“ว่าแต่… สรุปแล้วเธอมาที่นี่ครั้งล่าสุดเมื่อไหร่หรอ?”
“ตอนที่มาครั้งก่อนก็ตอนอยู่อนุบาลค่ะ เป็นครั้งแรกที่ได้ไปงานเทศกาล แถมยังได้ใส่ยูกาตะครั้งแรก… จำได้ดีเลยค่ะ เพราะตอนนั้นดีใจเกินเหตุเลย”
“อนุบาล… หรอ”
ในหัวของผมผุดเป็นภาพถ่ายตอนเด็กของรินที่ลิซ่าซังเอามาให้ดูเมื่อก่อนขึ้นมาทันที…
ถ้าเด็กที่น่ารักขนาดนั้นใส่ยูกาตะแล้ววิ่งเล่นอย่างร่าเริงล่ะก็… ต้องสะดุดตาแน่นอนเลยแฮะ~
ถึงตอนที่ผมเห็นจะเป็นรูปวันจบอนุบาลก็เถอะ…
เห็นแค่นั้นก็ยังต้องบอกว่า “เหมือนเทพธิดา” เลยนะ
ภาพเธอใส่ยูกาตะตอนนั้น… โอ้ย อยากเห็นชะมัดเลย
แต่ถึงจะอยากเห็น… ขอรินตรง ๆ ก็คงไม่ยอมให้ดูแน่ ๆ แหละ…
คราวที่แล้วก็อายจนแทบหายตัวเลย
ถ้าได้เจอลิซ่าซังอีกครั้ง… ลองขอดูดีมั้ยนะ?
แต่ก็คงต้องแลกกับ “เงื่อนไขบางอย่าง” แน่ ๆ… แค่คิดก็กลัวแล้ว…
“มีอะไรหรือเปล่าคะ โทวะคุง?”
“เปล่า… ไม่มีอะไร แค่คิดอะไรอยู่นิดหน่อยน่ะ”
“เรื่องที่ต้องคิด… หรอคะ?”
“อา… ก็เรื่องที่ค่อนข้างสำคัญน่ะ”
รินจ้องหน้าผมนิ่ง ๆ สักพัก แล้วก้มตา…
“งั้นเหรอคะ… งั้นเอาเป็นว่าคราวหน้าฉันจะบอกแม่ว่าอย่าเอารูปมาให้ดูนะคะ”
พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยไร้อารมณ์
บ้าเอ๊ย… ยัยเอสเปอร์นี่…
ทำไมถึงอ่านใจเก่งนักล่ะ…
“…ดูท่าทางจะโดนจับได้แฮะ รูปนั้นมันน่าอยากดูขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”
“เฮ้อ… ก็ไม่ได้ถึงขนาดนั้นหรอก แค่รู้สึกสนใจนิดหน่อย เหมือนเวลามองหมาน้อยหรือสัตว์ตัวเล็ก ๆ แล้วรู้สึกผ่อนคลายน่ะ…”
“ผ่อนคลาย… เหรอคะ?”
“ก็แบบ… น่ารัก ๆ แล้วดูแล้วรู้สึกดีน่ะ ใครจะไม่ชอบล่ะ จริงไหม?”
เวลาดูคลิปสัตว์น่ารัก ๆ นี่มันผ่อนคลายสุด ๆ ไปเลย
ไม่เหนื่อยสายตา แค่ดูเฉย ๆ ก็เพลินแล้ว
เมื่อก่อนไปดูหลังเลิกงานบ่อย ๆ แต่… เดี๋ยวนะ?
รู้สึกว่าช่วงนี้ไม่ค่อยได้ดูเลยแฮะ…
“…น่ารัก… แต่ถ้าเทียบกับสัตว์นี่… อืมมม แต่ก็บอกว่าน่ารัก… แถมไม่เกลียด… งั้นก็คือชอบทางอ้อมสินะ… เอะเฮะเฮะ ๆ ๆ”
เธอบ่นพึมพำอยู่คนเดียว สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาอย่างน่าสนใจ
ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ แต่ก็ตลกดีแฮะ
ปกติที่โรงเรียนไม่เคยเห็นแบบนี้เลย
หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย รินก็พยักหน้าเบา ๆ
“…เรื่องรูป เอาไว้พิจารณาก่อนก็แล้วกันค่ะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไรก็ได้นะ ถ้าไม่อยาก ฉันก็ไม่อยากฝืนใจเธอ”
“ไม่ใช่ว่าไม่อยากค่ะ… แค่อายเท่านั้นเอง…”
ทั้งที่ปกติรินไม่ค่อยอายเรื่องอื่นแท้ ๆ แต่ทำไมกับรูปตอนเด็กถึงอายขึ้นมาได้ล่ะ…
อืม…
ไม่เข้าใจเกณฑ์ของเธอเลยจริง ๆ
แต่เอาเถอะ อย่างน้อยไม่ฝืนใจก็พอ หยุดเรื่องนี้ไว้แค่นี้ละกัน
“ว่าแต่ ริน กลับมาเรื่องงานเทศกาลเมื่อกี้หน่อยสิ ครั้งนี้เธอมาครั้งที่สองสินะ? แล้วโดยปกติเราควรสนุกกับเทศกาลยังไงเหรอ? ฉันไม่เคยไปงานเทศกาลกับใครมาก่อนน่ะ”
“ก็… ฉันเองก็เพิ่งมาครั้งที่สองเหมือนกันค่ะ เลยอธิบายละเอียดไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็คงเดินดูแผงขายของ แล้วก็ปิดท้ายด้วยการดูดอกไม้ไฟค่ะ”
“โอ้… แล้วครั้งก่อนเธอก็ทำแบบนั้นเหรอ?”
