ลีออน คาสโมด ผู้ที่เราตั้งความหวังไว้สูง กลับต้องสิ้นท่าให้กับแครอทจนได้ หลังจากมื้อเช้า รสชาติของแครอทยังคงติดอยู่ในปากและจมูกของเขา
ในตอนบ่าย ขณะที่มูนกำลังเล่นกับเขา เธอก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า “พ่อ ทำไมพอกินแครอทแล้วถึงดูไม่ค่อยสบายล่ะคะ?”
“ลูกสาวที่น่ารักของพ่อ แค่ลูกไม่ชอบกะหล่ำปลีม่วงไม่ได้หมายความว่าลูกกินไม่ได้ แต่ถ้าพ่อไม่ชอบแครอท นั่นหมายความว่าพ่อกินแครอทไม่ได้จริงๆ! ลูกไม่รู้หรอกว่าพ่อเคยทำอะไรมาก่อน”
อดีตของนักล่ามังกรแห่งจักรวรรดิ พ่อครัวในกองทัพรู้ว่าเขาไม่ชอบแครอทและมะเขือยาว ดังนั้นพวกเขาจึงเอาแครอทและมะเขือยาวออกจากอาหารบำรุงกำลังทั้งหมดที่เสิร์ฟให้หลังจากเข้าร่วมกองทัพ นี่คือสิทธิพิเศษของนักล่ามังกรชั้นนำ เหมือนกับนักเรียนตัวท็อปที่สามารถเลือกที่นั่งในห้องเรียนได้อย่างอิสระยังไงล่ะ
แต่ถ้าคิดอีกแง่ ในบรรดาอาหารทั้งหมด ลีออนกลัวแค่แครอทกับมะเขือยาวเท่านั้น แล้วเช้านี้เขากลับถูกจับได้แบบคาหนังคาเขาโดยรอสไวส์ นี่มันเป็นเรื่องบังเอิญจริง ๆ เหรอ? หรือว่ามีอะไรแอบแฝง? ตอนนี้ยังคิดไม่ออกเลย…
แต่ไม่มีเวลามาเศร้าเสียใจกับแครอท เพราะสิ่งที่กำลังจะมาคือการแก้แค้นของลีออน แคสโมด!
ในฐานะนักล่ามังกร จะปล่อยให้ยัยมังกรลอยนวลไม่ได้เด็ดขาด!
จากการที่ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมานาน ลีออนก็พบว่า นอกเหนือจากเรื่องกิจกรรมบนเตียงแล้ว รอสไวส์แทบไม่มีจุดอ่อนในชีวิตประจำวันเลย
เธอรักการอาบน้ำและการรักษาความสะอาด แต่ก็ไม่ได้เป็นคนย้ำคิดย้ำทำเกี่ยวกับความสะอาดแบบจริงจัง เธอทำอาหารเก่งไร้ที่ติ และยังจัดการงานบ้านปัดกวาดเข็ดถูได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง
การหา “จุดอ่อน” ที่จะทำให้รอสไวส์หมดความอยากอาหารไปทั้งวันนั้นยากพอ ๆ กับการงมเข็มในมหาสมุทร
“กินไม่ได้…กินไม่ได้…โอ้ ใช่เลย!”
เขานึกขึ้นได้ว่า ครั้งหนึ่งที่เขาพยายามแอบถามอันนาแบบอ้อม ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่รอสไวส์ออกไปไหนเมื่อวาน อันนากล่าวขึ้นมาลอย ๆ ว่า “ฝ่าบาทไม่ชอบผักชีค่ะ”
อา ฮะ! เขาหาเข็มในมหาสมุทรเจอแล้ว!
ในมื้อเย็น ลีออนเสนอตัวอาสาทำอาหารเอง
ตามหลักการ “ทุ่มทุนสร้าง” ทุกจานที่ลีออนทำถูกปรุงด้วยผักชีแบบจัดเต็ม
ไม่ว่าจะเป็นยัยมังกรที่เจ้าเล่ห์แค่ไหน ก็หนีไม่พ้นกับดักผักชีไปได้หรอก!
