ระหว่างเดินกลับบ้านหลังจากงานพาร์ทไทม์ ผมเดินข้าง ๆ กับวาคามิยะบนถนนที่คุ้นเคย
เพราะเราเดินกลับบ้านด้วยกันแบบนี้มานานพอสมควร ทำให้ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกชินแล้ว
วาคามิยะถือถุงกระดาษสำหรับอาหารที่ซื้อกลับบ้าน ข้างในนั้นมี ‘โดนัทโมจิ’ รสใหม่
มันทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจนิดหน่อยที่เห็นเธอถือถุงกระดาษอย่างระมัดระวัง
เธอชอบโดนัทขนาดนั้นเลยหรอ…
หลังจากที่ซื้อโดนัททุกวัน วาคามิยะเกือบจะสะสมสแตมป์ครบทุกดวงในบัตรสะสมของเธอแล้ว โดยเธอจะได้สแตมป์หนึ่งดวงทุกครั้งที่ซื้อสินค้า 200 เยนที่ร้านพาร์ทไทม์ที่ผมทำงานอยู่
เธอติดใจมันขนาดนั้นเลยเหรอ!?
ผมอยากจะพูดแบบนั้น แต่ปกติเธอสั่ง ‘โดนัทกับชา’ แทบทุกวันอยู่แล้ว ก็เลยไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่
“โทคิวากิซัง คิดว่าจะทำข้อสอบพรุ่งนี้ได้ดีไหมคะ?” วาคามิยะถามด้วยรอยยิ้มและเอียงศรีษะเล็กน้อย
ผมตกใจที่เห็นท่าทางน่ารักของเธอ ก็เลยตอบไปแบบห้วน ๆ “ก็งั้น ๆ แหละ”
บางทีผมอาจจะเสียงดังไปหน่อยรึเปล่านะ
“ฟุฟุ ถ้างั้นก็ดี แต่ต้องทบทวนเนื้อหาให้จบก่อนนะคะ เข้าใจไหม?”
“อืม รู้แล้วล่ะ ฉันตั้งใจเรียนมาจนถึงตอนนี้แล้ว คิดว่าคงจะจัดการได้ล่ะนะ”
นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ผมตั้งใจเรียนจริงจังตั้งแต่เข้ามัธยมปลายเลยนะเนี่ย
พูดให้ถูกคือ ผมโดนบังคับให้ทำ แต่มันก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น เพราะมีวาคามิยะ รินสุดฉลาดที่สอนผมได้ทุกวันเลยล่ะ
ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้เต็มใจ แต่ผมก็พึงพอใจ
จะไม่แปลกเลยถ้าผมต้องจ่ายเงินให้เธอเพื่อเป็นครูสอนพิเศษให้ผม
“อย่าประมาทนะคะ การเรียนและการทำข้อสอบมันต่างกัน คนเราไม่ได้จะสอบได้ดีเพียงเพราะเราเรียนมาอย่างเดียวหรอกค่ะ”
“จริงเหรอ?”
การเรียนและทำข้อสอบมันต่างกันเหรอ? ผมคิดแค่ว่าแค่แก้โจทย์ได้ก็พอแล้ว แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ในมุมมองของเทพธิดาสังคม
“ใช่ค่ะ นี่เป็นความเห็นของฉันค่ะ แต่ฉันคิดว่า ‘การเรียนคือเราสามารถทำผิดได้ ลองผิดลองถูกได้’ และ ‘การทำข้อสอบคือการแสดงผลลัพธ์ของสิ่งที่เราเรียนมาทั้งหมด’”
ขณะที่ฉันกำลังคิดตามคำพูดของวาคามิยะ เธอก็พูดต่อไปด้วยน้ำเสียงธรรมดาๆ ของเธอ
“ดังนั้นฉันต้องมั่นใจว่าสามารถตอบคำถามได้ถูกต้องและมั่นใจว่าฉันทำได้ อีกอย่างนึงคือลบความคิดที่ว่า ‘แค่ลองทำไปเถอะ’ ในตอนที่เรียนหนังสือด้วยค่ะ”
“ฉันต้องเพิ่มจำนวนข้อที่มั่นใจได้ว่าตอบถูกต้อง เพื่อที่จะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ”
“…ฉันไม่เคยคิดแบบนั้นเลย” ผมตอบไปอย่างตกใจ
แต่ว่าคงเป็นเพราะความสมบูรณ์แบบของเทพธิดาสังคมที่ทำให้เธอคิดแบบนี้
“และฉันคิดว่าโทคิวากิซัง คงยากที่จะได้คะแนนเต็มน่ะค่ะ ดังนั้นควรให้ความสำคัญเฉพาะคำถามและจุดสังเกตุที่มีในโน้ตที่ฉันให้ไปนะคะ”
“เฮ้ เฮ้ ~ เธอไม่คิดว่าฉันจะได้คะแนนเต็มบ้างหรอ?”
“การเรียนมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะคะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะเข้าใจบทเรียนทั้งหมดได้ในชั่วข้ามคืนค่ะ ฉันสอนคุณแค่ช่วงเวลาสั้นๆ มันไม่พอที่จะเข้าใจบทเรียนทั้งหมดที่โทคิวากิซังทิ้งมันไปหรอกนะคะ”
“เอ่อ… จริงหรอ?”
“มันต้องใช้เวลานานกว่านี้ถึงจะเรียนได้ครบทั้งหมดเพราะคุณไม่เคยเรียนเลยค่ะ”
ผมคลายไหล่และก้มหน้าลง
ถ้างั้นทุกสิ่งที่ผมทำไปจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่พอที่จะชดใช้ความผิดพลาดที่ทำไปหรอ…
“ฮา… คงงั้นล่ะ เป้าหมายตอนนี้ก็คือไม่ให้ตกก็พอ เอาคะแนนเต็มนั่นน่าจะเกินไปหน่อย”
“ถ้าจำไม่ผิดการสอบรอบที่แล้วคุณสอบตกทุกวิชาใช่ไหมคะ?”
“ฉันมั่นใจว่าคะแนนฉันต่ำที่สุดในชั้นปีเลยนะ”
“…ทำไมคุณดูภูมิใจแบบนั้นล่ะคะ?”
วาคามิยะถอนหายใจและกุมขมับ แต่ว่าที่ผมพูดมันก็เป็นความจริงนะ เพราะสอบรอบก่อนผมได้คะแนนหลักเดียวเอง
“อืม คุณคงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว แต่… คุณจะต้องเรียนวิชาเสริมในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน ถ้าคุณได้สอบตกเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ฉันขอย้ำอีกครั้งว่ามันเป็นช่วงปิดเทอมฤดูร้อนนะคะ คุณเข้าใจไหม”
“…จริงแท้แน่นะ?”
“จริงแท้แน่นอนค่ะ”
น่าตกใจมาก… ผมกุมหัวอีกครั้ง
ผมไม่คิดเลยว่าวันหยุดฤดูร้อน 40 วันที่จะมาถึง จะต้องถูกทำลายลงด้วยการเรียนเสริมเพราะสอบตกสองรอบ
เป็นไปไม่ได้สำหรับผมเลย… แต่เดี๋ยวก่อน มันอาจจะไม่แย่ขนาดนั้นก็ได้นะ
การเรียนเสริมอาจจะไม่ได้เรียนทั้งวันก็ได้ แบบนั้นก็ยังสามารถไปทำงานพาร์ทไทม์หลังจากเรียนเสร็จได้
แต่อย่างน้อยมันก็น่าเสียดายที่ไม่ได้ทำงานเต็มเวลาเพื่อหาเงินให้เยอะขึ้นอยู่ดี
“…กำลังคิดอะไรอยู่เหรอคะ?”
“ม-ไม่ได้คิดอะไรหรอก”
“คำพูดติด ๆ ขัด ๆ ของคุณมันน่าสงสัยนะคะ”
วาคามิยะจ้องผมด้วยสายตาเคร่งขรึม เธอคงเริ่มสงสัยผมแล้ว
ถึงจะเป็นวาคามิยะก็ตาม อาจจะรู้แล้วก็ได้
“โทคิวากิซัง ฉันจะลำบากถ้าคุณสอบตกนะ…”
“อืม… เธอตั้งใจสอนฉันดีขนาดนี้ ถ้าลูกศิษย์ของเธอทำไม่ได้ ก็คงลำบากจริง ๆ”
ผมพูดพร้อมกับยิ้มแหยๆ และรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้น
แต่ดูเหมือนว่าวาคามิยะจะไม่ว่าอะไร เธอยังคงมองมาที่ผมอย่างตรงไปตรงมา
แล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “มันคือปิดเทอมฤดูร้อนเลยนะ ไม่อยากไปเล่นสนุกงั้นเหรอ?”
ผมอยากไปเล่น… แต่ก็แค่ไปที่เกมอาเขตอะไรทำนองนั้นแหละ
“ก็เข้าใจที่เธอพูดนะ… แต่ฉันตั้งใจว่าจะทำงานพาร์ทไทม์ตลอดวันหยุดอยู่ดี”
วาคามิยะหัวเราะเบาๆ กับคำตอบของฉัน
เหมือนกับเวทมนต์ที่ทำให้ตกหลุมรักเธอ
“ถ้าคุณไม่รังเกียจ… อยากไปงานเทศกาลฤดูร้อนกับฉันหน่อยไหม?”
