เรื่องราวบทที่ 2 เทพธิดากับไอโหลยโท่ยในวันหยุดฤดูร้อน
“วันนี้มาเราคุยเรื่องของลูกผู้ชายกันดีกว่าโทวะ!”
“แต่ตอนนี้ฉันกำลังทำงานพาร์ทไทม์อยู่นะ…”
ผมถอนหายใจให้กับรอยยิ้มที่สดใสของเคนอิจิที่ยิ้มข้ามเคาน์เตอร์มาให้ผม
โชคดีที่ตอนนี้คนในร้านน้อย และมีแค่เคนอิจิคนเดียวที่ยืนอยู่ข้างๆ ผม แต่… ก็ยังรู้สึกว่าเขามาในเวลาที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ตอนที่ผมกำลังทำงาน
“ทำไมล่ะ ก็นายผิดเองหนิ! ส่งข้อความไปแล้วไม่ตอบเลย!”
“ขอโทษ ฉันแค่ปฏิเสธมันไป”
“เฮ้ ทำไมมันรุนแรงกันขนาดนี้!?”
ผมไม่ได้ปฏิเสธอะไรมากหรอก
แค่
『โฮ่! ไต่เต้าขึ้นไปยังบันไดสู่ความเป็นผู้ใหญ่ถึงไหนแล้วล่ะ? ถึงทำไม่ได้เหมือนคนอื่นแต่ก็ควรจะพัฒนาบ้างนะ? เอาล่ะ มารายงานผลให้หน่อยสิ พวกเราเป็นเพื่อนกันนะ มาพูดคุยเรื่องหื่นๆ กันเถอะ!!』
ผมลบทิ้งไปทันทีหลังจากที่เห็นข้อความนี้ได้ไม่ถึง 2 วิ
เป็นข้อความที่น่าเบื่อสุดๆ
“แล้วเมื่อวันก่อนเป็นยังไงบ้าง? เดตของนายน่ะ”
“จะรับอะไรดีครับ?”
“เฮ้ ฉันอยากเห็นโทวะเป็นผู้ใหญ่ขึ้นนะ”
“สั่งอะไรหน่อยเถอะ อย่างน้อยมันก็ช่วยเพิ่มยอดขายนะ”
“เอาเถอะ โทวะแนะนำอะไรมาฉันกินได้หมดแหละ”
“โอเคครับ ถ้างั้นคุณต้องการ เราขอแนะนำ ‘ชุดพิเศษสำหรับผู้ใหญ่’ นะครับ ราคาสองพันเยน”
“สองพัน!? โอเค เอาเถอะ”
“มันเป็นเมนูพิเศษของร้านเรานะครับ”
“ก็ยังจะซื้ออยู่ดี… แต่ขอสักหน่อยเถอะ”
เคนอิจิยอมจ่ายสองพันเยนโดยไม่ถามมากและเดินไปเอาชุดอาหารที่ผมคิดว่าคงจะเกินความสามารถในการกินของเขา… นั่นมันเยอะเกินไปนะ
เอาจริงๆ คือเขากินหมดไหมนะ?
◇◇◇
ถึงเวลาพักแล้ว ผมเดินไปหาเคนอิจิที่นั่งอยู่ที่โต๊ะของเขา
ทันทีที่เขาเห็นผม เขาก็ยิ้มให้ผมอย่างสดใส
ถ้าผมเป็นผู้หญิงคงตกหลุมรักแค่รอยยิ้มนี้ไปแล้วล่ะ
แต่น่าแปลกที่เคนอิจิดูนั้นมีออร่าเหมือนคนดัง หรือไอดอลที่โดดเด่นกว่าใคร
มันรู้สึกเหมือนกับอยู่ในบรรยากาศของโลกคนรักมากกว่าวัยรุ่นทั่วไป
“โอ้! พักแล้วเหรอ? มาเร็ว ๆ เลย!”
เคนอิจิเรียกผมไปที่โต๊ะ เขาวางกระดาษห่อเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดที่เหลืออยู่บนโต๊ะ
แต่… ชุดพิเศษที่ผมเสิร์ฟให้เขาไปมันหายไปไหน?
“เคนอิจิ นี่นายกินหมดจริงๆ เหรอ?”
“วัยรุ่นมันยังต้องเจริญเติบโตอีกมากนะ ที่สั่งมามันแค่นี้เอง!”
“นายกินมากเกินไปไหม…”
“อย่าบ่นไปเลยหน่า”
เคนอิจิพูดเสมือนมันเป็นเรื่องธรรมดา ผมแค่รู้สึกว่าเขากินไปมากเกินไปจริงๆ
แน่นอนว่าไม่เห็นเขามีท่าทางทุกข์ใจเลย… แม้แต่นิดเดียว!