หลังจากเตรียมเสร็จ ลีออนยิ้มอย่างภาคภูมิใจพลางนำอาหารมาเสิร์ฟบนโต๊ะ
เมื่อจานแรก “ปีกไก่ย่าง” ถูกวางลง รอยยิ้มของรอสไวส์พลันแข็งค้างไปทันที
กลิ่นหอมของปีกไก่ย่างลอยออกมาชวนรับประทาน ทว่าจุดสีเขียวเล็ก ๆ บนปีกไก่ก็สะดุดตาอย่างจงใจ
รอสไวส์สูดหายใจลึกเข้าไป
“แค่ปีกไก่ย่างจานเดียวเอง ไม่เป็นไร ฉันก็แค่ไม่กินมันก็ได้ ยังมีจานอื่นให้กินอยู่ใช่ไหม?”
แต่แล้วจานที่สองก็มาถึง “ปลาอบ” …ในแบบฉบับใส่ผักชีเต็มพิกัด
สีหน้าที่แข็งค้างของรอสไวส์ในที่สุดก็เผยความรู้สึกออกมาอย่างชัดเจน
นี่คือการทำอาหารตามปกติของลีออน? ทำไมต้องใส่ผักชีเยอะขนาดนี้?
ลีออนพยายามกลั้นหัวเราะขณะยกจานอาหารจานต่อไปมาเสิร์ฟ
และในทุกจานที่ตามมา ผักชีก็ปรากฏตัวเป็นส่วนประกอบคู่เคียงเสมอ
รอสไวส์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย! นี่มันเหมือนกับนรกแห่งผักชีสำหรับเธอ!
“มากินสเต็กทอดกระทะพร้อมกับผักด้วยสิ มูน” ลีออนพูดพลางส่งจานให้
“รับทราบค่ะ พ่อ~”
รอสไวส์กัดริมฝีปากแน่น มองปลาย่างตรงหน้าอยู่นาน ก่อนจะค่อย ๆ บีบประโยคออกมาว่า “ฉัน…ไม่ค่อยหิวเท่าไหร่ พวกเธอกินกันไปก่อนเถอะ”
แต่ทันทีที่เธอทำท่าจะลุกขึ้น ลีออนก็เอื้อมมือไปจับข้อมือของเธอไว้
“เมื่อวานเธอออกไปข้างนอกตั้งนาน เหนื่อยจากการเดินทางแล้วยังไม่ได้พักผ่อนให้เพียงพอ แล้วจะไม่กินข้าวเย็นได้ยังไง กินสักหน่อยเถอะ อย่าทำให้ผมเป็นห่วงเลย” น้ำเสียงของลีออนจริงใจและเต็มไปด้วยความห่วงใย
ไอ้คาสโมดจอมเสแสร้ง น่าขยะแขยง! แต่ก็ดีหน่อยที่อย่างน้อยมันไม่ได้แสดงท่าทางรังเกียจผักชี
“ใช่ค่ะ แม่! โภชนาการสำคัญไม่แพ้ทานอาหารครบสามมื้อนะคะ!”
ลูกจ๋า ตกลงลูกอยู่ฝ่ายไหนกันแน่!?
หลังจากที่โดนลีออนจัดเมนูที่เต็มไปด้วยผักชีโดยไม่มีเหตุผล รอสไวส์ไม่แน่ใจว่าหมอนี่ตั้งใจหรือเปล่า แต่เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้ลูกเกี่ยวกับการเลือกกิน เธอจึงต้องยอมกลับมานั่งที่โต๊ะ หยิบมีดและส้อมขึ้นมา ก่อนจะมองไปยังปลาย่างที่เต็มไปด้วยผักชี พลางพูดด้วยเสียงสั่น ๆ “โอเค… แม่จะกินแล้วนะ”
“อืมม~”
รอสไวส์พยายามอดทนกับรสชาติของผักชี พลางกินปลาย่างทีละคำเล็ก ๆ
ใครบอกว่าโลกนี้ไม่มีความเห็นอกเห็นใจ? ตอนนี้เธอเข้าใจความทรมานที่ลีออนต้องเผชิญในมื้อเช้า
แม้ว่าความทรมานนั้นจะเป็นฝีมือของเธอเองก็ตาม
เดี๋ยวก่อน—
ขณะที่รอสไวส์เคี้ยวปลาย่าง เธอก็เหลือบมองจานอาหารบนโต๊ะ ทุกจานล้วนมีผักชีเป็นส่วนประกอบ… มันยากจริง ๆ ที่จะไม่สงสัยว่าหมอนี่ตั้งใจทำแน่ ๆ
แต่เขารู้ได้ยังไงว่าเธอไม่ชอบผักชี? ความคิดของรอสไวส์เริ่มว้าวุ่น ขณะที่เธออดทนกับกลิ่นผักชีที่แรงเกินไป และพยายามคิดหาคำตอบ
มื้อนี้ถือเป็นมื้อที่ลีออนรู้สึกพึงพอใจที่สุดในช่วงนี้เลยทีเดียว
“ผักชีช่างเป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลกจริง ๆ!”
