เสียงดังกึกก้องระเบิดขึ้นท่ามกลางเมฆ เมื่อมังกรสีเงินทะยานผ่านท้องฟ้า
ลีออนนั่งขัดสมาธิบนหลังของรอสไวส์ อุ้มมูนที่เริ่มง่วงเพราะตื่นเช้าเกินไป
“พี่สาวของคุณเป็นคนแบบไหน?” ลีออนถาม
“อบอุ่น มีชีวิตชีวา ช่างพูด ร่าเริง” รอสไวส์ตอบ
ลีออนคิดอยู่ครู่หนึ่ง “พูดง่ายๆ ก็คือ ตรงข้ามกับคุณอย่างสิ้นเชิงใช่ไหม?”
รอสไวส์อยากจะเถียง แต่ก็รู้ตัวดีว่าเธอได้ทิ้งภาพลักษณ์ที่ตรงข้ามกับพี่สาวของเธอ อิซาเบลลา ไว้ในความคิดของลีออน
หลังจากคิดอยู่พักหนึ่ง รอสไวส์จึงพูดเสริมว่า “แต่เธอเหลี่ยมกว่าฉันนะ”
ลีออนตกใจ “ยังมีมังกรสาวที่ร้ายกาจกว่าคุณในโลกนี้อีกเหรอ?”
“ฉันใช้ชีวิตห้าสิบปีแรกอยู่กับเธอ ฉันรู้จักเธอดีที่สุด” รอสไวส์พูด “เพราะงั้น นายต้องระวังตัวให้มากเวลาอยู่ใกล้เธอ เธอจะใช้สารพัดวิธี…เพื่อปั่นหัวนาย”
ลีออนหัวเราะเบาๆ ตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจว่า “นอกจากเธอแล้ว ผมไม่อยากหามังกรสาวคนอื่นอีกเลย”
ทันทีที่พูดจบ ปีกมังกรของรอสไวส์ก็สั่นเล็กน้อย ทำให้ร่างของเธอสะเทือนไปมา จากนั้นเธอก็ได้ยินลีออนบ่นพึมพำ “ชีวิตนี้ถือว่าคุ้มค่าแล้ว”
รอสไวส์ไม่แน่ใจว่าเขาพูดแบบนั้นเพราะตั้งใจหรือเปล่า แต่เธอก็เลือกที่จะดื้อรั้นไว้ก่อน “อย่าพูดอะไรออกมาล่ะ”
ลีออน (สวนกลับด้วยน้ำเสียงใสซื่อ): “แต่ผมพูดจากใจจริงนะ”
ให้ตายเถอะ มังกรสาวเจ้าเล่ห์ ตอนนี้ถึงขั้นไม่ให้พูดความในใจแล้วเหรอ!
ลีออนหันไปมองลูกสาวคนโตของเขา “โนอา เคยเจออิสซาเบลล่าป้าของลูกหรือเปล่า?”
โนอาส่ายหัว “หนูเคยเห็นป้าอิสซาเบลล่าแค่ในรูปในห้องของแม่ ครั้งสุดท้ายที่ป้ามาเยี่ยม หนูกำลังฝึกร่างกายอยู่ค่ะ”
“งั้นก็แปลว่าในครอบครัว มีแค่แม่ของลูกที่เคยเจอพี่สาวของเธอสินะ?” ลีออนถาม
“ดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น นั่นล่ะเหตุผลที่พี่สาวของฉันตั้งตารอที่จะได้เจอครั้งนี้” รอสไวส์กล่าว “เอาล่ะ จับให้แน่นๆ เจะเร่งความเร็วแล้ว”
เสียงบูมดังสนั่นอีกครั้ง ก่อนร่างสีเงินจะหายลับไปในท้องฟ้า
ประมาณสามชั่วโมงต่อมา ครอบครัวของลีออนก็มาถึงดินแดนของเผ่ามังกรชาด
เมื่อมองลงมาจากด้านบน วังมังกรแดงและชุมชนโดยรอบมีขนาดใกล้เคียงกับชุมชนของเผ่ามังกรเงินของรอสไวส์ อีกทั้งสไตล์สถาปัตยกรรมก็ดูคล้ายคลึงกัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งประดับสีเงินที่แสดงถึงเผ่ามังกรเงินถูกแทนที่ด้วยสีแดงในที่แห่งนี้
ในดีไซน์ที่เกือบเหมือนกัน ยังมีการเพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะของเผ่ามังกรพื้นถิ่นเข้าไปอีกเล็กน้อย ซึ่งก็ดูน่าสนใจไม่น้อย
รอสไวส์ค่อยๆ ร่อนลงมายังลานหน้าวังมังกรชาด
อิซาเบลล่า พี่สาวของเธอ พร้อมด้วยสาวใช้มังกรหลายคน กำลังรออยู่ก่อนแล้ว
หลังจากลงจอด ลีออนที่อุ้มมูนอยู่ก็ไถลลงมาจากปีกของรอสไวส์ ตามมาด้วยโนอาที่เดินตามหลัง
ยังไม่ทันได้หันกลับไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงของอิซาเบลล่า
“น้องโร!! ร่างมังกรของเธอยังสง่าเหมือนเดิมเลย~”
เมื่อพวกเขาหันกลับไป พวกเขาเห็นราชินีมังกรชาดที่เมื่อครู่ยังดูสง่างามและน่าเกรงขาม กำลังกอดหัวมังกรของรอสไวส์แน่น
รอสไวส์ลดปีกลงและปล่อยหางให้ห้อยลงอย่างหมดหนทาง “พี่คะ… ให้ฉันเปลี่ยนร่างก่อนเถอะ”
“โอเคๆ เปลี่ยนได้เลย” อิซาเบลล่าตอบ
รอสไวส์พับปีกมังกรของเธอ ก่อนจะมีแสงวาบขึ้น แล้วเธอก็กลับมาเป็นร่างมนุษย์อีกครั้ง
“น้องโร!”
