ตอนที่ 7 ลงโทษ
โรจา หัวหน้าทีมนักชำแหละ สังกัดทีมรอง หน่วย 5 กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
ผมเดินทางไปสำนักงานดูแลนักผจญภัย สาขาย่อยตัวเมืองชั้นนอก
ที่หน้าเคาน์เตอร์ ผมยื่นบัตรโชว์แรงค์กับชื่อของตัวเองให้พนักงานดู พนักงานรีบต้อนรับอย่างเป็นกันเอง
“ไม่ทราบว่าคุณโรจามีเรื่องอะไรให้ทางเราช่วยคะ”
“ขอข้อมูลของนักผจญภัยที่ชื่อคาลิก้า เนฮิวหน่อยครับ”
“รับทราบค่ะ รอสักครู่นะคะ”
“ครับ”
รอสักพัก พนักงานก็ค้นเจอข้อมูล
“เธอเป็นนักผจญภัย [แรงค์ F] ที่พึ่งประเมินแรงค์ได้ไม่นานเองค่ะ ไม่ทราบความถนัดทางอาวุธ และอย่างที่คุณโรจาทราบ [แรงค์ F] ไม่มีวันสร้างผลงานได้หรอกค่ะ”
“แล้วครอบครัวเธอล่ะครับ”
“เธอกำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่เด็กค่ะ ตอนนี้อาศัยอยู่กับพี่สาวที่เป็นนักผจญภัย [แรงค์ D] ไร้อาชีพ และน้องสาวที่ยังไม่เคยประเมินแรงค์”
โลกใบนี้ถ้าได้สมัครเป็นนักผจญภัย ข้อมูลทุกอย่างทั้งชื่อ อายุ คนในครอบครัว ประวัติการทำงาน การใช้ชีวิต การทำผิดกฎหมาย ทุกอย่างจะถูกอาณาจักรรวบรวมเก็บไว้
นักผจญภัยสามารถขอข้อมูลบางอย่างจากนักผจญภัยคนอื่นได้ เพื่อใช้ตัดสินใจทำภารกิจร่วมกันหรือชักชวนเข้ากิลด์
หากเธอเป็น [แรงค์ E] ข้อมูลสำคัญส่วนตัวจะถูกปกป้องทันที มีแค่ [แรงค์ S] เท่านั้นที่ขอดูได้ทุกอย่าง
โชคร้ายที่เธอดันเป็นแค่ [แรงค์ F] อาณาจักรเก็บข้อมูลแต่ไม่ให้ความสำคัญในการปกป้องอะไรทั้งนั้น
“พี่สาวเธอถนัดใช้อาวุธกับการโจมตีแบบไหนครับ”
“เธอถนัดใช้ดาบค่ะ แต่ตอนนี้เธอเป็นนักผจญภัยไม่ได้แล้วเพราะความพิการทางร่างกาย”
“หนักหนาแค่ไหนครับ”
“ขาสองข้างกับแขนขวาขาดค่ะ แถมครอบครัวพวกเธอยังมีประวัติก่ออาชญากรรมในฐานหลอกลวงผู้อื่นไปชิงทรัพย์ด้วยค่ะ”
“ทำมากี่ครั้งแล้วครับ”
“ครั้งเดียวค่ะ และทำไม่สำเร็จด้วย”
งั้นก็ไม่มีอะไรน่าห่วง งั้นคำถามสุดท้าย
“บ้านของเธอ อยู่ที่ไหนครับ”
“ข้อมูลส่วนตัวไม่สามารถบอกได้ค่ะ แต่ทางเราสามารถนัดเธอกับคุณโรจามาเจอกันที่สำนักงานได้นะคะ โดยต้องขึ้นอยู่กับความสมัครใจของคุณเทียร่าด้วย”
“ไม่เป็นไรครับ แล้วถ้าเป็นบ้านของคาลิก้าล่ะครับ บอกได้ไหม”
พนักงานยิ้มกริ่มและพยักหน้าให้ผม
“อันนี้บอกได้ค่ะ”
*****
ไจเกีย หัวหน้า กิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
ไม่ถึงชั่วโมงข้าก็วิ่งมาถึงหน้าดันเจี้ยนเกิดใหม่
ในดันมีดวงไฟและกลุ่มคนจำนวนมากเดินไปทั่วทั้งชั้น
เป็นเรื่องปกติ หลังพบว่าดันเจี้ยนตายและกิลด์ที่เป็นเจ้าของจากไปแล้ว พวกที่รอเก็บของเหลือจะมารวมตัวกัน
พวกมันมีทั้งโจร อันธพาล ขอทาน พวกแสวงโชค รวมถึงพวก [แรงค์ F]
ไม่มีกฎที่ว่าใครมาก่อนได้ก่อน จึงมักมีการต่อสู้และเข่นฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิงของกันเป็นประจำ
อัตราการตายสูงกว่าไปลงดันเจี้ยนระดับต่ำเสียอีก เพราะมีการใช้พวกรุม ทรยศหักหลัง เล่นเล่ห์หักเหลี่ยมกันตลอดเวลา
พวก [แรงค์ F] โง่ๆ ที่คิดง่ายๆ จึงมักมาเป็นเหยื่อให้โดนฆ่าทิ้งในนี้เสมอ
“ฉิบหาย! นั่นหัวหน้ากิลด์ [เขี้ยวประกายแสง] !”
