ตอนที่ 40 หลังเที่ยง เพียงเราสอง 1
พวกเราตัดสินใจเริ่มแผนตามที่วางไว้แต่แรก นั่นคือการปล่อยให้เรโอะกับโอสึกิซังได้อยู่ด้วยกันตามลำพัง
หลังจากสองคนนั้นเดินอยู่ข้างหน้า ผมกับอาซาฮินะซังจึงแอบแยกตัวออกมาอย่างเงียบ ๆ แล้วหนีเข้าไปหลบในบริเวณที่มีสนามหญ้าใหญ่ พื้นที่นี้ถูกต้นไม้บังไว้อย่างมิดชิด ต่อให้สองคนนั้นหันกลับมามองก็ไม่มีทางเห็นพวกเราได้
อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกกังวล
“ว่าแต่ โอสึกิซังรู้ตัวหรือเปล่าว่าเรโอะรู้สึกยังไงกับเธอ?” ผมหันไปถามอาซาฮินะซัง
“รู้ตัวแหละ แต่ไม่ยอมรับต่างหาก เธอคงคิดว่า ‘ไม่มีทางที่ฉันจะถูกใครชอบหรอก’ หรืออะไรทำนองนั้น”
“ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?”
“ก็เพราะชิซึกุไม่คิดว่าตัวเองมีเสน่ห์อะไรเลย เธอประเมินตัวเองต่ำเกินไป ทั้งที่น่ารักขนาดนั้นและยังเก่งเรื่องงานบ้านอีก”
“โอสึกิซังเคยมีใครมาสารภาพรักหรือเปล่า?”
“เท่าที่เคยได้ยินจากปากเธอเอง ไม่เคยมีหรอก คนที่เข้ามาคุยกับเธอส่วนใหญ่จริง ๆ แล้วเล็งฉันต่างหาก”
คำพูดของอาซาฮินะซังทำให้ผมนึกถึงคำพูดของโอสึกิซังที่เคยบอกไว้ เธอคงรู้สึกว่ามันแทบเป็นไปไม่ได้ที่ใครสักคนจะชอบเธอ ทั้งที่เธอมีเพื่อนสาวสวยอย่างอาซาฮินะซัง และคนสวยที่มีเสน่ห์แบบนักกีฬาอย่างมิซึฮาระซังอยู่ข้าง ๆ
“เพราะอย่างนี้ไง ฉันถึงคิดว่านานกับฮิราซาวะคุงที่มองเห็นเสน่ห์ของชิซึกุน่ะสายตาดีทีเดียว แม้ว่านายจะไม่ได้จริงจังอะไรก็ตาม”
“ฮ่าฮ่า แต่ผมคิดว่าโอสึกิซังมีเสน่ห์จริง ๆ นะ ใครชอบเธอก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย”
“…”
“ทำไมทำหน้าไม่พอใจแบบนั้นล่ะครับ!”
“เปล๊า~”
ผมรู้สึกเหมือนถูกดุเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้อง การที่โอสึกิซังจะรับรู้ว่าเรโอะชอบเธอหรือไม่นั้น อาจต้องรอให้เขาสารภาพรักอย่างตรงไปตรงมาก็เป็นได้
“แต่ก็ดีแล้วล่ะที่ดูเหมือนโอสึกิซังจะพอรู้ตัว ไม่งั้นการที่เธอไม่รับรู้อะไรเลยคงเป็นบาปไม่น้อย”
“…”
“หยุดทำหน้าประหลาดแบบนั้นทีได้ไหมครับ!”
“เปล๊า~”
อาซาฮินะซังเริ่มดูเย็นชาแปลก ๆ ผมเริ่มรู้สึกว่าการเข้าใจผู้หญิงนี่มันยากจริง ๆ
“ว่าแต่ โคกุเระคุงชอบผู้หญิงแบบไหนเหรอ?”
“ถามแบบนี้ทำไมครับ?”
“ก็แค่คุยเล่นไง คุยเรื่องนี้อยู่แล้วนี่”
“งั้นอาซาฮินะซังล่ะ ชอบผู้ชายแบบไหนครับ? คิดว่าเรื่องนี้น่าสนใจกว่า คนทั้งโรงเรียนก็คงอยากรู้เหมือนกัน”
ผมรู้สึกว่าตัวเองโชคดีที่ได้คุยแบบนี้กับอาซาฮินะซัง สาวที่โด่งดังที่สุดในโรงเรียน การที่เรามานั่งคุยกันสองคนใต้ต้นไม้ในที่เงียบ ๆ แบบนี้ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษ
ผมเอนตัวพิงต้นไม้เพื่อลดแสงแดดที่แรงในช่วงบ่าย มันสบายจนอยากจะนั่งอยู่เฉย ๆ แบบนี้แทนที่จะไปเล่นเครื่องเล่นต่อ
“นายเองก็อยากรู้ใช่ไหม?”
อาซาฮินะซังเองก็เอนตัวพิงต้นไม้ แต่ไหล่ของเราสองคนกลับชนกัน ผมรู้สึกเขินเล็กน้อยจึงพยายามลุกออกห่าง
“ทำไมลุกออกไปล่ะ?”
“คือว่า เรานั่งติดกันเกินไป…”
“แต่ถ้านายลุกไปแบบนั้นก็คุยกันไม่สะดวกสิ”
เธอพูดอย่างมั่นใจจนผมต้องกลับมานั่งพิงต้นไม้เหมือนเดิม ไหล่ของเราสองคนชนกันอีกครั้ง ครั้งนี้ใกล้กว่าครั้งก่อนเสียด้วย
“ว้าย!”
“ตกใจอะไรครับ?”
“ก็นายกลับมานั่งใกล้ฉันแบบนั้นน่ะสิ… แต่ไม่เป็นไรหรอก”
อาซาฮินะซังมองผมด้วยสายตาอ้อน ๆ
“อย่าลุกหนีไปอีกนะ”
“…”
สายตาแบบนั้นมันอันตรายมาก ผมพยายามเปลี่ยนเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง
“ว่าแต่ คุณชอบผู้ชายแบบไหนกันแน่ครับ?”
“ก็คงเป็นคนที่ดูเป็นพ่อบ้านหน่อย ๆ ล่ะมั้ง เพราะฉันทำงานบ้านไม่เก่งเลย…”
“ถ้าอย่างนั้นก็แค่พึ่งโอสึกิซังสิครับ… ไม่สิ แบบนั้นคงไม่ใช่สิ่งที่คุณหมายถึง”
“ถ้าชิซึกุเป็นผู้ชายล่ะก็ ฉันคงคบกับเธอไปแล้ว”
“งั้นก็หมายถึงคนที่เหมือนโอสึกิซัง ใจดี อยู่ใกล้ๆ คอยช่วยเหลือ แบบนั้นสินะ?”
“ใช่เลย! คนที่พึ่งพาได้ มืออบอุ่น คอยช่วยตอนที่ฉันลำบาก… แล้วก็น้องสาวน่ารัก ๆ…”
(TLN: เอ๊ะ?)
“เอ๊ะ? พูดไปพูดมาไม่มีทางมีคนแบบนั้นอยู่จริงหรอกครับ คุณคงฝันกลางวันไปหน่อย”
“โคกุเระคุง ฉันขอตีหัวนายได้ไหม?”
(TLN: ขอด้วยทีนึง🙃)
“อะไรครับเนี่ย!”
ผมเริ่มสับสน ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริง ๆ ถึงเวลาที่ผมต้องเปลี่ยนเรื่องคุยแล้ว
MANGA DISCUSSION