ตอนที่ 1 ผู้หญิงน่ะ ช่างโหดร้าย!
ฮัมเพลง~
ผมฮัมเพลงในลำคอด้วยทำนองเพลงที่ผมชอบที่สุดในตอนนี้
ทำนองเพลงที่เกี่ยวกับความรักที่กำลังเบ่งบานในขณะที่กำลังถือช่อดอกกุหลาบที่ผมลงแรงทำงานพาร์ทไทม์จนแทบไม่มีเวลานอนเกือบทั้งเดือน
ดอกกุหลาบทั้งหมด 999 ดอก
ดอกกุหลาบทั้งหมดนี้บ่งบอกถึงความรักที่ผมจะตั้งใจดูแลเธอจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต สำหรับหลายๆ คนแล้วดอกกุหลาบขนาดนี้อาจจะไม่ได้แพงมากก็ได้ทว่าสำหรับผมที่ยังเป็นเพียงนักศึกษา
ราคาของช่อดอกกุหลาบนี้สามารถทำให้ผมอยู่รอดไปได้เกือบเดือนด้วยซ้ำ
ผมมองช่อกุหลาบในมือที่ถูกตกแต่งด้วยช่อสีฟ้าครามสื่อถึงท้องฟ้าและความสดใส
โบว์สีเหลืองที่พันรอบๆ สื่อถึงความรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขทุกครั้งที่ผมใช้เวลาอยู่กับเธอ
ผมได้แต่พูดชมช่อดอกกุหลาบในมือภายในใจก่อนที่ผมจะเห็นร่างที่คุ้นเคยที่ปลายหางสายตาทว่าเท่านั้นก็เพียงพอแล้วเพราะเพียงแค่นั้นผมก็รู้แล้วว่าคนคนนั้นคือใคร
“เยริน!”
ผมเรียกชื่อของคนคนนั้นพร้อมฉีกรอยยิ้มจนแทบจะถึงหู
คิงเยริน แฟนสาวสุดเพอร์เฟ็คของผมมาแล้ว!
แฟนคนสวยที่จะเป็นเจ้าของช่อดอกกุหลาบช่อนี้!
ผมรีบวิ่งไปหาเธอทันที
ในหัวของผมตอนนี้เริ่มนึกถึงภาพของคังเยรินที่กำลังฉีกยิ้มดีใจและตอบรับช่อกุหลาบในมือของผมไปพร้อมรอยยิ้มด้วยท่าทางเขินอายจากนั้นพวกเราก็จุ๊บๆ กัน
เหะๆ ๆ ~
ผมหัวเราะในใจก่อนที่จะรีบสลัดความคิดพวกนั้นทิ้งไปและวิ่งมาอยู่ตรงหน้าของคังเยรินอย่างรวดเร็ว
“เยริน~”
คังเยรินทันทีที่เห็นผมวิ่งเข้ามาหาเธอ เธอก็แสดงท่าทางตกใจเล็กน้อย
อาจจะเป็นเพราะว่าด้านหลังของผมก็คือช่อดอกกุหลาบทั้งหมด 999 ดอกที่ผมจะมอบให้เธอในวันนี้เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอแสดงท่าทางตกใจ
ผมรีบยื่นช่อกุหลาบให้เธอพร้อมรอยยิ้มและรอดูปฏิกิริยาต่อไปของเธอทว่าปฏิกิริยาที่ผมคาดหวังก็พังทลายไปเมื่อผมเห็นเธอไม่ยิ้มดีใจที่ได้รับดอกกุหลาบ
“ลีจียอง”
ชื่อของผมถูกเรียกด้วยน้ำเสียงเฉยเมยจากปากของคังเยริน เธอผลักดอกกุหลาบที่ผมยื่นให้กลับมา
ผมได้แต่ยืนงงอยู่ตรงนั้นเพราะความสับสน คังเยรินมองหน้าของผมก่อนที่เธอจะพูดประโยคถัดมาทำให้ผมแทบเข่าทรุด
“พวกเราเลิกกันเถอะ”
ประโยคที่ออกมาจากปากของคังเยรินไม่ได้ทำให้ผมเข่าแทบทรุดแต่ว่ามันทรุดลงไปจริงๆ เลยต่างหาก
ราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดมันหายไปจากร่างกาย ผมทรุดลงกับพื้นตรงนั้นพร้อมกับช่อดอกกุหลาบที่ตกลงพื้น
ผมมองกุหลาบที่ตอนนี้อยู่บนพื้นก่อนที่ผมจะเห็นปลายเท้าของคังเยรินที่ถอยห่างไป
ผมถึงรีบเงยหน้าขึ้นมา ผมต้องถามเธอให้ได้
ทำไม… ทำไมเธอถึงอยากเลิกกับผม? ผมทำให้เธอโกรธหรือน้อยใจตรงไหนหรือเปล่า?
