ตอนที่ 114 ทุกสิ่งที่ฉันทำได้ 5 : มุมมองอาริสะ
“หืม”
ฉัน อาซาฮินะ อาริสะ กำลังไม่สบอารมณ์ ก็เพราะเรียวมะไม่สนใจฉันเลยนี่นา!
รู้หรอกน่าว่าเขากำลังทำงานเกี่ยวกับงานวัฒนธรรมตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็อยากจะอยู่เคียงข้างเขานะ
แม้ว่าเขาจะมาที่บ้านฉันก็เอาแต่ทำงานของงานวัฒนธรรม ไม่ได้หวานกันเลยสักนิด ทั้งที่เราคุยกันนอกบ้านไม่ได้แท้ ๆ ก็เลยเหลือแค่ในบ้านนี่แหละที่ได้เจอกัน
แต่ถึงจะมีความไม่พอใจแบบนั้น ฉันก็ให้อภัยเขา เพราะวันนี้เขาบอกว่าจะมาทำงานบ้านให้ ยังไงวันนี้ฉันจะต้องได้รับการเอาใจใส่อย่างเต็มที่แน่นอน
เสียงกริ่งดังขึ้น ฉันเปิดประตูด้วยความตื่นเต้น ด้านหน้านั้นมีเด็กผู้ชายที่ฉันหลงรักยืนอยู่
“อาริสะ ขอโทษที่ให้รอนะ”
“กรี๊ดดดดดดดดดดด!”
ตะ ตาของเขามันตายไปแล้ว! มีรอยคล้ำใต้ตามากมาย! ดวงตาของเรียวมะที่โดยปกติเป็นเด็กหน้าน่ารักและมีรอยยิ้มอันแสนสดใส กลายเป็นสภาพที่น่าตกใจ
เรียวมะเดินโซเซเข้ามาหาฉัน
“นายทำงานหนักเกินไปแล้ว! เมื่อคืนไม่ได้นอนเลยเหรอ!”
“อืม ตอนกลางคืนต้องตัดชุด ก็เลยไม่ได้นอนเลย”
“แบบนั้นร่างกายจะแย่เอานะ! แล้วนายนอนไหนล่ะ”
“ก็ในโรงเรียนไง ตอนเรียนก็นอนเอาได้”
นั่นมันไม่ใช่เวลาที่ควรนอนเลยไม่ใช่เหรอ
“ฉันบอกครูไว้แล้วนะ ถึงจะโดนดุมาก แต่พักนี้ครูก็เริ่มปล่อยผ่านแล้ว”
เขาฝืนสุดตัวเลยสินะ ครูเองก็คงรู้ว่าเรียวมะทำงานหนักในฐานะกรรมการจัดงานวัฒนธรรม แล้วตัวเขาเองก็เป็นนักเรียนดีเด่นมาโดยตลอด ครูคงคิดว่าแค่ช่วงนี้แหละ เดี๋ยวก็กลับมาเหมือนเดิม
“เกรดตกแน่ ๆ เลยนะ”
“ถ้าตกก็ช่วยฉันทีนะ ถ้าอาริสะสอนให้ล่ะก็ ฉันน่าจะเก่งขึ้นได้ทันทีเลยล่ะ”
แบบนั้นก็ไม่เลวนะ ใช้เป็นข้ออ้างให้อยู่ด้วยกันสองคนก็ได้ แถมถ้าแก้โจทย์ได้หนึ่งข้อก็ให้รางวัล อะไรแบบนั้นก็ช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นได้เยอะ ฉันจึงพยุงเรียวมะที่เดินโซเซอยู่
“หลังจากกินข้าวเสร็จ ฉันต้องไปทำชุดอีก…”
“นายฝืนเกินไปแล้วนะ พักหน่อยเถอะ ฉันกินข้าวที่เหลือก็ได้”
ฉันจัดให้เขานอนบนโซฟา แล้วยื่นขาให้หนุนนอนเป็นหมอน ฉันรู้สึกว่าเขาพยายามเกินไปจริง ๆ ในฐานะกรรมการงานวัฒนธรรม เขายังเข้าไปช่วยจัดการปัญหาของโรงเรียนฝั่งตรงข้ามด้วย ความพยายามของเขาทำให้คนที่รู้จักเขาค่อย ๆ เพิ่มขึ้น
“นี่ เรียวมะ”
“อืม อะไรเหรอ”
“ถ้านายบอกมาว่าตอนนี้อยากทำอะไร ฉันจะให้รางวัลกับนายเองนะ ก็นายพยายามมาขนาดนี้แล้ว…”
“จริงเหรอ”
เขาเหมือนจะง่วงจนตอบช้าลงนิดหน่อย เวลานี้แหละที่คนเราจะพูดความรู้สึกจริงออกมา ฉันอยากฟังคำขอจากใจของเรียวมะ
“งั้นขอ…”
ฉันลูบหัวเรียวมะไปพร้อมกับฟังคำพูดของเขา
“ขอจับหน้าอกได้ไหม?”