หลังจากเปลี่ยนร่างกลับมา รอสไวส์ก็ยังหนีไม่พ้นอ้อมกอดอันแสนอบอุ่นเหมือนสุนัขพันธุ์ฮัสกี้ของอิซาเบลล่า
จากปฏิกิริยาและสีหน้าของรอสไวส์ ดูเหมือนว่าเธอจะชินกับวิธีการทักทายของพี่สาวแบบนี้แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ลีออนแปลกใจเล็กน้อยก็คือ รอสไวส์ที่ปกติก็เป็นผู้หญิงที่สูงอยู่แล้ว ราว 1.7 เมตร และเมื่อใส่รองเท้าส้นสูงก็มักจะสูงถึง 1.75 เมตร แต่ในอ้อมกอดของอิซาเบลล่า เธอกลับดูเหมือนเตี้ยลงไปเล็กน้อย
ลีออนก้มลงมองมูน ซึ่งตัวสูงประมาณเท่ากับน่องของเขา พลางหวังว่าพันธุกรรมความสูงจากตระกูลเมลควีจะส่งผ่านมาถึงลูกสาวของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ
“พี่คะ ขอแนะนำสามีและลูกสาวของฉันค่ะ พี่ยังไม่ได้เจอพวกเขาอย่างเป็นทางการเลย” รอสไวส์พูด
“ได้สิ ได้เลย” อิซาเบลล่าวางท่าทีขี้เล่นลง ช่วยจัดผมให้เข้าที่ ก่อนจะเดินตามรอสไวส์ไปหาลีออนและคนอื่น ๆ
“นี่คือสามีของฉันค่ะ ลีออน แคสมอด” รอสไวส์กล่าว
ลีออนกำลังจะทักทายอิซาเบลลาอย่างสุภาพ แต่เธอกลับเป็นฝ่ายยื่นมือมาจับมือเขาก่อน “สวัสดีค่ะ พี่เขย ยินดีที่ได้เจอกันตอนที่คุณตื่นอยู่ซะที”
อิซาเบลลามองเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “อืม ดูจากตอนนี้แล้ว คุณเข้ากันได้ดีทีเดียวกับน้องโร”
ลีออนยิ้มแหย ๆ แล้วจับมือกับอิซาเบลลา “ฮะ ๆ คุณป้า ตลกจังเลยครับ”
“อะไรเนี่ย ‘คุณป้า’? มันดูเป็นทางการไปน้า~ เรียก ‘พี่’ แบบที่น้องโรเรียกดีกว่า”
“โอเคครับ พี่”
“น่าสนใจดี น้องโร ฉันชอบนิสัยสามีเธอนะ ดูเหมือนจะคาดเดาไม่ได้เหมือนฉันเลย” อิซาเบลลากล่าว
รอสไวส์ยกมือขึ้นปิดหน้าตัวเองอย่างเงียบ ๆ “พี่คะ รู้ตัวไหมคะว่าตัวเองคาดเดาไม่ได้ขนาดไหน?”
หลังจากแนะนำลีออนเสร็จ รอสไวส์ก็เริ่มแนะนำลูกสาวมังกรตัวน้อยทั้งสองคนของพวกเขา
“นี่คือลูกสาวของเรา โนอา กับ มูนค่ะ คนพี่คือทาง—”
“เดี๋ยวก่อน! ให้ฉันทายเอง!” อิซาเบลลาขัดการแนะนำของรอสไวส์ พลางเริ่มเกมทายชื่อของพี่น้องด้วยความตื่นเต้น
สายตาของเธอเลื่อนไปมาระหว่างเด็กน้อยทั้งสอง ก่อนจะชี้ไปที่มูน “คนนี้ที่มีปอยผมน่ารัก ๆ เป็นพี่สาวใช่ไหม?”
“หนูเป็นน้องสาวค่ะ คุณป้า” มูนพูดพร้อมกับเขย่าปอยผมบนหัวของเธอ
“อ้อ ทายผิดซะแล้ว! มานี่สิ มูน ให้ป้ากอดหน่อย~”
มูนซึ่งโดยธรรมชาติเป็นเด็กขี้อาย รีบปล่อยมือจากลีออนก่อนจะโผเข้าสู่อ้อมกอดอันอบอุ่นและหอมกรุ่นของป้าทันที
“คุณป้ารู้ชื่อของมูนได้ยังไงคะ?” มูนถามด้วยความสงสัย
“ตอนที่หนูยังตัวเล็กกว่านี้ ป้าเคยมาหา แล้วแม่ของหนูก็เล่าให้ฟังว่าคนน้องชื่อมูน ส่วนคนพี่ชื่อโนอา” อิซาเบลลาตอบพร้อมรอยยิ้ม
จากนั้นเธอก็หันสายตาไปที่โนอา
เมื่อเทียบกับมูนแล้ว โนอาเป็น “เด็กขี้อายขั้นสุด” เธอเกาะกระโปรงของรอสไวส์แน่น พลางถอยหลังไปอย่างลังเล
รอสไวส์ไม่ได้บังคับให้โนอาทักทายอิซาเบลลาโดยตรง เธอไม่เคยกดดันให้ลูกสาวต้องพูดคุยกับญาติพี่น้องต่าง ๆ และมักเคารพความต้องการของโนอาเสมอ
หลังจากลังเลอยู่สักพัก โนอาก็พยายามโผล่ออกมาจากด้านหลังของรอสไวส์และเดินเข้ามาใกล้พร้อมพูดว่า “สวัสดีค่ะคุณป้า หนูชื่อโนอา”
“โอ้~ หนูโนอาคนเก่ง อยากให้ป้ากอดด้วยไหมจ๊ะ?”
ก่อนหน้านี้ รอสไวส์เคยเขียนจดหมายบอกว่าโนอาเป็นเด็กขี้อาย พูดน้อย และไม่ชอบสัมผัสตัวคนอื่น ดังนั้นตอนที่อิซาเบลลาไม่ได้อุ้มโนอาทันที เธอจึงเพียงถามความสมัครใจ โนอาพยักหน้า “ค่ะ”
“เยี่ยมเลย~” อิซาเบลลาอุ้มมูนไว้ด้วยสองมือ ก่อนจะใช้หางที่ยืดหยุ่นโอบเอวของโนอาอย่างอ่อนโยนแล้วดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอด
ลีออนคิดเล่น ๆ ในใจว่า: สะดวกดีจริง ๆ!
ลูกสาวมังกรสองคนขนาบข้างกายทำเอาอิซาเบลลาถึงกับปลื้มปริ่มสุด ๆ ขณะกอดพวกเธอแน่น
“ว้าว~ สุขอะไรอย่างนี้! น้องโลได้อยู่กับเจ้ามังกรน้อยน่ารัก ๆ พวกนี้ทุกวันเลยเหรอ?”
“อืม… ปกติฉันยุ่งน่ะ เลยเป็นลีออนที่ดูแลพวกเธอเสียส่วนใหญ่”
“โอ้ งั้นขอบคุณมากนะ พี่เขย”
“ไม่เป็นไรเลย มันไม่ลำบากหรอก ผมสนุกกับการดูแลเด็ก ๆ”
ลีออนถือโอกาสเสริมขึ้นมา “จริง ๆ แล้ว เด็ก ๆ ติดผมมากกว่าด้วยซ้ำ”
รอสไวส์เลิกคิ้วใส่ลีออน “เห็น ๆ กันอยู่ว่าพวกเขาติดฉันมากกว่านะ จริงไหม?”
“ที่รัก เธอนี่ตลกจริง ๆ”
“นี่เห็นเหมือนพูดเล่นเหรอ?”
“คร้าบ คร้าบ เธอถูก เด็กติดเธอมากกว่า”
“ประชดเหรอ?”