ทำไมจู่ๆ เธอถึงอยากเลิกกับผมกันแน่?
“ทะ…ทำไม”
คังเยรินหยุดและมองมาที่ผมที่ตอนนี้กำลังคุกเข่าบนพื้น ความไม่สนใจใยดีปรากฏเลยในสายตาของเธอ
ยิ่งทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้นเท่านั้น
“นายดีเกินไปแค่นั้นแหละ”
คำตอบที่ได้ยินยิ่งทำให้ผมรู้สึกหน้าชา
‘ดีเกินไป’ คำตอบที่โคตรจะสิ้นคิด
นี่มันบ้าอะไรกันแน่เนี่ย!? ดีเกินไปก็ไม่ได้งั้นหรอ? เพราะว่าดีเกินไปถึงโดนบอกเลิกเนี่ยนะ!?
หัวของผมเต็มไปด้วยคำถามโดยไม่รู้ตัวเลยว่าคังเยรินถอยออกไปไกลจนลับสายตาแล้วด้วยซ้ำ
กว่าผมจะรู้ตัวก็ผ่านไปนานมากๆ แล้ว
ผมค่อยๆ ลุกขึ้นหยิบช่อดอกกุหลาบขึ้นมาและเดินออกไปจากตรงนี้ทันที
เมื่อมาถึงห้องหอพักชายที่แสนจะโทรม ผมก็เห็นสามเกลอที่อยู่ภายในห้องกำลังนั่งกระดิกเท้าดูหนังบนจอทีวียุคเก่าที่ภาพแตกจนเบลอไปหมด
“โย่ว! ไม่ได้ไปเดตหรอ พ่อหนุ่มลี”
สายตาสงสัยจากเพื่อนร่วมห้องทั้งสามคนส่งมาที่ผมที่กลับมาไวกว่าที่พวกนั้นคิด
เมื่อตอนเช้าผมบอกกับทั้งสามหน่อนี่ไว้ว่า ‘จะไปหาคังเยริน’ และยังรีบตื่นมาแต่เช้ามืดแต่งตัวรีบไปเตรียมดอกกุหลาบแต่ใครจะคิดว่าการไปหาคังเยรินครั้งนี้จะเป็นจุดจบของความสัมพันธ์
“หุบปากน่า…”
ผมปัดมือไปมาและรีบปีนขึ้นบนเตียงที่ของตัวเองและกายหน้าผาก
สามเกลอที่เห็นผมดูไม่ร่าเริง พวกนั้นคงสงสัยเลยปิดทีวี
“เห้ยๆ เกิดอะไรขึ้นวะ ไม่ใช่ว่าอกหักหรอกนะ”
“…ให้ฉันอยู่เงียบๆ เหอะน่า พัคฮยองชิก, จางยุนซอ, ชเวจีวู”
พัคฮยองชิก… เพื่อนร่วมห้องที่เป็นนักบาสเก็ตบอลและยังเป็นที่รู้จักไปทั่วว่า ‘สมองกล้าม’
จางยุนซอ… ไอ้แว่นเนิร์ดที่มักจะดูอนิเมะแทบจะทั้งหมด
ชเวจีวู… ไอ้หนุ่มสารคดีรอบรู้ไปทุกเรื่องแต่ไม่เคยมีประสบการณ์อะไรสักอย่าง
สามเกลอพวกนี้รุมล้อมรอบผมจนผมต้องหันหลังใส่พวกมัน
พัคฮยองชิก เมื่อเห็นท่าทางของผม มันก็มองหน้าอีกสองคนก่อนที่จะพยักหน้าส่งสายตากันเอง
“เห้ยย!!”
“ไม่ต้องซึมเลยเว้ย! โดนทิ้งมาอะดิ!”
