การแสดงออกที่จริงจังของ Kieran กลายเป็นรอยยิ้มที่ยินดี

การแสดงออกอย่างกะทันหันของเขาทำให้ไซมอนส์ตกใจ

“2567 สบายดีไหม” เขาถามอย่างกระวนกระวายในขณะที่หยิบ [ยาหม่องสงบ] ที่เขาพกติดตัวตลอดเวลาออกมา

“ไม่มีอะไร ฉันแค่คิดว่ามันตลกที่ฉันกลัวคนเลี้ยงแกะ”

Kieran โบกยาหม่องไปด้วยรอยยิ้ม

“ผู้เลี้ยงแห่งความตายอาจมีชื่อและตำแหน่งเดียวกันกับทั้ง 5 สมาคมหลัก แต่นั่นเป็นช่วงที่พวกเขารุ่งเรือง! เกือบ 30 ปีแล้วที่พวกเขาถูกกำจัดโดย Rei แม้ว่าพวกเขาจะฟื้นคืนชีพจากเถ้าถ่านและรวบรวมพวกเขา กองกำลังที่เหลืออยู่พวกเขาจะกู้คืนความรุ่งเรืองในอดีตได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม่เช่นนั้น พวกเขาคงไม่ปรากฏตัวในตอนนี้ที่เรย์หายไป!”

“เรย์และกลุ่มสังคมใหญ่ทั้ง 5 หายไปพร้อมๆ กัน นี่เป็นโอกาสที่ดีสำหรับพวกเขาที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง กลืนกินกลุ่มเล็กๆ อื่นๆ และยึดอำนาจของพวกเขากลับคืนมา พวกเขาแค่ส่งคำเชิญมาหาฉัน หมายความว่าอย่างไร” Kieran จ้องไปที่ Simones

“บางทีพวกเขาอาจกลัวการถูกค้นพบ?” ซิโมนส์คาดเดา

“ใช่ พวกเขากลัว! คนเลี้ยงแกะไม่มีความมั่นใจและความสามารถที่จะโค่นล้มกลุ่มอื่นๆ แม้ว่าจะไม่มี Rei และกลุ่มใหญ่อื่นๆ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเผยแพร่ชื่อของพวกเขาเพื่อแสดงความแข็งแกร่ง! ฉันคือคนโชคร้าย Rei ได้ทำนายไว้ ดังนั้นฉันจึงเป็นเป้าหมายที่ดีที่สุด!” จีหรานพยักหน้า

“อูฐผอมใหญ่กว่าม้า 2567! คุณต้องระมัดระวังเมื่อคุณเผชิญหน้ากับคนเลี้ยงแกะ! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความสามารถในการควบคุมคนตาย!” ซิโมนส์เตือนคีแรน

“อย่ากังวลไป ฉันให้ความสำคัญกับชีวิตของฉันไม่น้อยเลย! ยังไงซะ เรย์หายตัวไปได้ยังไง? เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” จีหรานถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง กลั้นยิ้มไว้

เป็นคำถามที่เขาอยากจะถามตั้งแต่เขาได้เห็นคำอธิบายของ [The Shaman’s Partner II]

“มันคือ ‘สิ่งนั้น’! อย่าถามฉันว่ามันคืออะไร ฉันไม่รู้จริงๆ! Rei ไม่เคยบอกฉันมากนัก เธอรู้ว่ามันไม่ดีถ้าคนครึ่งๆ กลางๆ อย่างฉันจะรู้มากเกินไป นอกจาก ความจริงที่ว่า Rei และกลุ่มสังคมหลักทั้ง 5 หายไปเพราะ ‘สิ่งนั้น’ ฉันไม่รู้อะไรมากไปกว่าคุณและ Elli! ถ้าฉันทำได้ก็แค่…”

ก่อนที่ซิโมนส์จะพูดจบ เขาก็ถอนหายใจและยิ้มขมขื่นให้คีแรน

เขาดูเศร้าหมองยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา

ซิโมนส์ดูเหมือนจะคิดว่าเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยได้ ความทำอะไรไม่ถูกของเขาเพิ่มมากขึ้นและรู้สึกเหมือนสำนึกผิดมากขึ้น

ดูเหมือนซิโมนส์จะรู้มากกว่าที่ตาเห็น แต่เขาก็ไม่เต็มใจที่จะเปิดเผยอีกต่อไป

Kieran ไม่คิดที่จะประเมินใครก็ตามในแวดวงคนรู้จักของ Nikorei ต่ำไป และเขาจะไม่บังคับให้พวกเขาพูดถึงสิ่งที่พวกเขารู้สึกไม่พอใจ

