกว่าตอนอยู่ที่เดิมแน่นอน!”
“เดี๋ยว อะไรกันเรย์เต้! แบบนี้มัน—!?”
ฉันกวาดสายตามองไปรอบๆ
เลยกลุ่มฝูงชนที่แห่กันมา ด้านหลังรั้วของคฤหาสน์ผู้ปกครอง ฉันจงใจหันไปทางชาวออร์ไบรท์ที่กำลังกลั้นหายใจเฝ้าดูสถานการณ์ แล้วตะโกนขึ้นว่า—
“ได้ยินกันรึเปล่าคะ ชาวออร์ไบรท์ทุกท่านน!? เพื่อเป็นการขอโทษ—ย้ำนะคะ ว่า เป็นการขอโทษเฉพาะครั้งนี้เท่านั้น! ถ้าพวกคุณอยากเป็นชาวเมืองของฉันล่ะก็ ฉันจะสัญญาเลยว่า—จะให้ความสุขมากกว่าที่เคยมีในแผ่นดินนี้ทุกอย่างเลยค่าา!”
““อ—โอ๊ววววววววววว!?””
เรียบร้อย~ โปรโมชันเสร็จสิ้นค่ะ
ที่เหลือก็ปล่อยให้กระแสมันทำงานเองแหละ ทั้งคนทั้งแกะน่ะ ถ้าเห็นว่าที่ไหนอุดมสมบูรณ์ เดี๋ยวก็แห่กันมาเอง
MANGA DISCUSSION