อิซาเบลลาพูดแทรกขึ้น “ว้าว พวกเธอสองคนมีความสัมพันธ์ที่ดีมากเลยนะ”
พอได้ยินคำชมจากอิซาเบลลา ทั้งคู่ก็หยุดเถียงกันทันที แล้วตอบพร้อมกันว่า “แค่งั้นๆ”
เห็นดังนั้น อิซาเบลลาก็หัวเราะคิกคัก ก่อนจะเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ
“โอเค ๆ ทุกคนคงเหนื่อยกันมากหลังจากเดินทางมาไกล เข้ามาพักก่อนเถอะ อาหารเย็นใกล้จะเสร็จแล้ว” อิซาเบลลากล่าวพลางอุ้มลูกมังกรน้อยทั้งสองคน และนำลีออนกับรอสไวส์เข้าสู่ตัววัง ครอบครัวทั้งหมดมาถึงห้องรับรอง
ลีออนและรอสไวส์นั่งลงเคียงข้างกัน ส่วนมูนกับโนอายังถูกอาอุ้มไว้ไม่ยอมปล่อยไปง่าย ๆ และดูท่าว่าจะไม่ถูกปล่อยจนกว่าอาหารเย็นจะพร้อมเสิร์ฟ
“ปกติมูนชอบกินอะไรเหรอ?” อิซาเบลลาถาม
“สเต๊กทอด! มูนชอบสเต๊กทอด!”
“ดีเลย โชคดีที่ทำสเต๊กทอดไว้สำหรับมื้อเย็น แล้วโนอาน้อยล่ะ ชอบกินอะไร?”
“หนูกินอะไรก็ได้ค่ะ ”
“โนอานี่น่ารักจริง ๆ ว่าแต่ ได้ยินมาว่าหนูเริ่มเข้าเรียนที่โรงเรียนเซนต์ไฮส์เมื่อครึ่งเดือนก่อนใช่ไหม?” โนอาพยักหน้า
“ว้าว เก่งจังเลย เพิ่งอายุแค่ปีเดียวก็ได้ไปโรงเรียนแล้ว เกรดเป็นยังไงบ้างล่ะ?”
โนอาตอบอย่างถ่อมตัวว่า “ไม่ถึงกับแย่ค่ะ”
แต่มูนไม่ยอมให้พี่สาวถ่อมตัว “พี่เขาได้ที่หนึ่งในหลายวิชาเลย!”
ดวงตาของอิซาเบลล่าทอประกาย “เก่งมากเลย โนอาน้อย! เหมือนแม่ของหนูตอนเด็กเป๊ะเลย”
คำว่า “แม่ของหนูตอนเด็ก” กลายเป็นคีย์เวิร์ดที่กระตุ้นเรื่องราวในอดีต อย่างที่รู้กันดีว่าเมื่อใดที่พูดถึงวัยเด็ก ก็ถึงเวลาที่ประวัติศาสตร์อันน่าอายจะถูกเปิดเผย
แม้ว่าโนอาจะดูเป็นเด็กที่มีบุคลิกเยือกเย็น แต่ตอนนี้หูของเธอกระดิกด้วยความสนใจ กลัวจะพลาดแม้แต่คำเดียวที่ป้าของเธอกำลังจะเล่าต่อไป
คำถามสำคัญในตอนนี้ก็คือ ใครจะสานต่อหัวข้อ “แม่ของหนูตอนเด็ก”?
สองพี่น้องตัวน้อยเหมือนจะตกลงกันในใจ ต่างหันไปมองพ่อพร้อมกัน เลออนเลิกคิ้วขึ้น
เอาล่ะ เอาล่ะ เอาล่ะ เอาล่ะ แล้วพ่อจะทำอะไรได้อีกล่ะ? แน่นอนว่ามาช่วยเติมเต็มความสุขของพวกหนู ไม่ใช่เพราะพ่ออยากรู้นะ!
จะขุดลึกลงไปในประวัติศาสตร์มืดของแม่มังกรตัวนี้ล่ะก็ พ่อยินดีสุดๆ เลย!
“แล้วตอนนั้นเธอเก่งขนาดไหนเหรอครับ พี่สาว?” เลออนพูดด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้น
“เก่งเหรอ? น้องโรได้ที่หนึ่งบ่อยจนกลายเป็นเรื่องปกติเลยล่ะ ฉันยังจำได้ตอนที่เธอย้ายไปแผนกผู้ใหญ่ เธอยังขึ้นเวทีในฐานะตัวแทนนักเรียนดีเด่นเพื่อกล่าวสุนทรพจน์ด้วยนะ โอ้ ฉันยังมีรูปถ่ายตอนนั้นด้วย เดี๋ยวไปหยิบมาให้ดู!”
“เอ๊ะ พี่คะ ไม่ต้องก็ได้—” รอสไวส์พยายามจะห้าม แต่ไม่ทันแล้ว อิซาเบลล่าปล่อยสองพี่น้องตัวน้อยลง แล้ววิ่งออกจากห้องรับรองไป
ทันใดนั้น รอสไวส์ก็รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมา
“พี่สาวเราช่างกระตือรือร้นจริงๆ” เลออนพูดพลางหัวเราะอย่างขี้เล่น
รอสไวส์ปรายตามองเขา “อย่าเพิ่งได้ใจนักล่ะ พอเธอจัดการฉันเสร็จ เป้าหมายต่อไปก็นายนั่นแหละ”
เลออนยักไหล่ “ผมไม่มีประวัติขายหน้าที่อยู่ในมือเธอนี่ จะกลัวอะไร?”
