บรรยากาศที่ หุบเขาเมฆาลอย งดงามมาก จนทุกมุมดูเหมาะสำหรับการถ่ายภาพ
ตั้งแต่รอสไวส์พาลูกทั้งสองออกมา ลีออนก็ถ่ายภาพมาเรื่อย ๆ ไม่ต่ำกว่ายี่สิบภาพ ความคิดของเขาคือ ยิ่งถ่ายภาพใหม่เยอะเท่าไหร่ โอกาสที่จะไปเจอภาพท้าย ๆ ของชุดกระต่ายสาวก็จะยิ่งลดลง
อย่างไรก็ตาม ลีออนไม่ได้ถ่ายแบบส่ง ๆ เพราะถ้าเขาทำเหมือนถ่ายเล่น ๆ ไปงั้น รอสไวส์อาจไม่ยอมให้เขาถ่ายต่อ ดังนั้น ทุกภาพจึงอยู่ในระดับที่ทำให้คนชมพูดได้ว่า “โอ้ ไม่เลวเลยนะ”
ในความจริง ลีออนรู้สึกว่าทักษะในการถ่ายภาพแคนดิดนั้นคล้ายกับทักษะที่เขาใช้ในฐานะนักสังหารมังกรในสนามรบมาก นั่นคือ มั่นคง แม่นยำ และไร้ความปรานี
มือที่ถือกล้องหรือจับดาบต้องนิ่ง, เป้าหมายที่โฟกัสหรือคอต้องแม่นยำ และเมื่อกดชัตเตอร์หรือฟันดาบ ต้องทำอย่างไร้ความปรานี
“ประมาณนี้แหละ” ลีออนพึมพำกับตัวเองเบา ๆ “นักสังหารมังกร สมกับเป็นอาชีพอันสูงส่งที่ครอบคลุมทักษะในทุกแขนงจริง ๆ”
จากในปราสาทจนมาถึงด้านนอก พวกเขามาหยุดอยู่ใต้ต้นไม้โบราณใหญ่ สองพี่น้องมังกรน้อยนั่งอยู่บนลำต้น ลีออนกำลังจะถ่ายภาพพวกเธอ แต่จู่ ๆ ก็มีกวางลายจุดตัวหนึ่งโผล่มา และเลียแก้มของมูนด้วยลิ้นของมัน
มูนหัวเราะคิกคักพลางลูบหัวกวางตัวน้อย “พ่อ มาถ่ายรูปกับกวางตัวนี้ด้วยกันสิคะ!”
“ได้สิ แต่ต้องทำให้มันอยู่เฉย ๆ นะ เข้าใจไหม?”
“อื้ม!”
สัตว์ทุกตัวที่ถูกนำมาแสดงใน หุบเขาเมฆาลอย ถูกฝึกมาอย่างดีให้ไม่กลัวคน ไม่ทำร้าย และไม่ขออาหาร กวางลายจุดตัวน้อยยืนอยู่ข้างมูนอย่างสงบเรียบร้อย หันหน้าเข้ากล้องอย่างว่าง่าย
หลังจากถ่ายภาพไปสองสามช็อต ลีออนหันไปมองรอสไวส์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “ขอถ่ายรูปเธอคนเดียวบ้างได้ไหม?”
รอสไวส์เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “เอางั้นเหรอ?”