“…หะ?”
เมื่อกี้เขาว่ายังไงนะ เขาพูดว่า ‘หน้าอก’ ชัด ๆ เลยใช่มั้ย ฉันก็รู้นะว่าเรียวมะชอบหน้าอกฉันมาก แต่แบบว่า เอ่อ…ควรทำไงดี
“ชิซุกุ๊๊๊๊๊!”
ฉันปล่อยหัวของเรียวมะลงบนโซฟา ลุกออกมา แล้วกดโทรศัพท์หาชิซุกุ สายเชื่อมต่อทันที
[มีอะไรเหรอ]
“เรียวมะบอกว่าอยากจับหน้าอกฉัน!”
[ฆ่ามัน]
“ห้ามฆ่านะ!”
ฉันอธิบายสภาพของเรียวมะในตอนนี้ให้ชิซุกุฟัง
[อย่างนี้นี่เอง ดูเหมือนว่าเรียวมะจะใกล้ขีดจำกัดแล้วล่ะ ตอนอยู่โรงเรียนก็ฝืนไว้ แต่พอมีอาริสะอยู่ใกล้ ๆ เลยรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นแน่ ๆ แปลว่าเขาไว้ใจอาริสะนะ]
“เอ๋… แบบนั้นเหรอ”
มันทำให้ฉันรู้สึกดีมากจริง ๆ
[งั้นก็ให้เขาจับไปเถอะ ยังไงถ้าได้เป็นแฟนกันก็โดนจับเยอะแยะอยู่แล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย]
“เอ๋ะ!? แต่แบบว่า…”
[ไม่เป็นไร ฉันรับประกันให้เอง หน้าอกของอาริสะนุ่มและแน่น ฉันที่จับมันเกือบทุกวันรู้ดีที่สุด]
“ไม่ต้องมารับประกันแบบนั้นเลยยย!”
ถึงเราจะรักกันทั้งสองฝ่าย ฉันเองก็ใส่เสื้อที่เน้นร่องอกยั่วเรียวมะอยู่บ่อย ๆ ดังนั้นมันก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรมากหรอก
แต่อย่างว่า บรรยากาศมันก็สำคัญนี่นา…แต่ถ้าเรียวมะต้องการ ฉันก็ไม่รู้สึกอายหรอก ฉันมั่นใจในหน้าตาและรูปร่างของตัวเองมาก ไม่เคยคิดว่าแพ้ใครเลย
[เปลี่ยนเรื่องนะ อาริสะจะลงประกวดมิสคอนจริง ๆ เหรอ ฉันคิดว่าอาริสะเกลียดประกวดแบบนั้นที่สุดซะอีก]
“เพราะว่าเด็กคนนั้นจะลงใช่มั้ยล่ะ ฉันถึงไม่อยากแพ้”
[เขาว่าต้องใส่ชุดว่ายน้ำด้วยนะ]
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้แพ้ใครอยู่แล้ว ฉันแค่ไม่ชอบให้ใครมามองด้วยสายตาลามกเท่านั้นเอง”
ฉันไม่คิดว่ามันแปลกอะไรที่ถูกเรียกว่าเป็นสาวสวยที่สุดในโรงเรียน
เพราะฉันได้รับความงามและรูปร่างมาจากพ่อแม่ ฉันมั่นใจในสิ่งนั้น สิ่งเดียวที่ไม่มั่นใจก็คือ มันจะถูกใจเรียวมะรึเปล่าเท่านั้นเอง
อย่างสึมุกิก็มีหน้าอกสวยพอดีมือ ต้นขาก็ใหญ่ ดูยังไงก็น่าจะถูกใจผู้ชายมากกว่า ส่วนชิซุกุก็มีรูปร่างเล็ก ๆ น่ารัก ๆ แบบนั้น ผู้ชายมักจะเลือก “น่ารัก” มากกว่า “สวย” อยู่แล้ว ฉันรู้เรื่องนั้นดี