“อย่าประเมินตัวเองสูงไป และอย่าประมาทพี่สาวฉันเชียว”
ระหว่างที่ทั้งคู่หยอกล้อกัน อิซาเบลล่าก็กลับเข้ามา
ในอ้อมแขนของเธอถืออัลบั้มรูปเล่มหนาเอาไว้ ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอย่างมีความสุข
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่การตัดสินใจแบบปุบปับ—เธอเตรียมตัวมาพร้อมอย่างเต็มที่เลยทีเดียว
รอยร้าวปรากฏบนสีหน้าที่ดูเย็นชาของรอสไวส์ “พี่คะ… ไม่ใช่ว่าพี่บอกว่าจะเอาแค่รูปตอนฉันเป็นตัวแทนนักเรียนมาหรอกเหรอ? แล้วทำไมถึงเอามาหมดแบบนี้?”
อิซาเบลล่าหมุนตัวนั่งลงอย่างกระตือรือร้น พร้อมกับเปิดอัลบั้มรูปทันที “ก็ฉันคิดว่ามันยุ่งยากที่จะเลือกหยิบออกมาทีละรูป เลยเอามาทั้งเล่มซะเลย
ไหนขอดูหน่อย… รูปตอนโรสกล่าวสุนทรพจน์นักเรียน… อา! เจอแล้ว!”
พูดจบ อิซาเบลล่าก็ยื่นอัลบั้มให้เลออน สองพี่น้องมังกรน้อยก็รีบมาร่วมวงดูด้วยความตื่นเต้น
ในหน้าที่เปิดอยู่เป็นภาพของรอสไวส์ในวัยที่อ่อนเยาว์กว่า ในตอนนั้นใบหน้าของเธอดูไม่โฉบเฉี่ยวเหมือนปัจจุบัน (แน่นอนว่านั่นคือความประทับใจแรกของเลออน) แต่สำหรับมังกรน้อยทั้งสอง พวกเขากลับคิดว่า “คุณแม่ในวัยรุ่นน่ารักจัง!”
เธอสวมเครื่องแบบนักเรียน ผมสีเงินถูกมัดเป็นหางม้าเรียบร้อย เปล่งประกายความสดใสและร่าเริงที่ต่างจากราชินีน้ำแข็งคนปัจจุบันโดยสิ้นเชิง
“คุณภรรยา สมัยเรียนเธอดูมีชีวิตชีวามากเลยนะ!” เลออนพูดพร้อมรอยยิ้ม แต่รอสไวส์กลับหันหน้าหนี ไม่อยากต่อปากต่อคำกับเขา คนอย่างเลออนนี่ พูดจาให้ดีไม่ได้เลย!
นอกจากความอ่อนเยาว์และมีชีวิตชีวาแล้ว เลออนยังสังเกตเห็นรายละเอียดที่น่าสนใจอีกอย่าง นั่นก็คือ เขาของมังกรที่อยู่เหนือใบหูของรอสไวส์ เธอเคยบอกว่าไม่เคยพบพ่อแม่ตัวเอง ซึ่งหมายความว่าเธอเองก็เป็นมังกรที่เกิดจากการฟักจากครรภ์ และเพิ่งเผยเขาของเธอเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่
เขาของรอสไวส์นั้นเล็กและน่ารัก จนชวนให้คนอยากแตะต้องโดยไม่รู้ตัว เลออนกลืนน้ำลายเอื๊อก มองแม่มังกรข้างตัว พลางจ้องไปที่ใบหูของเธอ ความตั้งใจของเขาดูจะส่อเจตนาเกินไป…
รอสไวส์ส่งสายตาเหยียดๆ ใส่เลออน “อย่าริอาจเสนออะไรแปลกๆล่ะ ขอบคุณ”
เลออนทำเสียงจิ๊จ๊ะ ถอนสายตากลับมา แต่เขาก็ไม่ได้เปิดดูรูปถัดไป
นี่เป็นมารยาทพื้นฐาน ถ้าเจ้าของอัลบั้มไม่ได้อนุญาต คุณก็ดูได้แค่รูปที่พวกเขาให้ดู
อย่างไรก็ตาม อิซาเบลลาสังเกตเห็นว่าคุณพ่อกับสองลูกสาวยังดูไม่จุใจ เลยพูดว่า “พวกเธอเปิดดูต่ออีกหน่อยก็ได้นะ ตอนเล็กๆ น้องโรน่ารักมากจริงๆ
โอเค ได้รับอนุญาตแล้ว จะรอพ่อตัดริบบิ้นเหรอ เปิดต่อสิครับ!
ไม่มีอะไรน่าพึงพอใจไปกว่าการได้ดูรูปตอนเด็กๆ ของศัตรูหัวใจ มีเยอะแค่ไหนก็ไม่พอ!
เลออนและลูกสาวทั้งสองเปิดดูอัลบั้มไปที่หน้าแรกอย่างกระตือรือร้น เริ่มพลิกดูอย่างเป็นทางการ โดยไม่สนใจมังกรเงินที่นั่งอยู่ใกล้ๆ
และแน่นอน บนหน้าแรกของอัลบั้ม เป็นภาพของมังกรน้อยผมสีเงินกำลังอวดอมยิ้มของตัวเองให้กล้อง
“แม่ตัวเล็กจัง!” มูนอุทานด้วยความตื่นเต้น “เหมือนมูนเลย!”
ต้องยอมรับว่า โรสไวส์ตอนเด็กดูเหมือนโนอาและมูนเวอร์ชั่นผมเงินจริงๆ แม้จะมีแก้มป่องๆ จากไขมันเด็กน้อยเพิ่มความน่ารักอยู่ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใบหน้าที่ดูอ่อนหวานเสียความงดงามไป
เลออนพลิกไปหน้าถัดไป บนหน้านั้น โรสไวส์เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด น่าจะอายุราวสิบปีแล้ว มีแววความเป็นสาวน้อยปรากฏให้เห็น ในภาพเธอกำลังฝึกพ่นไฟมังกร
อีกภาพในหน้าเดียวกันแสดงให้เห็นว่าเธอมือพองจากการควบคุมไฟมังกรไม่สำเร็จ และอิซาเบลลากำลังพันแผลให้
“ภรรยาจ๋า เธอกับพี่สาวสนิทกันดีจังเลยนะ” เลออนเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงที่ดูเหมือนจริงใจ แต่แฝงความล้อเลียนอยู่ไม่น้อย
โรสไวส์แอบเอื้อมมือไปข้างหลังแล้วแอบหยิกเอวเลออน
แต่เลออนก็แค่ตบขาเธอเบาๆ เหมือนจะบอกให้ใจเย็นๆ “มาดูต่อกันเถอะ”
เมื่อพลิกไปอีกหน้า ก็พบภาพชีวิตและเรื่องราวที่ถูกบันทึกไว้ตามกาลเวลา มีทั้งภาพที่ลองบินครั้งแรกแต่ดันหลับตาปี๋เพราะกลัวความสูง หรือภาพตอนล่าชัยชนะเหนือสัตว์อันตรายเป็นครั้งแรก ยืนโพสท่าภูมิใจอยู่บนหัวมัน
แต่พอถึงภาพถัดไป กลับกลายเป็นภาพช็อตฮาๆ พร้อมคำบรรยายว่า “แม่มังกรที่ฆ่าสัตว์อันตรายระดับ S ได้ แต่กลับกลัวแมงมุมจนต้องใช้เวทขั้นสูงเพื่อจัดการมันอย่างโหดเหี้ยม”
ในอัลบั้มยังมีรูปของโรสไวส์ที่ร้องไห้เต็มไปหมด ทำให้เลออนอดไม่ได้ที่จะอมยิ้ม บางจังหวะเขาเองจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ากำลังหัวเราะอยู่
แปลกจริงๆ เขามาที่นี่ด้วยความคิดจะขุดประวัติสุดแสบของแม่มังกร แต่ทำไมถึงกลับรู้สึกว่า “ภรรยาของผมน่ารักจัง” ขึ้นมาได้ล่ะ?
เอาเถอะ แค่สนุกกับมันก็พอแล้ว
ภาพสุดท้ายในอัลบั้มคือภาพวันที่โรสไวส์รับตำแหน่ง “ราชินีมังกรเงิน” บนบัลลังก์ ใส่มงกุฎสีเงินอย่างสง่างาม กำลังรับการถวายบังคมจากเหล่ามังกรเงินในเผ่าของเธอ เปี่ยมไปด้วยความสง่าผ่าเผยและความน่าเกรงขาม
เลออนปิดอัลบั้มลงด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เช่นเดียวกับเจ้าตัวน้อยทั้งสองที่ดูจะยังสนุกไม่เต็มที่
แต่ในขณะเดียวกัน โรสไวส์กลับถอนหายใจอย่างโล่งอก ในใจคิดว่า “จบสักที!”
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเธอจะประเมินความร้ายกาจของพี่สาวต่ำเกินไป หลังจากไม่ได้พบกันมานาน
จะปล่อยให้โอกาสได้แสดงความรักแบบพี่น้องสุดเหวี่ยงนี้หลุดลอยไปได้อย่างไร ในเมื่อครอบครัวได้กลับมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี?
สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันแค่ออร์เดิร์ฟเท่านั้น!
