สำหรับลีออนแล้ว ข้อมูลที่เขามีอยู่ในมือตอนนี้นับว่าน้อยมาก เขาไม่รู้เลยว่าคอนสแตนตินรู้ได้ยังไงว่าเขาเป็นมนุษย์ และก็ไม่รู้จะเริ่มไขปริศนานี้จากตรงไหนก่อนดี
มันเหมือนกับถูกยื่นให้แค่คำบรรยายสั้น ๆ บางจุด กับตอนจบที่ชวนงง แล้วบอกให้เขาแต่งเรื่องทั้งเรื่องขึ้นมาจากเศษเสี้ยวเหล่านี้ให้ได้อย่างสมบูรณ์—ต่อให้ลีออนฉลาดแค่ไหน มันก็ยังเป็นภารกิจที่เป็นไปไม่ได้อยู่ดี
ในอีกด้านหนึ่ง แม้รอสไวส์จะนึกถึงข้อตกลงหนึ่งปีกับไทเกอร์ รวมถึงการที่คอนสแตนตินเริ่มเคลื่อนไหวอย่างจริงจังเมื่อหนึ่งปีก่อน แต่เธอก็ยังไม่สามารถโยงเหตุการณ์ทั้งสองเข้าด้วยกันได้อย่างชัดเจน
หากใส่สมมุติฐานหรือเบาะแสที่ยังไม่แน่ชัดมากเกินไป ก็อาจกลายเป็นการถ่วงกระบวนการคิดของพวกเขาเสียเปล่า ๆ รอสไวส์จึงตัดสินใจว่าควรจัดระเบียบความคิดให้เรียบร้อยก่อน แล้วค่อยหารือกับลีออนอีกที
“อีกอย่างนะ ตั้งแต่ฆ่าคอนสแตนตินตอนตีหนึ่งของเมื่อวาน ฉันยังไม่ได้กินอะไรเลยเป็นสิบชั่วโมงแล้ว แบบนี้เหรอคือวิธีที่พวกมังกรเงินตอบแทนผู้มีพระคุณ?”
รอสไวส์กลอกตาใส่เขา
เอาเถอะ ๆ นายก็มีความดี มีผลงาน สมควรได้รับการยกย่อง…ราชินีผู้นี้รู้จักแยกแยะ ไม่ขอเถียงด้วยก็แล้วกัน
“อยากกินอะไรล่ะ?”
“เนื้อมังกร”
รอสไวส์ถึงกับพูดไม่ออกทันที—เธอรู้ว่าไอ้บ้านี่ตั้งใจยั่วเธอชัด ๆ
ตลอดสิบเดือนที่เธอตั้งครรภ์ ผู้ชายเจ้าเล่ห์คนนี้ก็เก็บตัวเรียบร้อย ทำตัวเป็น “สามี” ที่ดีอย่างเต็มที่ พยายามตอบสนองทุกความต้องการของรอสไวส์ ไม่เคยขัดคอเธอแม้แต่น้อย
แต่ตอนนี้ พอลูกสาวตัวน้อยลืมตาดูโลกอย่างปลอดภัยแล้ว เขาก็เริ่มได้ทีปล่อยตัวปล่อยปากทันที
ถึงจะไม่ได้ทะเลาะกันมานาน แต่ลิ้นของรอสไวส์ก็ยังแหลมคมเหมือนเดิม เธอตอบกลับอย่างนิ่งเฉย “หึ…คอนสแตนตินตัวใหญ่ขนาดนั้น นายก็น่าจะกินได้เป็นปีนะ เชิญเลยสิ”
“ฉันไม่กินเนื้อที่ตายแล้ว”
“โอ้โห ตอนนี้เลือกกินขึ้นมาซะงั้น”
รอสไวส์หงุดหงิดทันที ก่อนจะสะบัดหางฟาดขึ้นไปตรงปากลีออน
“นี่ไง เนื้อมังกรสด ๆ เอาเลยสิ กินเลยสิ! ทำไมไม่กินล่ะ—อ๊า!!! บากะ นายกัดฉันจริงเหรอ?!”
“ก็เธอยื่นมันมาไว้ตรงปากเอง จะไม่กัดมันก็เสียมารยาทสิ”
“แคสมอร์ด!!! ฉันจะฆ่านาย!!!”
ลูกสาวคนที่สองของพวกเขานั่งตาแป๋ว มองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้วคิดในใจ: โห เกิดมาไม่ทันไร ก็ได้ดูโชว์เด็ดขนาดนี้แล้ว คุ้มค่าตั๋วสุด ๆ
…
ไม่กี่วันต่อมาในตอนเช้า อากาศปลอดโปร่ง รอสไวส์ตัดสินใจพาลูกสาวคนเล็กออกไปรับแสงแดดบ้าง
เมื่อเทียบกับทารกมนุษย์ ลูกมังกรนั้นมีความสามารถในการปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมสูงกว่า แม้จะเพิ่งคลอดได้ไม่นาน แต่ก็สามารถพาออกไปเดินเล่น สูดอากาศบริสุทธิ์ได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าตัวน้อยได้ออกจากห้องนอนของรอสไวส์ ดวงตากลมโตของเธอเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นต่อโลกใบใหม่นี้
ทั้งสองมาถึงม้านั่งในสวนหลังบ้าน แล้วนั่งลงเคียงข้างกัน ลูกสาวตัวน้อยนอนเอนอยู่บนตักของรอสไวส์ มือเล็กนุ่มนิ่มเอื้อมมาเล่นผมของแม่อย่างเบามือ ดวงตากลมใสจ้องมองแม่สลับกับพ่อ ก่อนจะส่งเสียงอ้อแอ้ของทารกออกมาเบา ๆ
ลีออนฟังภาษาทารกไม่ออก แต่ดูจากสีหน้าของลูกสาวคนที่สองแล้ว ดูเหมือนเจ้าตัวจะอารมณ์ดีใช่เล่น?
“ว่าแต่นะ ลูกเธอจะเริ่มพูดได้เมื่อไหร่?” ลีออนถาม
“ลูกมังกรจะเริ่มพูดได้ประมาณสองเดือน” รอสไวส์ตอบ ก่อนจะเว้นวรรคเล็กน้อยแล้วเสริมว่า “โนอาเรียกฉันว่า ‘แม่’ ได้ตอนอายุแค่เดือนเดียวเองนะ”
เจ้าหญิงจอมแก่แดด—อายุแค่เดือนกว่า ๆ ก็มีท่าทีเหมือนราชินีตัวจิ๋วแล้วเชียว?
รอสไวส์อุ้มลูกสาวตัวน้อยขึ้นมากอด แล้วเงยหน้าขึ้นถามลีออนว่า “แล้วลูกมนุษย์ล่ะ กว่าจะเริ่มพูดได้ต้องใช้เวลานานแค่ไหน?”
“ตามหนังสือบอกว่า…ประมาณแปดถึงสิบสองเดือน” ลีออนตอบ
เหตุผลที่เขาพูดว่า “ตามหนังสือบอก” ก็เพราะว่า…ลีออนไม่เคยเลี้ยงทารกมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิดมาก่อน เขาจึงต้องอาศัยหนังสือความรู้ทั่วไปมาศึกษาเอา
รอสไวส์แสยะยิ้มอย่างผู้ชนะ “มนุษย์นี่โง่จริง ๆ แล้วนายล่ะ? อัจฉริยะนักนี่ นายคงพูดได้ตั้งแต่เกิดเลยสิ?”
แม่มังกรแสนขี้แกล้งพูดหยอก แต่ลีออนกลับสวนทันควันด้วยความมั่นใจ “ผิดแล้ว! ฉันน่ะเริ่มล่ามังกรได้ตั้งแต่เกิดเลยต่างหาก!”
“เชอะ…บ้าชะมัด”
ขณะที่ทั้งสองกำลังเถียงกันเสียงเบา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ วิ่งมาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งคู่หันไปมองก็เห็นโนอากับมูนกำลังวิ่งมา
“สวัสดีตอนเช้าค่ะ แม่ พ่อ!”
“สวัสดีตอนเช้าค่ะพ่อ! สวัสดีตอนเช้าแม่!”
หลังจากทักทายเสร็จ มูนก็กระโดดขึ้นตักของลีออนด้วยท่า “เตะขามังกร” อย่างคล่องแคล่ว
ก็เธอเป็นเสื้อกันหนาวนวมของคุณพ่อ ส่วนคุณพ่อก็เป็นเบาะหนังแท้ของเธอ—พ่อกับลูกคู่นี้ต่างก็มีหน้าที่ให้ความอบอุ่นแก่กันและกัน
ในขณะที่โนอาเดินเข้าไปใกล้รอสไวส์ เพื่อดูน้องสาวตัวเล็กของเธอที่เพิ่งเกิด เด็กน้อยคนนี้ลืมตาได้แล้ว ดวงตาของเธอมีสีชมพูอ่อน ซึ่งแตกต่างจากแม่ พ่อ มูน และแม้แต่ตัวโนอาเอง ดูเหมือนว่ายีนของป้านี่จะแรงใช่ย่อย—แม่กับพ่อแข่งกันตั้งชื่อให้แทบตาย สุดท้ายกลายเป็นว่าป้าได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ
“ว่าแต่…พ่อ แม่ ตั้งชื่อน้องหรือยังคะ?” โนอาถาม
รอสไวส์ส่ายหน้า “ยังเลย ไม่รีบหรอก ตอนตั้งชื่อลูกกับมูน ยังใช้เวลาตั้งเป็นเดือนแน่ะ”
โนอาพยักหน้าช้า ๆ “อ๋อ…”
หลังจากคุยกันเรื่องน้องสาวได้สักพัก โนอาก็นั่งลงบนม้านั่งข้าง ๆ ลีออน “คุณพ่อคะ หนูฝึกวิชาแทงสายฟ้าที่คุณพ่อสอนช่วงปิดเทอมฤดูหนาวเมื่อปีที่แล้วได้แล้วค่ะ หนูอยากเรียนท่าใหม่ต่อเลย!”
การเรียนเวทมนตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย ปกติแล้วการฝึกเวทแต่ละชนิดให้เชี่ยวชาญต้องใช้เวลาสามถึงห้าปีเป็นอย่างน้อย
ยิ่งไปกว่านั้น โนอาเพิ่งจะอายุสองขวบกว่า ๆ ไม่ใช่แค่ขยันอย่างเดียวแล้วจะทำได้ ความสามารถโดยกำเนิดก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
และที่เธอหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาในวันนี้ ก็เป็นเพราะเธอเพิ่งได้เห็นกับตาตัวเองว่าคุณพ่อในช่วงพีคสุด ๆ เป็นยังไง ตอนเหตุการณ์บุกของคอนสแตนตินเมื่อไม่กี่วันก่อน
ถือเวทแทงสายฟ้าสองข้าง บุกเข้าไปในหมู่ศัตรูราวกับเข้าไปในสนามหญ้า จะเรียกว่าเท่ก็ยังดูเบาไปด้วยซ้ำ—ในเมื่อคุณพ่อเท่ขนาดนี้ ถ้าได้สอนท่าใหม่ให้เพิ่มอีก ก็ยิ่งเท่เหมือนคุณพ่อแน่นอน!
“งั้นโนอาอยากเรียนท่าไหนล่ะ?” ลีออนถาม
“ก็…ท่าที่คุณพ่อใช้ตอนล้มคอนสแตนตินไงคะ” โนอาหยุดคิดนิดหนึ่ง แล้วตั้งชื่อใหม่อย่างภูมิใจว่า “ดาบศักดิ์สิทธิ์!!”
ลีออนนึกออกทันที—ดาบศักดิ์สิทธิ์? โอ้ ลูกสาวคนโตของเขาหมายถึง “กระบวนท่าแปลงสายฟ้าเป็นดาบ” นั่นเอง
ท่านี้ไม่ได้ถือว่ายากอะไรนัก ในระบบเวทมนตร์ของมนุษย์ก็จัดเป็นแค่เวทระดับ B เท่านั้น ขอแค่ควบคุมการควบแน่นและการสร้างรูปร่างของธาตุสายฟ้าให้แม่นยำ ก็สามารถใช้ได้แล้ว ส่วนผลลัพธ์สุดท้ายจะรุนแรงแค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับพลังของผู้ใช้เอง
อย่างเช่น ถ้าอยู่ในมือของคนธรรมดา เวทระดับ B นี้ก็อาจเป็นแค่ “อาวุธชั่วคราว” เท่านั้น แต่ถ้าอยู่ในมือของลีออน มันกลับมีพลังมากพอจะโค่นราชามังกรเพลิงชาดลงได้เลยทีเดียว
ในเมื่อเจ้าลูกสาวเชื่อฟังอยากเรียน ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะปฏิเสธ
แต่อุปสรรคก็คือ…คืนนั้น เขาใช้เวทนี้ในการจัดการกับคอนสแตนตินอย่างเร่งด่วน จนทำให้ค่ามานาที่สะสมมาทั้งปีกลายเป็นศูนย์หมดเกลี้ยง
ช่วงนี้เขาก็มัวแต่เลี้ยงลูกสาวคนเล็ก ยังไม่มีเวลามานั่งรวบรวมพลังเวทใหม่เลย
หลังจากลังเลเล็กน้อย ลีออนก็คิดว่า…บางที ควรจะรอสักสองสามวันก่อนค่อยสอนท่านี้ให้โนอา
แต่ก่อนที่ลีออนจะอ้าปากพูดอะไร รอสไวส์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า “โนอา ลูกจ๋า ช่วงนี้พ่อเขาเหนื่อยมากเลยนะ รอให้พักอีกหน่อย แล้วค่อยเรียนดีไหม?”
โนอากะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะพยักหน้าอย่างเข้าใจ “ก็ได้ค่ะ สุขภาพของพ่อสำคัญที่สุดเลย”
ลีออนถึงกับชะงักเล็กน้อย มองยัยมังกรด้วยความประหลาดใจ—วันนี้พระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกหรือเปล่าเนี่ย? เธอพูดเข้าข้างผมด้วยเหรอ?
แต่ยังไม่ทันที่ลีออนจะรู้สึกซึ้งใจ รอสไวส์ก็เสริมต่อทันที “แต่…คุณก็ยังพอจะสาธิตให้ดูได้ใช่ไหมคะ ที่รัก?” เธอหันมามองลีออนด้วยแววตาซุกซนแสนรู้
ลีออนหรี่ตามองเธออย่างหงุดหงิด—ยัยมังกรนี่รู้ได้ยังไงกันนะ? ทั้งที่เขาไม่เคยบอกเรื่องที่ตอนนี้เขายังรวบรวมพลังเวทไม่ได้เลยสักนิด
ให้ตายสิ…พวกมังกรนี่ชอบพูดอะไรที่มนุษย์ไม่เข้าใจอยู่เรื่อยเลย!
“จริงเหรอคะ? พ่อคะ สาธิตให้ดูจริงก็เยี่ยมไปเลย!” ดวงตาของโนอาเปล่งประกายทันที
“เย้~ มูนก็อยากดูคุณพ่อเหมือนกัน! ต้องเท่มากแน่เลย!” มูนก็ไม่ยอมน้อยหน้า รีบแจมความตื่นเต้นเข้ามาทันที
รอสไวส์ยิ้มเจ้าเล่ห์หันมามองลีออน “ลูกทั้งคู่อยากเห็นแล้วนะคะ ที่รัก แค่สาธิตนิดหน่อยเอง”
ลีออนรู้สึกราวกับถูกผลักตกลงไปในหลุมไฟ เขาถูกแม่มังกรตัวนี้ล้อมไว้หมดทุกทางแล้ว จะถอยหลังก็ไม่ได้ จึงจำใจต้องลองดู หวังแค่ว่ามันจะไม่ออกมาน่าอายเกินไป
“โอเคครับ เดี๋ยวคุณพ่อจะลองสาธิตให้ดูนะ”
พูดจบ ลีออนก็ลุกขึ้น ย่อตัวลงเล็กน้อย ประสานมือเข้าด้วยกัน เริ่มรวบรวมพลังเวท เส้นสายฟ้าระยิบระยับแล่นไปมาระหว่างฝ่ามือ
เขาค่อย ๆ แยกมือออก แล้วสายฟ้าก็รวมตัวกันกลายเป็นรูปทรงของดาบในมือของเขา—เวทสายฟ้าระดับ B “แปลงสายฟ้าเป็นดาบ”
ลีออนฮึดเบา ๆ แล้วส่งดาบสายฟ้าเล่มนั้นให้โนอา “เอ้า ของลูก”
โนอาจ้องมองดาบสายฟ้าตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ ปากก็เผลอกลืนน้ำลายไปหนึ่งอึก “คุณพ่อคะ หนูอยากได้ดาบ ไม่ใช่ไม้จิ้มฟันนะคะ…”
ใช่แล้ว—หลังจากที่ค่ามานาถูกใช้จนหมดสิ้น นักล่ามังกรผู้เคยโค่นคอนสแตนตินด้วยดาบสายฟ้าเพียงครั้งเดียวก็หมดสภาพอย่างหนักถึงขั้นต้องออกแรงเหงื่อชุ่มเพื่อสร้างแค่ “ไม้จิ้มฟันสายฟ้า”
โนอารับไม้จิ้มฟันสายฟ้ามาอย่างเก้อ ๆ ยกขึ้นมาพิจารณาใกล้จมูกอย่างตั้งใจ หวังจะมองเห็นรายละเอียดอะไรสักอย่าง…แต่เปล่าเลย มันเล็กยิ่งกว่าประกายจากท่าแทงสายฟ้าของเธอเสียอีก มองแทบไม่เห็น!
ลีออนกระแอมไอแก้เขิน เตรียมจะอธิบายบางอย่าง
แต่รอสไวส์ก็ชิงพูดก่อนอีกแล้ว—ราชินีลุกขึ้นยืน วางลูกสาวตัวน้อยไว้บนม้านั่งเบา ๆ แล้วเดินตรงมาหาลีออน มือขวาของเธอวางลงเบา ๆ บนแขนเขา พร้อมสายตาที่อ่อนโยนอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“ไม่เป็นไรนะ ที่รัก”
ลีออนเม้มปากแน่น สายตาจับจ้องที่ริมฝีปากของเธออย่างระแวดระวัง—ประสบการณ์สอนเขามานักต่อนักแล้วว่า…สิ่งที่มังกรตัวนี้จะพูดต่อไปมันต้องมีอะไรแน่!
“ถึงจะดุ้นจิ๋ว…แต่มันก็น่ารักนะ~”
“…”
ยัยมังกรตัวแสบเอ๊ย! สักวันเธอจะได้รู้ซึ้ง…ว่า “ใหญ่” ของจริงมันเป็นยังไง!!
จบ 167
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION