หลายวันต่อมา ในช่วงเย็น ผมหยิบชุดนอนคู่รักแล้วเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยน
ถึงแม้โนอาจะกลับไปเรียนแล้ว แต่มูนอาจจะได้รับ “ภารกิจลับ” จากพี่สาวให้มาตรวจห้องพ่อแม่ตอนกลางคืนก็ได้
ถ้าเกิดโดนจับได้ว่า ไม่นอนด้วยกัน หรือไม่ใส่ชุดคู่รัก
พวกเราต้องโดนตำหนิแน่ ๆ
…
ผมวางชุดนอนไว้บนราวแขวนเสื้อใกล้ ๆ จากนั้น ไขว้แขนไปจับที่ชายเสื้อ ก่อนจะถอดมันออกจากล่างขึ้นบนอย่างรวดเร็ว
พอหันไปมองกระจก สายตาผมก็ตกไปที่ “ลายสักมังกร” บนหน้าอก
แม้ตอนนี้จะต้อง ใช้ชีวิตร่วมกับแม่มังกรนั่น
แต่ มันก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการแอบรวบรวมและกักเก็บพลังเวทของผมเลย
…
โชคดีที่ช่วงนี้รอสไวส์ไม่ค่อย “รอบคอบ” สักเท่าไหร่
หลังจาก เหตุการณ์ในห้องทำงานครั้งล่าสุด
ที่พลังเวทของผม สูญเสียไปบางส่วน เพราะท่าจู่โจม “พันรัดด้วยหาง”
ผมก็ตระหนักได้ว่า…
ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการปกติหรือไม่ก็ตาม จัดกันเมื่อไร พลังเวทของผมจะลดลงแน่นอน
…
แค่ใช้หางยังเป็นแบบนี้เลย
ดังนั้น เงื่อนไขสำคัญในการสะสมพลังเวทให้ได้ตามเป้าหมายคือ—
“ห้ามจัดกับรอสไวส์อีกเด็ดขาด”
ไม่ว่าจะในรูปแบบไหนก็ตาม!
…
แต่แค่คิดแบบผ่าน ๆ ก็รู้แล้วว่านี่มันแทบเป็นไปไม่ได้เลย
แรงผลักดันดั้งเดิมของรอสไวส์
ที่ทำให้เธอ เลือกแก้แค้นเชลยศึกผู้พ่ายแพ้อย่างผม
คือ การบังคับให้ผมทำเรื่องพวกนั้นกับเธอ
เพื่อเป็นการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของผม— ในฐานะมนุษย์ และในฐานะนักล่ามังกร
ตอนนี้ถ้าจะให้เธอ เปลี่ยนวิธีแกล้งผม
เธออาจจะถึงขั้น ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะทรมานผมยังไงดี
…
จะให้แขวนผมขึ้นแล้วฟาดด้วยแส้เส้นเล็ก ๆ หรือไง?
นั่นมันเข้าข่าย “ความรุนแรงในครอบครัว” แล้วนะ!
…
เอาเป็นว่า ถ้าผมอยากกู้คืนพลังให้กลับไปถึงขีดสุด
ช่วงนี้ ต้องลดการปฏิสัมพันธ์กับรอสไวส์ให้เหลือน้อยที่สุด
ถ้าเป็นไปได้ ก็ควรหลีกเลี่ยงการมีปฏิสัมพันธ์กับเธอไปเลย
พูดง่าย ๆ ผมต้องรักษา “ความบริสุทธิ์” ของตัวเองไว้ให้ได้
…
“ชิ… ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอาจารย์ถึงบอกว่าเด็กหนุ่มมักจะฝึกหนักกว่าคนอื่น”
“ตอนนี้เข้าใจแจ่มแจ้งเลย”
…
แต่ ให้ชายที่แต่งงานแล้ว เป็นพ่อคนแล้ว อาศัยอยู่กับภรรยา
แถม ภรรยาของเขาไม่ได้มีแค่หน้าตากับรูปร่างที่ดีเท่านั้น
แต่ยัง มีหางที่เธอชอบเอามาพันตัวเขาทุกคืน
แล้วบอกให้เขารักษาความ “บริสุทธิ์” ไว้
…
มันจะเป็นไปได้จริง ๆ เหรอ?!
และถ้ารอสไวส์รู้ว่า “ความสัมพันธ์ลึกซึ้ง” กับผมสามารถดูดพลังเวทของผมได้ล่ะก็…
จากเดิมที่จะจัดกัน 3วัน / 1ครั้ง อาจกลายเป็น 1 วัน / 3 ครั้งแทนก็ได้!
…
อย่าประมาทยัยมังกรคนนั้นเป็นอันขาด!
ถึงจะเป็นสถานการณ์ที่ ไม่ปกติสุด ๆ แบบนี้
แต่ผมมั่นใจว่า เธอจะต้องหาทางเอาเปรียบให้ได้แน่
…
“เฮ้อ… เอาเถอะ เพื่อการฟื้นฟูพลังอย่างมั่นคง”
“ช่วงนี้คงต้องเลิกยั่วแม่มังกรสักพัก”
…
แล้วจู่ ๆ ผมก็นึกขึ้นมาได้
“แต่ช่างเรื่องนั้นก่อน ตอนนี้ยังมีเรื่องสำคัญกว่าคือ ‘แผนการศึกษาก่อนคลอด'”
“ผมหยุดสอนเจ้าตัวเล็กไปหลายวันแล้ว คืนนี้คงต้องสอนต่อ”
…
คิดได้แบบนั้น ผมก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนเรียบร้อย แล้วเดินออกจากห้องน้ำ
พอเงยหน้าขึ้น ก็เห็นไฟในห้องทำงานยังเปิดอยู่
แสดงว่า… รอสไวส์ยังทำงานไม่เสร็จ
ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินไปยืนพิงขอบประตูห้องทำงานแบบสบาย ๆ
รอสไวส์ได้ยินเสียงฝีเท้า เงยหน้าขึ้นมองแวบหนึ่ง ก่อนจะก้มกลับไปทำงานต่อ
“มีอะไรหรือเปล่า?” เธอถามขึ้น
…
เธอสวมชุดนอนคู่รักสีชมพูเหมือนกัน แสดงว่าเธอคงเปลี่ยนชุด ตอนที่ผมอยู่ในห้องน้ำ
ผมยาวสีเงินของเธอถูกรวบเป็นหางม้าแบบเรียบง่าย พาดลงบนไหล่
เธอใช้กิ๊บหนีบหน้าม้าไว้ เพื่อไม่ให้เกะกะสายตาขณะทำงาน
…
ตอนที่รอสไวส์จดจ่ออยู่กับงาน เธอมีเสน่ห์แบบลึกลับที่แตกต่างจากตอนปกติโดยสิ้นเชิง
ไม่ใช่ ราชินีมังกรผู้เย็นชา
ไม่ใช่ ยัยมังกรจอมกวนประสาท
แต่เป็น หญิงสาวที่มีความงามแห่งสติปัญญา
งามจนคนที่เห็น… พลันเงียบไปโดยไม่รู้ตัว
และอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเธออยู่เงียบ ๆ
แน่นอนว่า ช่วงนี้เสน่ห์ของหญิงสาวผู้เฉลียวฉลาดคนนี้มีอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป
เพราะชุดนอนสีชมพูที่เธอสวม…
ลวดลายการ์ตูนเล็ก ๆ บนเนื้อผ้าดูไม่เข้ากับบุคลิกอันสง่างามของเธอเลยสักนิด
แต่มันกลับ สร้างความแตกต่างเล็ก ๆ ที่ดูน่ารัก
ทำให้เธอดูเข้าถึงง่ายขึ้นกว่าปกติ
…
ผมเหลือบมองถ้วยกาแฟบนโต๊ะ
ดูเหมือนว่าเธอ เตรียมตัวจะทำงานดึกอีกแล้ว
“งานเยอะขนาดนี้ คิดว่าจะทำเสร็จหมดไหม?” ผมถาม
“ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีวันเสร็จ” คนบ้างานตอบกลับมาสั้น ๆ
“งั้นให้ผมหาขนมมาให้ไหม?” ผมเสนอ
“ไม่ต้อง ฉันไม่หิว” รอสไวส์ปฏิเสธ
“แต่ผมเป็นห่วงลูกในท้องของคุณมากกว่านะ” ผมตอบกลับไปทันที
ปลายปากกาของรอสไวส์ชะงัก
ดวงตาสีเงินสะท้อนแสงระยิบระยับ ขณะเงยหน้าขึ้นมองผม
ปลายนิ้วจับปากกาไว้หลวม ๆ ฝ่ามือรองคางเล็กน้อย
เธอยิ้มบาง ๆ ดวงตาหรี่ลงเล็กน้อยอย่างจับผิด
“นายเป็นห่วงลูกจริง ๆ เหรอ?”
“หรือว่า… แค่ใช้ลูกเป็นข้ออ้าง เพราะเขินเกินกว่าจะพูดว่าเป็นห่วงฉันตรง ๆ กันแน่?”
…
ตั้งแต่ได้ยินจากอิซาเบลลาว่า “ผมเคยให้คำมั่นสัญญาบางอย่าง”
รอสไวส์ก็จับไต๋ได้อย่างจัง
…
เธอไม่แน่ใจหรอกว่า สิ่งที่พูดในวันนั้นมันออกมาจากใจจริง หรือเป็นแค่คำพูดเพื่อเอาใจพี่สาวเธอ
แต่เธอรู้ว่า ถ้าหยิบเรื่องนี้มาใช้เล่นงานผม มันต้องได้ผลแน่ ๆ
…
และแน่นอน คำพูดของรอสไวส์ทำให้ผมหยุดชะงักไปชั่วขณะ
แม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาที… แต่เธอก็เห็นช่องโหว่นั้นเต็ม ๆ
“ฉันเป็นห่วงเธองั้นเหรอ?”
“สิ่งเดียวที่ฉันสนใจเกี่ยวกับเธอ ก็คือเมื่อไหร่เธอจะยอมส่งตำแหน่ง ‘ราชินีมังกรเงิน’ ให้ฉัน”
“เพื่อที่ฉันจะได้ครอบครองวิหารมังกรเงินทั้งหมด และปกครองมันในฐานะเจ้าแห่งอาณาจักรนี้!”
“ลีออน แคสโมเด”
…
รอสไวส์รู้ดีว่า คำพูดเว่อร์เกินจริงนี่ไม่ใช่สิ่งที่ลีออนคิดจริง ๆ
แต่… แล้วเขาคิดอะไรอยู่กันแน่?
…
ก็ไม่รู้เหมือนกัน
แต่… มันก็ไม่สำคัญหรอก
…
คืนนี้ เธอพร้อมจะเล่นเกม “สองจริง หนึ่งลวง” ที่ไม่ได้เล่นมานานแล้ว
…
“แล้วไงต่อ?” รอสไวส์แกล้งเล่นตามน้ำ
การอยู่ร่วมกันก็เป็นแบบนี้แหละ
ในห้องนี้… มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่เป็นคู่สนทนาของกันและกัน
และ ท่ามกลางความน่าเบื่อของงานเอกสารที่ซ้ำซาก
ไม่ว่าคำพูดของลีออนจะเป็นความจริงหรือไม่…
มันก็เป็นความบันเทิงเดียวของรอสไวส์ในค่ำคืนนี้
…
“แล้วไงต่อ?”
“แล้วผมก็จะดูแลงานทั้งหมดของเธอเอง”
“ปล่อยให้เธอ… ‘ยัยมังกรบ้างาน’ คนนี้ ไม่มีอะไรทำ นอกจากเกษียณตัวเองแล้วใช้ชีวิตสงบสุขไปวัน ๆ”
เขานึกไม่ออกเลยว่าจะพูดอะไรหวาน ๆ ให้รอสไวส์ฟังได้
คิดไปคิดมา… สุดท้ายก็พูดออกมาได้แค่นั้น
…
ราชินีมังกรหัวเราะเบา ๆ กับคำตอบของเขา
“โอเค~ งั้นฉันขอทำงานอีกสักสองสามร้อยปีก่อนแล้วกัน”
“ถ้าอยากช่วยงาน ค่อยกลับมาแบ่งเบาภาระตอนนั้นก็แล้วกัน”
…
“อีกไม่กี่ร้อยปี แบบนี้ผมต้องคลานออกจากหลุมศพมาช่วยเธอทำงานงั้นเหรอ?”
…
“ไม่ต้องห่วง~”
“ฉันจะหาจอมเวทมาชุบชีวิตนาย”
“เปลี่ยนนายให้เป็นหุ่นเชิดที่รู้จักแต่การทำงาน”
“เป็นยังไงบ้าง~ สามีที่รัก~ ฉันใส่ใจนายมากเลยใช่ไหม?”