“แน่นอน ทัศนียภาพสวยย่อมควรคู่กับหญิงงาม”
“ฮึ พูดจาดีผิดปกติ กินอะไรผิดสำแดงรึเปล่า?” รอสไวส์ถามพลางจ้องเขาด้วยสายตาจับผิด
เขายิ้มมุมปากก่อนผายมือไปยังจุดที่มูนและโนอาเคยนั่งเมื่อครู่นี้ “ตรงนั้นแหละ แสงและมุมกำลังพอดีเลย”
“อืม”
รอสไวส์เดินไปนั่งลงอย่างช้า ๆ ไขว้ขาเรียวยาวของเธออย่างสง่างามไปทางด้านหนึ่ง มือซ้ายวางเบา ๆ บนเข่า ขณะที่มือขวาใช้ค้ำตัวไว้
กวางลายจุดตัวน้อยที่เคยอยู่ข้างมูนเข้ามาใกล้เธออีกครั้ง
รอสไวส์หันหน้าไปมองกวางลายจุด ก่อนจะค่อย ๆ ยกมือขึ้น เดิมทีเธอตั้งใจจะแค่ลูบหัวมัน แต่กลับไม่คาดคิดว่ากวางตัวน้อยจะสูดดมมือเนียนนุ่มของเธอ แล้วหลับตาเอาหัวถูกับนิ้วของเธออย่างออดอ้อน
เห็นได้ชัดว่าเมื่อตอนโพสท่าถ่ายรูปกับมูนและโนอาเมื่อครู่ กวางตัวน้อยดูเหมือนจะทำไปเพียงเพราะเป็น “หน้าที่”
แต่ตอนนี้ เมื่ออยู่กับรอสไวส์ กลับให้ความรู้สึกเหมือนถูกราชินีผู้สง่างามปราบให้อยู่ในอาณัติอย่างนุ่มนวล ลีออนไม่รอช้า รีบกดชัตเตอร์เก็บภาพไว้ทันที
ใต้ต้นไม้โบราณอันสูงตระหง่าน แสงอาทิตย์ส่องผ่านหมอกหนาและใบไม้ลงมาอย่างอ่อนโยน กระทบกับร่างของรอสไวส์ เธอยื่นมือออกไป รับการถวายความเคารพและความชื่นชมจากสรรพชีวิตรอบตัว ความสง่างามในฐานะราชินีและความงามในฐานะหญิงสาวถูกแสดงออกมาอย่างเต็มที่โดยรอสไวส์
แม้แต่มังกรน้อยทั้งสองยังอดอุทานไม่ได้ “แม่สวยจังเลย!”
แม้แต่ลีออนเองก็พบว่าตัวเขาเองไม่อยากละสายตาออกจากช่องมองภาพในกล้อง
หลังจากถ่ายภาพเสร็จ รอสไวส์เดินเข้ามาหา “เป็นไงบ้าง? โอ้ รูปออกมาดีมากเลย! ขอดูรูปที่ถ่ายไว้ก่อนหน้านี้หน่อยสิ”
รอสไวส์ยื่นมือออกมาหมายจะหยิบกล้องจากมือของลีออน
ลีออนรู้สึกตัวขึ้นมาทันที เขากอดกล้องไว้แน่นอย่างปกป้อง “เอ่อ…คือ…ถ่ายเพิ่มอีกสักหน่อย แล้วค่อยดูทีเดียวไหม?”
รอสไวส์ไม่ได้คัดค้าน “ก็ได้”
“งั้นเราไปลองเดินดูถนนคนเดินตรงนั้นเถอะ? ลองถ่ายรูปในบรรยากาศที่แตกต่างกันดูบ้าง” ลีออนแนะนำ
“ฟังดูดีเลย! งั้นไปถนนคนเดินกันเถอะ!” รอสไวส์ตอบด้วยน้ำเสียงสดใส
มูนอุทานด้วยความตื่นเต้นก่อนจะคว้ามือโนอาและวิ่งไปยังทางเข้าถนนคนเดิน รอสไวส์ตะโกนเตือนพวกเธอให้ระวังอย่าหกล้ม ก่อนจะเดินตามไป
“บนถนนคนเดินนี่น่าจะมีร้านถ่ายภาพหรือล้างรูปอะไรสักอย่างอยู่บ้าง…” ลีออนพึมพำเบา ๆ พลางเร่งฝีเท้าตามไป
ถนนคนเดินใน หุบเขาเมฆาลอย ยังคงรักษาสไตล์การออกแบบที่ดูโบราณและสง่างามเอาไว้ แทบทุกมุมถนนและหน้าร้านต่าง ๆ เป็นจุดถ่ายรูปที่ยอดเยี่ยม
รอสไวส์นำเด็ก ๆ ไปล่วงหน้าเพื่อหาจุดถ่ายภาพที่เหมาะสม ขณะที่ลีออนเดินตามอยู่ไม่ไกล แต่สายตาเขากลับกวาดมองรอบ ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมองหาร้านถ่ายภาพหรือล้างรูปที่เขาต้องการ
ขณะนั้นเอง มีคู่รักคู่หนึ่งเดินสวนมา ลีออนจึงเดินเข้าไปถาม “สวัสดีครับ ขอรบกวนถามหน่อย ที่นี่มีสตูดิโอถ่ายภาพอยู่แถว ๆ นี้ไหม?”
