โมอิเซย์หยุดรถม้าไว้ที่หน้าคฤหาสน์ของแกงค์ลิซิซ่า มีสมาชิกของแกงค์ลิซิซ่ากลุ่มหนึ่งรีบวิ่งมาหาพวกเราด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“เฮ้ย โมอิเซย์เองเหรอ! ในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะจ่ายหนี้ได้แล้วเหรอ?”
“ทำให้หัวหน้าของพวกเราลำบากมาไม่น้อยเลยใช่มั้ย ไอ้สารเลว!”
พวกอันธพาลกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าต่างออกมาจากอาคาร ล้อมรอบรถม้าและคนขับรถของฉัน ฉันแอบดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ
“ลงมาได้แล้ว โมอิเซย์ หัวหน้ามีเรื่องจะคุยกับแก!”
ขณะที่พวกอันธพาลกำลังเอื้อมมือไปคว้าทาสของฉัน เซริเนียนและเหล่าริปเปอร์ก็เคลื่อนไหวทันที ดาบยาวของเซริเนียนตัดหัวพวกผู้ชาย ส่วนเหล่าริปเปอร์ก็ใช้เขี้ยวและเคียวฉีกพวกเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ทุกอย่างจบลงในพริบตา
“จบแล้วค่ะ ราชินี”
“ขอบคุณนะ เซริเนียน และขอบคุณเหล่าริปเปอร์ด้วย” ฉันลงจากรถม้า
“เอาล่ะ รีบบุกเข้าไปกำจัดพวกมันซะ เราต้องแก้แค้นให้กับริปเปอร์ที่เราสูญเสียไป”
เมื่อพูดจบ ฉันก็สั่งให้โมอิเซย์เปิดประตูที่นำไปสู่คฤหาสน์ เซริเนียนและเหล่าริปเปอร์เข้าไปก่อน ส่วนฉันเดินตามหลังไป
เวลาแห่งการตอบแทนของเราก็มาถึงแล้ว
ให้พวกมันลิ้มรสการเสียสละของริปเปอร์ที่จากไปซะ
————————————————————-
“ผู้บุกรุก! มีผู้บุกรุก!”
เสียงสัญญาณเตือนที่ดังขึ้นโดยสมาชิกคนหนึ่งของแกงค์ลิซิซ่าถูกระงับลงโดยเคียวของริปเปอร์อย่างรวดเร็ว ชายผู้นั้นถูกฟันเข้าที่สมองและกระตุกตัวหลายครั้งก่อนจะล้มลงบนพื้น มีเลือดไหลซึมออกมาจากใต้ร่างของเขา
ชายอีกคนที่เห็นเหตุการณ์ตะโกนว่า “ไอ้เวรเอ๊ย! มอนสเตอร์ตัวนั้นมันโจมตีพวกเราแล้ว! ฆ่าพวกมันให้หมดก่อนที่มันบุกเข้ามา!”
