[WN]หนุ่มผู้ไม่เชื่อใจใครกับแกลสาวไร้เพื่อน - ตอนที่ 15 ฟุตบอลหวนอดีตกับแก้วคู่
***ขออนุญาติเปลี่ยนชื่อตัวละครในเรื่องเล็กน้อย***
[ชิโนซูกะ เป็น ชิโนซึกะ]
[โปเมโกะ เป็น โปเมะโกะ]
[มาโกโตะ เป็น มาโคโตะ]
[ไซโตะ มิยู เป็น ไซโต้ มิยุ]
[คิราซากิ เป็น คิซารากิ] (อันนี้ไม่แน่ใจว่าตอนก่อนๆผิดไหม)
============================
[บรรยากาศในห้องมันดูแปลกๆ ว่าไหม?]
[นายก็คิดแบบเดียวกับฉันสินะ ชินโจ มันอบอุ่นและ…]
พวกเรามาถึงห้องเรียนในเวลาโฮมรูมพอดี ทั้งผมและชิโนซึกะก็เดินไปนั่งที่นั่งของตัวเองปกติเหมือนทุกๆวัน
ผมไม่สามารถอธิบายบรรยากาศในห้องตอนนี้ได้…
[เป็นเพราะเธอใส่แว่นมาแน่ๆ บรรยากาศในห้องเลยเป็นแบบนี้]
[…มันไม่ใช่เพราะฉัน! แต่เป็นเพราะนายต่างหาก! มันเป็นเพราะรอยยิ้มของนายตอนนี้ไม่เสแสร้งอีกต่อไปแล้ว! เป็นเพราะนาย! ฉันเลยไม่ได้อ่านนิยายตอนล่าสุดเลย รู้ไหม?]
[โอเคร คราวนี้ผมผิดจริงๆแหละ]
[อืม…เอาเป็นว่าฉันตั้งตารออยู่นะ!]
เพื่อนๆในห้องมองมาที่พวกผมด้วยใบหน้าที่…ตกตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมคุยกับชิโนซึกะที่โรงเรียน
แต่ก็นะ..มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก-
ไซโต้ซังมาถึงห้องเรียนทีหลังพวกผม ในเวลาเดียวกันอาจาร์ยก็มาถึงห้อง
[ทันเวลาพอดี…เหนื่อยจริงๆ]
เธอมองมาที่พวกเราครู่หนึ่ง และด้วยเหตุผลบางอย่าง ใบหน้าของเธอดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
มันเป็นใบหน้าที่คุ้นเคย – ใบหน้าที่อบอุ่นเมตตา เหมือนกับในอดีต
ตอนนั้นเอง มีผู้หญิงหนึ่งในคนที่ขอให้ผมยกโทษให้เดินเข้ามาหาผม
แต่ไม่ว่ายังไง…ผมก็ยังจำชื่อเธอไม่ได้อยู่ดี
[ชินโจ…นายดูแตกต่างไปจากเดิมมากเลยนะ! นายไปทำอะไรมาเนี่ย?]
เธอยังคงจ้องมองชิโนซึกะ แม้ว่าประโยคที่เธอพูดออกมาทั้งหมดนั้นล้วนถามผม
[ไม่ครับ..มันไม่ใช่แบบนั้นครับ…]
[อ…อืม…ไม่ต้องสุภาพกับฉันนักก็ได้ ฉันเห็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตอนเช้าแล้ว พวกนายเป็นคู่หูที่สุดยอดไปเลย แม้ว่านายจะไม่ยอมรับคำขอโทษของฉันก็ตาม…แต่ก็ไม่เป็นไร! ฉันจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!]
ชิโนซึกะกับผมมองหน้ากัน
ตอนนั้นเองเพื่อนผู้หญิงของเธอพยายามที่จะดึงแขนเธอและพาเธอออกไป
[นี่! มิตซากิ ไปกันเถอะ]
[โอ้..นั่นสินะ มีแค่ชินคุงคนเดียวที่จะฟื้นฟูจิตใจที่บอบช้ำของฉันได้]
ชื่อที่เพื่อนๆเรียกเธอคือ มิตซากิ สินะ…อา…ผมดีใจที่สุดท้ายผมก็ได้รู้เสียที
และก็…ลาก่อย…
[ขอโทษนะ แต่ตูกำลังอ่านหนังสืออยู่เห็นไหม? ถ้าจะเห่าก็ไปเห่าไกลๆตูได้ไหม?]