โคโนฮานะ ฮินะ เด็กผู้หญิงที่เป็นรักแรกของเรียวมะ ฉันไม่เคยเห็นเธอ แต่สึมุกิกับชิซุกุบอกว่าเคยเจอที่โรงเรียนฝั่งตรงข้าม
“ผมยาว หน้าอกใหญ่ แล้วก็สวยมากใช่ไหม ฉันไม่อยากแพ้เธอคนนั้นเลย ยิ่งในงานแคมป์ไฟหลังงานวัฒนธรรม มิสคอนชายหญิงจะต้องเต้นด้วยกันต่อหน้าทุกคนใช่ไหม”
[ฝั่งหญิงสามารถปฏิเสธได้อยู่นะ]
“แต่ถ้าเรียวมะเลือกผู้หญิงคนนั้น…”
[ถ้าเขาทำแบบนั้นตอนนี้ ฉันจะทุบหัวเขาเอง]
ถึงชิซุกุจะพูดแบบนั้น ฉันก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรแน่นอนหรอก เพราะฉะนั้นฉันต้องชนะในมิสคอนให้ได้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับตอนที่เขาชวน
แต่ถ้าเรียวมะไม่ชนะในฝั่งผู้ชายแล้วคนอื่นได้ตำแหน่ง ฉันจะกลับบ้านทันที
[ถ้ารู้ว่าอาริสะจะเข้าประกวด อาจจะไม่มีใครกล้าเข้าประกวดเลยก็ได้ อ้อ ต้องห้ามสึมุกิลงด้วยนะ]
“สึมุกินี่ก็เป็นที่นิยมที่โรงเรียนฝั่งนั้นเหมือนกันเหรอ”
[สึมุกินี่สุดยอดเลยนะ ด้วยความซื่อ ๆ ของเธอ ทำเอาผู้ชายโรงเรียนฝั่งโน้นหัวปั่นไปหมด ประธานโคโนฮานะยังแสดงความไม่พอใจเลย]
ฉันคิดว่าสึมุกิอาจจะได้รับความนิยมในโรงเรียนมากกว่าฉันก็ได้ ท่าทางอ้อนแบบนั้น ฉันไม่มีทางเลียนแบบได้แน่ ถ้าเธอได้คะแนนจากทั้งสองโรงเรียน ฉันกับเธอคนนั้นอาจแพ้แน่
[แล้วพวกผู้หญิงก็ร้องเรียนกันหนักมากเลย เหมือนที่คนเขาพูดกันในเน็ตเลยว่าเป็น “ตัวทำลายกลุ่ม” สึมุกิก็เข้าข่ายแบบนั้นแหละ]
“พูดแบบนั้นมันเกินไปหน่อยนะ”
ฉันไม่ได้ปฏิเสธนะ เพราะเธอทำให้ชมรมว่ายน้ำแตกไปหมดแล้ว
ทั้งที่มีพรสวรรค์ด้านว่ายน้ำแท้ ๆ มันเลยยิ่งยุ่งยากไปใหญ่ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรเธอได้เลย
ฉันอยากให้คนชมว่าฉันกับชิซุกุสามารถจับคนที่ไม่มีเพื่อนมาเป็นเพื่อนสนิทกันได้
[กลับมาเรื่องเดิมนะ การให้จับหน้าอกจะช่วยให้ผู้ชายมีแรงบันดาลใจนะ ที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกของอาริสะล่ะ]
“นี่มันจากประสบการณ์ตรงเหรอ?”
[ไม่ขอตอบนะจ๊ะ อ๊ะ เรโอะโทรมา งั้นแค่นี้ก่อนนะ]
แล้วสายก็ถูกตัดไป ฉันกัดฟันแน่น ไอเจ้าฮิราซาวะนั่นเป็นคนทำเรื่องลามกกับชิซุกุแน่ ๆ ฉันไม่ยกโทษให้เด็ดขาดเลย ฉันวางมือถือแล้วตัดสินใจแน่วแน่
วันนี้ฉันก็ใส่เสื้อที่โชว์ร่องอกเพื่อให้เรียวมะดีใจ เตรียมพร้อมแล้ว ชั้นในก็เลือกแบบน่ารักมาใส่ด้วย ฉันกลับไปนั่งที่โซฟา แล้วพยายามให้หัวของเรียวมะมาหนุนบนตักอีกครั้ง
“เรียวมะ ถ้าแบบนั้นจะทำให้นายสบายใจล่ะก็… จับหน้าอกฉันก็ได้นะ”
“ซู้… ซู้…”
“ว่าแล้วเชียว”
ฉันใช้เวลานานไปหน่อยก็ได้ แต่ก็รู้สึกโล่งใจนิด ๆ มันไม่ใช่เรื่องโกหกหรอกนะ แต่สักวันฉันก็ต้องยอมรับเรื่องลามกแบบนั้นให้ได้ เพราะฉันกับเรียวมะจะต้องเป็นแฟนกัน
“ฉันเองก็สนใจในร่างกายของเรียวมะเหมือนกันนะ”
“อืม… อือ…”
หลังจากนั้น ฉันก็เล่นมือถือฆ่าเวลา แล้วร่างของเรียวมะก็เริ่มขยับ ดูเหมือนว่าเขาจะตื่นแล้ว
“ขอโทษนะ เหมือนฉันเผลอหลับไปเลย”
“เป็นไงบ้าง หมอนตักของฉันนอนสบายไหม”
“สบายมากเลย ต้นขาเนียน ๆ ของเธอ กับตรงที่เห็นท้องฟ้าได้แค่ครึ่งเดียว”
“แค่นั้นเหรอ?”
“ที่เธอลูบหัวฉัน มันรู้สึกดีมากเลยล่ะ สบายสุด ๆ”
พอได้ยินคำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความไว้ใจแบบนั้น ฉันรู้สึกดีใจมากจริง ๆ ฉันไม่ใช่คนที่มีนิสัยดีเลย ตั้งแต่เด็กฉันมีศัตรูเยอะมาก
ถึงจะถูกเรียกว่าเป็นผู้นำของห้อง แต่ความรู้สึกที่ทุกคนมีต่อฉันมันออกแนวเกรงกลัวมากกว่า
ตั้งแต่เด็กฉันก็เป็นจุดศูนย์กลางในห้อง ไม่เคยมีความทรงจำดี ๆ กับพวกที่นั่งมุมห้องรวมกลุ่มกัน
เพราะฉันเป็นคนแรง ๆ เลยถูกเข้าใจผิดว่าชอบรังแกคนอื่น
ทั้งที่ไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นเลยแท้ ๆ เพราะฉะนั้นการที่เรียวมะรู้สึกสบายใจเวลามาอยู่ใกล้ฉัน มันทำให้ฉันมีความสุขมากจริง ๆ
ตราบใดที่ฉันยังรู้สึกรักนายอยู่ ฉันก็จะใจดีกับนาย
….แต่ว่าถ้าถึงเวลานั้น ฉันจะจัดการกับผู้หญิงคนนั้นให้เด็ดขาดแน่ ถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐาน ฉันก็ยังทำอะไรไม่ได้ก็เถอะ
“อาริสะ?”
“อืม ไม่มีอะไรหรอก”
“ขอโทษนะ ฉันเหนื่อยมากจริงๆ…ตั้งแต่มาที่บ้านอาริสะก็จำอะไรไม่ได้เลย ฉันพูดอะไรแปลกๆ ไปรึเปล่า?”