เสียงตะโกนของมัน ทำให้ทุกตัวที่ชั้น 1 หันมามองข้าเป็นสายตาเดียว พวกมันสั่นกลัวและรีบถอยหนีให้ห่างจากข้าให้ได้ไกลที่สุด
ข้าไม่สนใจพวกมันแม้แต่น้อย อยากจะตามหาของเหลืออะไรก็ทำไป
แต่ถ้าไอ้ตัวไหนมันกล้าเอามีดของข้าไป ข้าจะฉีกมันเป็นชิ้นๆ แน่นอน
หากเป็นอย่างที่ไอทูเก้มันพูด มีดอีกครึ่งที่เหลือต้องอยู่ที่ชั้นสุดท้าย
ดันเจี้ยนตายไปได้สักพักแล้วก็จริง แต่พวกมันน่าจะยังไปไม่ถึง
ข้าออกวิ่งเต็มกำลังรวดเดียวถึงชั้น 10 โดยไม่หยุดพัก
เพราะตาของข้ามองเห็นในที่มืดอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใช้คบเพลิงหรืออุปกรณ์ให้แสงสว่างเหมือนพวกมัน
เป็นดังคาดพวกมันส่วนใหญ่สำรวจถึงแค่ชั้น 2 มีบ้างที่ล่วงหน้าไปถึงชั้น 4
งั้นมีดก็ต้องยังอยู่
ที่ชั้น 10 ค่อนข้างกว้าง อาจต้องใช้เวลาในการสำรวจสักพักใหญ่ๆ
แต่ไม่ทันเริ่มหา ข้าก็เห็นผู้หญิงนอนเปลือยกายเล่นอยู่บนพื้น
เคยได้ยินมาบ้างว่ามีพวกโรคจิตมาเอากันในดัน แต่แปลกตรงที่มาทำในชั้นสุดท้ายและดันยังไม่ร้างจากพวกรอเก็บของเหลือ
ไม่สิ ไม่มีกลิ่นสะอิดสะเอียนของน้ำเชื้อพวกตัวผู้ กลิ่นหรือร่องรอยของตัวอื่นก็ไม่มีตั้งแต่ชั้น 7ลงมา
จากรูปร่างและกลิ่นของผู้หญิงคนนี้ ข้ามั่นใจว่าไม่เคยเจอมันมาก่อน
ข้าเดินเข้าไปใกล้ แล้วเงื้อมือจะไปจิกหัวยกมันขึ้นมา
*****
เรเชล ฮีลเลอร์ส่วนตัวของ ไจเกีย หัวหน้ากิลด์ [เขี้ยวประกายแสง]
บนถนนในตัวเมือง มีรถม้า 10 คันขับเรียงต่อกันเพื่อออกจากเมือง
คันแรกเป็นของผู้คุ้มกัน มีนักผจญภัย [แรงค์ C] 6 คน
ฉันนั่งอยู่ในรถม้าคันที่สองพร้อมผู้คุ้มกันหญิง [แรงค์ B] 4 คน
มีสามคันใส่คนผิดแต่ละคนเอาไว้ แต่ละคันมีคนเฝ้าอยู่อีก 5 คน
แม้คนผิดทั้งสามจะถูกซ้อม หักแขนหักขาและมัดด้วยเชือกแล้วก็ตาม
ส่วนคันที่เหลือมาเพื่อเสริมการคุ้มกันฉัน
ปลายทางที่พวกเราไปเป็นดันเจี้ยนที่กิลด์เราซื้อสิทธิมาใช้ฟาร์มทรัพยากรและปล่อยให้มันโต
“เฮ้อ…”
ฉันนั่งถอนหายใจเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ เพราะเสียดายคนมีความสามารถ
งานก็เนี้ยบ อีกทั้งยังเอาใจใส่ในรายละเอียด แถมยังภักดีกับคุณไจเกียมากแท้ๆ
“เฮ้อ… ยุ่งอะไรไม่ยุ่ง ดันไปยุ่งกับของรักของไจเกียซะได้”
เมื่อถึงสถานีรถม้า ฉันก็สั่งให้หยุดรถ แล้วเดินตรงไปที่คันของลาโบ้
ลาโบ้ร้องไห้จนหนวดกับเคราเปียกจับตัวเป็นก้อน เอาซะหมดลุคคนแคระเลยนะคะ
ฉันชี้คทาไปที่เขา
“ฮีล”
หลังแสงสีขาวล้อมรอบทั้งตัว แขนขาที่หักกับบาดแผลทั้งหมดก็หายสนิท
“ปลดเชือกให้เขาทีค่ะ”
ผู้คุมปลดเชือกให้อย่างว่าง่ายและปล่อยเขาลงมาจากรถ ส่วนฉันยื่นกระเป๋าสองใบให้ลาโบ้ที่ยังงงจนทำตัวไม่ถูก
“นี่เงินชดเชยที่คุณสมควรได้รับจากการทำงานหนักให้เรากับเสบียงที่ใช้กินระหว่างทางนะคะ ฉันเสียดายความสามารถของคุณจริงๆ แต่ถ้าไจเกียยังเห็นคุณมีชีวิตอยู่ คุณลาโบ้โดนฉีกเป็นชิ้นๆ แน่ เพราะงั้นรีบหนีไปไหนก็ได้แล้วอย่ากลับมาที่อาณาจักรนี้อีกนะคะ”
แล้วคนแคระอายุคราวปู่ก็ร้องไห้ก้มหัวขอบคุณฉันยกใหญ่ ทั้งที่ฉันห้าม แต่เขาก็ยังก้มหัวขอบคุณไม่หยุด
“ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ ครับคุณเรเชล บุญคุณนี้จะไม่มีวันลืมเลย หากคุณเรเชลมีเรื่องอะไรที่ผมช่วยได้ อย่าได้เกรงใจ ติดต่อมาหาผมได้ทันทีเลยนะครับ ถึงแม้ผมจะทำเป็นแค่สร้างกับซ่อมอาวุธก็ตาม”
“โชคดีนะคะ คุณลาโบ้ แล้วก็อย่าดื่มเวลางานอีกนะคะ”
“แหะๆ คราวนี้เข็ดของจริงเลยล่ะครับ”
แล้วฉันก็โบกมือลาส่งคุณลาโบ้ที่สถานีรถม้า ก่อนกลับรถม้าตัวเอง
พวกเราออกจากเมืองแล้วตรงไปดันเจี้ยนที่เราครอบครองอยู่
หน้าทางเข้ามีป้ายเขียนว่า ดันเจี้ยนของกิลด์ [เขี้ยวประกายแสง] กับสัญลักษณ์รูปเขี้ยวสีเงินส่องประกายติดอยู่
ดันเจี้ยนนี้มีทั้งหมด 17 ชั้น เป็นดันเจี้ยนทุ่งหญ้าไว้ให้แรงค์ต่ำในกิลด์เรามาฝึกฝีมือ และทุกๆ เย็นจะมีคนในกิลด์มากวาดล้างทิ้งทุกรอบเพื่อไม่ให้อันตรายเกินไป
พวกเราพามาจอก้ากับทูเก้ลงไปที่ชั้น 15
“ทูเก้ถึงนายจะไม่ได้เป็นคนทำ แต่การดูเด็กสาวถูกทรมานหน้าตาเฉย โดยไม่ห้ามหรือช่วยแม้แต่น้อย นายมันโคตรเลือดเย็นเลย”
“ครับ ไม่มีอะไรแก้ตัวครับ”