ชิโนซึกะพูดกับมิตซากิที่ตัวสั่นและถูกดึงออกไป
[นี่ๆ ชินโจคุงกับเธอเป็นแฟนกันใช่ม้ะ! พวกเธอเริ่มคบกันตอนไหนเนี่ย?]
[ว้าว! เธอดูต่างจากก่อนหน้านี้มากเลยรู้ไหม? ตอนนี้เธอดูไม่น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว เธอดูเหมือนหมาปอมเมอริเนียนเลยรู้ไหม ฮาฮา แล้วก็…การที่นายพูดว่า อยู่กับฉัน เนี่ย? มันหมายความว่าไงกันห้ะ???]
ผมบอกได้เลยว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เลวร้ายอะไร แต่เธอโครตของโครตน่ารำคาญ…
ไซโต้ซังเข้าหาชิโนซึกะซัง ผู้ที่ยังคงมีปัญหากับเรื่องของมิตซากิที่ยังเกาะแกะเธอไม่เลิกลา….
ว่าแต่ ทำไมเธอถึงใส่แว่นด้วยละ? ไซโตะซัง!
ผมรู้สึกเหมือนโดนคุกคามยังไงไม่รู้สิ
[มิตซากิ…ฉันว่าเธอต้องโดนลงโทษสักหน่อยแล้วสิ! มานี่มา…]
[ม่ายยยยยย อย่าเข้ามาใกล้ช้านนนนน เธอก็รู้ว่าชั้นบ้าจี้!!!!! อย่านะ อย่าาาา]
ไซโต้ซังและเพื่อนๆของเธอลากมิตซากิออกไปจากสายตาของผม
ไซโต้ซังมองไปรอบๆอีกครั้ง ก่อนที่จะ…โค้งคำนับ(?)
เธอจ้องมองที่พวกเราด้วยสายตาที่อ่อนโยน
หลังจากที่เหตุการณ์ทั้งหมดผ่านไป ชิโนซึกะและผมก็….พวกนายคิดอะไรกัน ห้ะ? พวกเราก็แค่แยกย้ายกันอ่านนิยายของใครของมัน แค่นั้น
***************************
ตอนนี้เป็นเวลาของคาบพละ
ผมไม่ชอบฟุตบอล ถ้าผมเล่นฟุตบอล วันวานอันแสนเจ็บปวดของผมจะหวนคืนกลับมา…ผมไม่ต้องการที่จะนึกถึงมัน ผมเลยเล่นเป็นผู้รักษาประตู
ผมมองเพื่อนร่วมชั้นของผมเตะบอลกันอยู่ไกลๆ
-นี่ผมบ้ารึเปล่านะ บอกผู้หญิงให้ไปหาที่บ้าน…บ้านที่ผมอยู่คนเดียว…
ผมทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย? นี่มันครั้งที่เท่าไหร่แล้ว! ผมพูดสิ่งที่ไร้ยางอายแบบนี้ไปได้ยังไงกัน…
ผมถามเธอว่า จะอยู่กับผมไหม?
ผมรู้สึกว่าหน้าของผมร้อนผ่าวมาก
ผมเตะฝุ่นบนพื้นสนามบอลไปพลางเพื่อกลบเกลื่อน
ใจเย็นๆตัวผม
ผมและชิโนซึกะซังไม่ใช่เพื่อนกัน เราเป็นเพียงแค่…..คู่หูนักเขียน…
นั่นแหละตัวผม! คิดถึงแค่เรื่องตอนต่อไปของนิยายพอ!