หลังจากนั้นมีชายหลายคนถือธนูสั้นและดาบยาวในมือเดินออกมาจากแนวกำแพงไม้และล้อมรอบพวกเรา
“เราจะฝ่าทะลุไปได้ไหม เซริเนียน” ฉันถาม
“พะยะค่ะ แต่จะทำให้พระองค์ตกอยู่ในอันตราย องค์ราชินี” เซริเนียนพูดด้วยน้ำเสียงดูกังวลเล็กน้อย
“งั้นมาเรียกกำลังเสริมกันเถอะ” ฉันพูดพร้อมโบกมือเบาๆ
ราวกับเป็นการตอบรับท่าทางเล็กๆ น้อยๆ นั้น เขี้ยวขนาดใหญ่ก็โผล่ออกมาจากพื้น พุ่งเข้าไปที่สมาชิกของแกงค์ลิซิซ่า ที่ถือดาบยาวซึ่งกำลังเดินเข้ามาหาฉัน ร่างของเขาถูกผ่าออกเป็นสองส่วน และศพทั้งสองส่วนก็ร่วงลงมาที่พื้น
กองทัพดิกเกอร์
ฉันให้พวกเขารออยู่ด้านนอกกำแพงเมืองลีนอย่างปลอดภัย จากนั้นก็เรียกพวกเขามาที่นี่ในพริบตาเหล่าดิกเกอร์ ข้ามกำแพงไปโดยขุดรูใต้ดิน แล้วโผล่ขึ้นมาใต้เท้าของแกงค์ลิซิซ่า ที่บุกเข้ามาหาเรา
นี่คือวิธีที่ใช้ เหล่าดิกเกอร์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกมันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการโจมตีแบบกะทันหัน เนื่องจากพวกมันสามารถโผล่ออกมาในสถานที่และเวลาที่คาดไม่ถึงที่สุด เหล่าดิกเกอร์ จะได้ผลดีที่สุดในสถานการณ์ที่ที่ศัตรูมีความระมัดระวังน้อยที่สุด นั่นคือตอนนี้นั่นเอง
ฉันเคยใช้ กองทัพดิกเกอร์ มาก่อนเพื่อทำลายฐานที่มั่นที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนาภายในไม่กี่วินาที ดังนั้นเมื่อเทียบกับที่ดินของแกงค์ลิซิซ่าจึงเป็นเรื่องที่ง่ายดาย ในฐานะกองกำลังผสม อารัคเน และฉันมีศักยภาพเพียงพอที่จะทำลายศูนย์กลางแห่งนี้
“ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?” ฉันถาม
“พะยะค่ะ ปล่อยให้พวกเราจัดการทุกอย่างเอง องค์ราชินี” เซริเนียนตอบด้วยรอยยิ้ม
“องค์ราชินีทรงเกรียงไกรยิ่งนัก เตรียมแผนรับมือกับเหตุการณ์แบบนี้ด้วย ฉันมีความสุขจริงๆที่ได้อยู่กับราชินี”
ฉันรู้สึกอายนิดหน่อยกับคำชมของเธอ
เซริเนียนใช้ขาที่คล้ายแมลงกระโดดขึ้นไปโดยไม่รู้ตัวว่าฉันเขินอายแค่ไหน เธอหยุดอยู่บนชั้นลอยพร้อมกับส่งเสียงอันกึกก้องเพื่อฟันนักธนูของแกงค์ลิซิซ่าที่ประจำการอยู่ที่นั่น แม้ว่าฉันจะได้เป็นพยานในเหตุการณ์ที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นภาพการสังหารหมู่ของเหล่ามนุษย์ แต่เหตุการณ์นั้นกลับดูงดงามและอลังการอย่างบอกไม่ถูก เปล่งประกายระยิบระยับด้วยซ้ำ
ฉันเฝ้าดูอย่างเคลิบเคลิ้มในขณะที่เซริเนียนฝ่าทะลวงพวกอันธพาล หยดเลือดกระเซ็นไปทั่วอากาศ ฉากนั้นช่างน่าทึ่งมาก ร่างครึ่งมนุษย์ของเธอถือดาบด้วยทักษะและสง่าผ่าเผย ดาบลากผ่านอากาศ และดอกไม้เลือดบานสะพรั่งไปทั่วห้อง
ทุกสิ่งทุกอย่างมันห่างไกลจากความเป็นจริงมากจนฉันไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้
“องค์ราชินี!” เหล่าริปเปอร์ส่งเสียงเรียกขณะที่ฉันเฝ้าดูเซริเนียนต่อสู้ ริปเปอร์กระโดดไปข้างหน้าฉันและปัดลูกศรที่พุ่งมาด้วยหางอันแหลมคม
“ขอบคุณนะ ริปเปอร์”
“ไม่เป็นไร แต่พระองค์อย่าประมาทองค์ราชินี การเฝ้าดูการสังหารที่กำลังเกิดขึ้นอย่างใกล้ชิดเกินไปอาจเป็นอันตรายได้”
“ขอโทษนะ ฉันจะระวังมากขึ้น”
แม้ว่ามันจะพูดกับฉัน แต่ริปเปอร์ ก็เบี่ยงการโจมตีที่เข้ามาหาฉันมากขึ้น แม้ว่ามันอาจจะเป็นยูนิตในช่วงต้นเกม แต่มันก็ยังพิสูจน์ให้เห็นว่ามันน่าเชื่อถือมากแค่ไหน ฉันรู้สึกได้ว่าฉันผูกพันกับแมลงน่ารักตัวนี้มากขึ้น ซึ่งมีส่วนทำให้ฉันได้รับชัยชนะ
“นี่มันอะไรเนี่ย เกิดอะไรขึ้นที่นี่!”