คู่รักหยุดและชี้ไปในทิศทางหนึ่ง ลีออนพยักหน้าเป็นการขอบคุณ
อย่างไรก็ตาม รอสไวส์ที่หันกลับมาโดยบังเอิญ เห็นลีออนกำลังพูดคุยกับพวกเขา
เมื่อเขาเดินมาสมทบกับเธอ รอสไวส์ถามขึ้นว่า “เมื่อกี้เขาคุยอะไรกับนายเหรอ?”
“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก แค่ถามว่าจุดถ่ายรูปที่ดีอยู่ตรงไหน พวกเขาบอกว่าอยู่ข้างหน้า งั้นไปลองดูเถอะ” ลีออนตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ
รอสไวส์พยักหน้า “โอเค”
คู่รักที่แต่ละคนจับมือลูกสาวคนละข้าง เดินตรงไปตามถนนคนเดิน ขณะที่ลีออนคอยมองหาตำแหน่งของร้านถ่ายภาพ
ในที่สุด จากระยะไกล ลีออนก็เห็นร้านถ่ายภาพจนได้ แต่เขายังต้องหาข้ออ้างเพื่อแยกตัวไปคนเดียว
เมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ เขาก็สังเกตเห็นร้านขายขนมอยู่ไม่ไกลจากร้านถ่ายภาพ ไอเดียหนึ่งจึงแล่นเข้ามาในหัว
“โนอา มูน อยากกินลูกกวาดไหม?” ลีออนถาม
โนอาไม่ได้ตอบอะไร แต่มูนกระโดดขึ้นลงด้วยความตื่นเต้น “อยากค่ะ อยากค่ะ อยากค่ะ!”
“โอเค งั้นรออยู่ตรงนี้กับแม่นะ เดี๋ยวพ่อไปซื้อให้”
“ได้ค่า~”
เมื่อพูดจบ ลีออนก็รีบข้ามถนนแล้ววิ่งเหยาะ ๆ ไปยังร้านขายขนม
“แม่ มูนอยากกินน้ำมะนาวโซดาด้วย!” มูนพูดเสริมขึ้นมา
รอสไวส์พยักหน้า “ได้ เดี๋ยวแม่ไปบอกพ่อให้”
“อย่าลืมส่วนของพี่ด้วยนะคะ!” มูนเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ไม่ลืมหรอก โนอา ดูแลมูนดี ๆ นะ ห้ามเดินไปไหนไกล” รอสไวส์กำชับ
“ค่ะ แม่” โนอาตอบรับอย่างว่าง่าย
รอสไวส์ลุกขึ้นและเดินไปยังร้านขายขนมที่ลีออนไป
สองพี่น้องมังกรน้อยนั่งอยู่บนเก้าอี้ริมถนน หางและขาสั้น ๆ ของพวกเธอห้อยอยู่ขอบเก้าอี้ แกว่งไปมาอย่างแผ่วเบา โนอาจ้องมองตามร่างของรอสไวส์จนกระทั่งหมอกบดบังการมองเห็นของเธอ จากนั้นเธอจึงละสายตาออก
เธอเหลือบมองไปที่มูน ซึ่งกำลังรอขนมและมะนาวโซดาอย่างสบายใจ ขณะกอดหางของตัวเอง
ความคิดบางอย่างแล่นผ่านหัวของโนอา เธอเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างกะทันหัน “จริง ๆ แล้ว บางทีพี่ก็อิจฉาเธอนะ มูน”
มูนเงยหน้าขึ้นด้วยความงุนงง “อิจฉาหนูเหรอ? ทำไมล่ะ?”
