「งั้นก็! เมื่อวานนี้ขอโทษที่ทำให้เดือดร้อนนะ! เพราะงั้นฉันเลยทำมาเยอะเลย! กินให้อิ่มนะ! ชนแก้ว!」
「「「ชนแก้วววววววววววว!!」」」
สมาชิกทั้งสี่ของ 〈หมาป่าทะยาน〉 รวมตัวกันที่มุมหนึ่งของโรงอาหารในโรงแรม 〈ต้นกาฝาก〉 และเริ่มงานเลี้ยงอาหารค่ำ บนโต๊ะมีอาหารที่เรนกะยืมห้องครัวทำมาวางเรียงราย เมื่อสิ้นเสียงชนแก้ว ทุกคนก็เริ่มกินกัน
「อาหารของเรนกะอร่อยจริงๆ ด้วย! ซุปก็รสชาติเหมือนของบ้านเกิดพวกเราเลย นานๆ ทีก็อยากกินมากๆ เลยนะ~」
「เวลาไปผจญภัยก็ไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารประเภทสตูว์เลยนะคะ…เรนกะจัง อร่อยจังเลยค่ะ~」
「อื้อ ดีจังเลย กินไปเยอะๆ เลยนะ ขอเบียร์เพิ่มด้วย!」
「ค่าาาาา มาแล้วค่าาาา!」
อัลวินเริ่มกินอย่างตะกละตะกลาม มีริสก็ค่อยๆ ตักซุปเข้าปาก ซุปบ้านเกิดเป็นของโปรดของทั้งสองคน เรนกะจึงทำมาเผื่อเยอะกว่าปกติ
เรนกะเองก็กินอาหารพลางสั่งเบียร์เพิ่ม เสียงตอบรับดังขึ้น แล้วสาวน้อยเจ้าของโรงแรมก็เอาเบียร์เอลมาเพิ่มและเปลี่ยนแก้วเปล่ากลับไป
「อืม…อร่อยจริงๆ นะ เรนกะทำอาหารเก่งจังเลย ความสุกของเนื้อก็เป๊ะ ซอสก็ถูกปากเลย」
「ดีใจที่ถูกปากนะ」
ชินจิที่กำลังหั่นสเต๊ก เป็นชิ้นเล็กๆ เข้าปากก็ยิ้มเช่นกัน เมื่อเห็นท่าทางนั้น เรนกะก็พยักหน้าอย่างพอใจ คำชมที่ตรงไปตรงมาจากชินจิทำให้เธอรู้สึกดีใจจริงๆ
「แต่ว่า พอเป็นแบบนี้พวกเราก็ขึ้นเป็นระดับกลางขั้นสูงแล้วสิ…อยากจะขึ้นเป็นระดับสูงเร็วๆ จังเลยนะ」
「โธ่ อัลคุง ใจร้อนไปแล้วนะ เพิ่งขึ้นมาเมื่อวานนี้เองไม่ใช่เหรอ?」
อัลวินที่เริ่มเมาถูกมีริสตำหนิ อัลวินทำหน้าบึ้งไม่พอใจ เรนกะและชินจิก็หัวเราะแห้งๆ
「ระดับสูงมันต่างกันลิบลับเลยนะ ใจร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก ทำไปเรื่อยๆ ตามปกติเดี๋ยวก็ขึ้นเองแหละ」
「อะไรกัน ฉันว่าพวกเรามีความสามารถในระดับต่ำสุด ของระดับสูงแล้วนะ ถ้าไม่ประมาทแล้วค่อยๆ ไปก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ」
เมื่อชินจิพูดพลางดื่มเบียร์เอล ทั้งสามคนก็มองชินจิพร้อมกัน อัลวินเอียงคอด้วยความสงสัยในคำพูดของชินจิที่ดูเหมือนจะมั่นใจ
「ทำไมนายถึงรู้เรื่องแบบนั้นล่ะ?」
「หืม? เพราะปาร์ตี้เก่าของฉันเคยอยู่ระดับสูงขั้นต่ำน่ะสิ」
คำพูดที่น่าตกใจหลุดออกมาจากปากชินจิราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งสามคนเผลอร้อง “เอ๊ะะะะะ!” ชินจิทำหน้างง
「มีอะไรเหรอ? มันน่าตกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?」
「ตกใจสิ! ตอนชินจิเข้ามา พวกเรายังอยู่ระดับกลางขั้นต่ำเองนะ! ไม่คิดว่าจะมีปาร์ตี้ที่ดีกว่านี้อีกเหรอ?」
「ฉันรู้สึกเหมือนเข้าใจเหตุผลที่คุณชินจิถึงได้ดูสงบแล้วค่ะ…」
「นายคิดอะไรอยู่เนี่ย…จริงๆ เลย」
ชินจิหัวเราะพลางพูดต่อเมื่อเห็นปฏิกิริยาที่แตกต่างกันของทั้งสามคน
「ฉันก็ดูปาร์ตี้อื่นมาแล้วนะ ผลก็คือ 〈หมาป่าทะยาน〉 ดีที่สุดนั่นแหละ ฉันคิดว่าอัลวิน มีริส แล้วก็เรนกะเป็นคนที่มีพรสวรรค์มากๆ เลยนะ ตอนนั้นฉันไม่ได้ใช้ระดับเป็นเกณฑ์ในการเลือกน่ะ」
ชินจิกระดกเบียร์เอลลงไปจนหมดแล้วยกแก้วขึ้นร้องขอ “ขอเพิ่มด้วย~” ทั้งสามคนนั่งฟังชินจิอย่างว่าง่าย
「แล้วก็ สายตาของฉันก็ไม่ได้ผิดพลาดอะไรหรอกนะ อัลวิน มีริส แล้วก็เรนกะเป็นคนดีกันทุกคน บรรยากาศในปาร์ตี้ก็ดีด้วย ฉันอยากจะพยายามต่อไปด้วยดีแบบนี้แหละ…มีอะไรเหรอ?」
ชินจิปิดท้ายเรื่องด้วยใบหน้าที่ดูเขินอายผิดปกติ เมื่อพูดจบ ทั้งสามคนก็มองชินจิด้วยรอยยิ้มแปลกๆ อัลวินโอบไหล่ชินจิ
「ฉันก็ดีใจที่ได้นายเข้าร่วมนะชินจิ! เอาล่ะ! มาดื่มกันอีก! มี่กับเรนกะก็ดื่มด้วยนะ!」
「ต้องพอประมาณนะ อัลคุง」
「นานๆ ทีจะเป็นไรไป! ฉันก็จะดื่มเหมือนกัน!」
「แม้แต่เรนกะจังก็เอาด้วย~…คุณชินจิก็ช่วยห้ามหน่อยสิคะ~」
「ขอโทษนะ วันนี้ฉันอยู่ข้างอัลวินกับเรนกะ」
เมื่อชินจิปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจัง มีริสก็ดูเหมือนจะยอมแพ้ พึมพำว่า “ช่วยไม่ได้เลยนะ~” แล้วก็เลิกห้าม
เรื่องราวสมัยที่อัลวินและเพื่อนๆ ยังอยู่ในบ้านเกิด เรื่องเล่าในอดีตของชินจิ เรื่องราวไม่รู้จบ งานเลี้ยงดำเนินต่อไปจนหมดเวลา
「อัลคุงงงง…♡」
「………」
มีริสนอนฟุบหลับอยู่บนโต๊ะพลางละเมออยู่ข้างๆ เรนกะก็นอนแน่นิ่งไปแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นทั้งสองคนหมดสภาพ ชินจิก็เลิกดื่มกับอัลวิน
「วันนี้พอแค่นี้เถอะนะ อัลวิน」
「นั่นสิ~…อ่า~ ดื่มเยอะเลย~…สนุกจังเลยนะ」
「อืม สนุกมากเลยนะ ไว้ดื่มกันอีกนะ คราวหน้าเราไปดื่มกันข้างนอกแบบผู้ชายกันไหม?」
「นั่นก็ดีนะ!」
อัลวินยิ้มอย่างมีความสุข “ฮิฮิ” แล้วชินจิก็มองทั้งสองคนที่หลับไปพลางหัวเราะแห้งๆ
「ปลุกแล้วให้ไปที่ห้องดีเองไหมนะ ต้องเก็บกวาดด้วยนี่นา」
「จะปลุกก็สงสาร อุ้มไปเลยดีกว่า มี่ฉันจะอุ้มไปเองนะ เรนกะฝากด้วยได้ไหม?」
พูดจบอัลวินก็อุ้มมีริสที่หลับอยู่ ขึ้นบนหลังอย่างสบายๆ มีริสยังคงละเมอว่า “อัลคุงงง♡” ราวกับอยู่ในความฝัน
「ฉันรู้สึกไม่ดีเลยที่จะไปอุ้มโดยไม่ได้รับอนุญาต…」
「ไม่เป็นไรน่า แค่วางบนเตียงเอง เดี๋ยวพวกเราสองคนค่อยมาเก็บกวาดที่นี่กัน」
「เข้าใจแล้ว ถ้าโดนว่าอะไร ฝากช่วยแก้ต่างให้ด้วยนะ」
「โอ้ว!」
ชินจิใช้แขนโอบหลังและใต้เข่าของเรนกะแล้วอุ้มเธอขึ้นมา ในท่าอุ้มเจ้าหญิง ชินจิเดินตามหลังอัลวินที่นำหน้าไป
ด้วยแรงสั่นสะเทือนจากการเดิน เรนกะก็เริ่มรู้สึกตัวเล็กน้อย ใบหน้าของชินจิอยู่ใกล้ใบหน้าของเธอมาก ชินจิอุ้มเธอโดยไม่รู้สึกตัวอะไรเลย เรนกะก็ปล่อยตัวให้เขาอุ้มไปอย่างว่าง่าย เรนกะไม่รู้สึกรังเกียจเลย แต่กลับใจเต้นแรงด้วยความอบอุ่นของชินจิ
「ห้องเรนกะอยู่ทางนั้นนะ เดี๋ยวเจอกันนะ!」
อัลวินเดินไปที่หน้าห้องข้างๆ พลางเขย่าตัวมีริสพลางบอกว่า “มี่ เปิดห้องให้หน่อยสิ~” ชินจิก็พูดกับเรนกะที่อยู่ในอ้อมแขน
「เรนกะ มีกุญแจไหม? จะพาไปนอนบนเตียงนะ?」
「…อื้อ นี่…」
ชินจิหัวเราะแห้งๆ กับเรนกะที่ตอบกลับมาอย่างชัดเจนกว่าที่คิด
「ถ้าลุกไหว ก็ไปที่เตียงเองได้ไหม?」
ชินจิและเรนกะสบตากัน เรนกะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกอื่นใดจากสายตาของชินจิ นอกจากความเป็นห่วงเท่านั้น ทั้งที่เรนกะรู้สึกใจเต้นแรงมากจากการถูกชินจิอุ้ม แต่ชินจิกลับไม่รู้สึกตัวอะไรเลย เธอรู้สึกไม่พอใจมากอย่างประหลาด
「เปิดให้หน่อย…อุ้มไปแบบนี้แหละ」
ทั้งที่ลุกไหว แต่เธอกลับอ้อนวอนชินจิด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน หัวใจของเรนกะยิ่งเต้นแรงขึ้นไปอีก แต่ชินจิกลับพยักหน้าอย่างใจเย็นเท่านั้น เขาเปิดกุญแจ แล้วทั้งสองก็เข้าไปในห้องของเรนกะ
เมื่อเข้ามาในห้อง ชินจิก็ค่อยๆ อุ้มเรนกะไปที่เตียง ขณะที่เดินเขาก็ร่ายเวทมนตร์กระตุ้นอารมณ์ที่อ่อนๆ ใส่เรนกะด้วย
เรนกะเข้าใจผิดว่าความตื่นเต้นในใจของเธอนั้น เกิดจากความอ่อนโยนของชินจิที่คอยประคองเธอ และฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ทั้งที่ใบหน้าอยู่ใกล้กันขนาดนี้และเธอก็ตระหนักถึงชินจิ แต่ชินจิกลับเป็นปกติ ไม่แสดงอาการอะไรเลย
เรนกะถูกวางลงบนเตียง ชินจิค่อยๆ ปล่อยมือจากเรนกะ เขาไม่ได้ทำอะไรที่ไม่เหมาะสมเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เรนกะกลับคิดว่า “เสน่ห์ของฉันไม่พอหรือเปล่านะ?” ความคิดของเธอกลับวิ่งไปในทิศทางที่ยั่วยวนอย่างน่าประหลาด
เธอรู้สึกได้ถึงท่าทางที่ชินจิกำลังจะลุกขึ้น
เขาจะไม่ทำอะไรเลยจริงๆ เหรอ
ทำไมกันนะ มันถึงได้เจ็บปวดอย่างประหลาดแบบนี้
เรนกะใช้แขนทั้งสองข้างโอบรอบคอและศีรษะของชินจิอย่างกะทันหัน
เรนกะดึงชินจิเข้ามาแล้วจูบเขา
จูบแรกของเรนกะที่เพียงแค่แตะกันนั้น มีรสชาติของเหล้าเลมอนที่ชินจิดื่มเป็นแก้วสุดท้าย
MANGA DISCUSSION