“เอ่อ…ผมไม่ได้ตั้งใจจะยุ่งเกี่ยวหรอกนะครับ แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้มันก็อดคิดไม่ได้จริงๆ ช่วยบอกผมได้มั้ยครับ? ไม่งั้นกลับไปก็คงนอนไม่หลับแน่ๆ”
แม้คุณย่าคนนั้นจะพูดเอาแต่ใจอย่างออกรส แต่ทั้งท่านประมุขและท่านเซอุนต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพูดถึงเรื่อง ‘เครื่องสังเวย’ พวกเขาคงไม่อยากให้เขา—ยูระ นัตสึกิ—ได้ยินเรื่องนี้มากนัก
แต่ในเมื่อรู้สึกแปลกๆ ขนาดนี้ นัตสึกิก็เริ่มคิดว่า ถ้าอีกฝ่ายถูกเทพจอมปลอมหลอกอยู่จริงๆ ล่ะก็ อาจจะช่วยเหลือไว้แล้วถือเป็นการ “ติดหนี้บุญคุณ” ก็ได้เหมือนกัน
“…ถ้าท่านรับปากว่าจะเก็บไว้เป็นความลับ ก็จะเล่าให้ฟัง”
“แน่นอนครับ”
เพราะถ้าปิดบังแล้วนัตสึกิเกิดสงสัยขึ้นมา อาจยิ่งยุ่งยากกว่าเดิม ท่านประมุขจึงเลือกที่จะเปิดเผยอย่างมีเหตุผล
ก่อนจะเริ่มเล่า ก็เหลือบมองไปทางมิโอะเล็กน้อย
“ตระกูลมินาซึกิบูชาเทพประจำถิ่นผู้ปกครองธาตุน้ำมาตั้งแต่โบราณ และอาศัยพลังของท่านมาโดยตลอด”
“เอ่อ…ถามเผื่อไว้ก่อนนะครับ เทพของจริงหรือเปล่า?”
“แน่นอน”
คำตอบจากคายะชัดเจนและหนักแน่น
นัตสึกิแอบลองสัมผัสพลังของตระกูลมินาซึกิเล็กน้อย
บางจุดมีผนึกหรือข่ายอาคมขวางกั้นไว้จึงมองไม่ทะลุ แต่กลับไม่รู้สึกถึงพลังแบบเดียวกับโคอุเมะเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม กลับสัมผัสได้ถึงร่องรอยของพลังที่เลือนลางอยู่เล็กน้อยแทน
“เทพประจำถิ่นตนนั้นช่วยเหลือผู้คนมากมาย แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่หนักหนา จนเทพองค์นั้นปนเปื้อนและรักษาพลังของตนเองไว้ไม่ได้อีกต่อไป”
“ก็เลยต้องใช้การบูชายัญงั้นเหรอครับ?”
“…ใช่ ที่ผ่านมาเคยมีการบูชายัญถึงห้าครั้ง และแม้จะดูเป็นเรื่องเหลวไหลในยุคสมัยนี้ แต่มิโอะก็ถูกเลือกในครั้งนี้”
(บูชายัญไปตั้งห้ารอบเนี่ยนะ… โดนหลอกใช้ชัดๆ รึเปล่า? หรือว่าแบบ ได้พลังคืนแป๊บนึง แล้วก็โดนปนเปื้อนอีก ก็เลยต้องบูชายัญใหม่ วนลูปไปเรื่อยๆ?)
นัตสึกิเกือบจะหลุดพูดออกไปแล้วว่า “ทำไปก็เปล่าประโยชน์” แต่ก็กลืนคำพูดกลับเข้าไปได้ทัน
ต่อให้ไม่กลัวจะถูกโจมตี แต่การเป็นศัตรูกับเทพที่อีกฝ่ายบูชาเพราะพูดพล่อยๆ มันก็ไม่เข้าท่าสักเท่าไร เพราะหลังจากนั้นต้องจัดการเรื่องตามหลังให้หมดอีก น่ารำคาญสุดๆ
“แล้วทำไมต้องเป็นมิโอะซังล่ะครับ?”
“ก็เพราะนังเด็กนี่มันไร้ค่าไงล่ะ!”
“…คุณย่าฟื้นแล้วแถมยังเสียงดีอีกด้วยนะครับ ทำเอาผมตกใจเลย”
คุณย่าคนเดิมลุกขึ้นมาอีกครั้ง พร้อมทั้งชี้นิ้วใส่มิโอะอย่างเอาเป็นเอาตาย
“เด็กนี่นะ! พ่อก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร มาจากไหนก็ไม่รู้! ถึงแม่จะเป็นคายะก็เถอะ แต่เลือดครึ่งหนึ่งก็เป็นปริศนา! ก็ไม่แปลกหรอกที่พลังวิญญาณกับพรสวรรค์จะด้อยกว่ามิยาโกะทุกด้าน! ก็เลยเป็นได้แค่เครื่องสังเวยน่ะสิ!”
(…พูดเหมือนตาบอดอยู่เลยนะเนี่ย! ดูยังไงมิโอะซังก็มีพลังแฝงมากกว่าชัดๆ …เดี๋ยวนะ หรือว่า…)
“ผมก็ไม่คิดจะยุ่งเรื่องในครอบครัวหรอกนะครับ”
“รู้ไว้ก็ดีแล้ว!”
“แต่ว่านะครับ~”
“อะไรอีกล่ะ!”
“สรุปแล้วก็คือ เพราะเห็นว่ามิโอะซังไม่มีค่าเลยยกไปถวายท่านเทพใช่มั้ยครับ?”
“แล้วไง! เรื่องของตระกูลมินาซึกิ ไม่เกี่ยวกับคนนอกอย่างแก!”
“ก็ใช่นะครับ แต่…คุณย่า ลองคิดในมุมของเทพดูบ้างสิครับ”
“คุณย่า…?”
ดูเหมือนจะสะอึกไปกับคำเรียก แต่สิ่งที่นัตสึกิพูดหลังจากนั้นกลับทำให้เธอชะงักยิ่งกว่า
“ลองคิดดูดีๆ นะครับ ถ้าจะบูชายัญ คิดว่าควรสังเวยคนที่ไร้ค่าให้จริงเหรอครับ?”
“…เธอหมายความว่าอย่างไร?”
“อ่า จริงสิ…เอางี้ดีกว่า ลองเปรียบกับข้าวสารสำหรับทำบุญก็ได้ครับ ข้าวที่เอาไปถวายศาลเจ้ามักจะเป็นข้าวดีๆ ใช่มั้ยล่ะครับ? จะมีใครกล้าเอาข้าวคุณภาพแย่ไปถวายมั้ยล่ะครับ?”
“…นั่นก็จริง”
“เพราะงั้นผมก็เลยคิดว่า เทพเจ้าก็คงเหมือนกัน ถ้าผมเป็นเทพแล้วมีคนเอาคนไร้ค่ามาถวาย ผมคงจะโกรธมากเลยล่ะ แถมจะสาปแช่งเจ็ดชั่วโคตรแน่นอน!”
“…อืมมม”
“ลองคิดในมุมเทพเจ้าดูนะครับคุณย่า ถ้ามีใครมายื่นเครื่องสังเวยให้ แล้วพูดว่า ‘นี่ไง คนไร้ค่า เอาไปเลย!’ คุณจะรู้สึกยังไงครับ? ไม่โกรธเหรอครับ? จะไม่เดือดสุดๆ เหรอครับ?”
“…ที่เธอพูดก็มีเหตุผลอยู่นะ”
(หาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!?)
แม้เป็นคนพูดเอง แต่นัตสึกิก็แทบจะร้องกรี๊ด
ไม่คิดเลยว่าคุณย่าจะฟังเขาจริงจังขนาดนั้น!
“จริงสินะ…ที่เจ้าเด็กนี่ก็พูดมีเหตุผลอยู่ ถ้าเครื่องสังเวยไร้ค่าแล้วจะมีประโยชน์อะไรล่ะ? ถ้าแค่ต้องการมนุษย์ก็ใช้ข้าแทนก็ได้ แต่ติดที่ต้องเป็นหญิงสาวนี่สิ ถ้าข้ายังสาวกว่านี้สักสิบปีล่ะก็…”
“คุณย่าน่ะอย่างน้อยต้องสาวกว่านี้สักห้าสิบปีนะครับ!”
“ไอ้เด็กเวร! ข้าน่ะหกสิบยังแจ๋วอยู่หรอกน่า!”
“…ขอโทษครับ! พอแค่นี้ก็ได้ครับ!”
“เด็กสมัยนี้นี่มัน! คายะ เอ๊ย! ท่านประมุข!”
“คะ…ค่ะ!? ท่านอุนไค!?”
แม้ท่านคายะจะตกใจกับท่าทีที่สงบลงอย่างรวดเร็วของคุณย่า แต่ที่ทำให้ตกใจยิ่งกว่าคือการที่คุณย่าดูเหมือนจะ… เข้าใจ คำพูดของนัตสึกิ
“ลองคิดดูอีกที มิโอะเองก็มีสายเลือดของประมุขเช่นกัน ถ้าเช่นนั้น…สังเวยมิยาโกะที่แข็งแกร่งกว่าแทนเพื่อยื้อเวลาให้การบูชายัญครั้งถัดไป ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าไม่ใช่หรือ?”
(คุณย่านี่มัน… จะยืดหยุ่นเกินไปแล้ววววววววววว!!! แค่จะลองแกล้งนิดเดียวเอง! ใครจะคิดว่าเรื่องมันจะพลิกกลับตาลปัตรแบบนี้ล่ะเนี่ย!? ฉันตามไม่ทันแล้วโว้ยยยยยยยยยย!!!) (TN: คุณย่านี่คนรึกิ้งก่า สีเปลี่ยนไวจัง)
MANGA DISCUSSION