ในขณะที่สมาชิกของแกงค์ลิซิซ่า ต่อสู้กับเซริเนียน กองทัพริปเปอร์และ กองทัพดิกเกอร์ก็มีบุคคลปริศนาบางคนปรากฏตัวขึ้นที่เกิดเหตุ
“เป็นเขาเอง”
หัวหน้าของแกงค์ลิซิซ่าซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นคนเดียวกับที่สั่งโจมตีรถม้าของเรา ในที่สุดก็โผล่ออกมาแล้ว
“แกเป็นใครกันวะ! มอนสเตอร์พวกนี้มาจากไหน!” เขาตะโกนดังกึกก้อง
“ฉันไม่ตอบคุณ” ฉันพูดพลางชี้ไปทางเขา
“จับเขาแบบเป็นๆ”
“พะยะค่ะ องค์ราชินี” ตามคำสั่งของฉัน กองทัพริปเปอร์ก้าวไปข้างหน้า
“ระวังตัวด้วยราชินี” เซริเนียนขยับตัวมายืนตรงหน้าฉัน
พวกนักธนูส่วนใหญ่ถูกสังหารไปหมดแล้ว แต่ยังคาดเดาไม่ได้ว่าจะมีการโจมตีจะเกิดขึ้นอีกเมื่อใด ดังนั้นฉันจึงรู้สึกขอบคุณที่เซริเนียนมาปกป้องอยู่ฉันตรงหน้า มันทำให้รู้สึกสบายใจ เหมือนกับว่าฉันมีอัศวินเป็นของตัวเอง ดูเหมือนว่าเซริเนียนก็เป็นอัศวินทางทฤษฎี…
“เอ่อ…องค์ราชินี?”
“โอ้ ขอโทษ ฉันหมายถึงคุณเป็นอัศวินที่วิเศษและคู่ควรกับฉันมาก”
ดูเหมือนว่าความคิดของฉันจะถูกส่งต่อถึงเธอผ่านจิตสำนึกส่วนรวม การเชื่อมโยงกับจิตใจส่วนรวมมีข้อเสียอย่างที่เห็นได้ชัดเจน นั่นคือ ไม่สามารถพูดคุยภายในใจได้อย่างสงบ
“พวกแกที่อยู่ตรงนั้น! ได้ยินไหม! ทำลายมอนสเตอร์เหล่านี้ที!” หัวหน้าของแกงค์ลิซิซ่าตะโกน
“ใครก็ตามที่ฆ่ามอนสเตอร์ได้ก็จะได้รับรางวัลใหญ่!”
มีคนจำนวนมากออกมาจากส่วนลึกของคฤหาสน์ ถือหอกยาวและหอกยาว พวกเขาพุ่งเข้าหากองทัพริปเปอร์ แต่กองทัพดิกเกอร์ที่ดักซุ่มอยู่พุ่งออกมาจากใต้พื้น จนพื้นไม้พังทลาย จับตัวพวกเราเหล่านั้นและลากลงไปใต้ดิน
สมาชิกคนอื่นๆ ของแกงค์ลิซิซ่าต่างยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นภัยคุกคามใต้ดิน และตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆ ยังไม่จบลง เราจะไม่หยุดพักจนกว่าจะกำจัดพวกเขาทั้งหมดและบังคับให้หัวหน้าแกงค์ยอมจำนน
“คิดว่าทำได้ใช่ไหม เหล่าริปเปอร์?”