เขาเปลี่ยนหัวข้ออย่างรวดเร็ว

“คุณช่วยฉันตรวจสอบ Blood Queen Tiara และต้นฉบับของ Fantos ได้ไหม”

จีหรานเปลี่ยนหัวข้อกลับไปเป็นรายการที่เขาพบในห้องลับของ Cursed Society

“ไม่มีปัญหา ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม!” ซิโมนส์รับปากและรับงานนี้

ทั้งสองยังคงสนทนาแบบสบายๆ เวลาส่วนใหญ่ Kieran กำลังฟังและ Simones กำลังพูด

พวกเขาจบเซสชั่นในเวลาประมาณ 01.00 น. ในตอนกลางคืน Kieran กลับขึ้นไปบนห้องของเขาหลังจากบอกฝันดีแก่ Simones

รางวัลที่จีหรานรวบรวมมาจากสมาคมอื่นทั้งหมดถูกย้ายไปที่ห้องของเขา

เขาเปิดโคมไฟตั้งโต๊ะและเตรียมพร้อมที่จะอ่านหนังสือที่เขารวบรวมเกี่ยวกับ [Mystical Knowledge]

จีหรานยังวางแผนที่จะพักผ่อนหลังจากหนึ่งหรือสองชั่วโมง เนื่องจากเขายังต้องตรวจสอบ Sunshine Mary ในตอนเช้า ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่มีสมาธิอ่านหนังสือทั้งคืน

ก่อนอื่นเขาอ่านหนังสือที่เขาได้รับจากสถานที่ของ Fiery Hounds เขาส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง เขาเคยอ่านหนังสือเหล่านั้นมาก่อน

เขายังอ่านหนังสือครึ่งหนึ่งที่เขาได้รับจาก Cursed Society

โชคดีที่ยังมีอีกครึ่งหนึ่ง มันเพียงพอสำหรับเขาที่จะอ่านในขณะนี้

เมื่อ Kieran หยิบหนังสือชื่อ “Stars and Destiny” ขึ้นมา เขาก็วางมันกลับลงไปทันทีที่เปิดปก

เขาได้ยินเสียงฝีเท้าที่ประตูบ้านของเขา

มันคือเอลลี จีหรานวางหนังสือลงและลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปที่ประตูแล้วเปิดออก

“คุณ… คุณยังไม่หลับเหรอ เอ่อ… ฉันจะนอน!”

Elli ที่หวาดกลัวกำลังเอ้อระเหยอยู่ข้างนอก เธอเซถอยหลังเล็กน้อย ดูตื่นตระหนกและไม่สบายใจ เธอพูดติดอ่าง แต่ก่อนที่จีหรานจะทันได้ตอบ เธอก็รีบวิ่งกลับไปที่ห้องของเธอและปิดประตูดังปัง

ปัง

เสียงทุบที่ดังทำให้ Kieran ประหลาดใจ

เขามองไปที่ประตูของเธอและได้ยินเสียงกรีดร้องของ Elli อย่างชัดเจน Kieran แน่ใจว่า Elli กรีดร้องความอับอายของเธอใส่หมอนของเธอจากเสียงที่ถูกระงับ

เขาไม่รู้ว่าทำไม Elli ถึงทำตัวแบบนั้น

“เกิดอะไรขึ้น?”

จีหรานกลับเข้าไปในห้องของเขาและปิดประตูด้วยท่าทางงุนงง

หลังจากนั้นไม่นาน เขาได้ดื่มด่ำกับ “ดวงดาวและโชคชะตา” อย่างสมบูรณ์ มันคือหนังสือที่เขาตามหา เพื่อให้แม่นยำ มันมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับ [โหราศาสตร์]

มันเป็นของสะสมของ Rei ที่ขาดหายไป

นี่ไม่ได้หมายความว่าของสะสมของ Rei นั้นด้อยกว่าเมื่อเทียบกับของ Cursed Society มันเป็นเพียงว่าหนังสือของ Rei นั้นล้ำหน้าเกินไป Kieran ซึ่งขาดความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับประเภทหนังสือ ไม่สามารถเข้าใจหนังสือเหล่านั้นได้ แม้ว่าหนังสือบางเล่มจะมีเอกลักษณ์เฉพาะในโลกก็ตาม แม้ว่าเขาจะนึกคำหรือตัวอักษรออกได้บ้าง แต่เมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน มันทำให้เขางุนงง

หนังสือของ The Cursed Society เติมเต็มช่องว่างเหล่านั้นให้กับ Kieran มันเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ที่คาดไม่ถึงสำหรับเขา

จีแรนหมกมุ่นอยู่กับหนังสือ โดยไม่สนใจพฤติกรรมแปลกๆ ของเอลลีที่อยู่นอกประตูบ้าน

“สาวน้อยผู้มีพลังวิเศษ!”