“ค่ะ… เดินดูแผงขายของ กินสายไหม แอปเปิ้ลเคลือบน้ำตาล… แล้วก็เต้นบงโอโดริด้วยค่ะ ตอนนั้นโคโตเนะจังก็ไปด้วย”
“หรอ~ ฟูจิซังไปด้วยสินะ งั้นแสดงว่าเมื่อกี้ที่เธอดูเหม่อ ๆ ก็คงแค่นึกถึงความทรงจำเก่าใช่ไหม?”
“ก็มีส่วนค่ะ… แต่ที่จริงฉันนึกถึงตอนที่ร้องไห้ในงานเทศกาลมากกว่าค่ะ…”
“เอ่อ… อย่าบอกนะว่าเพราะหลงทาง?”
“ไม่ค่ะ… เพราะเกมตักปลาทองค่ะ”
ตักปลาทอง?
ผมเอียงคอสงสัย
เกมตักปลาทอง… ถึงจะไม่เคยเล่น แต่ก็นึกภาพได้ว่าร้านน่าจะฟาดกำไรเยอะจากการขายปลาราคาทุนไม่กี่สิบเยนในราคา 300 เยน…
แล้วไอ้ที่ตักนั่นก็ดูไม่น่าจะตักอะไรได้เลย
“ดูเหมือนจะยากเหมือนกันแฮะ สำหรับเด็กนี่ยิ่งควบคุมแรงไม่ถนัดด้วย”
“ใช่ค่ะ พอตักกี่ทีก็หนีไปหมด สุดท้ายก็ได้ปลาทองแถมมาหนึ่งตัว… แต่ตอนเด็กฉันรู้สึกเจ็บใจมากเลยค่ะ…”
“แล้วก็เลยร้องไห้เหรอ”
“ใช่ค่ะ… แล้วก็ยังเผลอบอกกับเจ้าของร้านไปว่า ‘ไม่เอา!’ ทั้งที่เขาให้มาอย่างใจดี… เสียดายมากเลยค่ะ น่าจะรับไว้ดี ๆ”
“ก็เป็นเด็กนี่นา ไม่แปลกหรอก”
“ก็จริงค่ะ… แต่พอหลังจากนั้นก็กลับบ้านเลย แล้วก็ไม่ได้ไปงานเทศกาลอีกเลยค่ะ… เพราะงั้นความทรงจำที่เด่นชัดที่สุดก็คือความเศร้ามากกว่าความสนุก…”
รินยิ้มอยู่ แต่ในแววตามีความเศร้า
สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเรื่องตอนเด็ก
เด็กก็คือเด็ก เอาแต่ใจ ร้องไห้ง่าย แล้วก็หัวดื้อ
เป็นเรื่องที่คนรอบข้างเข้าใจกันดีอยู่แล้ว
รินเองก็คงไม่ได้คิดมากนักหรอก
แต่พอกลับมาที่เดิม ความทรงจำก็ผุดขึ้นมาเอง
ทั้งเรื่องสนุก เรื่องเศร้า ความรู้สึกเสียใจ…
อดีตแก้ไขไม่ได้
แต่พอคิดถึง มันก็อดคิดตามไม่ได้
โดยเฉพาะเมื่อเป็น “งานเทศกาลเพียงครั้งเดียวในชีวิต” แบบนั้น…
งั้นก็——
“งั้นครั้งนี้เรามาลบภาพจำเก่า ๆ กันเถอะ สนุกให้เต็มที่เลยนะ”
ผมเอื้อมมือไปลูบหัวเธอเบา ๆ โดยไม่รู้ตัว
พอลูบหัว รินก็หลับตาอย่างสบายใจ
…แต่ผมก็เสียใจทันที
ทำไมผมถึงทำแบบนี้ล่ะ…
นี่มันเป็นสิ่งที่พวกอินโทรเวิร์ต ๆ ในห้องเรียนห้ามทำเด็ดขาดเลยนะ
เพราะการลูบหัวแบบนี้ มันเป็นสิทธิ์ของพวกหล่อเท่านั้น…
“ขอโทษ… เผลอไปหน่อย…”
ยังไม่ทันจะชักมือกลับ ก็โดนรินจับข้อมือไว้ แล้วเธอก็เอนหัวมาเหมือนจะบอกให้ลูบต่อ
“อย่าหยุดเลยค่ะ โทวะคุง… ขะ… ขออีกนิดนะคะ… ก็เพราะว่าโอกาสดี ๆ แบบนี้…”
เธอพูดด้วยแววตาอ้อน ๆ จนผมไม่กล้ามองตรง ๆ
“อ-อื้ม…”
“ขอบคุณนะคะ…”
ผมเลยลูบหัวเธอต่อไป… จนกว่าเธอจะพอใจ โดยพยายามไม่สบตาเธอเลยสักนิด
MANGA DISCUSSION