เดทกับคางามิจบลงด้วยดี
ฉันทำให้คางามิสนุกได้จริงๆ หรือเปล่านะ
การที่รู้สึกกังวลแบบนี้ หมายความว่าตัวตนของคางามิในใจฉันมันยิ่งใหญ่ขึ้นจนถึงขั้นที่จะมาแข่งขันกับฮิรารินได้แล้วอย่างนั้นเหรอ
“พี่ ช้าไปแล้วนะ”
“สุมิเระ…? อะไรกันเนี่ย มารอรับถึงที่ แปลกจัง”
พอเปิดประตูหน้าบ้าน ก็เห็นสุมิเระยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
ถึงจะแปลกก็จริง แต่วันก่อนที่สัญญากันว่าจะให้ของสะสมของฮิราริน เธอก็ยืนจังก้ารอแบบนี้เหมือนกันนี่นา
“พี่ หนูมีเรื่องจะคุยด้วย”
คงจะเป็นเรื่องที่พูดยากนิดหน่อยสินะ เธอมองหลบไปทางอื่นแล้วแขนที่กอดอกอยู่ก็คลายออก
อย่าบอกนะว่า ตอนที่ดูฟิกเกอร์ลิมิเต็ดของฮิรารินในห้องฉันแล้วเผลอทำพังไปแล้วน่ะ
“ไปทำอะไรมาล่ะ”
“ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย! คือว่า กำลังจะทำ… หรือว่าจะทำดีนะ…”
สุมิเระพูดจาอ้ำๆ อึ้งๆ มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว แถมยังบิดตัวไปมาอย่างอยู่ไม่สุขอีก อะไรกัน หรือว่าปวดอึอยู่
“พี่น่ะ เก่งเรื่องคอมพิวเตอร์อะไรพวกนี้ใช่ไหม?”
“……? ก็นะ คอมพิวเตอร์มันเป็นอาวุธหลักของโอตาคุนี่นา”
“แล้วก็ เก่งเรื่องเครื่องยนต์กลไกด้วยใช่ไหม?”
“……? ก็นะ ก็เป็นเด็กผู้ชายนี่นา ถ้าเป็นเรื่องเครื่องยนต์กับอาวุธล่ะก็ไว้ใจฉันที่เป็นทั้งโอตาคุและเด็กหนุ่มได้เลย──”
“ถ้างั้นนะ…”
สุมิเระพูดตัดบทฉัน แล้วก็หันกลับไปมองข้างหลังแวบหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครฟังอยู่ จากนั้นก็กระซิบที่ข้างหูเพื่อให้ได้ยินแค่ฉันคนเดียว
“มาเป็นผู้ช่วยของฉันหน่อยได้ไหม?”
“ผู้ช่วยที่ว่านี่ หมายความว่ายังไงเหรอครับ?”
ฉันทำท่ายกแว่นที่ไม่ได้สวมอยู่ขึ้น
“ฉันน่ะ ถึงจะน่าหงุดหงิดแต่ก็มีเลือดเดียวกับพี่ไหลเวียนอยู่ในตัวใช่ไหมล่ะ?”
ถ้าเป็นน้องสาวบุญธรรมก็อาจจะกลายเป็นเลิฟคอเมดี้ไปแล้วก็ได้ แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่มีน้องสาวบุญธรรมอยู่จริง มีก็แต่น้องสาวแท้ๆ ที่เอาแต่ใจแล้วก็ไม่น่ารักเลยสักนิด
ถ้ามองแบบเป็นกลางแล้วก็คิดว่าหน้าตาอย่างเดียวล่ะก็น่ารักอยู่หรอก แต่คงเป็นเพราะมีสายเลือดเดียวกันล่ะมั้ง เลยให้คะแนนเกินกว่า “น้องสาวที่เอาแต่ใจ” ไปไม่ได้
ที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือทั้งที่มีเลือดเดียวกับฉันไหลเวียนอยู่แท้ๆ แต่กลับเล่นกีฬาเก่ง แล้วที่โรงเรียนก็ดูเหมือนจะป๊อปน่าดู แถมยังมีเพื่อนเยอะอีก
ความแตกต่างมันเกิดขึ้นที่ตรงไหนกันนะ
“อาจจะเป็นเพราะอย่างนั้นก็ได้นะ ฉันเองก็ติดฮิรารินหนักมากเลย…”
“ถึงจะไม่ได้มีเลือดเดียวกับฉัน แต่ใครก็ตามที่ได้รู้จักฮิรารินแล้วก็จะรักเธอเป็นธรรมดาอยู่แล้ว แต่อย่าลืมสิว่าในเมื่อเป็นน้องสาวของฉันแล้ว ไม่ใช่แค่จะรักเธอธรรมดาๆ แต่ยังมีพรสวรรค์ที่จะเป็นสุดยอดโอตาคุได้ด้วยนะ”
“แล้วก็ อยากจะใกล้ชิดกับฮิรารินให้มากขึ้นน่ะสิ…”
ได้ยินเสียงฉันไหมครับ ช่วยเลิกเมินกันจะได้ไหมครับ
สุมิเระเริ่มทำท่าอ้ำๆ อึ้งๆ อีกครั้ง แล้วก็เอาแต่พูดว่า “คือว่า…” กับ “เอ่อ…” อยู่นั่นแหละ ก็บอกแล้วไงว่าถ้าอยากจะไปอึก็รีบไปเข้าห้องน้ำสิ
“ถ้าพี่ช่วย ฉันถึงจะทำ ถ้าไม่ช่วย ก็จะไม่ทำ หรือพูดให้ถูกก็คือทำไม่ได้”
“ยังไม่เห็นภาพเลยนะ”
“──ฉัน อยากจะสมัครออดิชั่นฟลาวเวอร์ไลฟ์รุ่นที่สี่”
“……………………หา?”
