“ตื่นได้แล้วค่ะ โทวะคุง! เช้าแล้วนะ~! ภายใต้แสงแดดอันสดใสแบบนี้ เราต้องเริ่มต้นวันกันอย่างกระฉับกระเฉงกันหน่อย!!!”
“…อารมณ์ดีตั้งแต่เช้าเลยนะ”
เป็นภาพที่คุ้นตาไปแล้วในทุกเช้า
รินจะมาที่บ้านแต่เช้ามืด แล้วปลุกผมให้ตื่น
ตอนแรก ๆ เธอแค่โทรมาปลุก แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นมาปลุกถึงที่บ้านแทนแล้ว
สมัยก่อน การลืมตาขึ้นมาแล้วเห็นเธออยู่ตรงหน้ามันทำให้หัวใจแทบหยุดเต้น…
แต่ตอนนี้ ผมไม่ค่อยนอนตื่นสายแล้ว เลยไม่ค่อยมีฉากหน้าแดงตอนตื่นนอนแบบเมื่อก่อนอีก
พอรินเห็นผมเปลี่ยนไปแบบนี้ ก็จะทำหน้าเหมือนดีใจปนเสียดายอย่างบอกไม่ถูก
ภาพแบบนี้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว…
แต่—วันนี้ เธอไม่ได้แสดงสีหน้าแบบนั้นเลย มีแต่ความกระตือรือร้นสุด ๆ
…คงเพราะว่าวันนี้เป็นวันกีฬาสีล่ะมั้ง
“งั้นก็…โทวะคุง มายืดเส้นยืดสายกันหน่อยดีกว่าค่ะ กีฬาเนี่ย เรื่องอาการบาดเจ็บต้องระวังให้ดีนะ ต้องวอร์มให้ร่างกายพร้อมไว้ก่อน”
“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน ฉันไม่ได้ลงแข่งอะไรขนาดนั้นหรอกนะ ส่วนใหญ่แค่ช่วยทำงานจิปาถะที่ฝากมามากกว่า”
“แต่ก็มีลงแข่งบ้างใช่ไหมล่ะ?”
“ก็น่าจะมีมั้ง…แต่ก็อาจจะไม่มีเลยก็ได้ แบบนี้ไม่เห็นต้องวอร์มเลยก็ได้—”
“ไม่ได้ค่ะ!”
“อ๊ะ ครับ…”
เธอตัดบทอย่างรวดเร็ว จนผมตอบตกลงไปแบบอัตโนมัติ
ท่าทางแบบนี้…เป็นสัญญาณเตือนชัดเจน
ขัดไปก็เปลืองแรงเปล่า สู้ทำตามจะดีกว่า
เอาจริง ๆ เชื่อฟังรินไว้ไม่เคยพลาดหรอกนะ
ผมยิ้มแห้ง ๆ พลางยักไหล่
“แต่…ทำไมวันนี้ร่าเริงขนาดนี้ล่ะ? ปกติรินก็ไม่ได้ชอบกิจกรรมโรงเรียนเท่าไหร่ไม่ใช่เหรอ?”
“มันก็แน่อยู่แล้วค่ะ!”
“หือ?”
“แค่ ‘โทวะคุงจะเชียร์ฉัน’ แค่นั้น…ไม่สิ! แค่เพราะแบบนั้นแหละค่ะ ฉันถึงได้อารมณ์พุ่งสุดขนาดนี้!! ตอนนี้ฉันรู้สึกว่าไม่มีใครเอาชนะฉันได้เลย ทุกการแข่งขันต้องชนะหมดแน่นอนค่ะ!”
“อ-อืม…พอรินพูดแบบนั้น ก็ชักรู้สึกว่าเธอทำได้จริง ๆ แฮะ แต่อย่าตื่นเต้นเกินล่ะ เดี๋ยวจะหมดแรงก่อน”
“ไว้ใจได้เลยค่ะ! ตอนนี้ฉันรู้สึกมีพลังเต็มเปี่ยมเลย! ตื่นเต้นขนาดนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้!”
รินยิ้มกว้างพลางหยิบโปรแกรมงานกีฬาสีขึ้นมาดูด้วยความดีใจ
ที่จริง กระดาษโปรแกรมกีฬาสีที่เธอถืออยู่นั้น ไม่ใช่ของที่โรงเรียนแจก
เป็นของที่เธอทำขึ้นเองโดยเขียนเฉพาะกำหนดการของผมกับของเธอเท่านั้น
เรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชันพิเศษเฉพาะของริน
รายการที่ผมมีสิทธิ์จะได้ลงแข่ง หรือรายการที่เธอจะมาเชียร์ผมนั้น
ถูกขีดไฮไลต์ไว้อย่างสวยงาม พร้อมตกแต่งด้วยรูปหัวใจ
…แค่เห็นก็รู้แล้วว่าตั้งใจขนาดไหน
การเตรียมตัวดีขนาดนี้ ผมก็ยอมรับว่าทึ่งนะ แต่ถ้าเกิดเตรียมเกินไปจนเหนื่อยเปล่าก็แย่
เอาเป็นว่า ขอเตือนเอาไว้หน่อยละกัน
“นี่ ริน”
“มีอะไรเหรอคะ? อยู่ดี ๆ ก็ทำหน้าจริงจังขึ้นมา…”
“ก็…ไม่อยากจะสาดน้ำเย็นใส่ความมุ่งมั่นของเธอหรอกนะ…แต่ขออย่างนึง อย่าไปฝืนตัวเองมากจนบาดเจ็บนะ? ฉันเป็นห่วง”
“ฟุฟุ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันจะไม่บาดเจ็บแน่นอน”
“จริงนะ? …แล้วก็ ขอห้ามแผนแกล้งเจ็บเพื่อให้ฉันไปดูแลด้วยล่ะ?”
“อ่ะฮะฮ่า~ ไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นหรอกค่ะ~”
“เฮ้ ริน มองตาฉันแล้วพูดสิ ดูจากปฏิกิริยาแล้ว นั่นแหละ ใช่เลยใช่ไหมล่ะ?”
“ไม่เลยไม่เลย~ ตอนพักฉันไม่มีแผนจะทำทีว่าเจ็บขาแล้วไปนั่งข้าง ๆ โทวะคุงแน่นอนค่ะ~ ไม่มีแผนจะยึดที่นั่งเลยนะคะ~”
“หืม งั้นก็แปลว่าผู้หญิงพูดแล้วไม่คืนคำได้สินะ?”
“……”
“……โทวะคุง รู้ไหมคะ?”
“หือ?”
“ผู้หญิงน่ะ…โกหกเป็นค่ะ”
“…ก๊อก!”
“เนี๊ยว!?!”
หน้าผากสวยของรินกลายเป็นสีชมพูอ่อน ๆ จากการโดนดีดเบา ๆ
แม้จะไม่ได้แรงขนาดนั้น แต่เสียง “ก๊อก” ก็ดังพอสมควร
รินมองฉันด้วยสายตาไม่พอใจ ปากก็เบะออกนิด ๆ
“โทวะคุงใจร้ายค่ะ…”
“ก็รินผิดนี่นา?”
“อ๊า~ หน้าผากแดงเลย…แบบนี้ต้องรับผิดชอบที่ทำให้ฉันมีรอยแล้วนะคะ…”
“ไม่เคยปล่อยให้จังหวะพลาดเลยสินะ…”
ผมตบมุกใส่เธอไปอีกรอบ รินแลบลิ้นนิด ๆ แล้วทำหน้าทะเล้นใส่ผม
ผมเลยเอามือลูบหัวเธอเบา ๆ
เธอก็หลับตาพริ้มแล้วยิ้มออกมาเหมือนพอใจ
ท่าทางเหมือนสัตว์เลี้ยงตัวเล็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดู
…ทั้งที่จงใจน่ารักขนาดนี้ แต่กลับไม่รู้สึกขัดหูขัดตาเลย มันโกงชัด ๆ
ผมเกือบลืมตัวไป แต่ก็รีบสะบัดความคิดออกแล้วกระแอมเบา ๆ
แต่ดูเหมือนรินจะรู้ทันหมด เธอยิ้มแบบเจ้าเล่ห์ใส่ผมทันที
“…อะไรของเธอ?”
“เปล๊า~ ไม่มีอะไรเลยค่ะ~”
“เอ่อ…เอาเป็นว่า พูดจริงจังหน่อยละกัน ริน อย่าลืมวอร์มร่างกายให้ดีล่ะ?”
“ฟุฟุ เข้าใจแล้วค่ะ แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่อยากให้โทวะคุงต้องลำบากเพราะฉันนี่นา”
“งั้นเหรอ…แต่ถ้ามีอะไรที่ช่วยไม่ได้จริง ๆ ก็พึ่งฉันได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”
“รับทราบค่ะ! ถ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จะขออยู่ติดตัวตลอดเลยนะคะ”
“สุดขั้วเกินไปแล้ว…”
ไม่มาก็ไม่มาเลย
แต่ถ้าเจ็บเมื่อไหร่ก็จะไม่ยอมแยกตัวออกไปเลย…
ในหัวของริน คงมีแค่สองตัวเลือกนี้แหละ…
แต่ถ้าต้องลงแข่งหลายรายการ ก็คงไม่มีเวลามาอยู่ด้วยหรอก
“เอาล่ะ กินข้าวแล้วก็ไปโรงเรียนกันเถอะ รินเองก็มีหน้าที่ในฐานะกรรมการใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ! งั้นก็กินให้อิ่มเป็นพิเศษเลยนะคะ~”
“รับทราบ”
…แต่เริ่มวันด้วยข้าวหน้าหมูทอดมันก็หนักไปนิดนะ
แต่เอาเถอะ อย่างน้อยตอนนี้—
“ริน…”
“คะ?”
“สู้เขานะ ฉันจะคอยดูอยู่ ถ้ามีอะไรที่ฉันช่วยได้ จะทำให้หมดเลย”
“ค่ะ! งั้น…ขอใช้โอกาสนี้เลยได้ไหมคะ?”
“ก็ได้…แต่ตอนนี้เลยเหรอ?”
“การกระทำต้องรวดเร็วค่ะ! ตัดสินใจแล้วก็ลงมือทันที นั่นแหละตัวฉัน!”
“ฮะ ๆ เข้าใจล่ะ สมกับเป็นรินจริง ๆ”
“มู่วว~ รู้สึกเหมือนโดนล้อเลยแฮะ”
“เปล่าเลย ฉันจริงจังนะ รู้สึกประทับใจจริง ๆ ว่าแต่…อยากให้ช่วยอะไรเหรอ?”
“ก็ตัวฉันนี่นา ก็ต้องสิ่งนี้เลยค่ะ!”
รินขยับเข้ามาใกล้ เอาศีรษะพิงเข้ากับหน้าอกผม
เหมือนเธอกำลังฟังเสียงหัวใจผมอยู่
ผมรู้สึกหัวใจเต้นแรงขึ้นทันที
ความกล้าเกินเบอร์ของรินในตอนเช้าแบบนี้ ทำให้ผมหัวเราะอย่างอ่อนโยน
“ขอฉันเติมพลัง…ได้ไหมคะ?”
“เติมพลัง?”
รินเอียงศีรษะนิด ๆ แล้วมองขึ้นมาด้วยสายตาเว้าวอน
พอผมลูบหัวให้ตามที่ขอ เธอก็หัวเราะพร้อมพูดว่า
“พลังงานเต็มถังแล้วค่า~!” ด้วยหน้าที่ยิ้มอย่างมีความสุขจนแทบละลายเลยทีเดียว
MANGA DISCUSSION