ซิโมนส์ซึ่งอยู่ในการศึกษาที่ชั้นหนึ่งเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับ Blood Queen Tiara และต้นฉบับของ Fantos ได้อุทานขึ้นเมื่อเขาได้ยินเสียงวุ่นวายที่ชั้นบน

…

จีแรนกำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ เมื่อชมิดต์มาถึงพร้อมกับหนังสือพิมพ์ตามที่สัญญาไว้

“ขอซีโมน แซนวิชไข่ดาวและนมสักแก้ว!” ชมิดต์ร้องขอโดยไม่มีมารยาท

“ดีมาก!” Simones ตอบด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข

“ขอบคุณโบลเลอร์ ฉันมาทานอาหารที่นี่บ่อยมาก! ฉันหวังว่าเพื่อนคนนั้นจะไม่เป็นไร…” ชมิดต์พูดเมื่อเห็นคีแรนมองเขาด้วยสีหน้างุนงง เมื่อใดก็ตามที่เขาพูดถึงคู่หูของเขา ชมิดต์ดูเป็นกังวล

ในไม่ช้าเขาก็ซ่อนอารมณ์ของเขา

“ดูพาดหัวข่าววันนี้สิ? ตามที่คาดไว้! ‘ความตายตามกา!’, ‘การโจมตีของนกแห่งความตาย’, ‘นกร้ายกาจครองชายฝั่งตะวันตก’… ช่างเป็นคำอธิบายที่เหมาะกับคุณ!”

ชมิดต์กำลังพูดเสียงสูง โบกหนังสือพิมพ์ไปรอบๆ เหมือนเด็กขายหนังสือพิมพ์ข้างถนนขณะที่เขาอ่านพาดหัวข่าวให้คีแรนฟัง

จีแรนยังคงเงียบขณะที่เทครีม พริกไทย และเกลือจำนวนมากลงบนแซนด์วิชไข่ดาวของชมิดท์

“โปรดอย่าทิ้งอาหาร!”

Kieran กลืนแซนวิชไข่ดาวของเขาลงในคำสองคำและดื่มนมหนึ่งแก้วในอึกเดียว จากนั้นเขาก็เร่งให้ชมิดท์ทำแซนด์วิช “พิเศษ” ของเขาให้เสร็จและลากเขาออกไปก่อนที่ชมิดท์จะทันได้ดื่มนมสักแก้วด้วยซ้ำ

“ฉันจะไม่กลับมาตอนบ่าย แค่เตรียมอาหารเย็นให้ฉัน!”

เมื่อ Kieran ทิ้งคำสั่งให้ Simones เขาเดินผ่านประตูที่คนงานกำลังซ่อมแซม เขาลากและโยน Schmidt ไปที่ที่นั่งผู้โดยสารของ Picard แล้วสตาร์ทรถ

“คุณทำสิ่งนี้โดยตั้งใจใช่ไหม” ชมิดต์พูดด้วยความโกรธในรถ

“แล้วคุณล่ะ ฉันคิดว่าใช่หรือเปล่า” Kieran ตอบโต้คำถามของ Schmidt

“ก็ได้ ตกลง! ฉันยอมรับ! ฉันแค่อยากเห็นเบิร์ดออฟเดธผู้โด่งดังอายเมื่อเห็นชื่อตัวเองในหนังสือพิมพ์!” ชมิดต์กล่าวและยอมจำนนในที่สุด

“ถ้าคุณเก็บส่วนสุดท้ายนั้นไว้กับตัวเอง คุณอาจจะฟังดูจริงใจกว่านี้!” Kieran หัวเราะอย่างเย็นชา

“ฉันแค่พูดความจริง หยุดรถ ฉันต้องการน้ำ!” ชมิดต์บอกกับคีแรน

“ไม่ คุณจะกลับใจจากบาปของคุณโดยการสังเวยต่อมรับรสของคุณ!”

