ตลอดหลายวันที่ผ่านมา อารมณ์ของรอสไวส์อาจจะไม่ค่อยดีนัก แต่เธอไม่เคยแสดงออกให้ลูกสาวเห็นเลยแม้แต่น้อย
ที่โต๊ะอาหาร เธอนั่งฟังโนอาและมูนพูดคุยจ้อไม่หยุดอย่างอดทน
มูนอวดว่า วันนี้เธอเล่นซ่อนหากับสาวใช้เก่งมาก หาเจอหมดทุกคนภายในไม่ถึงนาที;
ส่วนโนอาก็เล่าว่าวันนี้ได้เรียนเวทมนตร์บทใหม่อะไรบ้าง
ส่วนลูกสาวคนเล็กนั้น…
ยังอยู่ในวัยที่พูดไม่เป็นคำ จึงยังร่วมวงสนทนากับพี่สาวไม่ได้
ลีออนกินอาหารไปพลาง คอยสังเกตอารมณ์ของรอสไวส์ไปด้วย
เมื่อครู่ที่สวนหลังบ้าน เขาเพิ่งถามรอสไวส์ไปว่า อารมณ์ที่ไม่ดีของเธอในช่วงนี้เป็นเพราะเขาหรือเปล่า
แต่รอสไวส์ก็ไม่ได้ตอบอะไร
ปกติแล้ว ถ้าเธอไม่ตอบคำถามของลีออน นั่นก็มักจะหมายความว่าเธอเห็นด้วยแบบเงียบ ๆ
แต่ลีออนก็นึกไม่ออกจริง ๆ ว่าเขาไปทำอะไรให้ราชินีของเขาขุ่นเคืองในช่วงนี้
หรือว่าจะเป็นเรื่องคืนนั้นในงานเลี้ยงเมื่อไม่กี่วันก่อน ที่เขาเผลอชมพลแม่นปืนสาวในทีมว่าดูสวยต่อหน้าเธอ?
เธอจะเก็บเรื่องนั้นมาคิดจนถึงตอนนี้เลยเหรอ?
ลีออนคิดแล้วก็รู้สึกว่าคงไม่น่าใช่
เพราะรอสไวส์ไม่ใช่คนที่จะหึงหวงอะไรง่าย ๆ อยู่แล้ว อีกอย่าง เธอก็รู้จักเขาดีถึงขนาดที่ฟังออกแน่ว่าเขาพูดล้อเล่น
และต่อให้เรื่องนั้นทำให้เธอไม่พอใจจริง ๆ เธอก็คง “สั่งสอน” เขาไปตั้งแต่คืนนั้นแล้ว ให้รู้ไว้ว่าไม่ควรเอ่ยคำว่า “สวย” ต่อหน้าเธออีก
มันไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เธอจะต้องจมอยู่กับความหดหู่และเบื่อหน่ายขนาดนี้ แบกรับความอึดอัดไว้เพียงลำพัง
เฮ้อ…คิดยังไงก็คิดไม่ออกอยู่ดี
“พ่อ”
เสียงของมูนดึงลีออนกลับมาสู่ความเป็นจริง เขาส่ายศีรษะเบา ๆ อย่างแทบไม่สังเกตได้ แล้วหันไปมองลูกสาว
“มีอะไรเหรอ มูน?”
“พวกเราตกลงกันไว้นะ ว่าหลังจากแม่คลอดน้องเสร็จ เราจะไปทะเล~ พ่อยังจำได้ไหม?”
ลีออนยิ้ม “แน่นอน พ่อจำได้สิ แต่ตอนนี้น้องยังเล็กเกินไป ยังเดินทางไกลไม่ไหว ถ้าโตขึ้นอีกนิด เราค่อยไปทะเลกันดีไหม?”
มูนพยักหน้าอย่างว่าง่าย “ได้เลย~”
มังกรน้อยจึงหันไปหาน้องสาว ใช้ปลายหางที่ว่องไวแหย่น้องเล่น
น้องสาวตัวน้อยที่นั่งอยู่บนเก้าอี้โดยมีผ้ากันเปื้อนผูกอยู่รอบคอเพื่อกันเลอะ มองปลายหางของพี่สาวด้วยดวงตากลมโต เธอแกว่งมือเล็กนุ่มไปมา พยายามจะคว้ามันแต่ก็ไม่เคยคว้าได้เลย
ฝั่งตรงข้ามโต๊ะ รอสไวส์วางคางไว้บนฝ่ามือข้างหนึ่ง ก้มตามองภาพตรงหน้าอย่างเงียบ ๆ
ลีออนแอบมองเธออย่างเงียบ ๆ แล้วก็แปลกใจที่เห็นรอยยิ้มอันหายากปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ
มันไม่ใช่รอยยิ้มที่ฝืน แต่มันเป็นรอยยิ้มที่มาจากหัวใจ
“น้องจ๋า โตเร็ว ๆ นะ จะได้ไปทะเลด้วยกันทั้งครอบครัว~”
ลีออนเพิ่งจะรู้สึกโล่งใจที่ในที่สุดรอสไวส์ก็ยิ้มออกมา แต่ทันทีที่มูนพูดประโยคนั้น รอยยิ้มของเธอก็จางหายไปในทันที
เธอชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเบือนสายตาจากลูกสาวทั้งสอง ลดศีรษะลงแล้วเงียบ ๆ กินอาหารที่เหลือในจานต่อ
ลีออนจับสังเกตได้อย่างเฉียบคม
ทำไมถึงมีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนั้นตอนที่มูนพูดถึงคำว่า “ครอบครัวของเรา”?
ในเมื่อครอบครัวที่พวกเขาสร้างขึ้นนี้ ก็เป็นสิ่งที่รอสไวส์กับลีออนร่วมกันวางรากฐานขึ้นมาอย่างตั้งใจ จุดเริ่มต้นก็เพื่อมอบวัยเด็กที่สมบูรณ์ให้ลูก ๆ พร้อมความรักจากพ่อแม่ทั้งสองฝ่าย
และตอนนี้ ความคิดเรื่อง “ครอบครัว” ที่เข้มแข็งของมูน รวมถึงการยืนยันว่าพวกเขาคือ “ครอบครัวเดียวกัน” มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาทั้งสองรักษาครอบครัวนี้ไว้ได้ดีมาก แล้วทำไมรอสไวส์ถึงไม่ได้รู้สึกโล่งใจ แต่กลับดูเหมือน…ต่อต้าน? เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย
ผู้หญิงนี่เข้าใจยากจริง ๆ ลีออนถอนใจในใจ แม้จะ “แต่งงาน” กันมานานเท่าไร เขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมรอสไวส์ถึงแสดงออกแบบนี้
เดาไปก็ไม่มีประโยชน์ ลีออนคิดในใจ มีแต่ต้องรอให้เธออยากพูดถึงมันเอง เขาถึงจะรู้เรื่องทั้งหมด
หลังมื้อค่ำ โนอาและมูนก็กลับไปที่ห้อง เหลือน้องสาวตัวน้อยไว้ให้พ่อกับแม่ดูแลตามปกติ ทั้งสองยืนเคียงกันอยู่ในห้องครัว ล้างจานเหมือนเช่นทุกคืน ไม่มีบทสนทนาใดระหว่างพวกเขา แต่การเคลื่อนไหวกลับประสานกันอย่างเป็นจังหวะ
เมื่อขัดคราบสุดท้ายบนจานสุดท้ายเสร็จ ลีออนก็ยื่นจานให้รอสไวส์ที่รับหน้าที่ล้างที่อ่าง แต่ต่างจากทุกครั้ง รอสไวส์กลับยืนนิ่งไม่ขยับ เหมือนกำลังต่อสู้กับบางอย่างในใจ
ลีออนถือจานไว้ในมืออย่างเก้อ ๆ แล้วเอียงศีรษะเล็กน้อย “มีอะไรหรือเปล่า?”
รอสไวส์หลับตาลง สูดลมหายใจลึก เหมือนกับว่าในที่สุดเธอก็ตัดสินใจในเรื่องสำคัญได้เสียที
“ลีออน ไป…ใช้เวลากับลูก ๆ เถอะ” เธอพูด
ลีออนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจนัก “อะไรนะ?”
“ฉันบอกว่า ไปเล่นกับลูก ๆ ไปสิ เล่นซ่อนแอบก็ได้ สอนเวทมนตร์ก็ได้ สั่งสอนพวกเธอก็ได้ หรือไม่ก็…แค่กอดพวกเธอไว้ก็พอ”
ยิ่งฟังลีออนก็ยิ่งรู้สึกสับสน แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ บางทีรอสไวส์อาจจะแค่อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว และใช้เรื่องการอยู่กับลูกมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้เขาออกไป
ลีออนวางจานไว้ข้างอ่าง ถอดผ้ากันเปื้อนออก เช็ดมือให้แห้ง แล้วก็เดินออกจากห้องไป
เมื่อยามเย็นค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา แสงอาทิตย์ก็เลือนหายอย่างรวดเร็ว ห้องครัวค่อย ๆ มืดลง และแสงเงาก็ยิ่งเน้นให้เห็นความเหงาและเดียวดายของหญิงสาวผมเงินที่ยืนอยู่เพียงลำพัง
“แปะ… แปะ…”
หยดน้ำจากก๊อกไหลตกลงในอ่างอย่างสม่ำเสมอ สาดกระเซ็นไปรอบ ๆ อย่างเงียบงัน
รอสไวส์หลับตาลง สูดลมหายใจลึก เหมือนกับว่าในที่สุดเธอก็ตัดสินใจในเรื่องสำคัญได้เสียที
“ลีออน ไป…ใช้เวลากับลูก ๆ เถอะ” เธอพูด
ลีออนขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่เข้าใจนัก “อะไรนะ?”
“ฉันบอกว่า ไปเล่นกับลูก ๆ ไปสิ เล่นซ่อนแอบก็ได้ สอนเวทมนตร์ก็ได้ สั่งสอนพวกเธอก็ได้ หรือไม่ก็…แค่กอดพวกเธอไว้ก็พอ”
ยิ่งฟังลีออนก็ยิ่งรู้สึกสับสน แต่เขาก็ไม่ได้ถามอะไรต่อ บางทีรอสไวส์อาจจะแค่อยากอยู่เงียบ ๆ คนเดียว และใช้เรื่องการอยู่กับลูกมาเป็นข้ออ้างเพื่อให้เขาออกไป
ลีออนวางจานไว้ข้างอ่าง ถอดผ้ากันเปื้อนออก เช็ดมือให้แห้ง แล้วก็เดินออกจากห้องไป
เมื่อยามเย็นค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา แสงอาทิตย์ก็เลือนหายอย่างรวดเร็ว ห้องครัวค่อย ๆ มืดลง และแสงเงาก็ยิ่งเน้นให้เห็นความเหงาและเดียวดายของหญิงสาวผมเงินที่ยืนอยู่เพียงลำพัง
“แปะ… แปะ…”
หยดน้ำจากก๊อกไหลตกลงในอ่างอย่างสม่ำเสมอ สาดกระเซ็นไปรอบ ๆ อย่างเงียบงัน
รอสไวส์ค่อย ๆ เหลือบตามองไปยังผ้ากันเปื้อนที่ลีออนเพิ่งถอดวางไว้ มันเป็นผ้ากันเปื้อนสีน้ำเงินธรรมดาแบบที่ใช้ในบ้านทั่วไป แต่เขาใส่มันมานานแล้ว เห็นได้จากคราบสีเหลืองที่ฝังแน่นอยู่
เธอก้มลงมองผ้ากันเปื้อนของตัวเองบ้าง ลวดลายแบบเดียวกัน แต่เป็นสีชมพู พวกเขาซื้อสิ่งนี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่นะ…? เธอจำไม่ได้แล้ว รู้แค่ว่าเธออยู่กับลีออน…มานานมากแล้ว
เวลากว่าหนึ่งปี ซึ่งหากนับตามอายุขัยอันยืนยาวของมังกร ก็แค่พริบตาเดียวเท่านั้น
แต่สำหรับรอสไวส์แล้ว เธอกลับรู้สึกว่าหนึ่งปีนี้ช่างยาวนานเสียเหลือเกิน ยาวนานจนเธอแทบลืมไปว่ามันอาจจะมีจุดจบ
หลังจากเงียบไปเนิ่นนาน เธอค่อย ๆ ยื่นมือออกไป ปลายนิ้วสั่นนิด ๆ แล้วหยิบจานที่ลีออนวางไว้ข้างอ่างขึ้นมา จากนั้นเปิดก๊อกน้ำ แล้วเริ่มล้างอย่างเงียบงัน
น้ำเย็นเฉียบไหลผ่านซอกนิ้วของเธอ เธอบีบมือแน่น แต่ก็พบว่าตนไม่อาจจับมันไว้ได้ และสิ่งที่เธอจับไว้ไม่ได้…ก็ไม่ใช่แค่น้ำที่ไหลผ่านปลายนิ้วเท่านั้น…
หลังสามทุ่ม เสียงกลอนประตูดังสะท้อนอยู่ทั่วบ้าน ลีออนเดินผ่านโถงทางเดินกลับเข้ามาในห้องนอน ลูกสาวคนเล็กนอนหลับสนิทอยู่บนเตียง ขณะที่รอสไวส์นั่งอยู่บนโซฟา
เธอไม่ได้ใส่ชุดนอน แต่กลับสวมชุดเดรสที่ดูค่อนข้างเป็นทางการ ลีออนยืนอยู่ตรงประตูห้องนอน เกาศีรษะเล็กน้อย
“ผม…เพิ่งเล่นกับลูก ๆ มาสักพัก สอนเวทมนตร์ให้โนอานิดหน่อย แล้วก็กอดพวกเธอทีละคนก่อนจะออกมา”
รอสไวส์ยังคงก้มหน้ามองปลายรองเท้าของตัวเอง แล้วพยักหน้าเบา ๆ โดยไม่พูดอะไร
“งั้น…เราจะทำยังไงต่อดี?” ลีออนถาม
รอสไวส์ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองลีออน ดวงตาของทั้งคู่สบกัน และในสายตานั้น ราวกับมีคำพูนนับพันที่ไม่อาจเอ่ยออกมา
น่าเสียดาย ที่ตอนนี้ไม่มีโอกาสจะพูดมันอีกแล้ว
หลังจากจ้องตากันเนิ่นนาน รอสไวส์ก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “ลีออน หนึ่งปีก่อน วันนี้ ฉันได้พบกับอาจารย์ของนาย…”
MANGA DISCUSSION