“ไม่มีปัญหา องค์ราชินี”
กองทัพริปเปอร์พุ่งเข้าใส่ศัตรูที่ตกตะลึงจากการโจมตีของเหล่าดิกเกอร์ มันฉีก กระชาก กัด และแทงศัตรูด้วยวิธีการต่างๆ แทบทุกวิถีทางที่สามารถทำได้ เหยื่อทุกรายของพวกมันต่างสิ้นลมหายใจในทันที
มันเป็นโศกนาฏกรรมเลือดสาด ตามความหมายที่แท้จริงและเรียบง่ายที่สุดของคำเหล่านั้น
คฤหาสน์ที่เคยหรูหราของแกงค์ลิซิซ่าต่างเต็มไปด้วยรูพรุนจากกองทัพดิกเกอร์ พร้อมทั้งการโจมตีจากเซริเนียนและกองทัพริปเปอร์ทำให้ผนังและพื้นกลายเป็นสีเลือดแดงเข้ม สภาพศพดูเกลื่อนกระจัดกระจายไปทั่วห้อง
ขณะที่ฉันมองดูภาพเหล่านั้น ฉันกลับไม่รู้สึกถึงอะไรเลย การมีศพเป็นเรื่องปกติในสนามรบ และเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีการหลั่งเลือด ไม่เว้นแม้แต่ในวิดีโอเกม สภาพศพก็ดูน่าขยะแขยงเหมือนกัน การสังหารหมู่ทำให้เกิดการนองเลือด ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ชัดเจน
“เฮ้! มีใครอยู่ไหม! ใครสักคน ใครก็ได้ฆ่ามอนสเตอร์พวกนั้น เร็วเข้า!”
หัวหน้าของแกงค์ลิซิซ่าร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะที่ ลูกน้องของเขาทั้งหมดเสียชีวิตหรือหนีไปจากคฤหาสน์หมดแล้ว เขาจะสิ้นหวังแค่ไหนที่ไม่มีใครมาช่วย ชะตากรรมของเขาถูกกำหนดไว้แล้ว
“จับตัวเขาไว้ เหล่าริปเปอร์” ฉันออกคำสั่งกับริปเปอร์
“พะยะค่ะ องค์ราชินี”
เหล็กไนมีพิษของเหล่าริปเปอร์เปล่งประกายแวววาวภายใต้แสงไฟ
“ไม่! อย่านะ! อย่าเข้ามา! ฉันยัง—” เหล็กไนของริปเปอร์แทงเข้าไปในตัวชายคนนั้น แม้ว่าเขาจะกรีดร้องอย่างสิ้นหวังก็ตาม
“อ้าก อ้ากกกก!”
เมื่อพิษถูกฉีดเข้าเส้นเลือด ร่างกายของเขาดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้น มีฟองพ่นออกมาจากปากจากนั้นจึงล้มลงและหมดสติไปในที่สุด พิษของเหล่าริปเปอร์นั้นไม่ถึงแก่ความตาย แต่สามารถสร้างความเสียหายได้มากพอที่จะทำให้ทุกข์ทรมานจากความเจ็บปวด และยังมีผลเป็นอัมพาตเล็กน้อย แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“เซริเนียน มัดตัวเขาไว้”
“พะยะค่ะ”
หลังจากนั้น เซริเนียนได้ห่อหัวหน้าแกงค์ด้วยสิ่งที่ดูเหมือนเส้นใยแมงมุมแล้วมัดเขาไว้
“เซริเนียน เหล่าริปเปอร์ ตามหาผู้รอดชีวิตในคฤหาสน์นี้กันเถอะ เซริเนียนอยู่ข้างๆฉันไว้”
“พะยะค่ะ”
ฉันไม่สามารถเสียเซริเนียนไปได้ ซึ่งเธอแข็งแกร่งขึ้นมากในช่วงเวลาที่เธออยู่ที่คฤหาสน์แห่งนี้ และฉันก็ผูกพันกับเหล่าริปเปอร์พวกนี้มากจนแม้แต่การตายของตัวเดียวก็ทำให้ฉันโกรธมาก ฉันไม่สนใจเลยว่าศัตรูของฉันจะตายกันเยอะแค่ไหน แต่ฉันจะไม่ยอมทนกับการบาดเจ็บเพียงครั้งเดียวที่เกิดขึ้นกับเหล่าอารัคเนของฉัน
ฉันแน่ใจว่านั่นทำให้ฉันรู้สึกเห็นแก่ตัวมาก แต่ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องปกติหรอ?