ตอนต่อไป ผมตั้งใจจะเขียนฉากต่อสู้ของมิกี้ ซาบุโระ ซึ่งเป็นพระเอก และนางเอก
หลังจากนั้น พวกเขาก็ได้อยู่ปาร์ตี้เดียวกัน
อา…จริงสิ ถ้าชิโนซึกะมาที่บ้านผม ผมต้องซื้อแก้วใหม่สินะ? คงต้องหาทาทามิ* และก็เบาะรองนั่ง ว่าแต่…บ้านผมมีเครื่องทำน้ำอุ่นไหมนะ…
*ทาทามิ คือ เสื่อประเภทหนึ่งครับ*
…อา ว่าแต่นี่มันไม่ใช่เรื่องนิยายแล้วโว้ยยย นี่มันเรื่องแผนตอนชิโนซึกะมาที่บ้านนน
ผมอยากจะหายไปจากตรงนี้ซะจริงๆ
เสียงของเพื่อนร่วมชั้นที่ใกล้เข้ามาทำให้ผมหลุดออกจากภวังค์
[นี่! ชินโจอย่าเหม่อเซ่! บอลมาถึงแล้ว! ทำหน้าที่ให้มันสมกับเป็นผู้รักษาประตู หน่อยยยย]
ผมจำชื่อของคนที่เรียกผมไม่ได้ เขาเป็นคนที่ดูสุขุมแตกต่างจากผม
คนที่ผมจะจำชื่อเขาไม่ได้พยายามตะโกนเรียกสติผมอย่างบ้าคลั่ง…และใช่ มันได้ผล
เพื่อนของไซโตะซังคนหนึ่ง ซึ่งเป็นเหมือนผู้ติดตามเสียมากกว่า เข้าใกล้มาที่โกลผมมากขึ้น
…อา ผมเข้าใจแล้ว ที่เขาเรียกสติผม ก็เพื่อปิดช่องว่างที่ผมเปิดไว้ตอนอยู่ในภวังค์
[เฮ้!!!! มิยุจังงงงงง มองมาที่ฉันนะ! ยิงแล้ว!!!! เอ๋?]
หลังจากที่เขายิง ผมก็รับลูกบอลที่เขายิงอย่างง่ายดาย
แน่นอน…ผมโปรด้านการรับอะไรก็ตามที่บินเข้ามาหาผม
ส่วนเหตุผล…เพราะตอนที่ผมเรียนอยู่ประถม ผมต้องรับก้อนหินที่ถูกขว้างมาหาผม…
[เยี่ยม! รับได้สวย ชินโจ ส่งบอลมาทางนี้!]
ผมวางบอลไว้ที่พื้น
ฟุตบอล เป็นกีฬายอดนิยมตอนผมเรียนอยู่ประถม เด็กผู้ชายทุกคน…ยกเว้นเด็กมีปัญหาอย่างผม ล้วนเล่นมันด้วยกันที่สนามหญ้า
ส่วนผมทำได้เพียงแค่มองอยู่ห่างๆ
ส่วนเด็กผู้หญิงในห้องก็มองมาที่ผมด้วยสีหน้าที่บ่งบอกถึงความน่าสมเพช….นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกโดดเดี่ยวยิ่งกว่าเดิม
ผมกินข้าวคนเดียว ทัศนศึกษาคนเดียว ไปโรงเรียนและกลับบ้านคนเดียว ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ พวกเขาก็เว้นระยะห่างออกจากผมมากเท่านั้น…
ตอนผมเรียนอยู่ประถม เป็นตอนที่ผมยังคงอ่อนต่อโลกมาก – ผมรู้สึกได้เลยว่าความโดดเดี่ยวมันอ้างว้างเพียงใด
ผมทิ้งความคิดนั้นไป แล้วเตะบอลออกไปเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มวิ่ง
ผมไม่เคยเลี้ยงบอลมาก่อน การเลี้ยงบอลที่ผมทำตอนนี้ได้มาจากการที่ผมเฝ้ามองคนอื่นๆเล่นมาตลอด
มันก็แค่เตะ และวิ่ง หลบผู้เล่นอีกฝั่ง แล้วก็ยิง
คนอื่นรอบข้างผมเริ่มโหวกเหวกโวยวาย
ผมเลือกที่จะปล่อยมันไป และโฟกัสแค่ลูกบอลที่อยู่ตรงหน้า
ตอนผมเป็นเด็ก ผมไม่รู้ว่าต้องทำยังไง
เพราะ ผมก็เป็นแค่เด็ก เขาก็เป็นแค่เด็ก ทุกๆคนก็ล้วนเป็นเด็ก
ทุกครั้งที่ผมเลี้ยงบอล ผมก็ตระหนักได้ถึงสิ่งที่ผมสูญเสียไปตลอด 10 ปีมานี้
ผมเป็นคนที่ดื้อรั้นเช่นกัน ลองคิดๆดูแล้ว ผมพบว่ามีนักเรียนหลายๆคนที่อยากจะเป็นเพื่อนกับผม
แต่เป็นเพราะผม…กลัวถูกหักหลังแบบทุกๆครั้งที่ผ่านมา
ความจริงคือผมอยากเล่นฟุตบอลมาตลอด
-แต่มันสายไปแล้วที่จะคิดแบบนั้น ทั้งหมดล้วนเป็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว
แม้ว่าจะละทิ้งอดีตไม่ได้ แม้ว่าความกลัวจะยังไม่หายไป
แต่…เราสามารถที่จะนำอดีตที่ผิดพลาดมาแก้ไขและเขียนความทรงจำบทใหม่ขึ้นมาได้
[เห้ย! หยุดไอ้เบื้อกชินโจนั่น เร็วๆ!]
