ผมนอนหงายลอยตัวอยู่บนทะเล มองดูท้องฟ้าสีฟ้าสดใสที่ทอดยาวอยู่เหนือหัว
เสียงหัวเราะของครอบครัว คู่รัก และกลุ่มคนที่เป็นเพื่อนกันจากระยะไกลยังคงดังแว่วมาเป็นระยะ แต่รอบตัวผมนั้นเงียบสงบ
แต่ก็ใช่ว่าจะรู้สึกผ่อนคลายได้จริงๆ หรอก
“”…………””
ทำไมสองคนนี้ถึงได้จ้องมาทางผมแบบเงียบๆ กันล่ะ…?
มิซากิกำลังเกาะอยู่กับเรือยางลอยน้ำ ขณะที่ซูซุมิเนะซังก็ปล่อยตัวตามสบายบนห่วงยาง ลอยไปพร้อมกับจ้องมาทางผมไม่วางตา
พูดตามตรงมันก็รู้สึกอึดอัดน่ะนะ
“มีอะไรกันรึเปล่า?”
เพราะไม่ชอบโดนจ้องนานๆ ผมเลยเป็นฝ่ายเอ่ยปากก่อน
“เปล่าหรอก แค่มองเฉยๆ”
“อืม ก็มองเฉยๆ น่ะแหละ”
คือแบบว่า… จ้องแบบไม่มีเหตุผลนี่มันลำบากใจนะ
ผู้ชายคนหนึ่งแค่นอนลอยน้ำเฉยๆ มันจะมีอะไรให้น่าสนใจนักหนาเนี่ย…
“ว่าแต่ มาเที่ยวทะเลนี่เขาเล่นอะไรกันเหรอ?”
ดูท่าว่าถ้าปล่อยไว้แบบนี้ สองคนนี้ก็จะมองผมไปเรื่อยๆ ไม่หยุดแน่ ผมเลยพยายามที่จะเปลี่ยนเรื่อง
“หืม… ไม่เคยเล่นทะเลมาก่อนเหรอ?”
มิซากิทำหน้าเหวออย่างแปลกใจแล้วถามกลับมา
คงไม่ได้มีเจตนาอะไรแฝง แค่อยากรู้เฉยๆ
“เคยไปเมื่อนานมาแล้วล่ะ แต่ตอนนั้นยังเด็กมากเลยจำอะไรไม่ค่อยได้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย”
ตอนพ่อยังอยู่ พ่อเคยพาไปเที่ยวทะเลอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้ไปทุกปี และช่วงนั้นผมยังอยู่แค่ประถมต้นเอง
ดูเหมือนพ่อจะไม่ใช่คนที่ชอบทะเลสักเท่าไหร่
ยิ่งหลังจากพ่อเสียไป แม่ก็ต้องทำงานหนักขึ้น ผมเองก็ต้องดูแลโคโคอะ เลยไม่มีโอกาสได้ไปทะเลอีกเลย
ครั้งสุดท้ายที่ไปทะเลก็คงเป็นตอนเข้าค่ายทะเลตอนป.5 แต่นั่นก็ไม่ได้ลงไปเล่นน้ำด้วยซ้ำ นั่นอาจจะไม่นับละมั้ง
“คนที่ไม่เคยเล่นก็คือไม่เคยเล่นนั่นแหละ”
“โอ๊ย…!?”
ซูซุมิเนะซังขยับเข้าไปใกล้มิซากิแล้วดีดหน้าผากเธอเข้าให้หนึ่งที
มิซากิเลยยกมือกุมหน้าผาก น้ำตาคลอ และมองเธออย่างเคืองๆ
เดาว่าเธอคงจะหมายถึงให้มิซากิชวนคุยเรื่องอื่นแทน
เพราะดูเหมือนซูซุมิเนะซังจะรู้เรื่องครอบครัวของผมดีเกินไปด้วยแหละ คงเลยเข้าใจว่าไม่ควรไปแตะต้องเรื่องนี้
“ถ้าจะเล่นทะเลล่ะก็ ที่ฮิตๆ ก็มีพวกเซิร์ฟบอร์ดล่ะนะ แต่ถ้าไม่มีคลื่นก็เล่นไม่ได้อยู่ดี แม้ว่ามีคลื่นฉันก็เล่นไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ”
“จะพูดออกไปด้วยสีหน้าภาคภูมิใจทำไมกัน?”
เธอตอบอย่างมั่นใจเต็มเปี่ยมแถมยังทำหน้าตาแบบภูมิใจสุดๆ อีก
เข้าใจว่าอยากเปลี่ยนบรรยากาศให้มันดูผ่อนคลายขึ้นนะ แต่เธอเป็นคนแบบนี้เหรอเนี่ย…?
“เอาจริงๆ นะ ถึงถามพวกเราก็เปล่าประโยชน์ เพราะพวกเราไม่เคยได้มาเที่ยวทะเลกันเลย”
คำถามของผมโดนเมินอย่างสง่างามก่อนที่ซูซุมิเนะซังจะพึมพำด้วยน้ำเสียงเคืองๆ ปนอยู่นิดหน่อย
ในกรณีของเธอ เธอคงอยากจะมาเที่ยวทะเลอยู่แล้วล่ะ แต่ไม่มีโอกาสที่จะมา
“โดนคนเข้ามาจีบเยอะขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“แค่เดินผ่าน ก็มีคนเข้ามาชวนคุยแล้วล่ะ”
“อืม… ก็ดูลำบากอยู่เนอะ…”
มิซากิหัวเราะแห้งๆ อย่างลำบากใจ พลางพยักหน้าเห็นด้วยกับซูซุมิเนะซัง
แสดงว่ามีคนเข้ามาชวนเธอคุยอยู่บ่อยๆ แน่ ถึงแม้เธอจะไม่ได้มาเที่ยวทะเลตั้งแต่สมัยมัธยมต้นก็เถอะ
ก็ไม่แปลกหรอก บางทีพวกผู้ชายคงเห็นแววว่าทั้งคู่ต้องกลายเป็นสาวสวยในอนาคตแน่ๆ ก็เลยอยากเข้ามาตีสนิทไว้ก่อนก็ได้
“เพราะงั้นฉันก็ต้องขอบคุณชิราอิคุงล่ะนะที่มาด้วยกันแบบนี้ เลยยังไม่มีผู้ชายคนไหนกล้าเข้ามาทักเลย”
ซูซุมิเนะซังหันมายิ้มให้อย่างอบอุ่นเหมือนกับคนที่กำลังสบายใจ
เวลาอยู่นอกโรงเรียน เธอมักจะยิ้มแบบนี้ให้ผมมากกว่าทำหน้านิ่งๆ เย็นชาเหมือนที่โรงเรียน
เธอคงไว้ใจผมพอสมควรล่ะนะ ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ยอมมาเที่ยวทะเลด้วยกันแบบนี้หรือใส่ชุดว่ายน้ำมายืนอยู่ด้วยกันหรอก
แต่ก็อย่างว่า
ถึงจะไว้ใจกันขนาดนี้ ก็ไม่ได้แปลว่าจะมีความหมายในเชิงรักใคร่เสมอไป…
แบบว่า… มิซากิซังครับ…
ช่วยหยุดส่งสายตาแบบนั้นมาทีได้มั้ยครับ…?
ผมหันไปยิ้มแหยๆ ให้กับมิซากิที่กำลังพองแก้มเล็กๆ พลางมองมาด้วยสายตางอนๆ
ทั้งที่ผมก็อธิบายไปแล้วแท้ๆ ว่าเธอคิดมากเกินไป แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย
“เฮียวกะจัง… ไรโตะคุงเป็นแฟนของฉันนะ…?”
“มิซากิ… เธอขี้หวงเกินไปแล้วนะ…?”
ซูซุมิเนะซังหันไปมองมิซากิด้วยสายตาเอือมๆ เธอคงเริ่มทนสายตาจับผิดของมิซากิไม่ไหวแล้วล่ะ
ตอนแรกเธอมั่นใจเต็มร้อยว่าผมกับมิซากิไม่ได้เป็นแฟนกันจริงๆ
แต่พอมาเจอพฤติกรรมของมิซากิที่หวงหนักราวกับเป็นแฟนตัวจริง
มันก็ทำให้เธอเริ่มลังเลว่าหรือจริงๆ แล้วพวกเราคบกันอยู่จริงๆ
จะว่าไปก็ไม่แปลกใจถ้าความมั่นใจของเธอจะเริ่มสั่นคลอน
พอคิดดีๆ แล้ว มิซากิอาจจะไม่ได้หึงหวงเพราะเรื่องความรักก็ได้
เธอเป็นคนจริงจังและอาจมองว่าการทำตัวไม่ซื่อสัตย์ต่อสถานะแฟนปลอมๆ เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้
หรือไม่ก็แค่ไม่อยากเสียคนที่คอยปกป้องเธอไปเฉยๆ เท่านั้นเอง
“ก็เฮียวกะจังน่ารักขนาดนี้นี่นา… จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงล่ะ…!”
“ถ้าเขาสนใจฉันจริงๆ ก็คงแสดงออกมาตั้งนานแล้วล่ะ”
“ก็ไม่แน่ว่านี่แหละคือจังหวะที่เขาอาจจะเริ่มสนใจเธอก็ได้…!”
มิซากิเริ่มขึ้นเสียงอย่างจริงจัง คงเพราะกำลังหงุดหงิดอยู่จริงๆ นั่นแหละ
ก็เข้าใจได้นะ เพื่อนสมัยเด็กของตัวเองดันมีเสน่ห์ซะขนาดนี้ การที่มิซากิจะรู้สึกไม่สบายใจก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
เฮ้อ… จะเอายังไงกับสถานการณ์นี้ดีล่ะเนี่ย…
ถ้าผมเป็นแฟนของมิซากิจริงๆ ล่ะก็…
บางทีผมควรจะให้คำสัญญาหรือหลักฐานอะไรสักอย่างเพื่อทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้น
แต่ผมก็ไม่คิดว่าจะต้องต้องทำถึงขนาดนั้น
ถ้าเธอบอกว่าผมเชื่อใจไม่ได้ มันก็ช่วยไม่ได้
อย่างน้อยผมก็พยายามที่จะอยู่เคียงข้างเธอแล้ว
แต่ในเมื่อมันเป็นความสัมพันธ์แบบปลอมๆ ต่อให้พยายามแค่ไหนก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้เธอมั่นใจได้หรอก
ถ้ามิซากิยังคงระแวงอยู่ ผมก็คงต้องยอมรับมันไว้แล้วค่อย ๆ อยู่ด้วยกันต่อไปโดยไม่คาดหวังว่าเธอจะเลิกสงสัยในเร็ววัน
ระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรแบบนั้นอย่างใจเย็น-
“รู้อยู่แล้วน่า ก็ฉันเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเขานี่นา”
ซูซุมิเนะซังก็ทิ้งระเบิดลูกโตใส่ผมกับมิซากิ
“……หา?”
MANGA DISCUSSION