“ชะ-ชะ-ช้าก่อนเถิดเจ้าหญิงเรย์เต้!”
“อะไรเหรอ เซ็ตจัง?”
“เซ็ตจัง…!? เอาเถอะ ไม่พูดเรื่องชื่อนั่นแล้วกัน แต่…ท่านจะจ่ายข้าหมื่นล้านโกลด์เรอะ!?”
อ้อ เรื่องนั้นเหรอ?
“ก็ตรงตามที่พูดนั่นแหละ—ถ้าแกไม่จ่ายหมื่นล้าน ครอบครัวก็จะถูกฆ่าหมดใช่มั้ยล่ะ? งั้นเรย์เต้ซามะจะออกให้เอง”
“ง่ายเหมือนซื้อขนมเลยเหรอ!?”
หึหึ ถ้าเป็นเมื่อก่อนล่ะก็ ขาดทุนหนักแน่
แต่นั่นมันเมื่อก่อน! หลังงาน ‘มหกรรมคอสเพลย์’ ธุรกิจการ์ดเกมของฉันดังเปรี้ยงจากนักท่องเที่ยว แล้วไหนจะสินค้าที่ใช้คริสตัลเวทมนตร์กับของกลั่นจากน้ำมันที่เพิ่งพัฒนาอีกเพียบ!
ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้เรย์เต้ซามะก็กลายเป็นเจ้าแม่ดูดเงินตัวจริง! เงินกับคนหลั่งไหลมาจากทั่วแถบตะวันตกของแคว้นฮังกาเรียเลยล่ะ! พลังสุดชั่ววว~!
“――ก็เป็นแบบนี้แหละ เข้าใจยังจ๊ะ หนุ่มซามูไร?”
“ขะ…ข้านับถือเลยจริงๆ…แต่ถึงจะพูดว่าเป็นตัวร้าย ข้าก็เห็นแค่คนที่ทำมาค้าขึ้นเก่งๆ เท่านั้นเองนะ…”
ต้องเข้าใจตรงนั้นสิยะ!
“แต่ถึงจะรวยแค่ไหน หมื่นล้านมันก็ไม่ใช่เงินที่จ่ายกันเล่นๆ โดยเฉพาะเพื่อช่วยคนที่เคยบุกทำร้ายเจ้าอย่างข้า…”
“อย่าคิดไปไกลนักจะได้มั้ย?”
ฉันดีดนิ้วเป๊าะเบาๆ—จากนั้นแอชลีย์ พ่อบ้านของฉันก็โผล่ลงมาจากเพดานในพริบตา
“ขออภัยที่ให้รอนะครับ คุณหนู”
“ห๊า!? เจ้าเป็นพ่อบ้านที่ข้าทำให้สลบไปไม่ใช่รึ!? โผล่มาที่นี่ได้ยังไง!?”
“หึ! หากยังไม่ตาย พ่อบ้านของคุณหนูไม่มีคำว่า ‘ลุกไม่ไหว’ หรอก! แล้วอย่าแทรกกลางบทสนทนาระหว่างเราสอง! นี่มันช่วงฮันนีมูนของเรานะ!”
“หมอนี่เป็นบ้าอะไรฟะ…โคตรสยองเลย…”
ดีใจที่นายเข้าใจความน่าขนลุกของเขาสักที
“แอชลีย์ ได้ยินที่คุยกันใช่มั้ย?”
“ครับผม ผมเรียกตัวเขามาไว้แล้วครับ”
เขาปรบมือเบาๆ สองครั้ง แล้วประตูห้องก็เปิดออก—ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมจานแกงกะหรี่ในมือและรอยยิ้มเหนื่อยใจ
เซ็ตจังถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นเครื่องแต่งกายของเขา
“มะ…ไม่จริงน่า! ชุดนั่นมัน… ท่านก็เป็นชาววะโนะเหมือนข้างั้นรึ!?”