โนอาก้มหน้าลง แกว่งรองเท้าคู่เล็ก ๆ ของเธอไปมา พลางพูดช้า ๆ “พี่อิจฉาเธอ เพราะเธอคุยกับพ่อแม่เรื่องอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย”
มูนยังคงไม่ค่อยเข้าใจนัก “แต่พี่ก็ทำแบบนั้นได้เหมือนกันนะ ไม่ถูกเหรอ?”
“แต่พี่โตแล้ว เด็กโตแล้วย่อมพูดอะไรตามใจตัวเองไม่ได้หรอก” โนอาตอบมูน แต่ดูเหมือนเธอกำลังพูดกับตัวเองมากกว่า
ตลอดมา โนอาพยายามอย่างดีที่สุดที่จะทำตัวให้เหมือน “เด็กโต” หรือพูดให้ถูกกว่านั้นคือ “คนที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว” แต่เธอกับมูนเป็นฝาแฝดที่เกิดห่างกันเพียงแค่ยี่สิบนาทีเท่านั้น และแรงกดดันที่เธอสร้างให้ตัวเองเพื่อจะเติบโตเร็วขึ้นนั้น ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนไกล
เมื่อก่อนนานมาแล้ว ตอนที่โนอาเริ่มมีสติและความคิดเป็นของตัวเอง เธอเริ่มสำรวจโลกใบนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูน่าสนใจสำหรับโนอา—ทั้งน้องสาวของเธอ แม่ของเธอ และผู้ชายที่ควรจะถูกเรียกว่าพ่อ แต่กลับนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงตลอดเวลา
ภายใต้การดูแลอย่างทนุถนอมของแม่ โนอาและน้องสาวค่อย ๆ เติบโตขึ้น พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ ในตอนนั้น แม่ของพวกเธอเหมือนกับคนเก่งที่ประสบความสำเร็จไปซะทุกอย่าง
จนกระทั่งวันหนึ่ง โนอาไปเยี่ยมลีออนและพบว่าแม่ของเธออยู่ที่นั่นแล้ว เธอกำลังจะทักทายทั้งคู่ แต่กลับสังเกตเห็นว่าแม่ของเธอดูเศร้าหมอง เธอนั่งอยู่บนเตียงของลีออน ก้มหน้าเงียบ ๆ ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความกังวล
แตกต่างไปจากแม่ที่สง่างาม เข้มงวด แต่แฝงไปด้วยความอ่อนโยนที่เธอคุ้นเคยโดยสิ้นเชิง วันนั้นโนอาไม่ได้ถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมล็ดพันธุ์หนึ่ง—ความปรารถนาที่จะเติบโตและดูแลครอบครัว—ได้หยั่งรากและงอกงามในหัวใจเล็ก ๆ ของโนอา ตั้งแต่นั้นมาจนถึงวันนี้
เมื่อเธอบอกว่าเธออิจฉาน้องสาว มันออกมาจากส่วนลึกในใจของเธอ เพราะไม่ว่าจะมองยังไง เธอก็เป็นเพียงเด็กมังกรที่อายุเพียงขวบกว่า ๆ เท่านั้น แต่เมื่อเธอบอกว่าเธอไม่สามารถแสดงความต้องการของตัวเองเหมือนที่น้องสาวทำได้ นั่นก็เป็นความจริงเช่นกัน
ในบ่ายที่มืดมนวันนั้น ขณะที่แม่ของเธอนั่งอยู่ข้างเตียงพ่อของเธอที่ยังไม่ได้สติ สีหน้าที่แฝงไปด้วยความเศร้าเงียบ ๆ นั้นถูกจารึกลงในความทรงจำของโนอา เธอจึงบังคับตัวเองให้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ให้เป็นผู้ใหญ่อย่างรวดเร็ว เพื่อที่เธอจะได้ดูแลแม่ของเธอ และปกป้องไม่ให้แม่แสดงสีหน้าแบบนั้นอีก
“มูนอาจจะยังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่…มูนก็อิจฉาพี่เหมือนกันนะ” เสียงของมูนขัดจังหวะความคิดของโนอาที่กำลังล่องลอย
โนอาเอียงคอมองน้องสาวด้วยความสงสัย “อิจฉาพี่เรื่องอะไรล่ะ?”