Kieran เร่งความเร็วมากขึ้นเพื่อหยุด Schmidt ไม่ให้กระโดดออกจากรถ

รถแล่นต่อไปยังจุดหมายต่อไป โกลเด้นบีช ด้วยความเร็วที่เร่งขึ้นเรื่อยๆ

หาดโกลเด้นเป็นจุดท่องเที่ยวยอดนิยมบนชายฝั่งตะวันตก ในช่วงฤดูร้อนดึงดูดนักท่องเที่ยวทุกประเภทจากทั่วทุกมุมโลก

อาจเรียกได้ว่าเป็นสวรรค์เมื่อพิจารณาจากแสงแดด ทะเล และจำนวนผู้หญิงในชุดบิกินี่ที่นั่น

น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นฤดูหนาว

ลมหนาวพัดมาจากทางเหนือ มันเย็นจนทะลุกระดูกเมื่อรวมกับความชื้นของน้ำทะเล

เจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบหลายสิบนายทำให้สถานที่ดูน่ากลัวยิ่งขึ้น

ชมิดต์ยกปกเสื้อขึ้นและสวมเสื้อโค้ทให้แน่นขณะลงจากรถ

ในทางกลับกัน Kieran ไม่สนใจลมหนาวและมองไปที่ Sunshine Mary ที่ปลายสุดของชายหาด

เรือเฟอร์รี่สูง 20 เมตรสะดุดตามาก

สีกระดำกระด่างและตัวรถที่เป็นสนิมไม่ได้ทำให้รูปลักษณ์ที่หรูหราในอดีตของมันหายไป ในทางตรงกันข้าม มันทำให้เรือเฟอร์รีมีเสน่ห์ไปอีกแบบหนึ่ง ทำให้ดูเหมือนเรือเฟอร์รีผู้สูงศักดิ์ที่ผ่านทะเลแห่งกาลเวลา

เมื่อมันโผล่ขึ้นมาจากก้นทะเล มันดูเหมือนป้อมปราการเหล็ก

อย่างไรก็ตาม…

บนชายหาดด้านล่างเรือข้ามฟากมีชายคนหนึ่งในชุดสูทอย่างเป็นทางการและรองเท้าหนังยืนอยู่ด้วยท่าทางที่ไม่สำคัญซึ่งทำลายภาพอันงดงาม

ชายคนนั้นดูเหมือนเขาอายุสามสิบ ผมของเขาถูกหวีและม้วนเป็นลอน เพื่อที่ว่าเมื่อแสงอาทิตย์ส่องลงมาบนศีรษะของเขา แสงจะสะท้อนออกมาอย่างสว่างไสว

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยตุ่ม สิว และแผลพุพอง

เสียงของเขาดังพอๆ กับเสียงไก่ขัน แต่ฟังดูน่ากลัว

“ฉันบอกว่า ระเบิดจุดนี้ตรงนี้! ใช้ระเบิดมากกว่านี้!” ชายคนนั้นตะโกนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ก่อนที่เขาจะสังเกตเห็นว่าคีแรนและชมิดต์กำลังเดินเข้ามา

หลังจากชำเลืองมองที่ Kieran เขาก็ตะโกนใส่ Schmidt “เฮ้ มือสมัครเล่น! บอกคนของคุณให้วางระเบิดที่นี่เร็วเข้า! ฉันคือที่ปรึกษาลึกลับที่ผู้อำนวยการจ้างมา! ถ้าไม่ใช่เพราะความเร็วเหมือนเต่าของคุณ ฉัน คงจะเสร็จภารกิจนี้แล้ว!”

เสียงที่น่ากลัวของชายคนนั้นและคำพูดที่เขาเพิ่งพูดออกไปทำให้ Kieran ขมวดคิ้ว

ที่ปรึกษาลึกลับ?

ถ้า Kieran จำไม่ผิด ตำแหน่งนั้นเป็นของ Nikorey!

Kieran มองไปที่ Schmidt ด้วยความสับสน

“ใช่…”

“คุณคือกา นกแห่งความตาย นกอัปมงคล ปี 2567 ที่น่าอับอายใช่ไหม คุณไม่ ‘ดูธรรมดาเกินไป’ ไปหน่อยเหรอ เอาล่ะ ฉันกำลังมองหาผู้ช่วยด้วยตัวเอง…”

ชายคนนั้นขัดจังหวะชมิดต์และเริ่มพูดพล่ามอย่างเห็นแก่ตัว

การแสดงออกของ Kieran กลายเป็นเรื่องจริงจัง

ความคิดของผู้แปล

เดส เดส

ไอ้พวกขี้คุยนั่นน่ะ