สองพี่น้องไม่ได้ออกไปทันที แต่กลับหมุนตัวนั่งลงบนพรมใต้เตียง พิงขอบเตียงกระซิบกระซาบคุยกัน
“ซี้ด…”
ความเจ็บแปลบที่เอวทำให้ลีออนหลุดออกจากภวังค์ เขาเงยหน้าขึ้นมอง ราชินีรอสไวส์ ที่กำลังยิ้มอย่างพึงพอใจ
รอยยิ้มนั้นราวกับกำลังบอกว่า “แล้วนายจะทำอะไรฉันได้ล่ะ?”
ลีออนกัดฟันทนความเจ็บที่เอว พลางพยายามนึกว่า รอสไวส์มีจุดอ่อนไหวตรงไหนบ้าง
แน่นอนว่ามีอยู่—ปลายหางของเธอ ทุกครั้งที่เขาแตะมัน รอสไวส์จะอ่อนแรงลงทันที เปลี่ยนจากแม่มังกรจอมพยศเป็นลูกแมวเชื่อง ๆ
แต่ตอนนี้ ยัยมังกรเก็บหางไปแล้ว! ทำให้เธอไร้เทียมทานในบ้านของตัวเอง!
แบบนี้ไม่ไหวแน่ เขาต้องหาทางตอบโต้เร็ว ๆ ไม่อย่างนั้น ถ้าถูกหยิกแบบนี้ทั้งคืน พรุ่งนี้เช้าเขาคงยืดตัวตรงไม่ได้แน่
สายตาของเขากวาดมองไปมาบนใบหน้าของรอสไวส์ที่สวยงาม ความเจ็บแปลบที่เอวยิ่งชัดขึ้น ทำให้สมองเริ่มคิดอะไรไม่ออก…
ในที่สุด ลีออนก็ละสายตาลงต่ำ จับจ้องไปที่ริมฝีปากนุ่มของรอสไวส์ ความคิดบ้าบิ่นบางอย่างพุ่งเข้ามาในหัว
ถึงจุดนี้แล้ว ถ้าอยากรักษาเอวของตัวเอง เขาก็ไม่มีทางเลือกอีกต่อไป!
รอสไวส์ที่กำลังพึงพอใจกับสีหน้าทรมานของลีออน ยังคงขยับริมฝีปากอย่างไร้เสียงว่า “ห้าม… ส่ง… เสียง…”
แต่รอยยิ้มมุมปากของลีออนกลับฉายแววเจ้าเล่ห์ เหมือนเขาคิดหาทางเอาคืนได้แล้ว
รอยยิ้มของรอสไวส์ชะงักไปชั่วขณะ ไม่แน่ใจว่าหมอนี่กำลังวางแผนอะไร
ยังไม่ทันที่ราชินีจะขยับตัว เธอก็รู้สึกได้ถึงฝ่ามือกว้างและเย็นของลีออน รองที่หลังศีรษะของเธอแล้วค่อย ๆ ประคองขึ้น
เขากำลังจะ…?
ทันใดนั้น ดวงตาของรอสไวส์ก็เบิกกว้าง!
แต่กว่ารอสไวส์จะรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น มันก็สายไปแล้ว
ลีออนประคองท้ายทอยของเธอไว้ ก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากของเธอ
จังหวะที่ริมฝีปากแนบกัน รอสไวส์เผลอออกแรงบีบที่เอวของเขาแน่นขึ้นโดยไม่รู้ตัว
เอวของเขากรีดร้องในความเงียบ!
ไม่มีทางเลือกแล้ว! ลีออนต้องเปลี่ยนความเจ็บปวดให้กลายเป็นพลัง จูบยัยมังกรกลับไปอย่างดุดัน!
ห้ามส่งเสียง? ได้! งั้นก็หุบปากกันไปหมดนี่แหละ ไม่มีใครส่งเสียงทั้งนั้น!
นี่แหละคือ ไหวพริบของสุดยอดนักล่ามังกร!
แผนการอันดับหนึ่งของโลก เริ่มปฏิบัติการแล้ว!
ดวงตาสีเงินของรอสไวส์สั่นไหวอย่างรุนแรง ถ้าไม่ติดว่าลูกสาวอยู่ตรงนี้ หางของเธอคงฟาดหน้าเจ้าหมอนี่ไปแล้วแน่!
เธอออกแรงบีบเอวของลีออนแน่นขึ้น หวังจะทำให้เขาถอดใจเพราะความเจ็บ
แต่ยิ่งเธอบีบแรงเท่าไหร่ ลีออนก็จูบลึกขึ้นเท่านั้น และเมื่อจูบยืดเยื้อออกไป แรงต่อต้านของรอสไวส์ก็ค่อย ๆ อ่อนลง…
พูดก็พูดเถอะ นับตั้งแต่ ค่ำคืนอันแสนวุ่นวายและเร่าร้อนในบ่อน้ำพุร้อน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีความรู้สึกประหลาด ๆ ต่อการ “จูบ”
แม้ว่าทั้งร่างกายและจิตใต้สำนึกของพวกเขาจะต่อต้านการจูบกัน แต่ทุกครั้งที่สบตากัน ความทรงจำของจูบในคืนนั้นก็มักจะย้อนกลับมาโดยไม่อาจควบคุมได้…
สำหรับพวกเขา “จูบ” ไม่ใช่แค่การสัมผัสทางกาย แต่มันคือการเชื่อมโยงกันในระดับของจิตวิญญาณ เป็นประสบการณ์ที่ลึกซึ้งและงดงาม เกินกว่าความรู้สึกที่เกิดจากการสัมผัสทางกายใด ๆ
มันยังเป็นสิ่งที่คล้ายกับ “สิ่งเสพติด” บางอย่าง พวกเขาต่างพยายามหลีกหนี แต่สุดท้ายก็ไม่อาจปล่อยมือจากมันได้
รูนมังกรไม่ได้เรืองแสง รอสไวส์รู้ดีว่าความอ่อนแรงของเธอตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพันธะใด ๆ แต่เป็นเพราะ เธอกำลังตกอยู่ในความลุ่มหลงที่ห้ามตัวเองไม่ได้
อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาจูบกัน หลังจากกลับจากบ่อน้ำพุร้อน
ครั้งล่าสุดคือ ที่จุดหมายสุดท้ายของเดตใน “นครนภา” บนชายหาดใต้แสงอาทิตย์อัสดง ท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบฝั่ง เธอเป็นฝ่ายโน้มตัวเข้าจูบลีออนก่อน—โดยไม่ทันรู้ตัว
เธอมักจะหวนนึกถึงสัมผัสของจูบนั้นอยู่เสมอ…
พูดตามตรง เธอไม่ได้รังเกียจความรู้สึกนั้นเลย แต่เธอไม่กล้ายอมรับมันต่างหาก
เธอเป็นถึงราชินีมังกรเงิน จะปล่อยตัวปล่อยใจไปกับการจูบนักล่ามังกรได้ยังไง?!
แต่เธอก็เชื่อว่า ตอนนี้ลีออนก็คงรู้สึกแบบเดียวกันกับเธอ
ถ้าไม่ใช่เพราะสถานการณ์บังคับ เขาไม่มีทางเป็นฝ่ายจูบเธอก่อนแน่
ในสถานการณ์แบบนี้ มีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ราชินีมังกรเงินยอมแพ้ หยุดชาเลนจ์ “ห้ามส่งเสียง” และนอนนิ่ง ๆ รอให้ลูกสาวออกจากห้องไปเอง
พอแล้ว พอเถอะ~
“ชาเลนจ์ห้ามส่งเสียง” บ้าบออะไรนั่น… มันก็แค่ข้ออ้างของ คู่แต่งงานที่ไม่ลงรอยกัน คอยเอาชนะกัน และแกล้งกันไปมาเท่านั้นเอง
เมื่อจูบลึกขึ้น ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ รอสไวส์ก็ละมือออกจากเอวของลีออนแล้ว
แทนที่จะบีบไว้แน่น เธอกลับวางฝ่ามืออุ่นนุ่มลงบนเอวของเขาเงียบ ๆ ค่อย ๆ ปล่อยตัวไปกับ “จูบที่ถูกบังคับ” นี้
แม้จะไร้เสียง แต่เมื่อจูบดำเนินไปถึงจุดสูงสุด ร่างกายของพวกเขาก็เริ่มตอบสนองโดยไม่รู้ตัว
ขาใต้ผ้าห่มของลีออนและรอสไวส์เสียดสี พันเกี่ยวกันไปมา
เสียงผ้าห่มเสียดสีกันดังขึ้นเบา ๆ
สองมังกรน้อยใต้เตียงรีบยกมือขึ้นปิดปากเมื่อได้ยินเสียง แต่… มันก็น่าจะเป็นแค่เสียงคนพลิกตัวใช่ไหม?
มูนกลอกตาไปมา ก่อนกระซิบเบา ๆ “พี่ ไปกันเถอะ~”
“อืม โอเค”
หน่วยรบพิเศษมังกรสาว ถอนกำลัง!
พวกเธอย่องออกจากห้องนอนอย่างเงียบเชียบเช่นเดียวกับตอนเข้ามา ก้าวขาสูง ลงน้ำหนักเบา ไม่มีผิดพลาด
ก่อนออกจากห้อง โนอาหันกลับไปมองพ่อแม่ที่อยู่บนเตียงเป็นครั้งสุดท้าย แล้วกระซิบเบา ๆ “ฝันดีนะคะ”
จากนั้น โนอาก็ค่อย ๆ ปิดประตูห้องนอนลงอย่างแผ่วเบา
…ในขณะเดียวกัน สองคนที่อยู่บนเตียงต่างก็รู้ดีว่าลูกสาวออกไปแล้ว
แต่แปลกจริง… พวกเขากลับทำเหมือนไม่รู้ และยังคงจูบกันอย่างดูดดื่มต่อไป…
และพวกเขาก็ยังคงรักษา “ความเงียบ” ไว้ต่อไป…
ความรู้สึกนี้ช่างเย้ายวนราวกับสิ่งเสพติด พวกเขาหยุดมันไม่ได้
เพราะลีออนและรอสไวส์ต่างก็รู้ดีว่า ในสถานการณ์ปกติ ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถจูบกันได้อย่างเร่าร้อนและระมัดระวังไปพร้อมกันแบบนี้
มันให้ความรู้สึกเหมือนแอบอ่านนิยายในคาบเรียนตอนวัยรุ่น ตื่นเต้นไปกับเรื่องราวที่ดำเนินไปข้างหน้า ในขณะเดียวกันก็ต้องคอยระแวงว่าอาจารย์จะจับได้ ทั้งหวาดเสียวและเร้าใจไปพร้อมกัน
แต่พอออกจากห้องเรียน ความรู้สึกนั้นก็จะหายไป นิยายเล่มนั้นจะไม่ถูกเปิดขึ้นอีก
ทว่า… ทั้งนายและฉันต่างก็รู้ดีว่า “นิยายเล่มเดิมก็ยังคงเป็นนิยายเล่มเดิม” เนื้อหาของมันไม่เคยเปลี่ยนไปเลย—สิ่งที่เปลี่ยนไป มีเพียงแค่สภาพแวดล้อมรอบตัวเท่านั้น
หากปราศจาก “ความตึงเครียดและความตื่นเต้น” แล้ว “ความอยากลองดี” และ “แรงปรารถนาที่จะทำลายกฎเกณฑ์” ในจิตใจของมนุษย์ก็จะไม่ถูกกระตุ้น
และในขณะที่พวกเขาจูบกัน มันไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึกซาบซ่านจากสัมผัสของกันและกัน แต่ยังเป็น ความเร้าใจจากการละเมิดขีดจำกัดบางอย่าง
จนกระทั่งรูนมังกรเรืองแสงแผ่วเบา ประกายแสงสีฟ้าแล่นวาบขึ้นระหว่างอกที่แนบชิดกัน
ทั้งคู่รีบผละออกจากกันโดยสัญชาตญาณ
รอสไวส์หน้าแดงจัด เพราะพวกเขาจูบกันนานเกินไป จนทำให้สมองของเธอขาดออกซิเจนไปชั่วขณะ
รอสไวส์หรี่ตาลง สะบัดศีรษะไปมาแรง ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นนวดขมับเล็กน้อย จนเริ่มรู้สึกดีขึ้น ลีออนเองก็ทำแบบเดียวกัน
