■ มุมมองของวิลเฟร็ด เวล เดฮาวัลส์“บัดซบ!”ฉันกัดฟันข่มความเจ็บปวดจากบาดแผลที่ได้รับจากเจ้าชายสารเลว ฮาโรลด์—ที่ถูกเรียกขานว่า เจ้าชายขยะไร้ความสามารถ—ก่อนจะเตะโต๊ะข้างกายกระเด็นเสียงดังสายตาของมาริออนที่มองฉันมาด้วยความกลัวและหวาดหวั่นยิ่งทำให้ฉันเดือดดาล“กรี๊ด!? ท…ท่านองค์ชาย!?”“ก็เพราะเธอนั่นแหละที่ไร้ประโยชน์ เรื่องถึงได้กลายเป็นแบบนี้! ทั้งที่ฉันยังอุตส่าห์มอบ ‘ขวานศึกนภา สกายไดรฟ์’ ให้แล้วแท้ๆ!”“ข…ขออภัยค่ะ!”ฉันกระชากผมสีแดงเข้มของมาริออนเต็มแรง แล้วเหวี่ยงเธอกระแทกกับผนังใช่…ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของผู้หญิงคนนี้แม้จะเป็นแค่ของเก่าที่ฮาโรลด์เคยใช้ แต่เพราะรูปร่างหน้าตายังพอดูได้ ฉันจึงเก็บไว้ข้างกายให้ประจบสอพลอรับใช้แต่สิ่งที่เธอทำได้ก็มีเพียงแค่เอาอกเอาใจฉัน ไม่แม้แต่จะทำหน้าที่เป็นนางข้าหลวงให้เรียบร้อย ยังล้มเหลวแม้กระทั่งคำสั่งง่ายๆ ให้ไปทำร้ายคู่หมั้นของมัน“ข…ขออภัยค่ะ… ขออภัย…!”มาริออนคุกเข่าก้มหน้าถูพื้น พลางตัวสั่นเทิ้ม ร่ำร้องขอโทษไม่หยุด“…ขอโทษที่ช่วงนี้ฉันลงมือกับเธอแรงไปหน่อยหลังจากแพ้เจ้าฮาโรลด์นะ แต่เชื่อฉันเถอะ มาริออน… สำหรับฉันแล้ว เธอคือสิ่งสำคัญที่สุด เธอเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ยอมรับฉัน”“อ๊ะ… ท่าน…วิลเฟร็ด…”“ตอนนี้มีแค่เราสองคน ไม่จำเป็นต้องเรียกกันแบบนั้น เรียกฉันว่า ‘วิล’ เหมือนทุกครั้งก็พอ”“ค่ะ… วิล… ท่านวิลคะ…!”ฉันประคองร่างเธอขึ้น เธอปล่อยน้ำตาไหลพราก แล้วโผเข้ากอดฉันแน่น ใบหน้าเปื้อนอารมณ์ซาบซึ้งช่างเป็นผู้หญิงที่ควบคุมง่ายเสียจริงทั้งที่แท้จริงแล้ว เธอก็เป็นแค่หมากตัวหนึ่ง… ในแผนของฉันเท่านั้นใช่แล้ว… ฉันคือ “ตัวเอก” ของโลกใบนี้ เป็นผู้มีภาระหน้าที่ที่จะก้าวขึ้นเป็น “วีรบุรุษ”“คนในครอบครัวฉันล้วนโง่เง่า… เสด็จพ่อหมกมุ่นอยู่กับเสด็จแม่ ขณะที่เสด็จแม่ก็พยายามเอาใจเพื่อไม่ให้ถูกทอดทิ้ง สองพระมเหสีอื่นก็ริษยาเสด็จแม่ ส่วนเหล่าพี่ๆ ลูกของพวกเธอ ฉันก็ไม่อาจเดาได้เลยว่าพวกมันคิดอะไรอยู่… ยกเว้นฮาโรลด์ ที่ทั้งโง่และหัวทึบ”ฉันในวัยสิบขวบ แสยะยิ้มเยาะขณะมองดูเจ้าฮาโรลด์ที่กำลังนำคำตอบจากบทเรียนวันนี้ไปเสนอให้พระมเหสีที่หนึ่ง หวังจะได้คำชมแม้วันนี้มันจะทำได้ดีกว่าปกติเล็กน้อย แต่มันก็ไม่มีวันได้รับคำชมอยู่ดีแต่ก็ไม่เป็นไร—ยิ่งเจ้าบ้านี่โง่เง่าเท่าไร ก็ยิ่งช่วยฉันโดดเด่นขึ้นเท่านั้นแม้ว่าตอนนี้จะถูกเรียกว่า ‘เจ้าชายต้องสาป’ และถูกรังเกียจจากผู้คนรอบตัว… แต่ในวันหนึ่ง สถานะของเราจะกลับตาลปัตรฉันต้องทำให้ทุกคนเห็นว่าฉันคือผู้โชคร้ายที่ถูกเจ้าฮาโรลด์นั่นรังแก—ใช้มันเป็นเครื่องมือในการวาดบทบาทความน่าสงสารของฉันให้สมจริงที่ผ่านมา ฉันก็วางแผนให้ฮาโรลด์กลายเป็นแพะรับบาปในทุกเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้นในวังและมันก็ได้ผล… ตอนนี้ไม่มีใครในราชสำนักที่อยากจะยุ่งกับมันอีกแล้ว“จะว่าไป ตอนที่ฉันขังลูกสาวตระกูลเล็กๆ คนนั้นไว้ในห้องร้างก็สนุกไม่น้อย”เสียงร้องไห้โหยหวนของหญิงสาวในห้องร้างท้ายวังนั้นไพเราะยิ่งนักหลังจากนั้นนางจะถูกช่วยออกมาหรืออดตายอยู่ในห้องนั้น ฉันก็ไม่ได้สนใจยังไงซะ ฉันก็ใส่ร้ายว่าฮาโรลด์เป็นคนทำแล้ว และตอนนี้มันก็คงเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวถึงนางจะดูซอมซ่อ ฉันก็เลยเดาว่าไม่น่าจะเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่อะไรนักหรอกแล้ว… โอกาสแห่งการเปลี่ยนแปลงของฉันก็มาถึง ในฤดูร้อนของปีที่ฉันอายุสิบสอง“โฮ่ เจ้าคือวิลเฟรด ใช่ไหม?”ชายคนหนึ่งอายุประมาณสิบห้าหรือสิบหกปีปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าฉัน ในห้องประทับของเสด็จพ่อเขาแนะนำตัวว่า “อูลิสเซ” และกล่าวด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน“อูลิสเซ… เจ้าพูดจริงหรือ ว่าวิลเฟรดจะได้สืบทอดตำแหน่งข้า และกลายเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองโลกนี้?”“ข้ายืนยันได้แน่นอน”“อืมม… ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า แต่ข้าเข้าใจยากอยู่เหมือนกัน…”สองคนนั่น—กษัตริย์ผู้จมอยู่ในกามารมณ์ และชายผู้ลึกลับ—พูดจาตามใจตนเองโดยไม่แม้แต่จะนับฉันอยู่ในสายตาแต่ว่า… เสด็จพ่อ เอวัล ก็เอ่ยออกมาชัดเจนแล้วว่า “ฉันจะกลายเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองโลก”“ดังนั้น เอวัล ขอให้ท่านทำตามที่ข้าบอกนะ? ไม่อย่างนั้น ความปรารถนาของท่าน… ก็อาจเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป”“เฮ้อ… เข้าใจแล้ว…”เอวัลถอนหายใจยาว ก่อนพยักหน้าอย่างเหนื่อยล้า“วิลเฟรด เจ้าก็ต้องฟังข้าเช่นกันนะ เข้าใจใช่ไหม? เจ้าเองก็อยากเป็นกษัตริย์ไม่ใช่หรือ?”“…ข้าจะได้เป็นกษัตริย์จริงหรือ?”“แน่นอน… ถ้าเจ้าทำตามที่ข้าบอกทุกอย่าง”…พูดอย่างนี้อาจจะไม่เหมาะ แต่ชายผู้นี้—อูลิสเซ—ดูเหมือนจะเป็นพวกเดียวกับฉันไม่เชื่อใจใคร ไม่เคยสงสัยในตัวเอง และใช้ทุกสิ่งรอบตัวให้เป็นไปตามอำเภอใจไม่มีความเมตตา ไม่รู้จักคำว่าห่วงใยแต่เพราะแบบนั้น… ฉันถึงเชื่อใจเขาได้เพราะพวกเรา… จะไม่ยอมโกหกกับสิ่งที่เรียกว่า ‘ผลประโยชน์’ ของตัวเองเราซื่อสัตย์ต่อความต้องการของตน… เพียงเท่านั้น“…เข้าใจแล้ว ข้าจะเชื่อฟังท่าน”“ดีมาก เห็นไหมล่ะ คนที่เหมือนกันก็คุยกันรู้เรื่อง ข้าเริ่มรู้สึกว่าเจ้าเหมือนเอวัลจริงๆ ด้วย”อูลิสเซยิ้มกว้าง ก่อนจะจับมือฉันแน่นนี่คือ—จุดเริ่มต้นของเส้นทางแห่งอำนาจของฉันและอูลิสเซ“…ท่านวิล เป็นอะไรไปหรือคะ?”ในยามดึกที่ฉันระบายอารมณ์ใส่มาริออนจนหมดแรง เธอซบแก้มแนบอกฉัน มองหน้าฉันอย่างแผ่วเบาแม้โดยปกติจะไร้แววตา แต่นาทีนี้เธอกลับเผยท่าทีออดอ้อน…แต่ฉันไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่น้อย“ไม่มีอะไร… ฉันแค่ระลึกถึงอดีตเล็กน้อยเท่านั้น”“เช่นนั้นหรือคะ…”ฉันส่ายหัวเบาๆ มาริออนก็ยิ้มจางๆ แล้วก้มตาลงบางทีเธออาจเสียใจ… ที่ไม่มีตัวตนในความทรงจำเหล่านั้นของฉัน“เอาล่ะ… อีกไม่นานฉันก็จะเข้าศึกษาที่สถาบันหลวง แม้จะแพ้ฮาโรลด์ในการประลองคราวก่อน แต่เมื่อเข้าสถาบันแล้ว ฉันจะลบล้างความอัปยศทั้งหมดได้แน่นอน”“มะ…ไม่นะคะ! เรื่องแบบนั้น…!”“ใจเย็นเถอะ การที่ฉันแพ้มัน ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นก็เห็นเต็มตา ต่อให้ฮาโรลด์จะใช้เล่ห์เหลี่ยม… อะไรก็เถอะ”ใช่แล้ว… ข่าวลือแพร่ไปทั่วอาณาจักรว่าฮาโรลด์โกงในการประลองแม้คนที่เห็นกับตาจะไม่อาจหลอกได้ แต่ประชาชนมากมายที่ไม่อยู่ในเหตุการณ์ต่างเชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นเรื่องจริงเพราะชื่อเสียงของฉันผู้เป็น “วีรบุรุษ” ขัดกับเจ้าชายไร้ความสามารถอย่างฮาโรลด์อย่างสิ้นเชิงและด้วยการแต่งตั้งซาแมนธาเป็นพระมเหสีที่สาม รวมถึงท่าทีของกษัตริย์เอวัลในครั้งนี้ ทุกคนก็เริ่มเข้าใจแล้วว่า กษัตริย์ต้องการให้ฉันสืบทอดบัลลังก์บรรดาขุนนางบางส่วนจากฝั่งคาร์ดิสและราฟาเอลเริ่มหันมาสนับสนุนฉันแล้วด้วยการแพ้เพียงครั้งเดียว… ไม่มีทางสั่นคลอนตำแหน่งของฉันได้“มาริออน… ถึงแม้เธอจะอายุมากกว่า แต่ฉันจะให้เธอร่วมเข้าเรียนในฐานะนักเรียนใหม่ด้วยกัน”“ค่ะ! ฉัน มาริออน เชียร่า จะทำทุกอย่างเพื่อท่านวิลในสถาบันเช่นกันค่ะ!”“อืม… ฉันคาดหวังกับเธออยู่”“อ๊ะ…อื้อ…”ฉันดึงมาริออนเข้ามากอด พร้อมกับจุมพิตแผ่วเบาเอาล่ะ… ถึงเวลาเปิดม่าน เรื่องราวของฉัน แล้วตามที่อูลิสเซว่าไว้… จุดสำคัญนั้นจะมาถึงในอีกปีนิดๆแต่ก่อนถึงตอนนั้น… ฉันจะทำให้ไอ้เจ้าชายไร้ค่า… ที่เป็นแค่ตัวประกอบ ได้ลิ้มรส “ความสิ้นหวัง” ซะก่อน
MANGA DISCUSSION