“งานเทศกาล?”
คำว่า “เทศกาล” ทำให้ผมหน้าตึงขึ้นมาทันทีเพราะไม่รู้สึกสนใจคำแนะนำของเธอ
เทศกาลเป็นกิจกรรมของคนที่ชอบเข้าสังคม มันเหมาะกับกลุ่มเพื่อนมากกว่าการไปคนเดียว
เสียงในงานเทศกาลดังจนเกินไป อาหารจากร้านข้างทางในงานแพงเกินไป แล้วก็ยังมีตั๋วลอตเตอรี่ที่ไม่รู้ว่าจะถูกรางวัลหรือเปล่าอีก
ผมไม่อยากไปเลย…
“ไม่ดีหรอคะ?”
วาคามิยะจับแขนเสื้อของผมและมองขึ้นมาที่ผมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวัง
ผมกลืนน้ำลาย “เอ่อ… ฉันไม่ค่อยไปงานเทศกาลนะ จะไม่เป็นไรหรอ?”
“จริงเหรอ… เสียดายจัง”
เมื่อเห็นวาคามิยะที่ดูเศร้าลงอย่างชัดเจน ผมรู้สึกเหมือนโดนมีดทิ่มแทงกลางอก
“โคโตเนะจังกับคาโตะซังจะไปเทศกาลกันนะคะ ฉันอยากให้คุณไปด้วย…”
“เอ๋… เคนอิจิก็ไปด้วยเหรอ?”
“ใช่ค่ะ เพราะงั้นฉันคิดว่าโทคิวากิซังไปด้วยน่าจะดีเหมือนกัน นอกจากนี้ ฉันไม่อยากไปกวนพวกเขาตอนเดตกัน…”
“อ๋อ เข้าใจแล้ว… งั้นเหรอ…”
“โทคิวากิซัง—”
“โอเค ๆ เข้าใจแล้ว ฉันจะไปด้วย”
มันเหมือนกับว่าวาคามิยะไม่อยากรบกวนพวกเขาสักเท่าไหร่…
แน่นอนว่า คงจะไม่รู้สึกแปลกถ้าจำนวนชายหญิงในกลุ่มเท่ากัน
“ขอบคุณมากค่ะ งั้นเดี๋ยวฉันจะติดต่อไปเมื่อนัดเวลาได้แล้วนะคะ”
“เข้าใจแล้ว… แต่ตอนนี้คงต้องผ่านการสอบไปก่อนสินะ”
ผมเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดาว มันเป็นท้องฟ้ายามค่ำคืนที่สวยงามและว่างเปล่า ตรงข้ามกับอารมณ์ของผมโดยสิ้นเชิง…
“โทคิวากิซัง ฉันมีข้อเสนอหนึ่งที่จะช่วยให้โทคิวามกิซังมีกำลังใจในการทำข้อสอบค่ะ”
“ข้อเสนอ?”
“ถ้าครั้งหน้าโทคิวากิซังทำคะแนนได้มากกว่าค่าเฉลี่ยขึ้นไป ฉันจะให้ ‘รางวัล’ ค่ะ แบบนี้เป็นไงคะ?”
รางวัล?
ข้อเสนอนี้ฟังดูดีมาก ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาทันทีเลย
“รางวัลนี่เป็นรางวัลแบบไหนหรอ?”
“ตอนนี้ยังคิดไม่ออกหรอกค่ะ… งั้นก็ให้เป็นอะไรก็ได้ที่โทคิวากิซังอยากได้ละกันค่ะ”
“อะไรก็ได้…”
ภาพในจินตนาการหลายอย่างวิ่งเข้ามาในหัว ผมส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดเหล่านั้นออกไป
ผมพูดกับตัวเองว่าอย่าให้เกิดความก้าวหน้าแบบนั้นเลย…
“ไม่ต้องกังวลค่ะ แต่ต้องจำไว้ว่าคุณจะไม่ได้มันถ้าคุณทำข้อสอบไม่ผ่านนะคะ”
“อืม…”
“เอาล่ะ อยากได้อะไรคะ?” วาคามิยะเร่งให้ผมตอบ
ผมเลือกคำตอบแล้วก็เปิดปากพูดมันออกมา
คราวนี้ต้องเป็นผู้ชายหน่อยแล้ว
“ขออาหารจีนได้ไหม”
“ได้ค่ะ”
วาคามิยะยิ้มและเดินนำไปข้างหน้า
ผมไม่สามารถพูดอะไรอีกได้แล้วและเดินตามเธอไป ในขณะที่รู้สึกถึงความไร้ความสามารถของตัวเอง
MANGA DISCUSSION