หลังอาหารเย็น มูนกลับไปพักผ่อนในห้องของเธอ ส่วนรอสไวส์กับลีออนก็ช่วยกันล้างจานในครัว
“มื้อเย็นวันนี้อร่อยไหม?” ลีออนยังไม่หยุดถาม
รอสไวส์ที่มองออกถึงเจตนาของเขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ “อร่อยมาก ทำได้ดีจริง ๆ”
ได้เลย ได้เลย ยัยมังกรหัวดื้อ พรุ่งนี้ฉันจะทำ “เมนูผักชี” ให้เธอกินอีก!
“เธอชอบผมก็ดีใจ” ลีออนพูดขึ้น
รอสไวส์หัวเราะเบา ๆ พลางวางจานที่ล้างเสร็จลง เปลี่ยนเรื่องคุยทันที “คืนนี้ฉันจะไปนอนที่ห้องนาย”
ลีออนตกใจ “มานอนที่ห้องผม…”
“ใช่ จำไว้ล่ะว่าจะต้องจัดห้องให้เรียบร้อย แล้วเจอกันคืนนี้”
จากนั้น รอสไวส์ก็เช็ดมือของเธอโดยไม่ได้ให้คำอธิบายอะไรเพิ่มเติม แต่ถึงเธอจะไม่อธิบาย ลีออนก็เข้าใจความหมายเบื้องหลังคำพูดของเธอได้เป็นอย่างดี
เพราะในฐานะคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันมานาน แค่เพียงมองตาก็เข้าใจกันได้โดยไม่ต้องพูดอะไรเพิ่ม และไม่มีข้อสงสัยเลยว่า “งานเลี้ยงผักชี” คืนนี้คงเป็นเหตุให้เธออยากหาวิธีแกล้งลีออนอีกครั้ง
ยิ่งไปกว่านั้น มันก็ผ่านมาครึ่งเดือนแล้วตั้งแต่ที่ลีออนส่ง “การบ้าน” ครั้งล่าสุดหลังจากศึกบ่อน้ำพุร้อน
ในอดีต เวลาที่ลีออนต้องส่ง “การบ้าน” รอสไวส์มักจะเลือกที่จะอยู่ในห้องของตัวเองหรือใน “ห้องเลี้ยงเด็ก” ของลีออน หากเธออยากเล่นเกมบทบาทสมมุติ เช่น บทบาทคุณครูหรือเจ้านาย เธอก็จะเลือกอยู่ในห้องของตัวเอง
แต่ถ้ารอสไวส์อยากได้ค่ำคืนที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนแบบเรียบง่าย เธอก็จะเลือกไปที่ห้องของลีออนแทน เหตุผลที่เธอเลือกแบบนั้นก็เพราะว่าเธอไม่อยากทำให้ห้องของตัวเองรก ดังนั้น คืนนี้คงจะเป็นอีกค่ำคืนที่ดุเดือดใช่ไหม?
อย่างไรก็ตาม หลังจากอาการตกใจเพียงชั่วครู่ ลีออนก็สงบลงได้อย่างรวดเร็ว เพราะด้วยเวลาถึงครึ่งเดือน และอัตราการฟื้นตัวของร่างกายที่น่าทึ่งบวกกับอาหารที่อุดมด้วยสารอาหารของเผ่ามังกร ตอนนี้ร่างกายของเขาแข็งแรงกว่าที่เคย
รอสไวส์คิดจะกดดันและเล่นสนุกกับเขาอีกครั้งเหรอ?
คราวนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นแล้ว!
หากเธออยากมา ก็มาเถอะ! ลีออนตั้งปณิธานในใจว่าจะทำให้ยัยมังกรต้องเสียใจที่กล้าคิดมาท้าทายเขา!
แต่เพื่อรักษาท่าทีอันเยือกเย็น ลีออนจึงปฏิเสธแบบเป็นพิธี “ไว้วันหลังได้ไหม?”
และตามคาด คำตอบคือ “ไม่ได้”
“โอเค…”
เอาล่ะ เอาล่ะ ยัยมังกร ผมให้โอกาสเธอแล้ว อย่ามาอ้อนวอนขอชีวิตตอนนั้นก็แล้วกัน!
…
ค่ำคืนนั้น ลีออนรีบจัดห้องเล็ก ๆ ของเขาให้เรียบร้อย จากนั้นก็นั่งเงียบ ๆ ที่โต๊ะทำงาน รอเวลา ไม่นานนัก ประตูส่งเสียงแอ๊ดเบา ๆ และรอสไวส์ก็เดินเข้ามาในชุดนอนสายเดี่ยวบางเบา.
รอสไวส์สวมรองเท้าแตะรูปปีกมังกร กระโปรงของเธอสั้นเพียงพอที่จะปกปิดต้นขาด้านบนเท่านั้น ขาเรียวยาวเผยให้เห็นอย่างเต็มที่ ส่งประกายเย้ายวนร้อนแรง
รอยสักมังกรบนหน้าอกของเธอปรากฏให้เห็นเลือนลาง ไหล่กลมกลึงขาวเนียน และส่วนโค้งเว้าของเรือนร่างพลิ้วไหวเล็กน้อยตามจังหวะการเดิน
เมื่อเดินผ่านลีออน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ผสมกับกลิ่นเจลอาบน้ำที่หอมชื่นใจลอยมากระทบ ทำให้เขาแทบหลงใหล เธอไม่ได้ทักทายอะไร เพียงเดินไปที่เตียง ดึงผ้าห่มออก แล้วล้มตัวลงนอน
“อาบน้ำหรือยัง?” รอสไวส์เอ่ยถาม
“อาบแล้ว” ลีออนตอบ
“อืม มานี่สิ”
หลังหยุดไปครู่หนึ่ง รอสไวส์ก็พูดต่อ “ถอดเสื้อออกด้วย”
ลีออนลุกขึ้นเงียบ ๆ แล้วถอดเสื้อออก รอสไวส์เหลือบตามองไปยังกล้ามเนื้อแข็งแรงชัดเจนของลีออน โดยเฉพาะหน้าท้องที่น่าดึงดูดจนอดใจอยากจะยื่นมือไปสัมผัสไม่ได้ แต่เป้าหมายของเธอคืนนี้ไม่ได้อยู่ที่ตรงนั้น
เธอเบือนสายตาไปทางอื่นและปิดเปลือกตาลงเล็กน้อย
ไม่กี่วินาทีต่อมา ลีออนก็ล้มตัวลงนอนข้างเธอ
“ปิดไฟไหม?” ลีออนถาม
“ปิดเลย” รอสไวส์ตอบ
แสงจากโคมไฟข้างเตียงดับลง ส่งห้องเข้าสู่ความมืดสนิท มีเพียงแสงจันทร์ที่ลอดผ่านหน้าต่างเข้ามาเป็นประกายริบหรี่ แต่ลีออนไม่ได้ใช้โอกาสนี้เพื่อชื่นชมโครงหน้าด้านข้างของรอสไวส์ เขาเงียบกริบรอคอยจังหวะที่เหมาะสม ราวกับสิงโตที่ซุ่มดูเหยื่อก่อนจะโจมตี
“คุณอาจไม่รู้ว่าการจัดการมังกรแม่พันธุ์ได้อย่างง่ายดายนั้นต้องมีฝีมือขนาดไหน ผมมักพูดเสมอว่า หากโนอาสามารถต่อสู้กับคู่ต่อสู้สามคนในโรงเรียนและเอาชนะได้ทั้งหมด งั้นการล้มรอสไวส์คนเดียวสำหรับผม ลีออน มันก็ไม่ใช่เรื่องยาก”
ลีออนนอนรออยู่เงียบ ๆ รู้ดีว่าเขาต้องไม่เผาผลาญ “น้ำ” ของตัวเองไปเปล่า ๆ เขาไม่จำเป็นต้องใช้มันด้วยซ้ำ เพราะสำหรับเขาแล้ว รอสไวส์เหมือนกับ “ตายคามือ” ไปแล้ว หากเขาเปลี่ยนน้ำนี้เป็นพลังมังกรได้ มันคงเป็นหมัดเด็ดที่ปิดเกมได้แน่นอน
ลีออนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาส่งแส้เล็ก ๆ ให้รอสไวส์ด้วยความตั้งใจให้เธอเริ่ม “การแสดง” แต่แทนที่เธอจะลุกขึ้นมารับบทบาท รอสไวส์กลับนอนนิ่งสนิทไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ
เขาหันไปมองอีกครั้ง พบว่าเธอหลับตาลงแล้ว ลมหายใจเป็นจังหวะสม่ำเสมอ
“เธอ… หลับไปแล้ว?”
ลีออนขมวดคิ้ว ส่ายหัวอย่างไม่อยากเชื่อ
“เกิดอะไรขึ้นกับความเร่าร้อนที่เคยมีล่ะ? นี่เธอหลับได้ยังไง?”
เขาค่อย ๆ เขยิบเข้าไปใกล้และแตะที่แขนของรอสไวส์เบา ๆ
“เฮ้ ๆ” เขากระซิบพร้อมเขย่าเธอเบา ๆ
ไม่มีการตอบสนอง—เธอหลับสนิทจริง ๆ
“ให้ตายเถอะ เธอมาเข้าห้องฉันนี่ก็เพื่อจะมานอนเฉย ๆ อย่างนั้นเหรอ?”
เลออนคิดหนักอยู่ในใจ รอสไวส์ตอนนี้กำลังหลับสนิท หากเขาเล่นงานเธอตอนนี้… มันคงไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม เธอมักจะชอบสร้างความกดดันและความดุดัน ถ้าจะตอบโต้เธอให้ได้ผลจริง มันต้องรอจังหวะที่เหมาะกว่านี้
และเลออนใช้เวลาสะสมพลังมาตลอดครึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาไม่สามารถยอมให้ความพยายามนี้สูญเปล่าได้ง่ายๆ เหมือนเงินที่ควรจะใช้ในจุดที่คุ้มค่าที่สุด
ด้วยความคิดเช่นนี้ เลออนจึงขยับออกห่างจากรอสไวส์เล็กน้อย สร้างระยะห่างระหว่างพวกเขา และค่อยๆ ปล่อยตัวเองเข้าสู่นิทรา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงดึกประมาณตีสอง ดวงตาสีเงินค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ…
รอสไวส์ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งเงียบๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปเขย่าไหล่ของเลออนเบาๆ “ตื่นสิ ฉันจะลงโทษนาย ตื่นมาเดี๋ยวนี้”
แต่เลออนไม่มีการตอบสนองใดๆ
รอสไวส์ยิ้มอย่างมีเลศนัย “ดีล่ะ…”
เธอหันไปมองนาฬิกาที่ผนัง เวลาตอนนี้ตรงกับตีสองครึ่งพอดี ไทเกอร์เคยบอกไว้ว่า หากเลออนกำลังหลับในช่วงเวลานี้ มีโอกาสที่เธอจะสามารถได้ยินความคิดในใจของเขาได้ หากถามคำถามบางอย่าง
รอสไวส์รู้สึกตื่นเต้นแทบจะรอไม่ไหวที่จะลองดู…
“เริ่มจากคำถามง่าย ๆ ก่อนแล้วกัน” รอสไวส์กระแอมเบา ๆ เพื่อปรับน้ำเสียง “ลีออน คาสโมด ช่วยบอกชื่อของลูกสาวเราสิ?”
“อืม…” ลีออนครางตอบในลำคออย่างงัวเงีย แต่ยังไม่ได้ตอบคำถามของรอสไวส์
รอสไวส์ขมวดคิ้ว “หรือว่า…คืนนี้จะไม่ได้ผล?”
ขณะที่เธอกำลังลังเลว่าจะลองอีกครั้งในคืนถัดไปหรือไม่ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงลีออนพูดออกมาอย่างเลื่อนลอยว่า “มูน… มูน เค. เมลค์วี”
ดวงตาของรอสไวส์เป็นประกายขึ้น “ได้ผลจริงด้วย!”
คำตอบที่สมบูรณ์แบบ พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันจริง ๆ!
“งั้นสำหรับคำถามที่สอง… ผู้หญิงที่คุณปฏิเสธในเวลาแค่ห้าวินาทีตอนสมัยเรียน เธอหน้าตาเป็นยังไง?”
เอาเรื่องอดีตความสัมพันธ์มาผสมกับความทรงจำที่น่าอาย เท่ากับโจมตีแบบคูณสอง!
ลีออนครางงึมงำ “อืม… ผมสีเงิน สูง… ค่อนข้างสวย…”
รอสไวส์ลดสายตาลง พลางพ่นลมหายใจเย็นชา “ผ่านมาตั้งหลายปี ยังจำเธอได้ชัดเจนขนาดนี้ ช่างเป็นผู้ชายที่ไม่เอาไหนจริง ๆ แล้วทำไมตอนนั้นถึงลังเลตั้งห้าวินาทีในการปฏิเสธเธอ ในขณะที่คนอื่นถูกปฏิเสธอย่างไวล่ะ?”
“อืม… ฮะฮะ~ ฮ่าๆๆ~”
“หัวเราะอะไร! ตอบให้มันดี ๆ หน่อย!”
“ก็เธอ… เธอสวยนี่… ฮะฮะ…”
สีหน้าของรอสไวส์เริ่มหมองโดยไม่รู้ตัว “แล้วทำไมถึงปฏิเสธเธอล่ะ? ถ้าคิดว่าเธอสวยขนาดนั้น ทำไมไม่ไปเดตกับเธอซะเลยล่ะ?”
“เพราะว่า…อืม…เพราะว่าผมชอบผู้หญิงผมสีเงิน สูงๆ… แต่ไม่ใช่เธอ”
พอได้ยินแบบนั้น รอสไวส์ก็ใจอ่อนลงเล็กน้อย “แล้วนอกจากนั้น นายชอบอะไรอีกล่ะ?”
“ผมชอบ…ผู้หญิงที่ดูเป็นผู้ใหญ่… ถุงน่องสีดำ… ชุดกระต่าย…”
รอสไวส์กลั้นยิ้ม พลางกอดอกเหมือนเพิ่งค้นพบความลับอะไรบางอย่างที่น่าทึ่ง “ที่แท้ก็ชอบชุดกระต่ายสินะ เจ้าผู้ชายไม่เอาไหน!”
นี่เป็นสิ่งที่แม้แต่ปรมาจารย์ของเขาก็ไม่รู้ คาดไม่ถึงว่าจะมีความลับที่น่าประหลาดใจแบบนี้!”
“นาย… อยากให้สาวคนนั้นที่นายปฏิเสธใน 5 วินาที สมัยเรียน แต่งชุดบันนี่เกิร์ลให้ดูไหม?”
“ม… ไม่…”
รอสไวส์: “งั้นใครล่ะ ที่นายอยากเห็นในชุดบันนี่เกิร์ล?”
“อืม… รอสไวส์”
รอสไวส์: ?
“ฝันไปเถอะ! ราชินีมังกรเงินผู้สูงศักดิ์อย่างฉัน ไม่มีทางแต่งตัวเป็นบันนี่เกิร์ลให้นายดูแน่!”
***
จบ95
ตห.ผุ้แปล ขออภัยที่มาช้า ในที่สุดก็ชัดเจนเรื่องสเป็คลีออนและความใฝ่ฝัน ส่วนรอสไวก็เตรียมฮาได้เลยในวันที่ลีออนโชว์เรื่องบันนี่เกิล บอกเลยว่าบันเทิง
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION