ยามเย็น ท้องฟ้าข้างนอกถูกย้อมด้วยสีแดงสดสวยงาม
ท่ามกลางบรรยากาศเช่นนั้น ฉันกับลิซ่ากำลังเดินกลับบ้านด้วยกัน
ลิซ่าที่เดินเคียงข้างอยู่ แอบมองฉันด้วยสีหน้ากังวล
“โอ๊ะโอ~ ยิ่งแดงเข้าไปใหญ่เลยนะเนี่ย”
“ไม่เป็นไรหรอก นี่ก็เหมือนเป็นการเตือนตัวเองของฉันด้วย”
“แต่มันใช่เหตุผลที่ต้องตบหน้าตัวเองจนบวมแบบนั้นไหมเนี่ย~?”
พอลูบแก้มตัวเองก็ยังรู้สึกแสบ ๆ อยู่เลย
ฉันตบหน้าตัวเองไปหลายครั้งด้วยความรู้สึกที่พุ่งพล่าน แต่เหมือนจะเผลอลงแรงไปหน่อย
แต่นี่แหละดีแล้ว
หรืออาจจะต้องเป็นแบบนี้ด้วยซ้ำ
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ ฉันก็จะปล่อยให้ตัวเองไหลไปตามอารมณ์… ทั้งที่อยากให้ลูกเปลี่ยนแปลง พอถึงเวลาจริงๆ กลับ… เฮ้อ รู้สึกเลยว่าควบคุมความรู้สึกมันยากจริงๆ”
“ฮารุจังเองก็เป็นห่วงอยู่นะ~ บอกว่ากะจะตบตัวเองเรียกสติแทนแล้วแท้ๆ”
“นั่นไม่น่าเรียกว่าห่วงนะ แล้วอีกอย่างถ้าเป็นฮารุก็กลัวจะลงแรงเกินไปน่ะสิ”
ฉันกับลิซ่า รวมถึงสองสามีภรรยาตระกูลฟุจินั้นเป็นเพื่อนเก่ากัน
ฮารุกะเป็นคนที่ใจร้อนแต่ก็ตรงไปตรงมาและไม่อ้อมค้อม
เธอชอบแสดงออกตามอารมณ์ แต่กลับพูดจาได้ตรงประเด็นจนอดหัวเราะไม่ได้
—แรงต้องตอบโต้ด้วยแรง
—คำพูดต้องตอบโต้ด้วยคำพูด
คติประจำใจของเธอก็คือ ‘ตาต่อตา ฟันต่อฟัน’ นั่นแหละ
แต่ถึงอย่างนั้น เวลาฉันทำอะไรผิด เธอกับลิซ่าก็ยังเป็นเพื่อนที่คอยห้ามและดึงสติอยู่เสมอ
คราวนี้ก็เหมือนกัน ฉันก็ได้รับความช่วยเหลืออีกแล้ว
ลิซาที่ดูเหมือนเป็นคนอ่อนโยนและลอยไปตามอารมณ์ กลับเป็นคนที่สังเกตสิ่งต่าง ๆ ได้ดีที่สุด
…ฉันนี่เทียบทั้งลิซ่าและฮารุไม่ได้เลยจริงๆ
ฉันเงยหน้ามองฟ้า แล้วยิ้มบางๆ พลางถอนหายใจ
“นี่ลิซา… เมื่อกี้ฉันดูเป็นพ่อที่ดีไหม?”
“แน่นอนสิคะ ดูดีมากเลยล่ะ”
น้ำเสียงของเธอไม่มีความล้อเล่นอย่างที่เคย เธอเข้ามาแนบข้างฉันอย่างอบอุ่น
คนที่รินเลือกด้วยสายตาของตัวเอง ตัดสินใจด้วยตัวเอง ฉันไม่มีสิทธิ์ไปปฏิเสธลูกอย่างไม่มีเหตุผล
แม้ตอนแรกฉันจะพูดออกไปด้วยอารมณ์ก็เถอะ… ต้องสำนึกจริงๆ เลย
การไม่เชื่อลูกสาวแล้วพยายามบังคับ นั่นไม่ใช่สิ่งที่พ่อควรทำ
หน้าที่ของฉันคือการปกป้องเธอเมื่อเกิดอะไรขึ้น
มันควรจะเป็นแบบนั้นต่างหาก…
ฉันหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะหันไปมองลิซ่า
“งั้นเหรอ ถ้างั้นก็ดีแล้วล่ะ… พอลูกจะจากไป ฉันอาจจะรู้สึกแบบนี้อีกครั้งก็ได้”
“ฟุฟุ ใช่ค่ะ”
“อา ให้ตายเถอะ… พยายามควบคุมแล้วแต่เหงื่อก็ไม่หยุดเลย”
“โอ๊ะโอ~ แบบนี้แย่แล้วนะคะ ถ้าเหงื่อไหลเยอะแบบนี้ตอนนี้ แล้วอนาคตจะไม่แย่กว่านี้เหรอ~?”
“ฮะๆ จริงสินะ ต่อให้ควบคุมตัวเองแค่ไหน สุดท้ายฉันก็แค่พ่อคนหนึ่งนี่แหละ”
“แต่เพราะคุณรู้สึกแบบนั้น รินถึงได้เป็นเด็กที่โชคดีไงคะ”
แม้จะพยายามควบคุมอารมณ์แค่ไหน
แต่มนุษย์ทุกคนต่างก็มีสิ่งที่ยอมไม่ได้
ฉันเองก็เป็นมนุษย์ เป็นผู้ชาย เป็นพ่อคนหนึ่ง
แม้จะเข้าใจด้วยเหตุผล หรือพยายามทำความเข้าใจแค่ไหน… แต่เจ้าสัตว์ที่ชื่อว่า ‘อารมณ์’ ในตัวมันก็ยังจะอาละวาดอย่างไม่ฟังเหตุผลอยู่ดี
แต่ถึงอย่างนั้น ฉันก็ต้องเข้มแข็งให้ได้
เพราะต่อหน้าริน ฉันต้องเป็นพ่อที่ดีเสมอ
นั่นคือหน้าที่ของฉันในฐานะพ่อของเธอ
“อ้อ แต่ฉันก็อยากพูดประโยคแบบ ‘ฉันไม่ยกลูกสาวให้แกหรอก!’ อยู่หรอกนะ ”
“ฟุฟุ แต่คุณพลาดช่วงที่จะพูดประโยคนั้นไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ?”
“ก็จริง”
“แต่ถ้าเป็นปอนจังล่ะก็ อาจจะเล่นตามบทให้คุณก็ได้นะคะ เขาเป็นเด็กดีขนาดนั้น”
“อา จริงนั่นแหละ ฉันเองก็รู้ดี”
ถ้าตอนนั้นฉันไม่ได้รู้จักเขา เรื่องราวอาจจะเปลี่ยนไปมากมายก็ได้
ทุกอย่างเกิดจากความบังเอิญที่เรียงตัวกันอย่างพอดี
ถ้ารู้จักเขาในลำดับที่ต่างออกไป ฉันอาจจะมองว่าเขาเป็น ‘พวกเจ้าชู้หลอกลูกสาว’ หรือ ‘มีแผนการลับ’ ไปแล้ว
แต่เพราะเราได้เจอกันในสถานะที่ไม่รู้อะไรเลย ฉันจึงได้รู้จักตัวตนของเขาจริงๆ
สิ่งที่ฉันพูดออกไปก็แค่จุดเริ่มต้น
แต่การตัดสินใจนั้นเป็นของรินเอง หลังจากที่เธอได้เห็นและรู้จักเขาด้วยตัวเอง
ความรู้สึกที่เรียกว่า ‘ความรัก’ เมื่อไหลออกมาแล้ว มันไม่ใช่สิ่งที่จะหายไปง่ายๆ
เหมือนกับสายน้ำที่ไหลจากต้นน้ำลงสู่ปลายน้ำ มันจะค่อย ๆ ไหลไปและใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ไม่มีใครหยุดมันได้
แม้จะพยายามขวางไว้ด้วยอะไรก็ตาม มันก็จะลัดเลาะผ่านช่องว่างไปอยู่ดี
เพราะงั้น สิ่งที่ฉันทำได้มีเพียงเชื่อมั่นในตัวรินและตัวเขา คอยเฝ้ามองและสนับสนุนเท่านั้น… ไม่ใช่หยุดยั้ง
“ลิซ่า ในฐานะพ่อคนหนึ่ง ต่อไปฉันควรพูดว่าอะไรดีนะ?”
“คำตอบมันก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่คะ”
“ขอฝากดูแลลูกสาวของเราด้วยนะครับ”
เราหันมามองหน้ากันแล้วหัวเราะเบา ๆ
แม้จะแต่งงานกันมานานแล้ว แต่เรายังคิดตรงกันอยู่เหมือนเดิม
นั่นทำให้รู้สึกทั้งดีใจและเขินในเวลาเดียวกัน
“ยังอยู่แค่ ม.4 เองนะ พูดประโยคนี้ตอนนี้อาจจะเร็วไปหน่อย”
“เหรอ~? การเติบโตของเด็ก ๆ น่ะมันเร็วกว่าที่คิดนะ~ พอรู้ตัวอีกทีเดี๋ยวก็ถึงเวลานั้นแล้วล่ะ~”
“ฮะ ๆ จริงด้วย คราวนี้ฉันก็รู้สึกได้เลย ต่อไปฉันต้องซ้อมให้พูดประโยคนั้นได้อย่างน่าเกรงขามแล้วล่ะน้า”
“ลองนั่งในห้องทำงาน เอาศอกเท้าโต๊ะแบบผู้บัญชาการตัวร้ายในหนังดีไหมคะ~?”
“ดีเลย คราวหน้าจะลองดูสักครั้ง”
เมื่อต้อนรับเขามาบ้าน ฉันจะพูดอะไรดีนะ
สิ่งที่พูดกับรินไม่ได้ บางทีในหมู่ผู้ชายด้วยกันก็อาจพูดได้
ลองแขนงัดข้อกันดูซักตั้ง แล้วแกล้งเขานิด ๆ หน่อย ๆ… ไม่สิ แบบนั้นต้องโดนลิซ่ากับรินว่าแน่
ยังไงก็ตาม สิ่งที่ฉันควรทำคือแค่คอยใส่ใจและสังเกต
ฉันหยุดยืน พลางเท้าเอว
จากนั้นก็สูดลมหายใจลึกๆ
“นี่ลิซ่า ถ้าฉันเผลอปล่อยให้อารมณ์พาไปอีก ช่วยห้ามฉันด้วยนะ”
“แน่นอนค่ะ ก็ฉันเป็นภรรยาของคุณนี่คะ”
“ขอบคุณนะ”
ลิซ่ายื่นผ้าเช็ดหน้าให้ด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่ดูนุ่มราวกับทำจากผ้าไหม
ฉันใช้มัน… เช็ด “เหงื่อ” ที่เอ่อล้นในดวงตาที่ยังไม่ยอมหยุดไหลออกมาเสียที
MANGA DISCUSSION