“เอาล่ะ เรารีบไปจากที่นี่ก่อนดีกว่า ก่อนที่ใครสังเกตเห็นถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ฉันจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น” ฉันพูดพลางหยิบเหล่าปรสิตออกมาจากกระเป๋า ฉันจ้องมองลงไปที่หัวหน้าของแกงค์ลิซิซ่า ซึ่งนอนแน่นิ่งอยู่ที่เท้าของฉันอย่างไม่รู้สึกตัว จากนั้นฉันก็ยัดเหล่าปรสิตเข้าไปในปากของเขา
———————————————————————-
เจ้าหน้าทีตรวจตราของลีนหรืออัศวินของลีนค้นพบการสังหารหมู่ที่คฤหาสน์ของแกงค์ลิซิซ่าในไม่ช้า สมาชิกแกงค์ลิซิซ่าหลายสิบคนถูกพบกลายศพ สภาพศพของพวกเขาถูกทำลายเละจนไม่สามารถระบุตัวตนได้ อัศวินหลายคนรู้สึกคลื่นไส้เมื่อเห็นภาพอันน่าสยดสยองเหล่านั้น
ผู้กระทำความผิดในคดีนี้ถูกพบตัวเกือบจะในทันที เขาเป็นหัวหน้าแกงค์ของลิซิซ่า เขาถูกพบว่านั่งอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์พร้อมกับดาบเปื้อนเลือดในมือ และเขาก็สารภาพอย่างเต็มใจว่าทุกอย่างเป็นฝีมือของเขา จากคำสารภาพนี้ อัศวินจึงเข้าจับกุมชายคนดังกล่าวโดยตั้งข้อหาฆาตกรรม และตัดสินโทษประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ
ศพที่ถูกทิ้งไว้เหล่าได้ถูกเผาตามปกติ แต่ในตอนแรกมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น นั่นคือจำนวนศพที่พบไม่ตรงกับจำนวนสมาชิกแกงค์ของลิซิซ่า อัศวินสรุปได้ว่ามีบางคนต้องสมคบคิดกันก่อเหตุฆาตกรรม แล้วหลบหนีไปหลังจากนั้น พวกเขาจึงตัดสินใจตามหาศพที่หายไป
ไม่ใช่ว่าการค้นหาของพวกเขาจะประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด
“งั้นเรามาขนศพกันต่อเถอะ เรามีศพอยู่ค่อนข้างเยอะ ดังนั้นวันนี้เราจะเพิ่มจำนวนเหล่าอารัคเนให้มากขึ้น”
ฉันยัดศพของแกงค์ลิซิซ่าที่ “หายตัวไป” ซึ่งถูกฆ่าตามคำสั่งของฉัน และถูกนำออกมาจากปากของเหล่าดิกเกอร์เข้าไปในเตาปฏิกรณ์
“วันนี้องค์ราชินีจะสร้างกองทับแบบไหน?” เซริเนียนถามขณะที่เธอกำลังยกศพเข้าเตาปฏิกรณ์
“อืมมม ฉันคิดว่าฉันคงต้องทำกองทัพริปเปอร์เพิ่ม…ต้องรีบแล้ว” ฉันตอบ
น่าจะมีวิธีที่ดีกว่าในการใส่ทีละศพเข้าเตาปฏิกรณ์ แต่คงต้องใช้แบบนี้ไปก่อนสำหรับตอนนี้
ฉันมีกองทัพริปเปอร์อยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่ยังไม่มากพอที่จะบุกโจมตีเมืองได้ เมื่อได้เป็นราชินีของอารัคเน ฉันจึงสัญญาว่าจะนำพาพวกมันไปสู่ชัยชนะ ดังนั้น ฉันจึงต้องจดจ่ออยู่กับชัยชนะนั้น
แต่เงื่อนไขสำหรับชัยชนะดังกล่าว รวมถึงศัตรูที่ฉันต้องเอาชนะเพื่ออ้างสิทธิ์นั้น ยังคงไม่ชัดเจนสำหรับฉันเหมือนเช่นเคย จนถึงตอนนี้ เราได้ต่อสู้กับพวกค้าทาส พวกลักลอบล่าสัตว์ และกลุ่มอาชญากรเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น ยังไม่มีประเทศหรือกลุ่มใดที่เราสามารถเอาชนะได้
คู่ต่อสู้ของเราเป็นใครกันแน่? เรายังคงปฏิบัติภารกิจสำคัญในการสอดส่องบริเวณโดยรอบอยู่ เหล่าริปเปอร์ได้กระจายตัวออกไปทั่วบริเวณเพื่อค้นหาข้อมูล เหล่าดิ๊กเกอร์ก็ขุดอุโมงใต้ดินไปเช่นกัน ตั้งใจแอบฟังบทสนทนาในเมืองและชุมชนตามที่ต่างๆ
ต้องขอบคุณความพยายามของพวกเขาที่ทำให้ฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับอาณาจักรมาลุกซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ฉันไม่ทราบว่าพวกเขาเป็นพวกไหน แต่ฉันก็พอจะเดาได้ว่าพวกเขาเป็นอาณาจักรที่ใหญ่พอสมควรในบริเวณใกล้เคียง
ทางทิศตะวันออกมีอีกประเทศหนึ่งคืออาณาจักรโป๊ปฟรานซ์ ซึ่งเป็นประเทศที่ยอมรับความแตกต่างทางศาสนาและไม่ยอมเสียสละสิ่งใด ๆ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ อาจเป็นฝ่ายที่สนับสนุนความดี แต่เมื่อพิจารณาว่าอารัคเนเป็นฝ่ายที่สนับสนุนความชั่วร้าย นั่นหมายความว่าในที่สุดเราอาจต้องเผชิญหน้ากับพวกเขา
ฉันยังไม่รู้อยู่เกี่ยวกับประเทศที่อยู่ทางเหนือและใต้ ดูเหมือนว่าจะมีประเทศต่างๆ อยู่ที่นั่น แต่ฉันยังไม่รู้ชื่อหรือวัฒนธรรมของพวกเขาเลย ในตอนแรก มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่เหล่าริปเปอร์ จะรับรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอื่นๆ มากนักระหว่างการสำรวจของพวกเขา ใครก็ตามที่เห็นพวกเขาจะคิดว่าพวกเขาเป็นมอนสเตอร์และจู่โจมพวกเขาในทันที
เหล่ากองทัพอารัคเนที่มีอยู่ในตอนนี้มีข้อเสียหลายประการ หากฉันปลดล็อกยูนิตใหม่ในระดับสูงกว่าได้ ฉันก็สามารถสร้างเหล่าอารัคเนที่สามารถอาศัยอยู่กับชาวเมืองเพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวสารได้ น่าเสียดายที่ฉันต้องการทรัพยากรมากกว่านี้มากสำหรับสิ่งนั้น
จากแผนที่ของพวกค้าทาส ฉันพบว่าฐานของเราและป่าของพวกเอลฟ์อยู่ที่ใจกลางทวีป หลังจากที่รู้เรื่องนี้มันทำให้ฉันรู้สึกท้อแท้มาก เพราะนั่นหมายความว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่เสียเปรียบโดยพื้นฐาน เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยศัตรูที่เป็นไปได้ทุกทิศทุกทาง
“ฉันควรทำอย่างไรต่อไปดีนะ…ฉันครุ่นคิด”
เราไม่มีศัตรูที่ชัดเจนพอที่จะต้องต่อสู้และไม่มีเงื่อนไขชัยชนะที่ชัดเจน ดังนั้น ในตอนนี้ ฉันจึงสร้างกองกำลังของฉันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตี
อย่างไรก็ตาม ฉันจะได้รู้ในไม่อีกไม่ช้า หลังจากที่ศัตรูเข้ามาโจมตีเราก่อน
ขอขอบคุณสำหรับการติดตามผลงานแปลด้วยนะคะ พอดียังเป็นมือใหม่อยู่ อาจะมีติดขัดบ้างบางประโยค ถ้าประโยคไหนอ่านแล้วรู้สึกแปลกๆสามารถบอกได้เลยนะ
MANGA DISCUSSION