สมแล้วที่เป็นไอ้สมองกล้ามพัคฮยองชิกไม่แม้แต่จะสนใจอารมณ์ของผมตอนนี้เลย
มันดึงแขนของผมก่อนที่ไอ้สองตัวนั้นจะมาช่วยพัคฮยองชิกดึงให้ผมลุกจากเตียง
“โดนทิ้งแบบนี้มันต้องเหล้าเว้ย! มานอนซึมบ้าไร!”
“ไม่มีตังโว๊ย!”
ผมพยายามยื้อและพูดออกไปว่าไม่มีเงิน ซึ่งก็เป็นความจริง… นักศึกษาที่ไหนเขามีเงินกันล่ะ?
งานพาร์ทไทม์ที่ผมทำก็ใช่ว่าจะให้เงินเยอะขนาดนั้น… ผมต้องยกของขึ้นรถบรรทุกตั้งกี่คันรู้ไหมกว่าจะได้เงินก้อนที่ไปซื้อกุหลาบให้… คังเยริน
“…เดี๋ยวเลี้ยง”
“เออ ไป!”
เมื่อมาถึงร้านเหล้าที่พวกเรามักจะมาประจำ พัคฮยองชิกก็รีบพาผมไปนั่งโต๊ะมุมสุดทันทีจากนั้นก็สั่งเครื่องดื่มพร้อมกับแกล้ม
โชคดีที่ยังหัวค่ำอยู่ ไม่มีลูกค้าเยอะเท่าไหร่เครื่องดื่มที่สั่งและกับแกล้มเลยใช้เวลาไม่นาน
“ชนน!!”
พวกเราสี่หนุ่มยกแก้วชนกันก่อนที่ผมจะเป็นคนแรกที่กระดกหมดแก้วรวดเดียว
กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ฉุนพร้อมความแสบในลำคอนี่มันสะใจดีจริงๆ
ผมยื่นแก้วออกไปจะเติมเครื่องดื่มทว่าชเวจีวูก็หันมาหาผมพร้อมกับคำถามที่ออกจากปากมันทันที
“ว่าแต่ทำไมถึงโดนทิ้งวะ?”
คำถามที่ชเวจีวูถามทำให้มือของผมหยุดชะงัก
คำตอบของที่ชเวจีวูถามเป็นคำตอบที่เจ็บแสบจนตอนนี้ผมยังเจ็บหัวใจอยู่เลยด้วยซ้ำแค่นึกถึงมันแต่สุดท้ายผมก็ตอบกลับชเวจีวูไปถึงจะด้วยน้ำเสียงแผ่วๆ ก็เถอะ
“…ดีเกินไป”
สามเกลอไม่ได้ยินคำตอบที่ผมบอก
พวกมันมองหน้ากันและกันก่อนที่จะมองมาที่ผมอีกครั้ง
“อะไรนะ?”
“ดีเกินไป!!”
พัคฮยองชิก, ชเวจีวูและจางยุนซอนิ่งไปก่อนที่พวกมันจะมองหน้ากัน
ผมรับรู้ได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ผมรีบคว้าเอาขวดเหล้าและเทพร้อมกระดกรวดเร็วอย่างไว
“ฮ่าๆๆๆๆ”
“ฮ่าๆๆๆๆ”
ไอ้สามเกลอหัวเราะ กุมท้องไม่หยุดทำให้ผมอยากจะเอาหน้าแทรกลงบนดิน
พวกนั้นไม่หยุดแค่หัวเราะ พวกมันกระทั่งทุบโต๊ะหัวเราะลั่น
“ค*ย”
คำหยาบที่ผมไม่ได้พูดมันออกมานานก็หลุดออกมาจากปากของผม
บางทีผมไม่น่าตอบรับปากที่พวกมันจะเลี้ยงเหล้าเลยสักนิด
แม่งเอ้ย…
ผมรีบเติมเครื่องดื่มและกระดกไม่หยุดจะได้จบๆ แล้วก็รีบกลับสักที
แต่ว่า… เหมือนผมจะกินมากเกินไปหน่อยเพราะผมกระดกแบบเพียวๆ เลย
เพียงแค่สี่ห้าแก้วภาพตรงหน้าของผมก็เบลอแล้วๆ พร้อมกับความคิดในหัวที่ผุดขึ้นมา
ถึงภาพของคนที่ทำให้ผมต้องมากินย้อมใจแบบตอนนี้
…คังเยริน
ผมหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาก่อนที่จะเปิดแชทที่พวกเราคุยกันอยู่เสมอทว่าตรงช่องข้อความที่ปกติจะส่งข้อความได้
มันถูกแทนด้วยข้อความว่า ‘คุณถูกบล็อค’
ผมแทบอยากจะปาโทรศัพท์ในมือทิ้งทว่าก็ยั้งใจตัวเองได้ทัน
ผมไม่ได้มีเงินพอจะไปซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่ ถ้าหากจะไปซื้อใหม่ผมต้องทำงานอย่างน้อยๆ เลยสักสองเดือนถึงจะซื้อได้
ผมถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเปิดแอคเค้าท์ที่คังเยรินมักจะลงรูปภาพอยู่เสมอๆ
ไม่มีภาพไหนเลยสักภาพที่มีผมติดอยู่เลยสักภาพในแอคเค้าท์ของเธอ
เห็นแบบนี้แล้วก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาพร้อมกับความรู้สึกที่แย่กว่าเดิม
‘ติ๊ง! ยินดีด้วยคุณได้รับระบบใหม่สนใจทดลองเลยไหม?’
