รินที่เพิ่งหน้าแดงไปเมื่อครู่ ตอนนี้กลับมาตั้งใจจัดโต๊ะอาหารตามปกติ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เธอเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วเหมือนเดิม แต่… หรือว่าผมคิดไปเองที่เห็นว่าปลายหูของเธอยังแดงอยู่นิด ๆ ?
ส่วนผมนั้นยังคงรู้สึกร้อนวูบวาบที่ใบหน้าอยู่เลย
ผมเลยไปนั่งอยู่หน้าพัดลม แล้วส่งเสียง “อาาาาาาาาาาาา” ใส่มันโดยไม่มีเหตุผล
จริง ๆ แล้วการทำแบบนี้ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรหรอก
แค่… ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นก็เท่านั้นเอง
สรุปก็คือ——กำลังหนีความจริง
ผมแค่พยายามปกปิดความเขินอายของตัวเองเท่านั้นแหละ
“โทวะคุง อาหารเสร็จแล้วค่ะ”
“อ๊า~……”
“พอได้แล้วค่ะ เลิกหนีความจริงแล้วมากินข้าวเถอะ”
“เธออ่านใจฉันออกเกินไปแล้วนะ…”
มถอนหายใจแล้วมองไปที่โต๊ะอาหาร
บนโต๊ะมีอาหารจัดเรียงไว้อย่างสวยงาม ส่งกลิ่นหอมยั่วยวนชวนให้อยากกิน
ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่อาหารที่หรูหราอะไร แต่กลิ่นหอมนั้นกลับทำให้กระเพาะของผมส่งเสียงประท้วงออกมาอย่างน่าสงสาร
“เก่งจังนะ ที่ทำอาหารออกมาได้ขนาดนี้…”
ผมรู้สึกทึ่งทุกครั้งที่เห็นฝีมือของริน
ปกติการคิดเมนูอาหารในแต่ละวันก็ว่ายากแล้ว แต่ไอเดียของเธอกลับไม่เคยหมดไปเลย
วันนี้เมนูหลักคือ “ปลาเรนโบว์เทราต์อบฟอยล์” เป็นอาหารญี่ปุ่นจานหนึ่ง
ได้ยินมาว่าตอนที่เธอไปซื้อของ พ่อค้าร้านปลาบอกว่ามีเหลืออยู่พอดีเลยยกให้เธอ
รินมักจะได้รับของแถมจากพ่อค้าแม่ค้าทุกครั้งที่ไปตลาด… ไม่แน่ว่าเธออาจจะเป็นเซเลบประจำตลาดไปแล้วก็ได้
…หรือไม่แน่อาจจะถูกขนานนามว่าเป็น ‘เทพธิดาแห่งตลาด’ อยู่ก็ได้แฮะ
ก็รูปร่างหน้าตาเธอสะดุดตาขนาดนั้น จะเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลกหรอก…
“โทวะคุง? มีอาหารที่คุณไม่ชอบรึเปล่าคะ?”
“หืม? เปล่านะ… ทำไมเหรอ?”
“คุณดูเหม่อ ๆ น่ะค่ะ…”
“อ้อ ขอโทษที แค่เผลอใจลอยไปนิดหน่อย”
“งั้นเหรอคะ ถ้าไม่มีอะไรที่ไม่ชอบก็ดีแล้ว… แต่ถ้ามีบอกได้นะคะ?”
“โอเค ๆ”
“ว่าแต่ ในโอกาสนี้ขอถามไว้หน่อยได้ไหมคะ? อาหารที่โทวะคุงไม่ชอบมีอะไรบ้าง? เผื่อฉันจะได้เอาไว้เป็นข้อมูลสำหรับครั้งหน้า”
“ข้อมูลสำหรับครั้งหน้า…?”
รินมองผมด้วยแววตาจริงจัง
อา… ท่าทางแบบนี้ คุ้น ๆ แฮะ…
ฉันนึกถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับรินก่อนหน้านี้
แล้วก็พอจะเดาได้เลยว่าหลังจากนี้มันจะเป็นยังไงต่อ…
รินเป็นคนที่จริงจังกับทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเรียน ดังนั้นกับเรื่องนี้เธอก็คงพยายามหาทางแก้ไขให้ได้เหมือนกัน
เช่น——
『การเลือกกินเป็นสิ่งที่ไม่ดี! อนาคตจะเปิดกว้างก็ต่อเมื่อเรากล้าลองสิ่งใหม่ ๆ!! กัดฟันแล้วกินเข้าไปซะ!』
อะไรแบบนี้…
ผมจินตนาการภาพรินที่ดูมุ่งมั่นผิดปกติขึ้นมาในหัว แล้วก็เผลอขำออกมา
ถึงจะเป็นภาพที่หาดูได้ยาก แต่ก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นจริงหรอกมั้ง…
ในขณะที่ผมคิดเรื่องพวกนี้อยู่ รินก็มองหน้าฉันนิ่ง ๆ ด้วยดวงตาใสซื่อ
“เอ่อ… ฉันทำอะไรแปลก ๆ รึเปล่าคะ?”
