ตอนที่ 59 เพื่อนสมัยเด็กของฉัน
ไหนๆ ก็ตื่นเช้าแล้ว ทำอาหารเช้าดีๆ สักมื้อก็น่าจะดี
อีกไม่นาน ฮิโยริ น้องสาวของผมก็คงจะตื่น
“เรียวมะ ฉันช่วยทำอาหารด้วยสิ”
“เธอทำอาหารเป็นเหรอ? ฉันไม่ค่อยมีภาพเธอในครัวเท่าไหร่เลยนะ”
“อืม… นั่นมันตอนที่เราเล่นขายของกันต่างหาก!”
ในที่สุด ผมก็ให้สึมุกิช่วยทำส่วนหนึ่งของอาหารเช้า
วิธีการจับอุปกรณ์ในครัวของเธอดูไม่มีท่าทีว่าจะพลาด ทำให้ผมรู้สึกถึงช่วงเวลาที่เราห่างกันไป
ตอนที่เราเล่นขายของกัน เธอเคยยัดขนมจากดินโคลนให้ผมลองกินโดยไม่ถามความสมัครใจเลย ส่วนชิชิกลับกินเข้าไปจริงๆ ซะงั้น
(TLN: Huh?)
แต่ตอนนี้สึมุกิกำลังตอกไข่ใส่กระทะและทำไข่ม้วนอย่างคล่องแคล่ว
ผมเฝ้าดูเธอผูกผมดำยาวที่เงางามไว้ด้านหลัง ขณะใช้ตะเกียบอย่างชำนาญ มันเป็นภาพที่ดูงดงามเหมือนฉากในภาพยนตร์
ถ้าสึมุกิยังอยู่ข้างๆ ผมในฐานะเพื่อนสมัยเด็กมาตลอด ผมจะรู้สึกยังไงกับเธอกันนะ?
“เหม่ออะไรอยู่เหรอ?”
“เปล่า ไม่มีอะไร”
แต่ความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นนี่นะ
เมื่อเตรียมอาหารเช้าเสร็จ ผมก็เตรียมทำกิจวัตรประจำวันตามปกติ
ผมเปลี่ยนเป็นชุดนักเรียนแล้วเดินออกจากบ้าน
“เรียวมะ จะไปไหนโดยไม่กินข้าวก่อนล่ะ”
“ไปปลุกเขาน่ะ คนข้างบ้าน”
“อ๋อ… ชิ!”
พอพูดถึงคนๆ นั้นทีไร สึมุกิก็มักจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยดี
ผมกำลังจะไปปลุกเพื่อนสมัยเด็กอีกคนของเรา ฮิราซาวะ เรโอะ
“บ้านของเรโอะก็ยังเหมือนเดิมเลยเนอะ พ่อแม่ของเขายังเป็นเหมือนเดิมไหม?”
สึมุกิเดินตามมาข้างหลัง
“ก็ยังเหมือนเดิมแหละ อีกไม่กี่ปีก็คงจะกลับมาอยู่ญี่ปุ่นกัน”
“ตอนนั้น พวกเราก็คงเป็นผู้ใหญ่กันหมดแล้วสินะ”
พ่อแม่ของพวกเรา ทั้งของผม สึมุกิ และเรโอะ ต่างก็เป็นคนที่ทำงานหนักและไม่ค่อยอยู่บ้าน
เพราะเวลาไม่ค่อยตรงกันนี่แหละที่ทำให้พวกเราสนิทกันในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก
แต่สุดท้าย สึมุกิก็ต้องย้ายบ้านเพราะหน้าที่การงานของพ่อแม่
สำหรับเรโอะ พ่อแม่ของเขาย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศ ทำให้เขาต้องอาศัยอยู่คนเดียวในบ้านหลังใหญ่
พอมีเวลาว่าง เรโอะก็มักจะปีนหลังคามาที่ห้องของผม แต่เขามีแฟนแล้ว เลยอยู่แต่บ้านแฟนมากขึ้น
การที่เขามีแฟนช่วยลดจำนวนครั้งที่เขามากินข้าวเย็นที่บ้านของผมไปได้เยอะทีเดียว อาจจะเพราะแฟนทำอาหารให้เขากินแล้วก็ได้
ผมใช้กุญแจสำรองเปิดประตูเข้าไป เดินขึ้นไปยังห้องของเรโอะที่อยู่ชั้นสอง
พอเปิดประตูเข้าไปก็เห็นเรโอะนอนหลับอยู่บนเตียง
“เขาเล่นบาสเกตบอลนี่นา ตอนนี้คนที่ตัวเล็กที่สุดในกลุ่มดันกลายเป็นคนที่ตัวสูงที่สุดได้ยังไงกันนะ”
ต่างจากผมที่เข้าชมรมบาสเกตบอลเพราะเขา เรโอะรักบาสเกตบอลจริงๆ
เขาเริ่มเล่นตั้งแต่ยังเด็ก ตอนประถมก็เล่นในทีมเยาวชน และเขายังชื่นชอบ NBA ของอเมริกามาก
ในห้องของเขาเต็มไปด้วยโปสเตอร์และดีวีดีเกี่ยวกับบาสเกตบอล
แถมยังสะอาดเกินเหตุอีกต่างหาก นี่คงเป็นฝีมือของโอสึกิซังแน่ๆ เขานี่โชคดีจริงๆ ที่เจอแฟนที่เข้ากันได้ดีขนาดนี้
“ยังนอนเก่งเหมือนเดิมเลยนะ พอจะทำให้ตื่นได้บ้างไหม?”
“ก็นายตามใจเขาเองนี่นา ต้องเข้มงวดกว่านี้สิ”
“คงยากแล้วล่ะ เพราะตอนนี้เขามีแฟนที่เอาใจเขายิ่งกว่าผมอีก”
โอสึกิซังใจดีกับเรโอะมากกว่าผมแน่นอน อันนี้ผมยอมรับ
“เรโอะ ตื่นได้แล้วเช้าแล้วนะ ข้าวเช้าก็พร้อมแล้ว”
“อืมม…อีกนิดนึง”
“สึมุกิช่วยทำข้าวเช้าด้วยนะ กินตอนยังร้อนๆ ดีกว่า”
“อืมม ถ้าจูบให้จะลุก”
“อยากตายหรือไง”
พอพูดไปแบบนั้น เขาก็หัวเราะเบาๆ แล้วลุกขึ้นนั่ง
“อรุณสวัสดิ์ เรียวมะ”
“อรุณสวัสดิ์ เรโอะ”
“อ้าว สึมุกิก็อยู่นี่ด้วยเหรอ?”
“ฉันอยู่นี่แล้วทำไมเหรอ? ก็เรียวมะน่ะติดฉันมากกว่านายนะ เมื่อวานก็ยังนอนเตียงเดียวกันเลย”
“สึมุกิ พูดอะไรเกินไปแล้ว”
ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันที ห้ามให้เรโอะรู้เรื่องเด็ดขาด เพราะเขาจะรีบเล่าให้แฟนฟัง แล้วจากนั้นข่าวจะกระจายไปทั่ว
ตอนนั้นเอง โทรศัพท์ของเรโอะดังขึ้น
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับ
“อรุณสวัสดิ์ ชิซึกุ”
『อรุณสวัสดิ์ เรโอะคุง วันนี้ตื่นแล้วเหรอ』
เรโอะเปิดลำโพง ทำให้ได้ยินเสียงโอสึกิซัง แฟนของเขา
“อืม เรียวมะมาปลุกน่ะ เขาอยู่ตรงนี้เลย”
『หืม โคกุเระคุงเหรอ?』
“พูดเหมือนมีอะไรอยากจะบอกเลยนะ”
『ช่วยเลิกทำตัวเหมือนเป็นแฟนของเรโอะคุงสักทีได้ไหม』
“พูดอะไรของเธอน่ะ?”
『ฮะๆ ล้อเล่นน่ะ… สัก 20% ได้มั้ง』
ดูเหมือนอีก 80% จะเป็นเรื่องจริง แต่ผมก็พอเข้าใจความรู้สึกของโอสึกิซัง
เพราะเธอคอยโทรปลุกเรโอะทุกเช้า การที่ผมมาแย่งบทบาทนี้ไป อาจทำให้เธอรู้สึกเหมือนโดนแย่งหน้าที่ ซึ่งในฐานะคนที่ชอบดูแลคนอื่น ผมก็พอเข้าใจความรู้สึกนี้ได้
“ชิซึกุจัง! สวัสดีตอนเช้า! ฉัน ฮิอิรากิ สึมุกิเอง!”
『ฮิอิรากิซัง!? อ๋อ… จริงสิ ตอนนี้เธออยู่กับโคกุเระคุงนี่นะ』
“คำพูดของเธอนี่มัน…”
“ใช่เลย! เช้านี้ก็เหมือนกัน ฉันกับเรียวมะ…”
“หยุดพูดนะ!”
『…เดี๋ยวเถอะ จะฟังเรื่องนี้กับอาริสะพร้อมกันทีเดียวเลยแล้วกัน』
“ทำไมอาริสะต้องมาเกี่ยวด้วยล่ะ!?”
ดูเหมือนช่วงนี้จะไม่ใช่ช่วงที่โชคเข้าข้างผมเลยสักนิด
『ตอนนี้ฮิอิรางิซังอยู่ในห้องของเรโอะคุงเหรอ』
“ใช่เลย! อ๊ะ ไม่ต้องห่วงนะ ฉันไม่มีความสนใจในตัวเรโอะหรอก! แค่มีเรียวมะอยู่ข้างๆ ฉันก็พอใจแล้ว”
『อืม… เรื่องนั้นฉันไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่หรอก แต่ถ้าโคกุเระคุงล่ะก็ จะน่าห่วงกว่า』
คำพูดของโอสึกิซังทำให้ผมกับสึมุกิต่างหันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย
แต่ดูเหมือนจะไม่มีความจำเป็นต้องขุดลึกไปกว่านี้
『งั้นฉันจะไปปลุกอีกคนก่อนนะ เรโอะคุง ไว้เจอกันที่โรงเรียน』
“อื้ม ดูแลตัวเองด้วยล่ะ ไว้เจอกัน”
การสนทนาจบลงที่ตรงนี้
โอสึกิซังน่าจะไปปลุกอาริสะเหมือนที่เธอทำทุกวัน
“อยากให้ชิซึกุมาปลุกด้วยตัวเองจัง…”
เรโอะพูดออกมาด้วยเสียงเบาๆ
“อ๊ะ! มะ…ไม่ใช่ว่าไม่อยากให้เรียวมะปลุกนะ! ฉันชอบมากเลยต่างหาก!”
“ตั้งแต่นี้ไม่ต้องเสริมอะไรแบบนั้นได้ไหม”
“ให้ชิซึกุจังมาปลุกเองเลยสิ! แต่ก็คงยากที่จะให้เธอมาที่นี่น่ะนะ…”
เด็กสาวที่ขึ้นชื่อเรื่องตามใจแฟนแบบโอสึกิซังจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้ยังไงกันล่ะ
เธอเป็นคนที่ยอมตื่นตีสี่เพื่อมาดูแลแฟนได้ง่ายๆ แต่ที่ไม่ทำแบบนั้นก็เพราะเหตุผลเดียว
อาริสะเคยร้องไห้ออกมาจริงจังพร้อมประกาศว่า “ตอนเช้าให้ชิซึกุปลุกฉันเองเท่านั้น ฉันถึงจะตื่นได้!”
โอสึกิซังที่ปล่อยอาริสะไว้ไม่ได้ เลยทำได้แค่โทรปลุกเรโอะเท่านั้น
“วันนี้ฉันต้องสนิทกับอาริสะจังกับชิซึกุจังให้ได้!”
สึมุกิดูมุ่งมั่นที่จะหาเพื่อนผู้หญิงใหม่
เธอมองอาริสะด้วยสายตาชื่นชม ดูเหมือนเธอจะรู้สึกแบบนี้ตั้งแต่เมื่อคืน เพราะถามเรื่องอาริสะจากผมหลายเรื่อง
แต่เหตุผลที่เธอให้กลับมีเพียงแค่ว่า “อยากสนิทกับคนสวยๆ”
เป็นความคิดที่ไม่ค่อยเหมือนกับสึมุกิในความทรงจำของผมเลย
“ถ้าพูดถึงเรื่องเรียวมะกับเรโอะเมื่อสิบปีก่อน อาจจะทำให้พวกเธอยอมรับได้มั้ง!”
“ไม่ต้องพูดเลยจะดีกว่านะ”
“เฮ้อ… แม่คนนี้ก็ยังเหมือนเดิมเลยแฮะ”
ถึงอย่างนั้นก็ยังมีบางอย่างที่ไม่เปลี่ยนไป
นิสัยชอบปั่นหัวพวกเราให้วุ่นวายก็ยังเหมือนเดิมเป๊ะๆ
MANGA DISCUSSION