“พี่ทั้งฉลาด ทั้งเก่ง แถมยังคอยดูแลมูนเหมือนผู้ใหญ่ ในอนาคตมูนอยากเป็นเหมือนพี่!”
คำชมของมูนที่ไม่ทันตั้งตัวทำให้โนอาหน้าแดงขึ้นมาทันที เธอรู้สึกเขินอายและรับมือไม่ถูกอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากคิดอยู่สักพัก โนอาก็ตอบกลับว่า
“แล้วเธอรู้ได้ยังไงล่ะว่าพี่จะเป็นยังไงในอนาคต?”
“งั้นพี่จะเป็นอะไรในอนาคตล่ะ?” มูนกระพริบตาโตสวยงามของเธอพลางย้อนถามกลับ
โนอาคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบอย่างจริงจัง “พี่อยากจะเป็นคนที่ลูกจะชื่นชมและอยากเจริญรอยตาม”
ในขณะเดียวกัน คุณพ่อผู้ยอดเยี่ยมที่โนอาชื่นชมก็กำลังหาวิธีพิมพ์ภาพชุดกระต่ายสาวจากกล้องถ่ายรูปอยู่
“ขอโทษนะคะ คุณลูกค้า แต่ที่นี่เราสามารถพิมพ์รูปได้เฉพาะภาพที่ถ่ายด้วยกล้องของทางร้านเท่านั้น รุ่นกล้องของคุณไม่รองรับค่ะ” พนักงานที่ร้านถ่ายภาพแจ้งอย่างสุภาพ
“…จริงเหรอ?” ลีออนพึมพำในใจ จะต้องปรับบริการให้เข้ากับธีมแหล่งท่องเที่ยวขนาดนั้นเลยเหรอ?
ถ้ากองทัพนักสังหารมังกรบุกมาถึงที่นี่ ร้านถ่ายภาพของพวกคุณจะเป็นเป้าหมายแรกที่ถูกลบออกจากแผนที่!
“แล้วแถวนี้มีร้านถ่ายภาพร้านอื่นอีกไหม?” ลีออนถามด้วยความหวังเล็ก ๆ
พนักงานส่ายหัว “ในหุบเขาเมฆาลอยนี้มีเพียงร้านถ่ายภาพของเราเท่านั้นค่ะ”
โอ้… ธุรกิจผูกขาดเจ้าเดียวอีก ให้มันได้แบบนี้สิ!
ดูเหมือนว่าไม่ว่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ขนาดไหน สุดท้ายแล้วก็หมุนรอบเรื่องการทำเงินทั้งนั้น
“งั้นคุณลูกค้าสนใจจะถ่ายภาพที่นี่เพื่อเป็นที่ระลึกไหมคะ?” พนักงานถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ไม่ล่ะครับ ผมกับภรรยาอาจจะหาวิธีอื่นเก็บความทรงจำจากที่นี่เอง” ลีออนตอบกลับ
พนักงาน: ?
ลีออนถอนหายใจ ก่อนหยิบลูกอมสองสามชิ้นจากกระเป๋าแล้วยื่นให้พนักงานร้านถ่ายภาพแทนคำขอบคุณ จากนั้นเขาก็เดินออกจากร้านไปทันที
ลีออนยืนอยู่หน้าประตูร้านถ่ายภาพ พลางครุ่นคิดว่าจะทำอะไรต่อไปดี
ในตอนนั้นเอง รอสไวส์ก็เดินออกมาจากร้านขายขนมที่อยู่ใกล้ ๆ
“มาทำอะไรตรงนี้?” รอสไวส์ถาม
ลีออนสะดุ้งเล็กน้อย “เอ่อ…ผมมาซื้อลูกอมน่ะ”
เขาเขย่าถุงลูกกวาดในมือ ก่อนหน้านี้ตอนจะไปร้านถ่ายภาพ เขาแอบซื้อลูกอมไว้ล่วงหน้าเพื่อกันพลาด
“อ๋อ…อย่างนั้นเหรอ” รอสไวส์ตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูไม่ได้สงสัยอะไร
“เธอขึ้นมาที่นี่ทำไมล่ะ แล้วมูนกับโนอาอยู่ไหน?”