…
ผมฝืนยิ้ม ขบฟันแน่น
“เธอนี่… ใส่ใจผมจริง ๆ เลยนะ ภรรยาที่รัก”
รอสไวส์ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะกลับมาตั้งสติอีกครั้ง
เธอถอนหายใจเบา ๆ สายตามองไปที่กองเอกสารและรายงานบนโต๊ะ
ลีออนพูดถูก งานพวกนี้ไม่มีวันหมดจริง ๆ
…
เอาเป็นว่าคืนนี้พอแค่นี้ก่อนก็แล้วกัน
ยังไงซะ… หลังขึ้นเตียงไปแล้ว เธอก็ต้องอดนอนต่อไปจนกว่าจะตีสองครึ่งอยู่ดี
กาแฟถ้วยนั้นถูกเตรียมไว้เพื่อจุดประสงค์นั้นโดยเฉพาะ
…
รอสไวส์ถอดกิ๊บออก ปล่อยผมหางม้าให้สลายตัวลง
เส้นผมสีเงินยาวสลวยทิ้งตัวลงมาถึงเอว ราวกับสายน้ำตกที่ไหลเอื่อย
เธอลุกขึ้น ปิดโคมไฟบนโต๊ะทำงาน แล้วหันมาพูดว่า
“ฉันจะไปนอนแล้ว”
…
ผมรู้สึกดีใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ในที่สุด ยัยมังกรบ้างานก็ยอมพักผ่อนเสียที
พอเธอหลับ… ผมก็จะได้เริ่มแผนการศึกษาก่อนคลอดของผมซะที!
…
พวกเราขึ้นเตียงจากคนละฝั่ง
รอสไวส์เอื้อมมือปิดไฟหัวเตียง จากนั้นก็พูดเสียงแผ่วเบา
“ฝันดีนะ”
“ฝันดี”
…
ความจริงแล้ว พวกเขาไม่เคยมีนิสัยบอกฝันดีกันมาก่อน
เพราะมันไม่ใช่เรื่องจำเป็น
…
นักโทษสงครามกับราชินีมังกร— พวกเขาจะมาบอกฝันดีกันไปทำไม?
แค่ สามารถนอนบนเตียงเดียวกันได้
ก็นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว
แถม… มันยังทำให้พวกเขาดูเหมือน “สามีภรรยา” มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
…
แต่หลังจากคืนนั้น—
คืนที่โนอากับมูนบุกเข้ามาตรวจห้องพ่อแม่โดยไม่บอกกล่าว
พวกเขาก็เหมือนจะตกลงกันเงียบ ๆ ว่า จะต้องบอกฝันดีกันทุกคืน
…
เพราะในคืนนั้น—
พวกเขาได้ “ก่ออาชญากรรม” ด้วยกัน
จูบกันอย่างลับ ๆ…
และจาก จูบต้องห้ามคืนนั้น
ความสับสนและเสน่หาที่ซ่อนอยู่ ก็ถูกปลุกขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
คำว่า “ฝันดี” ฟังดูง่าย ๆ
แต่กลับช่วยบรรเทาความรู้สึกโหยหาในใจของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
…
ถ้าไม่พูด มันจะรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไปจากวันนั้นเสมอ
ดังนั้น พวกเขาจึงพูดออกมาอยู่ดี
ถึงแม้ว่า… จะไม่มีบุคคลที่สามล่วงรู้ก็ตาม
…
นอกจากนี้ แค่พูด “ฝันดี” มันไม่ได้มีความหมายอะไรพิเศษสักหน่อย… จริงไหม?
ถ้าการพูด “ฝันดี” หมายถึง มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน
แล้วทำไม… เจ้าลาที่ผมเคยพูดฝันดีให้ทุกวัน
ถึงไม่แปลงร่างเป็น “หญิงสาวลาแสนสวย” แล้วเกิดเป็นโศกนาฏกรรมรักต่างสายพันธุ์กับผมบ้างล่ะ?!
…
พอเถอะ หยุดคิดอะไรไร้สาระได้แล้ว
ผมค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลง เฝ้ารอให้แม่มังกรข้าง ๆ ผมหลับสนิท
…
ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ
เวลาผ่านไปสักพัก ผมรู้สึกว่าถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว
…
โดยไม่ขยับศีรษะเลยแม้แต่น้อย
ผมใช้หางตาเหลือบมองไปทางนาฬิกาบนผนัง
…
02:15 น.
ราชินีคงจะหลับแล้ว… ใช่ไหม?
ผมเตรียมตัวลงมือทันที
ริมฝีปากเม้มแน่น ก่อนจะแง้มออกเล็กน้อย
ผมกำลังจะลองถามว่า รอสไวส์หลับแล้วหรือยัง
แต่ก่อนที่ผมจะพูดอะไรออกไป…
เสียงของเธอก็ดังขึ้นมาก่อน
…
“นายหลับหรือยัง ลีออน?”
…
“ม…ไม่ ยังไม่หลับ…”
ผมรีบทำเสียงงัวเงีย แสร้งทำเป็นง่วงสุด ๆ
…
“อืม”
…
สิบ นาทีผ่านไป
…
“นายหลับหรือยัง ลีออน?”
“ยัง”
“อืม”
…
อีกสิบ นาทีผ่านไป
…
“นายหลับหรือยัง ลีออน?”
…
“ถ้ามีอะไรก็พูดมาเลยเถอะ”
…
“ไม่มีอะไร แค่ถามดูเฉย ๆ”
…
อีกสิบ นาทีผ่านไป…
“นายหลับหรือยั—”
“ไม่”
“อืม”
…
รอสไวส์เหลือบมองนาฬิกาบนผนัง
เกือบจะ ตีสองครึ่งแล้ว
ทำไมผู้ชายดื้อด้านคนนี้ยังไม่นอนอีก?!
รีบ ๆ หลับสักทีสิ!
ฉันอุตส่าห์เก็บคำถามไว้ตั้งเยอะ!
…
ขณะที่รอสไวส์หงุดหงิดอยู่ในใจ
ผมเองก็คิดในใจเหมือนกัน
“ยัยมังกรเป็นอะไร? ดื่มกาแฟมากไป? หรือว่านอนไม่หลับ?”
…
ไม่สิ ไม่ใช่แค่นั้นแน่ ๆ
…
สมองผมประมวลผลอย่างรวดเร็ว
ตามปกติแล้ว เวลานี้รอสไวส์ควรจะหลับสนิทไปนานแล้ว
และถ้าเธอยังไม่นอนจริง ๆ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องคอยถามซ้ำ ๆ ว่าผมหลับหรือยัง
ทุกทีพอเธอได้คำตอบ เธอก็ไม่พูดอะไรต่อ…
…
แบบนี้มันหมายความว่า…
“รอสไวส์อยากให้ผมหลับเร็ว ๆ สินะ?”
“เธอจะได้ทำอะไรบางอย่าง… โดยที่ผมไม่รู้ตัว?”
“หรือว่า…”
“เธอวางแผนจะทำอะไร ‘ซุกซน’ อีกแล้ว?!”
ผมเริ่มระแวงขึ้นมาทันที
งั้นก็ดี… ถ้ารอสไวส์ถามอีกครั้ง ผมจะลองแกล้งหลับดู แล้วดูสิว่าเธอคิดจะทำอะไร
…
ไม่นานหลังจากนั้น เสียงของรอสไวส์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“ลีออน~ ลีออน~ หลับหรือยัง?”
…
ผมปิดตาแน่น… ไม่ตอบสนองอะไรทั้งสิ้น
…
“โอ้โห~ หลับแล้วสินะ~”
…
เสียงผ้าห่มเสียดสีกับร่างกาย
พร้อมกับเงาร่างอันสง่างามของหญิงสาวที่ค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
…
ดวงตาสีเงินเปล่งประกายในแสงจันทร์
รอสไวส์ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะกระซิบกับตัวเองเบา ๆ
“งั้น… ฉันขอ ‘จัดการเอง’ ก็แล้วกัน~”
ผม: ?!
…
ยัยมังกรตัวแสบ… วางแผนจะทำอะไรอีกล่ะเนี่ย?!
**
จบ148
คห.ผุ้แปล ขออภัย เมาบ่อยช่วงนี้ แปลช้าแบบนี้แหละ แต่จะมาแปลเรื่อยๆนะ การอยู่ในห้องนอน มันยังมีอะไรเฮฮาให้ลุ้นได้แบบนี้แหละ มาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายเสียหมาก่อน
MANGA DISCUSSION