เสียงแปลกๆ จากไหนก็ไม่รู้ดังขึ้นมาในหัวของผม
ผมรีบหันซ้ายขวาแต่ก็ไม่เห็นแหล่งที่มาของเสียงสักนิดเดียวก่อนที่ผมจะก้มมองโทรศัพท์ต่อแต่ว่าโทรศัพท์ที่ควรจะเป็นหน้าจอแอคเค้าท์ของคังเยริน
ตอนนี้กลับมีข้อความเด้งขึ้นมาเหมือนกับที่ผมได้ยินไปเมื่อกี้เลย
ผมหัวเราะออกมา ไม่คิดเลยว่าผมจะโดนไวรัสเข้าให้วันนี้พอดีแต่ว่าโชคร้ายของไอ้คนที่ทำไวรัสตัวนี้แล้วล่ะ
เพราะว่าในบัญชีของผมน่ะ ไม่มีเงินให้มันหรอกนะ
แต่ว่ากล่องข้อความที่เด้งขึ้นมานี่มีทั้ง ‘YES’ และ ‘NO’ ด้วยแหะ
ผมกด ‘NO’ ตอบกลับไปและมันก็มีข้อความเด้งขึ้นมาใหม่
‘สำหรับผู้หญิงคำว่า ‘ไม่’ คือ ‘ใช่’ ยังไงล่ะ!’
ฟุ๊!! ผมแทบจะหัวเราะออกมากับกล่องข้อความที่เด้งขึ้นมาใหม่
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าไอ้คนที่ทำไวรัสตัวนี้คงเป็นคนที่มีอารมณ์ขันสุดๆ
แต่ต้องขอบคุณไอ้คนคนนั้นละนะ เพราะว่ามันทำให้ผมหัวเราะออกมาได้นิดหน่อย
ผมปัดกล่องข้อความทิ้งก่อนที่ผมจะกระดกแก้วที่พัคฮยองชิกยื่นมาอีกสามสี่แก้ว
ผมที่สติกำลังจะหลุดเพราะดื่มเครื่องดื่มที่พัคฮยองชิกยื่นมาให้แบบเพียวๆ เหมือนจะเห็นอะไรแปลกๆ ที่มุมสายตา
แต่ผมก็ละความสนใจเพราะคิดว่าแค่เมาและเบลอไปเองจนกระทั่งตาของผมมันหนักและโลกรู้สึกหมุนจนทนไม่ไหวและภาพตรงหน้าของผมก็ตัดไปทันที
Chapters
Comments
- ตอนที่ 6 ค่าแรงพาร์ทไทม์มันดีเกินไปไหม? 3 ชั่วโมง ago
- ตอนที่ 5 วันที่แย่จนท้อ 1 วัน ago
- ตอนที่ 4 วันที่เหมือนจะดีแต่ก็ไม่เคยดีหรอกนะ กรกฎาคม 2, 2025
- ตอนที่ 3 ไม่คิดเลยว่าผมจะน่ารักได้ขนาดนี้นะเนี่ย กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 2 กลายเป็นผู้หญิงจริง! กรกฎาคม 1, 2025
- ตอนที่ 1 ผู้หญิงน่ะ ช่างโหดร้าย! กรกฎาคม 1, 2025
MANGA DISCUSSION