“เอ๊ะ? อ๋า~ อื้ม ไม่เป็นไรหรอก”
เขาขอจับหน้าอกฉันน่ะสิ…แต่นั่นมันคือสิ่งที่เรียวมะต้องการจริงๆ ใช่ไหมล่ะ? คิดว่ามันแปลกน่ะเป็นเรื่องเสียมารยาทนะ ก็เด็กผู้ชายก็ต้องสนใจหน้าอกกันทั้งนั้นแหละ เราเองก็ใส่เสื้อคอเปิดเพราะอยากให้เรียวมะเขินนี่นา คิดว่าแปลกคงไม่เหมาะเท่าไหร่
“เรียวมะ พอจบงานวัฒนธรรมแล้วพักผ่อนให้หายเหนื่อยนะ เดี๋ยวเราจะทำอะไรกันให้เยอะๆ เลย”
(TLN:😏)
“อื้ม”
“เราจะพยายามทำให้ทุกสิ่งที่เรียวมะอยากทำเป็นจริงให้มากที่สุดเลย”
“อาริสะนี่ใจดีจัง จุดนี้แหละที่น่ารักมากเลย”
“เพราะงั้นนะ จะให้จับหน้าอกตอนไหนก็ได้นะ”
“ขอบคุณนะ นั่นคือความปรารถนาอันดับหนึ่งของฉันเลย…อ๊ะ?”
เรียวมะลุกพรวดขึ้นมา
“เมื่อกี้ว่าไงนะ”
“เอ๊ะ เอ่อ…ก็เรื่องหน้าอกนั่นแหละ…”
“ฉันเผลอพูดอะไรออกไปรึเปล่า!? อาริสะ หน้าแดงขนาดนี้? นี่หันมาทางนี้หน่อย มองตากันด้วย!”
แย่แล้ว! อายชะมัดเลย! พูดไปได้ไงว่าให้จับหน้าอกน่ะ ไม่ควรพูดแบบนั้นเลยจริงๆ พอมาคิดดูดีๆ แล้วมันไม่ใช่สิ่งที่ผู้หญิงควรพูดก่อนเลยนี่นา ทำยังไงดีๆ ฉันหยิบมือถือขึ้นมา
“ชิซุกุ~! ฉันพูดกับเรียวมะไปแล้วว่าจะให้จับหน้าอก! ฉันนี่มันเด็กลามกใช่ไหม~!”
“อาริสะ! หยุดโทรหาเรื่องแบบนี้เลยนะ เดี๋ยวโดนชิซุกุด่าแน่!”
กลายเป็นเรื่องวุ่นวายไปหน่อย แต่เราก็คุยกันและตกลงว่าจะให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลังจากคบกันเป็นทางการก่อน แล้วเรียวมะก็ดูเหมือนจะสดชื่นขึ้นหลังจากได้พัก
“เอาล่ะ! ถึงเวลาทำชุดแล้ว!”
“ทั้งๆ ที่เหนื่อยขนาดนั้น แต่พอจะทำชุดทีไรก็สดใสตลอดเลยเนอะ”
เวลาที่เรียวมะทำชุดก็มักจะทำที่บ้านของฉัน บ้านของเรียวมะเองมีฮิโยริอยู่ด้วย แล้วระยะทางจากโรงเรียนก็มาที่นี่สะดวกกว่า ก็เลยมาตัดชุดที่นี่ตลอด เรียกได้ว่าพอเสร็จงานโรงเรียนก็จะมาทำต่อทั้งคืน แม้จะอยู่กับแฟน(ชั่วคราว)ในบ้านแค่สองคน แต่เขาก็ยังมุ่งมั่นทำงานต่อได้เรื่อยๆ เลยนะ
“ฉันชอบทำนี่นา พอทำชุดแล้วก็ลืมเรื่องไม่ดีไปหมดเลย แล้วเวลาฮิโยริใส่แล้วดีใจ เราก็รู้สึกดีมาก”
“ชุด Cure Cure ที่ใส่ไปเดตครั้งแรกก็น่าทึ่งสุดๆ ไปเลยนี่นา”
“เพราะงั้นไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหน เหนื่อยแค่ไหน ฉันก็ไม่อยากประนีประนอมกับการทำชุด”
“เรียวมะเนี่ย คล้ายชิซุกุสุดๆ ไปเลย”
“อย่าเอาฉันไปเหมือนกับปีศาจที่จู้จี้นั่นนะ”
สำหรับฉันทั้งสองคนก็ดูคล้ายกันมากเลยนะ แต่พอบอกว่าเหมือนกันก็จะโดนปฏิเสธทันที ส่วนฉันน่ะตอนโดนบอกว่าเหมือนฮิราซาวะคุงทีไร ก็รู้สึกไม่ชอบทุกทีเลย ไม่เห็นจะเหมือนกันซักนิด
“เสร็จแล้ว!”