“โย่ว สวัสดีท่านซามูไร ข้าน้อยชื่อทาโกซาคุ เป็นพ่อค้าเร่”
ทาโกซาคุก็พูดไปพลาง กินแกงกะหรี่อย่างกระอักกระอ่วนไปด้วย
ไอ้แอชลีย์นี่ก็พาตัวเขามาตอนกินข้าวอยู่เนี่ยนะ…
“หมอนี่คือลูกค้าประจำจากประเทศวะโกคุ ฉันตั้งช่องทางติดต่อไว้ แล้วก็ใช้เขานำเข้าสารพัดของเลยล่ะ”
อย่างวาซาบิ โชยุ ข้าวสาร อะไรพวกนั้น
แล้วไอ้นี่แหละที่หิ้วชุดมิโกะ ชุดว่ายน้ำ รร. แล้วก็ชุดชั้นในลายแมวที่แอชลีย์จะเอามาให้ฉันใส่ในงานแฟนซี
ประเทศนั่นนะ ปากก็บอกเคร่งวินัย แต่บางวัฒนธรรมนี่กลิ่นหื่นลอยมาแต่ไกลเลยอ่ะ…
“ฉันก็เลยต่อรองกับเขาหลายอย่าง ทั้งวิธีเพาะพันธุ์ปลา วิธีจัดสวนไร่นาให้มีประสิทธิภาพ เทคนิคย้อมผ้าสีสด หรือแม้แต่การฝังลายเปลือกหอย… เทคโนโลยีมันล้ำจริงๆ นะ แต่ไอ้ทาโกซาคุนี่สิ โก่งค่าฝึกสอนจนเกินเหตุทุกที!”
“เหะๆ ก็ถ้าบอกง่ายๆ ไป ข้าก็อดข้าวพอดีสิ”
…ดูบ้านนอกงี้ แต่จริงๆ โคตรเจ้าเล่ห์เลยล่ะ
ไม่งั้นคงค้าขายข้ามประเทศไม่ได้หรอกเนอะ
“โดยปกติข้าไม่แม้แต่จะเจรจากับเจ้าขุนมูลนายกระจอกๆ หรอกนะ… แต่เพราะเป็นเรย์เต้ซามะผู้ยิ่งใหญ่ ข้าถึงยอมร่วมโต๊ะทุกครั้งเลยล่ะ!”
“เออๆ… จ่ายไหวก็จริง แต่ค่าจ้างที่นายเรียกมาน่ะ มันสูงขนาดจะทำให้ฉันแห้งตายเลยนะ!”
“ก็ธุรกิจน่ะครับ~”
ค่า ค่า~
ก็จริงอยู่ว่าจะค่อยๆ ต่อรองกันไปก็ได้หรอกนะ แต่…
“แต่สถานการณ์มันเปลี่ยนไปนิดหน่อยแล้วล่ะ”
“หือ?”
จากเรื่อง ‘ปฏิวัติ’ ที่เซ็ตจังบอกมา ฉันก็ได้รู้ว่าประเทศวะโกคุกำลังจะตัดสัมพันธ์กับอาณาจักรสเตรนแล้วล่ะ
อีกไม่นานพ่อค้านี่ก็คงถอนตัวแน่ ๆ เพราะงั้น…
“ฉันจะเลิกเกลี้ยกล่อมดีๆ แล้วล่ะ —เพราะงั้น…!”
ฉันชี้เปรี้ยงไปที่เซ็ตจัง แล้วประกาศกับพ่อค้าอย่างชัดเจนว่า—
“ชั้นตัดสินใจแล้วว่าจะให้เขาสอนเทคโนโลยีให้ชั้นเองค่า!”
“หาาาาา!?”
เซ็ตจังกับทาโกซาคุตกใจหน้าซีดพอๆ กัน อุฟุฟุ~ การได้ปั่นหัวพวกชาวบ้านแบบนี้มันช่างสะใจจริงๆ
“ชะ…ช้าก่อนเถิดเจ้าหญิงเรย์เต้! กระผมก็แค่ซามูไรธรรมดานะขอรับ! เรื่องอุตสาหกรรมอะไรนั่น กระผมไม่รู้ลึกนักหรอก!”
“ไม่รู้แบบลงลึกก็แปลว่า—ยังพอรู้แบบคร่าวๆ ใช่มั้ยล่ะ?”
“อะ-อันนั้นก็…”
“แถมเธอก็เป็นทายาทตระกูลซามูไรมาก่อน ถ้าเทียบกับที่นี่ก็คือลูกขุนนางบ้านอัศวินนั่นแหละ จะไม่รู้มากกว่าชาวบ้านได้ยังไงกันยะ?”
ถ้าเคยถือครองหมู่บ้านมาก่อน ก็น่าจะเรียนรู้อุตสาหกรรมของพื้นที่มาบ้างสิ ไม่ต้องรู้เทคนิคหรอก แค่รู้ภาพรวมก็พอแล้ว
“สรุปก็คือ ทาโกซาคุจัง~ เธอหมดประโยชน์แล้วจ้า!”
“ดะ ด เดี๋ยวสิขอรับ! เรียนรู้แค่จากซามูไรธรรมดาแบบนั้น มันไม่สมบูรณ์แบบหรอกนะขอรับ!”
“ไม่ต้องเพอร์เฟ็กต์หรอก~ ขอแค่รู้วิธีแบบคร่าว ๆ ก็พอ เดี๋ยวฉันจัดการระดมแรงงานลุยแหลก ทดลองรัว ๆ จนได้เทคนิคสมบูรณ์เองแหละ!”
“ฮี้~!?”
ดูถูกท่านเรย์เต้เกินไปแล้วล่ะ~ มัวแต่ยืดเยื้อการเจรจาแบบนี้ ก็สมควรโดนแล้วไง
“มะ มันโหดร้ายเกินไปแล้วนะขอรับ!”
“พูดมาก!”
ฉันเนี่ย ขึ้นชื่อเรื่องอารมณ์ร้อนเลยนะ!? แค่นมร้อนยังรอไม่ไหว ต้องหาขนมกินรัวๆ ฆ่าเวลาไปก่อนตลอดเลย!
“โอเค จบเรื่องละจ้า! ทาโกซาคุคุง นายกำไรศูนย์นะคะ จบๆๆ~ เฮ้อ เรียกมาตอนกินข้าวก็ขอโทษละกัน เชิญกลับได้เลยค่า~”
“…ขะ ข้า…”
“อ๊ะ ยังไม่กลับอีกเหรอ? เดี๋ยวฉันจะให้เซ็ตจังสอนอะไรหลายๆ อย่างแล้วนะคะ~ อยู่เกะกะจังเลย~”
“…ขะ ข้าจะ… ขาย…”
หื้ม? เมื่อกี้พูดว่าอะไรน้าาา?
“ขะ ข้าจะขายแล้ว!! เทคโนโลยีอุตสาหกรรมของอาคิทสึเนี่ย! ขายเลย! ขายถูกๆ ตอนนี้เลยด้วย!!”
“พูดได้ดี!”
ฉันรอคำนั้นอยู่เลยล่ะจ้าาาา!
“โอ้ ได้คำพูดไว้เรียบร้อย! กลืนกลับไม่ได้นะจ๊ะ! เดี๋ยวจะนัดโต๊ะเจรจาให้—ถ้ากลับมาทำตัวงี่เง่า ตั้งราคาฟันหัวอีกล่ะก็ —เจอข้อหาหลอกขุนนาง! โทษตายจ้ะ~!”
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกก!!”
โอ้ะโฮะๆๆๆๆๆ ชัยชนะอย่างงดงามของเรย์เต้จังเจ้าค่า~!
“ม่ะ-ม่ะ-ม่ายยย! ถ้าทางโชกุนรู้ว่าข้าปล่อยเทคโนโลยีราคาถูกไปล่ะก็ ตำแหน่งข้าได้ปลิวแน่!”
“ไม่รู้สิจ๊ะ~”
ชั้นคือคุณหนูสายอำมหิตไง~ ใครจะพังจะพินาศ ชั้นไม่สนจ้า~
ยิ่งเหยียบซ้ำตอนพวกมันอ่อนแอน่ะ สนุกจะตายไป~!
“พูดถึงเรื่องนั้น… คือเซ็ตจังมีภารกิจต้องส่งเงินก้อนใหญ่ให้โชกุน่ะ เลยจะให้แกเป็นคนถือไป”
“หะ…ยังจะใช้งานข้าอีกเหรอขอรับ!?”
“ใช่เลย~ งานนายคือส่งหมื่นล้านโกลด์ให้โชกุน!”
“หมื่นล้าน!? มะ-มะ-หมายถึงข้านี่เหรอออ!?”
ใช่เลย~ ฟังดูเป็นงานที่เครียดสุดๆ เลยล่ะเนอะ~♪
“จะเอาเงินตราต่างชาติหมื่นล้านเข้าไปในประเทศมหาอำนาจแบบนั้นน่ะ มันไม่ใช่แค่ยื่นเรื่องที่สำนักงานแล้วจบหรอกนะ~ ต้องอธิบายที่มาทั้งหมด ตรวจสอบว่าปลอมมั้ย แถมยังต้องไปพบโชกุนด้วยตัวเองเลยด้วย~ ขุนนางใหญ่กับราชาก็ต้องอยู่ในที่ประชุมแน่นอน~”
“ขะ-ข้าาา พ่อค้าระดับกลางอย่างข้านี่จะต้องไปพบท่านโชกุนกับเจ้าเมืองทั้งหลายเหรอออ!?”
“ชื่อก็น่าจะถูกบันทึกไว้แน่ๆ แถมหน้าอาจจะจำได้ด้วย~ แหม กดดันเนอะ~ สงสารจังเลย~”
พอได้ยุ่งกับคนใหญ่คนโตทีไร ก็ปวดหัวตลอดแหละน้า~
“ส่วนเหตุผลที่แกโดนลากมาทำเรื่องนี้ ก็กุเรื่องให้มันดูดีไว้ก็แล้วกัน
อย่างเช่น ‘ทาโกซาคุ พ่อค้าธรรมดา ผู้ได้เข้าร่วมเป็นพยานในโต๊ะเจรจาสันติภาพระหว่างเรย์เต้ ฮังกาเรียกับซามูไร มุรามาสะ เซ็ตสึนะ’ อะไรงี้”
“ว่าไงนะ!? แบบนี้มันดูเหมือนข้าได้แต่งตั้งเป็นคนกลางโดยขุนนางเลยนะขอรับ!?”
ฟุฟุ~ ใช่เลย~ อับอายขายหน้าสุดๆ ไปเลยใช่ม้า~?
โดนขุนนางต่างแดนยัดงานยากใส่หัวแบบนี้ นายก็ต้องกลับไปอธิบายกับบรรดาท่านๆ ในบ้านเกิดเองนะจ๊ะ~!
คิดว่าผู้ใหญ่เขาจะมองแกยังไงกันน้า~?
“ประกาศจบแค่นี้~ ไปกินแกงกะหรี่แล้วรอในห้องข้างๆ ไป๊~”
“ค…ครับบบ!”
ดูท่าจะเจ็บใจสุดขีด ทาโกซาคุตัวสั่นด้วยความแค้นพลางเดินกระฟัดกระเฟียดออกไป
“โอ๊โฮ่ะโฮ่ะโฮ่ะ! ชั้นนี่มันสุดยอดนางร้ายจริงๆ เลยใช่ม้า~?”
“ว่าไง แอชลีย์~ ระดับความเลวของชั้นนี่น่าจะชนะ ‘หมาป่านรก’ ไปแล้วใช่ม้า!?”
“แน่นอนครับ… เทียบกันไม่ได้แล้วล่ะครับ”
พูดขนาดนั้นเลยเรอะ!? ฟู่ว~ เรย์เต้ซามะชนะขาดลอยอีกแล้วค่า!
“เอาล่ะนะ”
พออารมณ์ดีแล้ว ฉันก็หันกลับไปหาเซ็ตจังอีกครั้ง…เอ๊ะ ยิ้มแหยๆ นั่นมันอะไร?
“ม-ไม่นึกเลยว่าท่านจะใช้ข้าเป็นข้อต่อรองในการซื้อเทคโนโลยีราคาถูก…”
“ก็นะ~ เรย์เต้ซามะทั้งเก่งเวอร์และชั่วสุดๆนี่นา”
“ข้าไม่แน่ใจว่าท่านชั่วจริงรึเปล่านะ… พ่อค้านั่นออกจะปลื้มท่านสุดๆ ไปเลย”
“ไม่มีทางหรอกย่ะ”
ก็เขากำลังจะต้องเป็นเบ๊ให้ฉัน แล้วยังต้องกลับไปอธิบายสถานการณ์สุดอนาถกับบ้านเกิดอีกนะ~ น่าสงสารจะตายไป
“เอาเป็นว่า เซ็ตสึนะ—ฉันซื้ออิสรภาพของนายมาหมื่นล้านแล้วนะ มีปัญหาไหม?”
“จะให้บ่นก็…ไม่ขอครับ”
เขาชะงักไปนิดหนึ่ง…แต่ก็ส่ายหน้าในที่สุด
“ในฐานะซามูไร การทรยศบ้านเกิดถือเป็นความอัปยศที่สุด… แต่ข้าเองก็มาจากตระกูลที่ถูกพิพากษาประหารแล้ว… ต่อให้กลับไป ก็คงไม่มีทั้งบ้านและฐานะอะไรเหลืออยู่ เด็กวัยสิบห้าผู้มีสายเลือดต้องคำสาป ใครจะอยากจ้างกันเล่า สุดท้ายก็คงเน่าตายเปล่าๆ”
ดังนั้น… เขาจึงทรุดเข่าลงข้างหนึ่ง
“ข้า มุรามาสะ เซ็ทสึนะ ขอถวายตัวรับใช้องค์หญิง—เพื่อตอบแทนพระคุณที่ได้ช่วยชีวิตข้าและตระกูลของข้าไว้!”
“ได้สิ งั้นก็ทำงานให้สุดชีวิตไปเลยแล้วกัน”
“ขอรับท่านหญิง!”
ฮุๆๆ… ซามูไรผู้จงรักภักดีน่ะ ฉันเล็งไว้ตั้งนานแล้วว่าอยากได้มาเป็นเบี้ยข้างกาย
ก็ฉันมันถูกเกลียดระดับร้อยแปดทิศอยู่แล้วนี่นา
“ว่าแต่เซ็ตจัง นายเองก็ลำบากใช่เล่นเลยนะ เป็นแค่เด็กวัยรุ่นแท้ๆ แต่ต้องแบกรับชะตากรรมของตระกูลเพราะคุณตาก่อมหันต์โทษไว้”
“ฮะฮะฮะ แต่เรย์เต้ฮิเมะเองก็สุดยอดไม่แพ้กันนี่ขอรับ เป็นเจ้าผู้ครองแคว้นตั้งแต่อายุสิบขวบเนี่ย”
ว่าไงนะ!? ใครมันสิบขวบนะยะ!?
“ฉันสิบหกย่ะ! แก่กว่านายอีกนะ!!”
“อ-อย่างนั้นหรือขอรับ!? …เข้าใจล่ะ ไม่ใช่ว่าส่วนนั้นโตเกินวัย แต่ที่จริงคือส่วนอื่นยังโตไม่ทันต่างหาก…”
พูดจบ เขาก็ปรายตามองต่ำลงมาเล็กน้อย
มองอะไรยะ!? หรือว่านายกำลังมองพุงฉัน!? จะสื่อว่าฉันพุงย้วยอย่างเดียวสินะ!?
“โถ่เว้ย… งั้นฉันจะไดเอตด้วยซูชิเลยละกัน! ซูชิมันเฮลตี้นะ จะกินไม่อั้นเลยคอยดู!”
“อืม… ไม่แน่ใจว่านั่นจะเรียกว่าไดเอตได้หรือเปล่านะ… เอาเป็นว่า ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการต่อไวซ์โดโนะและแอชลีย์โดโนะแล้วกัน”
เขาลุกขึ้นยืนแล้วจ้องพวกเรานิ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างจริงจัง
“ข้านามว่าเซ็ตสึนะ—บัดนี้เมื่อเรย์เต้ฮิเมะได้มอบชีวิตใหม่ให้แก่ตระกูลของข้า เป้าหมายต่อไปของข้าก็คือการถวายตัวรับใช้นาง…”
—และสังหารบรรพบุรุษของตน… ผู้มีนามว่า ‘รันโกว’ ซึ่งเป็นอาชญากรแห่งชาติ
=============================================================
ขุนนางวะโคคุ: “หาาาาา!? หมอนั่นได้ขนเงินหมื่นล้านให้ขุนนางเบอร์ใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ!? ได้รับความไว้วางใจระดับนั้นเลยเรอะ!? โอ๊ยโอเคเลย ทาโกซากุใช่ไหม!? ขายเทคโนโลยีถูกหน่อยก็ช่างหัวมัน! ถ้าใช้สานสัมพันธ์แล้วล่ะก็ ถูกแค่นี้ยังน้อยไป! ฝากไปบอกว่าฝากตัวด้วยน้าาาา!!!”
MANGA DISCUSSION