“ไม่หรอก”
“แล้วทำไมถึงหัวเราะล่ะคะ?”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่เดาสถานการณ์ต่อจากนี้เล่น ๆ แล้วมันตลกดี”
ผมเผลอขำอีกครั้งเมื่อคิดถึงภาพนั้นในหัว
รินมองผมแล้วพองแก้มขึ้นเล็กน้อย
“โทวะคุงต้องกำลังคิดอะไรแปลก ๆ อยู่แน่ ๆ เลยค่ะ”
“เธอไม่เชื่อใจฉันเลยแฮะ ทั้งที่ฉันก็พอมีเซนส์อ่านสถานการณ์อยู่นะ?”
“เฮ้อ…”
รินถอนหายใจ เธอทำท่าทางเหมือนทั้งเหนื่อยใจและปลง ๆ ไปพร้อมกัน
ให้ตายสิ… แทนที่จะเถียงกลับแบบนี้มันทำให้ฉันรู้สึกแย่กว่าเดิมอีกนะ…
“โอเค ๆ ถ้าไม่เชื่อใจฉัน งั้นเดี๋ยวฉันลองเดาความคิดของเธอให้ดูเอง”
“ไม่ได้คาดหวังอะไรหรอกนะคะ… แต่เชิญเลยค่ะ”
อืม… โดนตัดกำลังใจเต็ม ๆ เลยแฮะ…
“งั้นลองเดาแบบง่าย ๆ ก่อนละกัน… เธอคงจะบังคับให้ฉันกินอาหารที่ไม่ชอบเพื่อให้สารอาหารครบถ้วนใช่ไหม?”
“ผิดค่ะ”
——ผิดซะงั้น
แถมเธอปฏิเสธเร็วมากด้วย…
งั้นลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง
“แล้วเป็นแนวเกมลงโทษอะไรแบบนั้นรึเปล่า?”
“ไม่ใช่ค่ะ!”
“ผิดอีกเหรอ~”
“ฉันชักเริ่มเป็นห่วงแล้วนะคะว่าโทวะคุงคิดยังไงกับฉัน…”
“ถ้าฉันถูกมองว่าเป็นผู้หญิงจู้จี้ขี้บ่นขึ้นมาล่ะก็ ทำไงดีล่ะเนี่ย…”
รินพึมพำกับตัวเอง แล้วทำหน้าหงอยราวกับลูกสุนัขที่ทำของตกแตก
“แต่ว่า ยังไงซะ อาหารที่รินทำมันอร่อยทุกอย่างเลย ฉันคงกินได้หมดแหละ”
ผมรีบพูดแก้บรรยากาศ
ความจริงแล้ว อาหารที่รินทำมันอร่อยจริง ๆ
แม้แต่อาหารที่ผมไม่ค่อยชอบนัก พอเป็นฝีมือของเธอ ผมกลับกินได้โดยไม่รู้สึกอะไรเลย
…พอคิดแบบนี้แล้ว ก็แอบเขินเหมือนกันแฮะ…
รินดูดีใจมาก เธอยิ้มออกมาจนใบหน้าสดใส
“จริงเหรอคะ?”
“ไม่โกหกหรอก”
“ดีจัง~ ถ้าอย่างนั้น ฉันต้องพยายามทำอาหารให้อร่อยขึ้นอีกแล้วสิ!”
“งั้นฉันจะรอนะ”
“ไว้ใจได้เลย! ฉันจะทำให้ดีที่สุดไปตลอดเลยค่ะ!”
“อะ… อืม ขอบคุณนะ…”
คำว่า ‘ตลอด’ ของเธอดูเน้นเป็นพิเศษเลยแฮะ… แต่ช่างมันเถอะ
“ว่าแต่ รินอยากรู้เรื่องอาหารที่ฉันไม่ชอบไปทำไมเหรอ?”
“ก็เพราะว่า…”
“หืม?”
“เพราะอยากรู้เรื่องของโทวะคุงไงคะ”
“——!?”
คำพูดที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้ฉันพูดอะไรไม่ออก
บ้าเอ๊ย… อย่าพูดตรง ๆ แบบนี้สิ…
ผมได้แต่กัดริมฝีปาก พลางพยายามสงบสติอารมณ์
“เอ่อ… ฉันไม่ใช่คนที่น่าสนใจขนาดนั้นหรอกนะ?”
“นั่นฉันเป็นคนตัดสินเองค่ะ… เพราะฉะนั้น——”
รินนั่งลงตรงข้ามผม ยิ้มหวานพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองด้วยสายตาอ้อน ๆ
“จากนี้ไป……ช่วยสอนอะไรเกี่ยวกับตัวคุณให้ฉันฟังอีกเยอะ ๆ นะคะ?”
…ให้ตายเถอะ
ผมรีบยกแก้วชา ขึ้นจิบเพื่อซ่อนอาการสั่นของตัวเอง
ก่อนจะตอบกลับเบา ๆ ว่า——
“ถ้าเป็นเรื่องที่ฉันบอกได้… ก็คงไม่เป็นไรหรอก”
MANGA DISCUSSION