“ของใครน่ะ ชุดของฮิราซาวะคุงอีกแล้วเหรอ?”
“ของอาริสะนั่นแหละ ตอนนี้สำหรับฉัน อาริสะคือคนสำคัญที่สุด”
เรียวมะพูดในสิ่งที่ฉันรอฟังอยู่เสมอ ดีจัง~ ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นชุดกี่เพ้านี่นา พวกชุดกระโปรงฉันก็เคยใส่ตอนกลับบ้านคุณยาย แต่แนวจีนแบบนี้ยังไม่เคยลองเลย
“เดี๋ยวไปเปลี่ยนนะ”
“อื้ม!”
“จะเปลี่ยนตรงนี้ดีไหม ถ้าเรียวมะต้องการล่ะก็…”
“ถ้าถามความรู้สึกส่วนตัวล่ะก็…อยากดูมาก! แต่จะอดทนไว้!”
กัดฟันแน่นเหมือนจะร้องไห้เป็นสายเลือดเลย แบบนี้แกล้งนิดหน่อยก็สนุกดีนะ แต่ดูท่าจะอยากเห็นจริงๆ ถ้าเราคบกันเป็นทางการเมื่อไหร่จะใช้หุ่นของเราอ่อยให้เขาแทบบ้าไปเลย ค่อยๆ เปลี่ยนชุดอย่างระวังไม่ให้ทำเสียหาย ขนาดเป๊ะเลย เรียวมะนี่เก่งจริงๆ แต่…แต่…
“รอนานไหม”
“……”
พอเราใส่กี่เพ้าออกมา เรียวมะก็อึ้งจนพูดไม่ออก ทั้งที่ผมก็ยังปล่อยไว้ ไม่ได้จัดทรง แค่ใส่ชุดเท่านั้นเอง…
“ฮึ่ย!”
เรียวมะเหมือนได้สติกลับคืน
“มันสวยมากเลยอาริสะ เหมาะมากจนฉันเผลอมองตาค้างเลย”
“เพราะชุดมันน่ารักไงล่ะ”
“ไม่ใช่เพราะชุดหรอก เพราะอาริสะน่ารักต่างหาก”
พอพูดตรงๆ แบบนี้ หน้าก็ร้อนผ่าวเลยล่ะ ปกติคนชมฉันสวยหรือดูดีบ่อยนะ แต่ไม่ค่อยมีใครบอกว่าน่ารักเท่าไหร่ ตั้งแต่เป็นแฟนกันเรียวมะก็เริ่มพูดแบบไม่คิดอะไรขึ้นเรื่อยๆ
“ชุดพอดีใช่ไหม ฉันตั้งใจทำให้ตรงกับขนาดทุกคนเลย น่าจะพอดีนะ”
“พอดีแหละ แต่ถึงชิซุกุจะเป็นคนวัดขนาดก็เถอะ แต่เรียวมะรู้ขนาดฉันแบบนี้มันน่าอายนะ”
“บอกตามตรง ฉันเองก็ตกใจ ไม่มีไอดอลคนไหนหุ่นดีขนาดนี้แน่ๆ แล้วนี่เธอยังโตขึ้นอีกใช่ไหม?”
“แม่กับน้าของฉันหุ่นดีกว่านี้อีกนะ…ถ้าอีกสักสามปีน่าจะใกล้เคียงเลยล่ะ”
“โอ้…ดีใจยังไงดีเนี่ย หรือควรกลัวดี”
ชุดมันก็น่ารักดีนะ แล้วก็ตั้งตารอจะใส่ไปต้อนรับลูกค้าด้วย แต่ก็มีบางอย่างที่อยากพูด
“ไม่ได้จะบ่นเรื่องชุดหรอกนะ แต่ขอถามสามเรื่องได้ไหม”
“เชิญเลย”
“อย่างแรก ส่วนเอวนี่…มันอยู่ในระดับที่เกือบเห็นชั้นในเลยนะ จำเป็นต้องสั้นขนาดนี้เหรอ? แถมมีผ่าข้างด้วย มันจะเห็นนะ”
“จำเป็นน่ะ”
“อย่างที่สอง ด้านหลังนี่เปิดมากเลยนะ ลมมันพัดเข้ามาเย็นๆ เลย จำเป็นต้องเปิดขนาดนี้ไหม?”