หลังจากจบช่วงเวลาแห่งอัลบั้มภาพ อิซาเบลลาก็หยิบคริสตัลบอลออกมาจากด้านหลังโซฟา
“นี่อะไรคะ?” มูนถามด้วยความตื่นเต้น
เลออนยกมือขึ้น “นี่เขาเรียกว่า ลูกแก้วความจำ ใช่ไหม!”
โอ้โห เขารู้จริงด้วย!
“ใช่เลย เรียกว่า ลูกแก้วความจำ ในที่สุดก็มีโอกาสได้ดูด้วยกันเป็นครอบครัวแล้วนะ น้องโล เธอคงคิดถึงมันเหมือนกันใช่ไหม?”
เหล่ามังกรสามตัวกับมนุษย์หนึ่งคนต่างจ้องมองไปที่โรสไวส์พร้อมกัน
ตั้งแต่วันที่เธอกลายเป็นราชินีมังกรเงิน โรสไวส์ไม่เคยอยากหาที่หลบซ่อนตัวมากเท่านี้มาก่อน ภาพลักษณ์เย็นชาของเธอเริ่มแตกร้าว!
โรสไวส์ถึงกับพูดด้วยน้ำเสียงเว้าวอนเล็กน้อย “พี่คะ… ได้โปรดเถอะค่ะ เห็นแก่ที่ฉันเป็นน้องสาว อย่าเปิดให้พวกเขาเห็นเลยนะ”
“พี่ครับ ได้โปรดเถอะครับ เห็นแก่ที่ผมเป็นน้องเขย พี่ต้องเปิดให้พวกผมเห็นสิ!” เลออนไม่อาจเก็บความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับภาพได้อีกต่อไป
อิซาเบลลาหันมามองปฏิกิริยาของน้องสาวและน้องเขยอย่างชื่นชม เธอรู้สึกพอใจมาก… พอใจสุด ๆ!
“เอาล่ะ ในเมื่อเลออนมาเยี่ยมบ้านเราเป็นครั้งแรก งั้นรอบนี้เอาตามความเห็นของเขาก็แล้วกัน รอบหน้าเราค่อยตามไอเดียของโรสนะ”
ความคิดในใจของโรสไวส์: อย่าหวังว่าจะมีรอบหน้าเลย!
พูดจบ อิซาเบลลาก็เปิดลูกแก้วความจำ ภาพชัดเจนปรากฏขึ้นกลางห้องรับรอง ทุกคนเงยหน้ามอง และภาพแรกที่เห็นคือมังกรเงินตัวน้อยผมสีเงินนั่งร้องไห้อยู่บนพื้น
อิซาเบลลาในวัยโตเต็มวัยกำลังนั่งยอง ๆ อยู่ข้าง ๆ ปลอบโยนเธอพร้อมพูดว่า “ไม่ร้องนะน้องโล ไม่ร้อง ข้าวกลางวันถูกมังกรส่งสารแย่งไปก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ทำให้อีกที ไม่ร้องนะคะ?”
“แล้วหลังจากนั้น มังกรส่งสารตัวนั้นก็อดอาหารไปสามวัน ถึงได้บทเรียน และไม่กล้าขโมยอาหารของเธออีกเลย” อิซาเบลลาพูดเสริมด้วยรอยยิ้ม
เลออนยื่นหน้าเข้าไปใกล้หูของโรสไวส์และกระซิบว่า “แล้วทำไมตอนนี้ถึงไม่มีปมอะไรเกี่ยวกับมังกรส่งสารเลยล่ะ?”
“ชู่ว เงียบไปเลย” โรสไวส์สะกิดไหล่เขาเบา ๆ
เลออนหัวเราะเบา ๆ พลางหลบออกไป ก่อนจะกลับมานั่งดูภาพต่อด้วยความสนใจ
ฉากถัดไปเป็นหน้าประตูห้องน้ำ กล้องสั่นเล็กน้อยเหมือนเป็นวิดีโอครอบครัว ในไม่ช้า อิซาเบลลาก็ปรากฏตัวในเฟรม โบกมือแล้วทำท่า “เงียบ” ก่อนจะแปะลูกแก้วความจำไว้ที่ประตูห้องน้ำ ไม่นานเสียงที่คุ้นเคยก็ดังมาจากข้างใน
“ฉันชอบอาบน้ำ มันทำให้ร่างกายรู้สึกดี~~ โอ้ โอ้ โอ้~~ ถูหางแล้วเป่าฟอง~~ โอ้ โอ้ โอ้~~”
เลออนยิ้มกว้างขึ้น “ที่รัก เสียงร้องเพลงของเธอไพเราะเหมือนนกไนติงเกลเลย!”
“อ๊าก! รีบจบได้แล้ว!” รอสไวส์ร้องออกมาอย่างหมดหวัง ก่อนจะก้มหน้าฝังไว้ในอ้อมแขนบนโต๊ะ มือทั้งสองข้างปิดหูตัวเองแน่น
เพล้ง—
เสียงปราการในใจของเธอแตกดังพร่าง พลังใจมันช่างไพเราะเสียจริง!
