ตอนที่ 56 พบกันอีกครั้ง
จู่ๆ เสียงกริ่งประตูก็ดังขึ้น และตามด้วยเสียงเปิดประตู
คนที่เข้ามาคือเพื่อนสนิทของอาริสะ ซึ่งเป็นแฟนของเพื่อนสนิทของผม
“ก็แค่แวะมาดูไว้เผื่อๆ น่ะ”
ตอนนั้น ผมกับอาริสะนั่งกันอยู่ที่มุมคนละด้านของโซฟา
“เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า? หรือว่าจบแล้ว? หรือฉันมาขัดจังหวะ?”
ผมลุกขึ้นและหยิบกระเป๋านักเรียนของตัวเอง
“อะ…โอสึกิซังก็กลับมาแล้ว งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้”
ผมเดินผ่านโอสึกิซังและออกจากบ้านหลังนั้นไป
โดยไม่แม้แต่จะมองไปที่ป้ายรถเมล์ ผมวิ่งกลับบ้านของตัวเองด้วยความเร็วสุดตัว
ระหว่างวิ่ง ผมตีแก้มตัวเองหลายครั้งเพื่อให้ตัวเองสงบลง
ผลลัพธ์ก็คือ…ผมไม่ได้จูบ
ผมหยุดตัวเองไว้ได้ ถ้าผมไม่หยุด คงได้จูบอาริสะไปแล้วแน่ๆ
การที่โอสึกิซังเข้ามาไม่ได้ส่งผลอะไรเลย
การปล่อยตัวไปตามบรรยากาศจนเกือบจูบ…
ทั้งๆ ที่ผมยังไม่ลืมความรักในอดีตของตัวเอง
แต่กลับคิดอยากจะกอดอาริสะเข้าให้แล้ว
“ผมนี่มันแย่จริงๆ”
แต่เธอน่ารักมาก…น่ารักจนเกินไป
ถ้าผมปล่อยตัวปล่อยใจจนจูบไปแล้วจะเป็นยังไงกันนะ?
อาริสะเองก็…
อ๊าก! ไม่เข้าใจอะไรเลย!
“ช่างเถอะ กลับไปเล่นกับฮิโยริระบายอารมณ์ดีกว่า”
ระหว่างที่ผมกำลังสับสนในหัว ผมก็มาถึงบ้านในที่สุด
ผมเช็ดเหงื่อและจัดการหายใจให้เป็นปกติ
แล้วก็ทำตัวเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ผมเปิดประตูบ้าน
เมื่อประตูเปิดออก ผมก็ได้ยินเสียงหัวเราะอย่างสนุกสนานดังมาจากห้องนั่งเล่น
ที่ชั้นวางรองเท้า มีรองเท้าของแม่ พ่อ และฮิโยริวางอยู่
ดูเหมือนทุกคนจะกลับบ้านเร็ววันนี้
และยังมีรองเท้าของผู้หญิงที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อนวางเพิ่มอยู่
ไม่ใช่รองเท้าของเรโอะ แล้วมันจะเป็นของใคร?
ผมวางกระเป๋านักเรียนลงกับพื้น แล้วเปิดประตูห้องนั่งเล่น
ในนั้นมีพ่อ แม่ ฮิโยริ…และผู้หญิงคนหนึ่งที่ดูอายุไล่เลี่ยกับผม
“กลับมาแล้วเหรอ?”
“พี่จ๋า~ ยินดีต้อนรับกลับ!”
“อืม กลับมาแล้ว แล้ว…เธอคือ?”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นสังเกตเห็นผม เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินมาหาผม
เธอเป็นผู้หญิงที่มีผมยาวสีดำเป็นประกาย และใบหน้าที่น่ารักจนเกินบรรยาย
น่ารักพอๆ กับอาริสะ จนทำให้ผมเผลอรู้สึกตื่นเต้นไปเล็กน้อย
แต่สายตาของเธอที่มองมาที่ผมนั้น ช่างอ่อนโยนและเปี่ยมด้วยความอบอุ่น
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ…เรียวมะ”
“เอ๊ะ? อะ…คุณคือใครเหรอครับ?”
“แหม~ ฉันจำเรียวมะได้ในแวบเดียวเลยนะ…แต่ตัวสูงขึ้นมากเลย ดูหล่อขึ้นจนแทบจำไม่ได้แน่ะ!”
“เอ๊ะ…”
เสียงนี้…ผมคุ้นๆ
ผมเคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน
แต่เป็นเรื่องที่นานมากแล้ว อาจจะเกือบ 10 ปีมาแล้วก็ได้
“ผมยาวขึ้นด้วย…แบบนี้จำไม่ได้เลยใช่ไหม? ทั้งๆ ที่เราเคยเล่นด้วยกันตอนเด็กๆ ทั้งเรียวมะ…แล้วก็เรโอะ”
“…..อ๊ะ!”
ในตอนนั้นเอง ผมก็นึกออก
ตอนอายุ 5 ขวบ ผมมีเพื่อนสมัยเด็กอีกคนหนึ่ง นอกจากเรโอะ
ตอนนั้นเราสามคนเคยเล่นด้วยกันตลอด
เรโอะที่มีนิสัยตามใจตัวเอง และผู้หญิงที่ชอบเล่นอะไรที่ต้องใช้ร่างกาย
เธอมักจะคิดเกมสนุกๆ มาชวนพวกเราเล่นเสมอ
ชื่อของเธอคือ…
“…สึมุกิ?”
“ใช่! จำได้แล้วสินะ ฉันเอง สึมุกิ!”
ชื่อของเธอคือ ฮิอิรากิ สึมุกิ
เธอเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เคยอาศัยอยู่ตรงข้ามบ้านของผม
สึมุกิกับเรโอะ และผม เคยอยู่ด้วยกันตลอดในสมัยนั้น
จนกระทั่งสึมุกิต้องย้ายบ้านไปเพราะธุระของครอบครัว
และเราก็ขาดการติดต่อกันตั้งแต่นั้นมา
“อะ…แล้วเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“บ้านของฮิอิรากิกำลังจะต้องไปทำงานต่างประเทศระยะหนึ่งน่ะ”
แม่ของผมพูดเสริมเพื่ออธิบายเรื่องราวเพิ่มเติม
“เราได้คุยกันว่าจะทำยังไงกับสึมุกิจัง แล้วในที่สุดบ้านเราก็ตกลงรับดูแลเธอไว้เอง เพราะมีความสนิทสนมกัน”
“หา!? ผมไม่เห็นเคยได้ยินเรื่องนี้เลย!”
“พวกเราตั้งใจจะทำให้นายประหลาดใจน่ะ”
พ่อพูดออกมาอย่างไม่รู้สึกผิดเลยสักนิด
“แล้วนี่หมายความว่าเธอจะมาอยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?”
“ใช่แล้ว แต่ฉันตกใจมากเลยล่ะ คิดว่าจะมีแค่คุณลุงกับคุณป้า แต่กลับมีฮิโยริจังที่น่ารักขนาดนี้อยู่ด้วย เวลา 10 ปีนี่เปลี่ยนอะไรหลายๆ อย่างนะ”
“ฉันอยากเล่นกับพี่สาวสึมุกิ!”
ฮิโยริอายุเพียง 5 ขวบ ดังนั้นแน่นอนว่าสึมุกิจะไม่รู้จักเธอมาก่อนอยู่แล้ว และที่สำคัญ ถึงแม้เธอจะเป็นเพื่อนสมัยเด็ก แต่การที่ต้องมาอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกับผู้หญิงที่อายุเท่ากันแบบนี้มัน…
“ฉันมีเรื่องที่อยากจะเล่าให้เรียวมะฟังเยอะเลย! เรื่องในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาน่ะ…มีเยอะมากจริงๆ!”
สึมุกิพูดพลางเข้ามาใกล้ผมมากขึ้น ทำให้ผมเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมา เพราะไม่เคยคิดเลยว่าเพื่อนสมัยเด็กคนนี้จะโตมาน่ารักได้ขนาดนี้ ความเขินอายเข้ามาเต็มที่
“ช-ช่วยใจเย็นก่อนเถอะครับ ผมเองยังสับสนอยู่เลย แล้วอีกอย่าง เรื่องพวกนั้นเราค่อยคุยกันทีหลังก็ได้นี่นา!”
“เรียวมะ ทำไมพูดจาแปลกๆ แบบนั้นล่ะ? เมื่อก่อนนายก็พูดปกติใช่ไหม เรียกฉันว่าสึมุกิเถอะ”
“คือ…กับผู้หญิงคนอื่นผมมักจะพูดแบบนี้น่ะ”
“ผู้หญิงคนอื่นอะไรกันล่ะ! ฉันเป็นเพื่อนสมัยเด็กของนาย ไม่เห็นต้องพูดจาห่างเหินเลย เรียกฉันว่าสึมุกิเหมือนเดิมเถอะ ฉันไม่ชอบที่นายทำตัวเหมือนคนไม่รู้จักกันแบบนี้”
สิ่งที่สึมุกิพูดก็ถูกแล้ว การที่ต้องมาอยู่บ้านเดียวกัน ถ้าผมยังทำตัวห่างเหิน มันก็คงแปลกเกินไป ในฐานะเพื่อนสมัยเด็ก เธอก็เป็นคนที่สนิทสนมกันมาตั้งแต่เด็ก มันคงจะดีกว่าถ้าผมเปิดใจ
“เข้าใจแล้ว สึมุกิ…ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“อื้ม! นี่สิถึงจะเป็นเรียวมะที่ฉันรู้จัก”
รอยยิ้มของเธอไม่ได้เปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเลย มันทำให้ผมรู้สึกโล่งใจ
“ว่าแต่ เราไปเจอเรโอะกันเถอะ ฉันอยากให้เราสามคนได้เจอกันอีกครั้ง”
ผมรีบวิ่งออกจากบ้านทันทีเพื่อไปเรียกเรโอะที่บ้านข้างๆ แต่แล้วก็ถูกดึงมือไว้
คนที่หยุดผมไว้คือสึมุกิ
“เรโอะไม่ต้องหรอก พวกเราเลิกคบกันแบบไม่ดีนัก และตอนนี้ฉันก็ไม่มีอะไรจะคุยกับเขาแล้ว”
“หา?”
“ฉันแค่อยากคุยกับเรียวมะคนเดียวน่ะ 10 ปีที่ผ่านมา ฉันพึ่งพาความทรงจำเกี่ยวกับเรียวมะเป็นกำลังใจในการใช้ชีวิตมาตลอด”
“เอ๊ะ?”
“แต่ก็จริง เรื่องพวกนี้คุยกันทีหลังก็ได้ เพราะยังไงเราก็ต้องอยู่บ้านเดียวกัน ฉันขอตัวไปเล่นกับฮิโยริจังก่อนนะ ฮิโยริ ไปอาบน้ำกับพี่สาวกันเถอะ!”
“ไปสิ~!”
หลังจากพูดจบ สึมุกิก็พาฮิโยริเดินไปทางห้องน้ำ ทิ้งให้ผมยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
“เรียวมะ ตั้งแต่พรุ่งนี้ในโรงเรียน ก็ฝากดูแลสึมุกิจังด้วยนะ”
แม่พูดแบบนั้นออกมา และผมเริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดี
“ฝากดูแลในโรงเรียน…นี่อย่าบอกนะว่า…!”
—————
“ฉันชื่อฮิอิรากิ สึมุกิ เพิ่งย้ายมาเรียนที่นี่ ฝากตัวด้วยนะคะ”
“โอ้ววววว!”
ความน่ารักของสึมุกิทำให้เพื่อนผู้ชายในห้องพากันส่งเสียงฮือฮา
ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะย้ายมาเรียนที่เดียวกับผม แถมยังอยู่ห้องเดียวกันอีก
“อ่า……”
เรโอะมองสึมุกิด้วยสีหน้าตรงตามคำพูดนั้นเป๊ะ
บางทีผมอาจจะควรบอกเขาเรื่องนี้ล่วงหน้า
แต่เอาเถอะ ถึงจะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน ผมก็เป็นผู้ชาย ส่วนสึมุกิก็เป็นผู้หญิง ยังไงเราก็คงไม่ได้เกี่ยวข้องกันมากขนาดนั้น
“ฮิอิรากิซังอยู่แถวไหนเหรอครับ?”
เพื่อนร่วมชั้นถาม และสึมุกิก็ยกมือขึ้นมาประกบกันพร้อมรอยยิ้ม
“เอ่อ…ตอนนี้ฉันพักอยู่ที่บ้านของเรียวมะค่ะ”
“ปุ๊ดดด!”
คำตอบที่ตรงไปตรงมาของเธอทำให้ผมพ่นน้ำลายออกมา และเพื่อนทั้งห้องต่างก็หันมามองผม
“หา? โคกุเระกับคุณฮิอิรากินี่มีความสัมพันธ์อะไรกัน?”
สึมุกิยกมือขึ้นมาประกบแก้มทั้งสองข้าง และพูดด้วยน้ำเสียงอายๆ
“ฉันกับเรียวมะเป็นเพื่อนสมัยเด็กกันค่ะ ตอนอายุ 5 ขวบ เราเคยอาบน้ำด้วยกันด้วยนะคะ”
“ดะ…เดี๋ยว…สึมุกิ เธอพูดอะไรน่ะ!?”
“แล้วเราก็สัญญากันว่าจะแต่งงานกันตอนโตด้วยค่ะ”
“กรี๊ดดดด!”
“โหววววว!”
คำพูดที่เกินคาดของเธอ ทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายในห้องส่งเสียงออกมาแตกต่างกัน
แล้วทันใดนั้น
“เป๊าะ!”
มีเสียงเหมือนอะไรบางอย่างหักดังขึ้นมาจากข้างหลังผม
ผมรู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง และไม่กล้าหันกลับไปมอง
ทั้งที่ด้านหลังผมมีแค่อาริสะเท่านั้น น่าแปลกจริงๆ
(TLN: ตายห่า😂)
ในเวลาเดียวกัน โทรศัพท์มือถือของผมก็มีข้อความเข้ามา
เมื่อผมแอบมองดูข้อความนั้น
ARISA : “ฉันมีเรื่องอยากฟังจากนายหน่อยนะ”
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกถึงบรรยากาศคุกคามผ่านข้อความตัวอักษรแบบนี้
เรื่องราวของผม อาริสะ และเพื่อนสมัยเด็กอย่างสึมุกิ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว…
TLN: สงคราม(รัก) เริ่มขึ้นแล้ว
ภาพสึมุกิมีอยู่ในตอน 0(ภาพประกอบ) นะครับ ไปดูได้
MANGA DISCUSSION