เขายังดูหล่ออยู่เหมือนเดิมอีกด้วย
“แล้วเดตเป็นยังไงบ้าง? เล่ามา” เคนอิจิถาม
“ก็ปกติแหละ ใช้เวลากับวาคามิยะซังแค่นั้นเอง ก็สนุกดี”
“โอ้ว!” เคนอิจิฟังเหมือนจะพอใจแต่อีกใจก็ยังอยากรู้มากกว่านี้
ใบหน้าที่ดูยิ้มแย้มของเขาทำผมหงุดหงิด
“แล้วไม่มีอะไรคืบหน้าเลยเหรอ?”
“…ไม่มีหรอก”
“ไม่มีเลย?” เคนอิจิทำหน้าผิดหวัง คิ้วขมวดอย่างเห็นได้ชัด
แล้วเขาก็พูดออกมา “ไม่มีจริงๆ หรออ?”
เคนอิจิแสดงสีหน้าผิดหวังชัดเจนเลย
“เอาเถอะ โชคดีนะ เคนอิจิ”
“เฮ้! อย่าทิ้งฉันไปสิ!” เคนอิจิยังคงตื้อผมด้วยการจับชายเสื้อ
มันทำให้ผมนึกถึงรินในตอนนั้น แต่เป็นเคนอิจิที่จับแทน และผมก็ไม่ชอบให้ผู้ชายจับซักเท่าไหร่
อีกอย่างนึง รินไม่ได้แข็งแรงขนาดนี้…
“ปล่อยให้แฟนช่วยคลายเหงาเถอะ ฉันไม่เป็นไร”
ผมพูดด้วยรอยยิ้มเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไรต่อ
“เคนอิจิ อย่าไปกวนคนที่ทำงานอยู่สิ”
เสียงนี้มีความเย็นชาและแข็งกร้าวเหมือนน้ำแข็ง
เธอเป็นสาวสวยอย่างไม่ต้องสงสัย
ใช่แล้ว เธอคือแฟนสาวของเคนอิจิ ฟูจิซัง
“อ้าว โคโตเนะ! มาสายน้า”
“…เพราะมีงานที่ต้องทำ แล้วรินก็บอกว่าอีกเดี๋ยวจะตามมาด้วย” ฟูจิซังตอบสั้นๆ และไม่สนใจคำพูดของเคนอิจิเลย
เธอเอื้อมมือไปลูบหัวเคนอิจิแบบเบาๆ เหมือนเลี้ยงสัตว์
ตอนนี้กลายเป็นว่าผมได้เห็นสุนัขโกลเด้นรีทรีฟเวอร์และเจ้าของของมันซะงั้น…
“สวัสดีค่ะ โทคิวากิคุง”
“ขอบคุณนะฟูจิซัง ช่วยได้มากจริง ๆ ทั้งเรื่องผม เสื้อผ้า และอื่น ๆ ด้วย”
“เฮ้ โทวะ ฉันคิดเรื่องเสื้อผ้านะ”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้นะคะ”
“ขอบคุณนะ”
“เฮ้ ทั้งสองคนทำไมเมินกันงี้ล่ะ!”
เคนอิจิจ้องมองผมด้วยราวกับลูกหมาที่ถูกทิ้ง แต่… ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำคือเพิกเฉยต่อเขา
ถือว่านี่เป็นการกระทำเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อแก้แค้นคนขี้เกียจคนเก่าจากก่อนหน้านี้
ฟูจิซังค่อย ๆ เคี้ยวมันฝรั่งที่เหลือเหมือนสัตว์ตัวเล็กๆ
เธอนั่งลงข้าง ๆ เคนอิจิและพิงเขาเล็กน้อย น่าซาบซึ้งใจมากเลยเนอะ
ถึงลึก ๆ แล้วผมจะคิดว่า “ระเบิดตัวตายไปซะ พวกเรียจู!” แต่…
“เอาล่ะ เดี๋ยวฉันกลับมานะ…”
“คุณนอนรออยู่ที่นี่ก็ได้นะ แถมการกลับห้องพักพนักงานก็จะเป็นการเสียเวลาไม่ใช่เหรอคะ?”
“…ในบรรยากาศแบบนี้ฉันนอนไม่หลับหรอก อีกอย่างนึง ฉันจะไม่รบกวนพวกนายด้วย”
“ไม่รอรินมาถึงหรอคะ?”
“ไม่เป็นไร ไว้ฉันคุยกับวาคามิยะซังทีหลังได้”
“ก็เธอเป็นภรรยาที่ไม่ค่อยว่างอยู่แล้วนี่นะ”
“ฮ่า ๆ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะ”
ผมยักไหล่แล้วหันหลังให้พวกเขาสองคน
รู้สึกว่าพวกเขาทั้งสองมองมาผมราวกับอยากจะพูดบางอย่าง แต่ผมพูดแค่ว่า “ไว้เจอกันใหม่” แล้วก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
ตอนที่ผมกำลังจะเดินออกไป ผมก็เห็นรินเดินเข้ามาในร้าน แต่ผมก็เดินต่อไปที่ห้องพักโดยไม่หันหลังกลับไปอีกเลย
MANGA DISCUSSION