“นี่คือส่วนสุดท้าย ซึ่งฉันคิดว่าน่าตื่นเต้นที่สุดเลยล่ะ” อิซาเบลลาประกาศอย่างภาคภูมิ
ทันทีที่ได้ยิน รอสไวส์รีบเงยหน้าขึ้นมาคว้าข้อมือของอิซาเบลลาไว้แน่น “พี่คะ ส่วนนี้ไม่ได้นะ ห้ามเด็ดขาด ห้ามเอามาเปิด!”
อิซาเบลลาหรี่ตามองพร้อมยิ้มบาง ๆ “น้องโรรู้นิสัยพี่ไม่ใช่เหรอว่ายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ”
“พี่ครับ ผมสนับสนุนเต็มที่เลย” ลีออนพูดอย่างไม่ใส่ใจ เหมือนแค่สนุกไปกับสถานการณ์ตรงหน้า
รอสไวส์หันมาจ้องเขาเขม็งด้วยสายตาอาฆาต
ในแววตานั้นสื่อชัดว่า “รอดูก็แล้วกันว่ากลับบ้านไป ฉันจะจัดการนายยังไง” แต่ลีออนยังคงนิ่งเฉยด้วยคติ “จงสนุกไปกับปัจจุบัน!”
ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง แต่ ณ.ตอนนี้ เธอต้องเสียหมาเพราะความอายซะก่อน
อิซาเบลลากดเปิดฉากสุดท้าย พลางพูดเตือน “บางเรื่องต้องดูด้วยตา ถึงจะไม่มีวันลืมได้”
ในฉากนั้น อิซาเบลลากับรอสไวส์นั่งเคียงข้างกันริมแม่น้ำ กำลังพูดคุยกัน
“โรส เธอมีเกณฑ์อะไรในการเลือกคู่ครองในอนาคตบ้าง?”
ในวัยสิบเจ็ดสิบแปดปี รอสไวส์ยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความรักหรือความสัมพันธ์นัก แต่เธอมีมาตรฐานที่ชัดเจน
เธอมองไปยังแม่น้ำก่อนตอบอย่างจริงจัง “อย่างน้อยเขาต้องเก่งกว่าในด้านวิชาการ ชนะรางวัลที่หนึ่งหรือแชมป์หลายงานแข่ง มีความรับผิดชอบและไม่รังเกียจเด็ก มีพลังแต่ไม่เหยียบย่ำคนที่อ่อนแอกว่า มีหลักการในการใช้ชีวิตและไม่โอนอ่อนไปตามกระแสรอบข้าง”
แววตาของอิซาเบลลาประกายขึ้น “สามข้อนี้ท้าทายทีเดียว โดยเฉพาะข้อท้ายๆ หลายคนมักมัวเมาหลังจากได้พลัง”
รอสไวส์ในวัยเยาว์เงยหน้ามองทางช้างเผือกบนท้องฟ้ายามค่ำคืน น้ำเสียงของเธอหนักแน่นแฝงด้วยความปรารถนาและความมุ่งมั่น “ใครจะไปรู้? ยังไงก็ตาม ถ้าฉันจะแต่งงาน ฉันจะแต่งงานกับคนแบบนั้นเท่านั้น ถ้าตลอดชีวิตนี้ฉันไม่เจอคนแบบนั้น ฉันก็จะไม่แต่งงาน”
ราชินีมังกรเงิน ผู้ที่ยอมเป็นโสดดีกว่าที่จะยอมลดมาตรฐานของตัวเอง
ฉากจบลง
ลีออนและลูกมังกรน้อยทั้งสองยังคงนิ่งอึ้งอยู่ชั่วครู่… ก่อนที่โนอาและมูนจะหันไปมองพ่อของตัวเองพร้อมกัน
โนอากล่าวว่า “เก่งกว่าในด้านวิชาการ ไม่เหยียบย่ำคนที่อ่อนแอ…”
มูนเสริมว่า “ไม่รังเกียจเด็ก…”
ลีออน: “เฮ้ย!”
***
จบบท70
คห.ผุ้แปล อย่างชอบเลย เปืดฉากด้วยความฮาคิกขุแล้วมาจบด้วยความหวานโรแมนติกตอนท้ายว่าสเป็คที่ชอบเป็นใคร ซึ่งตาลีออนนี่คือเป๊ะทุกตรง อ่านแล้วขำดี
ถ้ารอตอนใหม่ได้ก็อ่านที่นี่พรุ่งนี้ แต่ถ้าทนไม่ไหว จัดไปได้ที่เพจ คลิกตรงนี้เลยจ้า kurakon
MANGA DISCUSSION