“รอดจากที่นี่แล้วหนีไปจากอาณาจักรนี้ให้ได้ล่ะ”
“ขอบคุณครับคุณเรเชล”
ฉันพยักหน้าให้ผู้คุ้มกันปลดเชือกกับส่งดาบให้เขา จากนั้นทูเก้ก็โดนทุบหัวจนสลบ
ฉันใช้ฮีลรักษาให้เขาเหมือนกับลาโบ้
แล้วเราก็พามาจอก้าลงไปชั้นสุดท้าย วางเธอไว้ตรงหน้าแกนดันเจี้ยน
“มาจอก้า ทำไมเธอถึงใจคอโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ [แรงค์ F] ก็เป็นคนเหมือนพวกเรานะ ทำไมต้องจ้างให้ทรมานพวกเขาก่อนจะฆ่าอย่างโหดร้ายด้วย”
มาจอก้าจ้องหน้าฉันด้วยท่าทางเบื่อหน่าย ราวกับนิสัยที่เธอแสดงออกมาตั้งแต่แรกที่เข้ากิลด์นั้น เป็นแค่ของปลอม
“แล้วที่ท่านไจเกียสั่ง ไม่โหดร้ายหรือไง”
“ไจเกียเอาแค่เขี้ยว”
“แล้วเอาเขี้ยวไม่ทรมานเหรอจ๊ะ”
“อึก…!”
“เรเชล เอ๋ย เรเชล เธอก็น่าจะรู้ดีนี่ว่านังเด็กนั่นทรมานตั้งแต่โดนเลาะเหงือกแล้ว แล้วทำไมแม่พระอย่างแกไม่บอกให้ท่านไจเกียสั่งให้โรจาใช้ยาชาแล้วทำอย่างอ่อนโยนล่ะจ๊ะ”
“มาจอก้า!”
“แล้วทำไมไม่บอกให้ท่านไจเกียสั่งให้รักษาทุกคนหลังเลาะเขี้ยวของเขาออกมาด้วยล่ะจ๊ะ ค่าเขี้ยวก็ให้แค่ข้างละ 1 เหรียญทองแดง”
ฉันได้แต่ยืนกำหมัด โต้ตอบอะไรกลับไปไม่ได้ ไจเกียเป็นคนสั่งโรจาเองว่า ห้ามฮีลให้ เพราะมันแพงกว่าค่าเขี้ยว
“ทำไม อีตัวส่วนตัวของท่านไจเกีย ทำได้แค่สงสารเหรอจ๊ะ”
“มาจอก้า! เธอจะไปรู้อะไร!”
“ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่ามาสอนคนอื่น อีตัวอย่างแกเอาเวลาไปบำเรอกามให้ท่านไจเกียไม่มีเวลาไปดูเขี้ยวชาวบ้านเขาจะดีกว่านะ จะได้ลดจำนวนเหยื่อได้ไง”
“…”
“อ้าว ๆ ๆ เถียงไม่ออกเหรอจ๊าาาาา มีดเขี้ยวเล่มนั้นเหลือแค่ครึ่งเดียวแล้ว ยังไงท่านไจเกียก็คลั่งแน่ ถ้าไม่อยากให้ลูกกิลด์คนอื่นตายฟรี คืนนี้ก็พยายามใช้ลิ้นกับร่างกายร่านๆ ปรนเปรอเยอะๆ หน่อยล่ะ ฮ่าๆๆๆๆ”
Chapters
Comments
- ตอนที่ 7 ลงโทษ 1 วัน ago
- ตอนที่ 6 ปรารถนา 1 วัน ago
- ตอนที่ 5 ขอพร 1 วัน ago
- ตอนที่ 4 หน้าที่ 1 วัน ago
- ตอนที่ 3 กิลด์ 1 วัน ago
- ตอนที่ 2 สัญญา 1 วัน ago
- ตอนที่ 1 ขายฝัน 1 วัน ago
MANGA DISCUSSION