[นี่นายเป็นคนเดียวกันกับก่อนหน้านี้ไหมเนี่ย! นายดูเป็นผอมแห้งแรงน้อย ไม่น่าเชื่อว่านายจะเก่งด้านกีฬา!]
[อา..นั่นสินะ…]
ผมง้างเท้าของผมขึ้นเตะ เตะสุดแรง แรงสุดเท่าที่ผมทำได้ แรงพอๆกับหัวใจที่เต้นแรงของผม
ผมไม่รู้หรอกนะว่าบอลไปในทิศทางไหน
ผมทรุดลงที่กลางสนาม ดื่มด่ำกับความรู้สึกที่แสนคิดถึง
หลังจากจบคาบ มีเพื่อนร่วมชั้นชายกลุ่มหนึ่งเข้ามาคุยกับผม
[นี่! ชินโจ นายเคยอยู่ทีมฟุตบอลหรือเปล่าเนี่ย? ช็อตเมื่อกี้แม่งอย่างสุดจัดปลัดบอก ปลัดลาออกยังกลับมาบอกว่าสุดจัด]
[ฉันเคยคิดว่านายเป็นกุ้งแห้งมาตลอดนะเนี่ย รู้ไหม?]
[-นี่ชินโจ รู้ไหม? ความเร็วของนายจำเป็นต่อทีมของฉันมากรู้ไหม? ทำไมนายไม่มาอยู่ทีมเดียวกับฉันละ?]
ผมรู้สึกสับสน
[เป็นฉันจะดีหรอ?]
[เช็ดเข้! ไม่พูดสุภาพแล้ววว]
[นี่ พวกนาย คาบต่อไปจะเริ่มแล้วนะรู้ไหม?]
[เห้ย! ชิโนซึกะนี่หว่า…พวกเราไปกันเถอะ!]
ชิโนซึกะผู้สวมเสื้อเจอร์ซี่ที่ดูอบอุ่น เดินเข้ามาหาผม….อา ใช่ เธอโครตจะดูดีในชุดเจอร์ซี่ของเธอเลย
ชิโนซึกะดูงงๆเมื่อเห็นพวกเขารีบเดินจากไปอย่างรวดเร็ว
[อืม เกิดอะไรขึ้น?]
[…ไม่รู้สิ แต่คงไม่ใช่เรื่องไม่ดีหรอก]
[อา พวกเรามองดูพวกนายเล่นฟุตบอลอยู่…ว่าแต่…นายชอบฟุตบอลหรอชินโจ?]
[ม…ไม่ใช่แบบนั้นหรอก คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าทีไหร่ ผมอายจนแทบอยากเอาหน้าซุกแผ่นดินหนีเลย]
[เอาเป็นว่า…ช่างมันเถอะ ไปเรียนคาบต่อไปกันดีกว่า อา…จริงสิ คาบพักกลางวัน พวกเราจะมาคุยกันว่าเราต้องการอะไรบ้างเข้าใจไหม? คงไม่ทำให้นายเสีนเวลามากนักหรอก]
ผมหยุดเดิมและเริ่มพูดถึงสิ่งที่ผมคิดก่อนหน้านี้…
[ผมว่าผมต้องซื้อแก้ว]
[แก้ว? หมายถึงแก้วกาแฟหรอ? อา..นั่นสินะนายคงต้องดื่มกาแฟมากแน่ๆ]
[ไม่ ผมหมายถึงของเธอ…]
หลังจากผมพูดมัน ผมก็เริ่มเดินต่อ
ชิโนซึกะตามหลังผมมาช้าเล็กน้อย
[อืม! นั่นสินะ ฉันคิดว่ามันคงจะดีถถ้าฉันได้คู่กับนายสักใบ…]
ผมเดินข้างชิโนซึกะ โดยพยายามปกปิดรอยยิ้มของผมอย่างสุดความสามารถ
ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้ผมรอไม่ไหว ผมอยากให้เลิกเรียนไวๆจัง
=====================