“จำเป็นครับ”
“สุดท้าย หน้าอก! ตรงรอยผ่าตรงอกนั่นไม่มีความจำเป็นเลยใช่ไหม?”
“จำเป็นแน่นอน”
“ทั้งหมดนี่…เป็นความชอบส่วนตัวของเรียวมะล้วนๆ เลยใช่ไหม!”
“มะ…ไม่ใช่นะครับ!”
ฉันน่ะมั่นใจในหุ่นตัวเองอยู่แล้ว ถ้าไม่เห็นก็ไม่เป็นไรหรอก แต่กับสึมุกิและโดยเฉพาะชิซุกุนี่ต้องไม่ชอบแน่ๆ เรียวมะคิดจะตัดก่อนแล้วค่อยบังคับให้ใส่รึเปล่านะ เหมือนได้เห็นด้านหื่นที่ลึกสุดใจของเรียวมะเลย
“ก็เพราะได้ตัดชุดในแบบที่ชอบเลยมีแรงใจมากสินะ”
“อย่าเจาะลึกได้ไหม ก็ใช่นั่นแหละ…”
พอเห็นเรียวมะทำหน้าลำบากใจ ฉันก็อยากแกล้งเขาขึ้นมาเลยเข้าไปใกล้ เอื้อมมือไปโอบหลังเขา
“งั้น…ฉันที่ใส่กี่เพ้าที่เรียวมะออกแบบก็ต้องน่ารักในแบบที่เรียวมะชอบใช่ไหมล่ะ งั้นก็มองให้เยอะๆ เลยนะ”
พอเข้าไปใกล้ขนาดนั้น สายตาของเรียวมะก็เริ่มวอกแวก
“อาริสะ ใกล้ไปแล้ว แล้ว…มัน…มันโดนน่ะ…”
“ก็อยากกอดนี่นา”
ฉันชอบกอดคนอื่นมากเลย ชิซุกุก็โดนเรากอดบ่อย แล้วฉันก็ชอบเวลาถูกรักจากเรียวมะเหมือนกัน แต่ฉันก็อยากเป็นฝ่ายให้บ้าง ถ้าเรียวมะดีใจ ฉันก็ดีใจ
“เรียวมะ มองฉันสิ”
“…อื้ม”
ถ้าเรียวมะบอกว่าเราน่ารัก ฉันก็อยากให้เขามองฉันมากกว่านี้ แล้วก็ชอบฉันมากกว่านี้ อยากให้เขาลืมรักแรกของเขาไปเลย แล้วมองแค่ฉันเท่านั้น
“อาริสะน่ารักจริงๆ เลย”
สายตาเรียวมะดูเหม่อลอยขึ้นเล็กน้อย คงยังง่วงอยู่แน่ๆ หน้าเขาเริ่มใกล้เข้ามาทีละนิด เดี๋ยว…ถ้าเข้าใกล้อีกนิดล่ะก็
“ฉันน่ะนะ ชอบตรงไหนของอาริสะที่สุดรู้ไหม?”
“ตะ…ตรงไหนน่ะ หน้าอก?”
“ไม่ใช่หรอก…ริมฝีปากต่างหาก”
แล้วเรียวมะก็จูบริมฝีปากของฉัน หัวของฉันก็ว่างเปล่าไปหมด
“…”
พอทำชุดเสร็จ ก็เหมือนหมดแรง เรียวมะก็หลับไปตรงนั้นเลย คงรู้สึกผ่อนคลายสินะ เอาเป็นว่าสิ่งหนึ่งที่บอกได้คือ…
“เราได้จูบกันแล้ว! ในที่สุดก็!”
แน่นอนว่าหยิบมือถือขึ้นมา
“ชิซุกุ~! เรียวมะจูบฉันแล้วววววว!”
[เสียงดัง]
อาจจะกำลังสวีทกับฮิราซาวะคุงอยู่ ชิซุกุเลยตอบเย็นชากว่าที่คิดไว้ และแล้ว งานวัฒนธรรมที่เป็นโชคชะตาของเราก็ได้เริ่มต้นขึ้น
MANGA DISCUSSION