“เพราะงั้น ช่วยฉันหน่อยนะ เรื่องไลฟ์ เรื่องอะไรพวกนั้น ฉันไม่ค่อยเข้าใจเลย…”
ไม่ใช่ว่าพูดออกมาเพราะแค่นึกสนุกแน่ๆ เรื่องนั้นฉันที่เป็นพี่ชายของสุมิเระมาสิบห้าปีรู้ดี แววตาแบบนี้ จริงจังอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แต่ว่า เพราะอย่างนั้นแหละ ถึงจำเป็นต้องรู้ความจริง และในฐานะครอบครัว ในฐานะพี่ชาย ก็ต้องบอกให้เธอรู้ว่ามันเป็นเรื่องที่บ้าบิ่นขนาดไหน
“ทั้งที่ไม่ได้เคยทำไลฟ์มาก่อนเลย แล้วก็ไม่ได้มีพรสวรรค์พิเศษอะไรที่ต่างจากคนอื่นด้วย แถมยังไม่ค่อยรู้เรื่องอินเทอร์เน็ตอีก ฉันว่ามันยากมากเลยนะ”
“หนูรู้ดีน่า ก็หนูเช็กข้อกำหนดการสมัครมาหลายรอบแล้วนี่นา ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากจะทำ มันเป็นครั้งแรกเลยนะ ที่มีเรื่องที่อยากจะทำจริงๆ โดยที่ไม่ใช่การทำตามคนอื่น ถึงจะมีใครมาห้ามก็อยากจะทำ เพราะงั้น…”
“ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะนะ…──หา!”
ในตอนนั้นเอง ฉันก็นึกถึงคำพูดอันโด่งดังของนักประดิษฐ์ชื่อก้องโลก โทมัส เอดิสัน ขึ้นมาได้
──อัจฉริยะคือแรงบันดาลใจหนึ่งเปอร์เซ็นต์ และอีกเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์คือความพยายาม
แรงบันดาลใจหนึ่งเปอร์เซ็นต์นั้น เพิ่งจะถูกประทานลงมาเมื่อกี้นี้เอง และความพยายามอีกเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์คือเรื่องหลังจากนี้ไป พูดง่ายๆ ก็คือฉันคืออัจฉริยะนั่นเอง
ถ้าหากสุมิเระได้เป็นสมาชิกของฟลาวเวอร์ไลฟ์ล่ะก็ ฮิรารินกับสุมิเระก็จะได้เชื่อมโยงกัน หมายความว่าถ้าเกิดมีวันไหนที่ทำออฟไลน์คอลแลปกันขึ้นมา ก็มีโอกาสที่ฮิรารินจะมาที่บ้านนี้ได้น่ะสิ
แล้วแม่ก็คงจะเตรียมขนมให้เหมือนกับตอนที่เพื่อนของสุมิเระมาบ้านทุกครั้ง
แล้วถ้าฉันเป็นคนเอาไปให้ ก็อาจจะโดนพูดว่า “คุณพี่ชายมาทานด้วยกันไหมคะ♥” อะไรแบบนั้น…!
ความทะเยอทะยานของฉันที่อาจจะเป็นไปได้ เริ่มจะเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว ความฝันที่ในใจลึกๆ แล้วยอมแพ้ไปครึ่งหนึ่งว่าไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด ตอนนี้มันมาอยู่ในระยะที่เอื้อมถึงแล้ว
โอกาสนี้ ฉันจะคว้ามันมาให้ได้
“เอาล่ะ ลุยกันเลย ฉันจะปั้นสุมิเระให้เป็นโอตาคุที่น่ายกย่องเอง!”
“สิ่งที่ฉันอยากจะเป็นคือ Vtuber ไม่ใช่โอตาคุนะ น่าขยะแขยง”
“คำว่าน่าขยะแขยงเมื่อกี้นี่มันอะไรกัน!? ไม่จำเป็นต้องพูดเลยไม่ใช่เรอะ!?”
“ก็พี่ทำหน้าหล่อแล้วพูดอะไรแปลกๆ ออกมาเองนี่นา”
รอฉันก่อนนะฮิราริน ฉันจะเกาะแข้งน้องสาวไปหาเธอให้ได้เลย
MANGA DISCUSSION