“มูนบอกว่ายังอยากดื่มน้ำมะนาวอยู่ เลยว่าจะไปซื้อน้ำที่ร้านตรงนั้น”
“อืม โอเค”
ทั้งคู่เดินต่อไปอีกหน่อยจนเจอร้านเครื่องดื่มเย็น หลังจากซื้อน้ำมะนาวมาสี่แก้วแล้วกำลังจะออกจากร้าน สายตาก็สะดุดกับตู้คีบตุ๊กตาที่อยู่ตรงทางเข้า
ของรางวัลในตู้คีบหลากหลายมาก ตั้งแต่ตุ๊กตากระต่าย หมาจิ้งจอก แมงมุม ไปจนถึงหมี—เรียกได้ว่ามีแทบทุกอย่างที่จินตนาการได้
“รอแปบนะ” รอสไวส์พูดก่อนจะส่งน้ำมะนาวในมือให้ลีออนถือไว้ แล้วเดินตรงไปยังตู้คีบ เธอรูดบัตรห้องพักก่อนจะเริ่มควบคุมแขนกล
ลีออนเดินตามไปดูด้วย ด้านในตู้คีบมีตุ๊กตาขนนุ่มมากมาย เขาชี้ไปที่แมงมุมตัวน่ารักที่อยู่มุมด้านหลัง “คีบตัวนั้นสิ น่ารักดี”
รอสไวส์หันมามองเขาด้วยสายตาหงุดหงิดเล็กน้อยก่อนจะหันกลับไปตั้งสมาธิกับการควบคุมต่ออย่างไม่สนใจเป้าหมายของเขา เป้าหมายของเธอคือตุ๊กตาหมีตัวเล็ก ๆ แต่ไม่ว่าจะลองกี่ครั้งก็จับไม่ได้เสียที
“ปล่อยวางเอาตัวอื่นง่ายกว่านะ” ลีออนแนะนำด้วยน้ำเสียงติดตลกเล็กน้อย
“ไม่มีทาง เป็นตายร้ายดียังไงก็ต้องคีบเจ้าหมีตัวนั้นให้ได้” รอสไวส์ยืนยันเสียงหนักแน่นก่อนจะเริ่มรอบที่สอง เธอไม่ค่อยแสดงท่าทีเหมือนเด็กแบบนี้บ่อยนัก และลีออนก็ไม่เข้าใจว่าเธอทำไมถึงจริงจังกับเรื่องนี้ขนาดนี้ เขาทำได้เพียงยืนรออย่างเงียบ ๆ อยู่ข้าง ๆ
หลังจากพยายามอีกไม่กี่ครั้ง ในที่สุดรอสไวส์ก็ทำสำเร็จ ตุ๊กตาหมีตัวเล็กหล่นออกมาจากช่องรับของในตู้คีบ เธอหยิบมันขึ้นมาแล้วส่งให้ลีออน
ลีออนกระพริบตาปริบ ๆ “นี่ให้ผมเหรอ?”
“ตอบแทบคืนไง จำได้ไหม? ครั้งที่แล้วที่นครนภา นายให้ฉันตัวหนึ่ง” รอสไวส์ตอบ
ลีออนหัวเราะเบา ๆ “ตัวที่ผมให้คุณน่ะคือราชาหมีนะ แต่ตัวนี้น่ะ อย่างมากก็แค่ลูกหมีน้อย”
“งั้นไม่ต้องเอา” รอสไวส์บีบแขนตุ๊กตาหมีเล็ก ๆ แล้วเดินจากไปโดยไม่หันกลับมา
“โห ยังไม่ได้พูดสักคำว่าไม่เอา มือผมตอนนี้มันไม่ว่างถือเฉยๆ” ลีออนพูดพลางถือถุงลูกกวาดกับน้ำมะนาวสี่แก้วขณะเดินตามเธอไปอย่างสบาย ๆ
****
จบ84
คห.ผู้แปล ลีออนในภาพลักษณ์ลูกสาวอย่างเท่ แต่ปัจจุบันคือเบียวกระต่ายสาวซะงั้น แถมแหลเมียเรื่องหาวิธีล้างรูปอีก จบแล้ว 55
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION