แล้วเราก็มาถึงลานฝึกซ้อม
ฉันมาตรวจสอบว่าพวกอดีตอัศวินหลวงนั่น แอบปล่อยแนวคิดเพี้ยน ๆ ใส่กองทัพ “กองกำลังป้องกันฮังกาเรีย” ของฉันรึเปล่า…
“ฟังให้ดี เจ้าพวกอดีตอัศวิน! ทุกเช้าให้ก้มศีรษะไปทางที่พักของคุณหนูเรย์เต้
แล้วกล่าวว่า ‘อรุณสวัสดิครับ ท่านเรย์เต้!’
ขณะรับประทานอาหาร ให้ร้องว่า ‘ขอขอบคุณสำหรับพรแห่งเรย์เต้ซามะ!’
และหากได้เห็นตัวจริงของท่าน—ให้กล่าวอย่างสุดเสียงว่า ‘วันนี้ก็ยังงดงามเหมือนเคย!’”
“”“โอ้วววววววว!!”””
อ้าวเห้ย!? ฝ่ายกองทัพของฉันต่างหากที่สอนอะไรเพี้ยน ๆ อยู่!?
“เฮ้ย ๆ ๆ ๆ พวกแกหยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“วะ—ว้อท!? ท่านเรย์เต้เสด็จมาถึงที่แห่งนี้แล้วรึ!? หรือว่าข้าน้อยตาฝาดไป!”
“ของจริงเว้ย!”
เฮ้อ…
พวกกองกำลังป้องกันนี่มันพวกขี้ประจบสุด ๆ ในบรรดาคนทั้งหมดเลย
ตกลงพวกแกกลัวฉันขนาดไหนกันเนี่ย!?
“อ๊ะ โทษทีนะไวซ์คุง ที่ต้องมาเห็นอะไรแบบนี้เข้า”
“ท่านเรย์เต้ วันนี้ก็ยังงดงามเหมือนเคย”
“อย่าโดนพวกมันล้างสมองนะเฟ้ย!!”
นายก็เชื่อคนง่ายเกินไปแล้วนะ…
“ช่างมันเถอะ… เอาเป็นว่า—โซเนียคุง อดีตรองหัวหน้าหน่วยอัศวิน มานี่หน่อยสิ”
ฉันเรียกหนุ่มล่ำสดใสที่กล้ามเป็นมัด ๆ ให้มาหา
ดูเหมือนจะสนิทกับไวซ์คุงดี และจากกลุ่มอัศวินที่ถูกจับมาขาย เขานี่แหละยศสูงสุด
“ครับผม! ท่านเรย์เต้ วันนี้ก็ยังงดงามเหมือนเคย!”
“โอ๊ย พอเลย! อย่าไปทำตามพวกนั้นสิ รายงานสถานการณ์มาได้แล้ว!”
อัศวินแห่งอาณาจักรเก่า กับไวซ์เจ้าชายที่ฉันเผลอซื้อมานั่นน่ะ
ข้อมูลของพวกเขาถูกปิดเป็นความลับจากสาธารณะอยู่
แต่เพราะเรื่องวุ่นวายในวันแรก คนในคฤหาสน์คงรู้กันหมดแล้ว…
ตอนนี้คนที่รู้ความจริงก็มีแค่พวกคนในคฤหาสน์
กับทหารของกองกำลังป้องกันที่ฉันฝากให้ดูแลเท่านั้น
คนรับใช้พวกนั้นก็ถูกฉันกำจุดอ่อนไว้หมด
ส่วนทหารก็รับเงินเดือนและสวัสดิการแบบจัดเต็ม
ตราบใดที่ยังมีเงินไหลไป ก็ไม่มีใครกล้าหักหลังฉันแน่นอน
“เข้าเรื่องเลยนะ โซเนียคุง
นายไม่ได้ไปยุยงพวกทหารให้เข้าร่วม ‘ปฏิวัติรอบสอง’ หรืออะไรแบบนั้นใช่ไหม?
แบบพูดประมาณว่า ‘มาสู้ไปด้วยกัน!’ น่ะ”
“แน่นอนว่าไม่ครับ ผมรู้ดีว่ามันเป็นเส้นทางที่อันตราย
ผมไม่มีทางดึงใครเข้ามาโดยไม่สมัครใจแน่ ๆ ครับ”
“อื้อ ดีแล้วล่ะ”
เฮ้อ… โล่งใจไปที
“แต่…”
ห้ะ………
“พวกทหารน่ะครับ…ไม่ได้ถูกชักชวนหรอก
พวกเขาน่ะเข้าร่วมด้วยความสมัครใจ ข อ ง ตั ว เ อ ง—”
จังหวะนั้นเอง เสียงคำรามดังกึกก้องก็ดังแทรกขึ้นมา
“GRRAAAARRRGGHHHHHH!!”
“ม-เมื่อกี้มันอะไรครับ!? ท่านเรย์เต้!?”
“ฟังจากเสียง…คงเป็นมอนสเตอร์แหละ”
“มะ มอนสเตอร์เหรอครับ!?”
โซเนียตกใจจนหน้าซีด—ทำไมถึงมีมอนสเตอร์ในอาณาเขต!?
ไวซ์ที่ยืนอยู่ข้างหลังก็ถามขึ้นว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
อ้อ จริงสิ ฉันยังไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้พวกเขารู้เลยนี่นา
“ฉันเก็บตาลุงแปลก ๆ มาคนนึง แล้วให้เขาวิจัยเรื่อง ‘ศาสตร์มอนสเตอร์’ น่ะ
ศึกษาเรื่องชีววิทยาของมอนสเตอร์ หาให้ได้ว่าจะขับไล่พวกมันยังไงให้มีประสิทธิภาพ หรือเอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้ไหมอะไรแบบนั้น”
เพราะงั้น เผื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้น
ฉันก็เลยให้ตั้งห้องทดลองติดกับศูนย์บัญชาการและลานฝึกของกองทัพ—ก็คือที่นี่แหละ
พอฉันอธิบายจบ โซเนียกับคนอื่นก็พยักหน้าเข้าใจทันที
“แต่ว่า… ศาสตร์มอนสเตอร์งั้นเหรอครับ?
นั่นเป็นวิชาต้องห้ามในเมืองหลวงเลยนะครับ”
“หือ งั้นเหรอ?”
…พูดแบบนี้แล้วนึกออกเลย
ลุงนั่นก็เคยบ่นอะไรทำนองนั้นเหมือนกัน
“ชนชั้นสูงในเมืองหลวงหลายคนเชื่อว่า
แค่สัมผัสกับมอนสเตอร์ก็ทำให้จิตวิญญาณแปดเปื้อนครับ
เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ยังมีนักวิจัยหนุ่มที่มีชื่อเสียงในหลายสาขา
ถูกขับไล่ออกจากเมืองหลวงเพราะไปศึกษาศาสตร์มอนสเตอร์เลยครับ”
“หืมม…
แปลว่าต่อให้ฉัน—ผู้ปกครองชายแดนที่ปกป้องแผ่นดินจากการบุกรุกของมอนสเตอร์—
เดินทางเข้าเมืองหลวง ก็ยังจะโดนดูถูกใช่ไหมล่ะ?”
“คือว่า…”
โซเนียพูดไม่ออก
แปลว่า “ใช่” นั่นแหละ
“ขออภัยครับ ท่านเรย์เต้
เพราะความพยายามของเหล่าขุนนางชายแดนทุกแห่ง
ตอนนี้พื้นที่ศูนย์กลางของอาณาจักรแทบไม่มีมอนสเตอร์หลงเหลืออยู่เลย
และนั่นแหละ ทำให้พวกชนชั้นสูงในเมืองหลวง—ที่ไม่เคยเห็นมอนสเตอร์กับตา—
หลงเชื่อในความเชื่องมงายอย่างน่าขันครับ”
โซเนียรีบบอกเสริมทันที “แน่นอนครับ ผมไม่ได้เชื่ออะไรแบบนั้น”
ไวซ์เองก็พยักหน้า “ฉันก็เหมือนกัน”
“‘แตะมอนสเตอร์แล้ววิญญาณจะมัวหมอง’?
งั้นพวกที่เสี่ยงชีวิตต่อสู้เพื่อปกป้องประชาชนล่ะ?—พวกเขาทุกคนคือสิ่งสกปรกงั้นเหรอ?
อย่ามาตลกน่า”
เขากำหมัดแน่น
“ฉันภูมิใจในพวกเขา
คนที่เดิมพันชีวิตเพื่อปกป้องประชาชน—
พวกเขาคือสมบัติล้ำค่าของอาณาจักรนี้ต่างหาก”
ได้ยินแบบนั้น เหล่าทหารที่อยู่รอบ ๆ ก็มองไวซ์ด้วยสายตาเปล่งประกาย
ไวซ์คุงอาจจะเป็นคนพูดน้อย ไม่ชอบยิ้ม
แต่เพราะแบบนั้นแหละ คำพูดของเขาถึงฟังแล้วจริงใจยิ่งกว่าใคร
สำหรับพวกผู้ชายด้วยกัน… มันสื่อถึงกันได้โดยไม่ต้องอธิบาย
“เอาล่ะ งั้นเราไปดูห้องทดลองข้าง ๆ กันเถอะ”
ก็ได้ยินเสียงคำรามกับเสียงประหลาด ๆ มาสักพักแล้ว
ถ้าเกิดเรื่องแปลกขึ้นมาจะได้รีบจัดการ
“ถ้ามอนสเตอร์ดันหลุดออกมาล่ะก็… (ฉัน) งานเข้าแน่!
(เพื่อความสงบสุขของฉัน) กองกำลังป้องกันฮังกาเรีย ออกปฏิบัติการได้~!”
““โอ้วววววววววววววววว!!”“
เหล่าทหารตอบรับอย่างฮึกเหิมสุด ๆ
ถึงพวกเขาจะเกลียดฉัน แต่พอได้ค่าแรงงาม ๆ ก็ฮึกเหิมกันสุด ๆ ล่ะนะ
“โซเนียคุง พวกนายก็ตามมาด้วยล่ะ!”
“รับทราบครับ! ว่าแต่… เรื่องที่พูดค้างไว้เมื่อกี้—”
เรื่องเมื่อกี้? อ๋อ ใช่—เรื่องที่โซเนียคุงกับพวกอาจจะชวนทหารเข้าร่วม ‘ปฏิวัติรอบสอง’ นั่นแหละ
ฉันฟังอยู่นะ ดีแล้วล่ะที่ดูเหมือนจะไม่ได้ชวนใคร
“ขอแค่เข้าใจเรื่องนั้นก็พอแล้ว
ถ้าจะหาคนเข้าร่วมล่ะก็ ต้องแน่ใจว่าเขาเห็นด้วยจากใจจริง
แล้วก็ต้องปิดเรื่องนี้ไม่ให้เมืองหลวงรู้เด็ดขาด”
“ขะ-เข้าใจแล้วครับ!”
โซเนียพยักหน้าด้วยสีหน้าปลื้มปริ่มสุด ๆ
พูดตรง ๆ ฉันน่ะคิดว่า “อย่าแม้แต่จะคิดปฏิวัติเลยนะ! ถ้าฉันโดนลูกหลงขึ้นมาจะทำยังไง!?”
แต่ถ้าพูดแบบนั้นออกไปล่ะก็ พวกนี้ต้องโวยว่า “งั้นเธอเข้าข้างรัฐบาลใหม่ใช่มั้ย!? ตายซะ! จงรับบทลงโทษจากสวรรค์!!” แน่ ๆ
เพราะงั้นเอาเป็นว่า… แกล้งเห็นด้วยไปก่อนละกัน
ตราบใดที่พวกเขาไม่บังคับใคร
ก็ไม่มีใครหรอกที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยงกับเรื่องบ้า ๆ พวกนั้น
แปลว่า—ฉันชนะแล้วล่ะ
“อุฟุๆ~ งั้นก็…พยายามเข้านะจ๊ะ”
เมื่อวานพวกคนใช้ก็พากันประจบแบบ “เมื่อโค่นบัลลังก์ได้ ท่านเรย์เต้ต้องได้เป็นราชวงศ์!” อะไรทำนองนั้น
แต่ก็แค่คำพูดเล่น ๆ จากพวกที่ไม่มีวันแตะสนามรบนั่นแหละ
พอถึงเวลาจริง ไม่มีใครเอาชีวิตมาเสี่ยงหรอก
เพราะงั้น…
“ไม่ต้องห่วงนะ ฉันจะอยู่ข้างพวกนายเอง”
“อึกกกก!?”
ในเมื่อพวกนี้ไม่มีทางปฏิวัติสำเร็จอยู่แล้ว
ฉันก็แกล้งพูดปลอบ ๆ ให้พวกเขาชื่นใจเล่นหน่อยก็แล้วกัน!
“เจ้าชายลำดับที่สองที่ยึดอำนาจผ่านการปฏิวัติ—เป็นศัตรูที่ให้อภัยไม่ได้สำหรับเรย์เต้ ฮังกาเรียผู้นี้เช่นกัน
แต่ตอนนี้กำลังรบยังไม่พร้อม ควรทุ่มเทให้กับการสะสมพลังเสียก่อน”
“เข้าใจแล้วครับ!! เหล่านักรบทุกคนขอขอบพระคุณท่านจากใจ!!”
พวกเขาตะโกนคำขอบคุณแบบหลุดโลก ส่วนฉันก็ฟังคำไร้สาระพวกนั้นด้วยรอยยิ้ม…แบบคนที่กำลังสงสารอยู่ลึก ๆ
น่าเสียดายจังเลยนะคะ… ‘เหล่านักรบแห่งการปฏิวัติครั้งที่สอง’ ของพวกเขา
คงไม่เพิ่มจากสามสิบคนแรกแน่
แบบนั้นจะไปเปิดศึกได้ยังไงล่ะ? ฮ่าๆ แผนสำเร็จ!
“ท่านเรย์เต้จงเจริญ!! พวกเราร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวกับท่านแล้ว!!”
“จ้า ๆ เอาตามสบายเลยค่าา~”
โอ๊—โฮะโฮะโฮะ! หลอกพวกอัศวินได้หมดกองแบบนี้… เรย์เต้จังช่างชั่วร้ายจริงๆ!!!!
===========================================================
เรย์เต้จัง (หือ? เมื่อกี้โซเนียจังเหมือนจะพูดอะไรต่อรึเปล่านะ…?)
โซเนียคุงกล้ามโต: (ว่าแล้ว! ท่านเรย์เต้เองก็ต้องการให้มีการปฏิวัติจริง ๆ ด้วย!พวกเราใจตรงกันจริง ๆ ด้วย!!)
※ คนละทาง คนละดาว คนละจักรวาลเลยค่ะ
MANGA DISCUSSION