เมื่อทั้งคู่ตั้งสติได้แล้ว พวกเขานอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน จ้องมองกันเงียบ ๆ
ไม่มีการระเบิดอารมณ์ใส่กัน ไม่มีคำพูดหยอกล้อ และไม่มีความดื้อรั้นใด ๆ มีเพียงแค่… สายตาที่ประสานกัน
ดวงตาสีดำและสีเงินสะท้อนกันในความมืดด้วยแววตาที่ร้อนแรง
แต่ลึก ๆ แล้ว พวกเขาก็รู้ดีว่า… มันจะไม่เกิดขึ้นอีก
คืนนี้ ทุกอย่างจบลงแค่นี้
สุดท้าย ลีออนก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ
“ผมกลับไปนอนที่โซฟาดีกว่า”
รอสไวส์ไม่พูดอะไร
ลีออนพลิกตัวอย่างเงียบ ๆ ตั้งใจจะเปิดผ้าห่มแล้วลุกออกจากเตียง
แต่ทันทีที่เขาหันหลังไป รอสไวส์ก็คว้าหมับเข้าที่ฮู้ดของชุดนอนเขาจากด้านหลัง
“อะไร? ยังกลัวแมงมุมอยู่อีกเหรอ? ผมแค่แกล้งพูดไปอย่างนั้น ที่นี่ไม่มีแมงมุมหรอก” ลีออนเอ่ยขึ้น
ไม่มีเหตุผลอะไรเลย
เธอแค่จับเขาไว้… โดยไม่มีเหตุผล
ทำไมเธอถึงทำแบบนั้น?
สมองของเธอแทบไม่ได้สั่งการด้วยซ้ำ มือก็เอื้อมไปคว้าฮู้ดของลีออนเองโดยอัตโนมัติ
รอสไวส์เม้มริมฝีปาก อยากพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ลังเล
ลีออนคิดว่าเธอยังคงกังวลเรื่องแมงมุม เขาจึงพลิกตัวกลับมามองหน้าเธอ แม้ว่าท่าทางของเธอจะดูแปลกไปหน่อย แต่ลีออนก็ยังคงตีความว่ามันเป็นความกลัวแมงมุมอยู่ดี
“งั้นผมจะอยู่เป็นเพื่อนก่อนนะ พอหลับแล้วเดี๋ยวผมค่อยกลับไป—”
“ไม่ต้องกลับก็ได้”
รอสไวส์เอ่ยขัดเขาขึ้นมาเบา ๆ แต่… เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อจากนั้น
หลังจากพูดจบ เธอเพียงแค่มองตาลีออนเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไรอีก
หัวใจของลีออนสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้า “โอเค”
รอสไวส์ค่อย ๆ หลับตาลง แพขนตายาวโค้งค่อย ๆ ลดลงตามแนวเปลือกตาอย่างช้า ๆ
สีหน้าของเธอดูผ่อนคลายลงเรื่อย ๆ แต่ปลายนิ้วที่ยังกำฮู้ดชุดนอนของลีออนไว้แน่นกลับไม่ยอมคลายออก
ลีออนเหลือบมองฮู้ดที่ยังถูกยึดไว้ ก่อนจะถอนหายใจในใจ
“ดูท่าคืนนี้ฉันคงพลิกตัวไปไหนไม่ได้แล้วสินะ”
“ฝันดี…” ราชินีมังกรพึมพำเสียงแผ่วเบา ราวกับละเมอ
“ฝันดี” ลีออนตอบกลับ
****
จบ141
คห.ผู้แปล ชาเลนจ์ผีผ้าห่มก็ปิดฉากด้วยความหวานเยี่ยงนี้ สนุกชิบเป๋งเลย หรือใครคิดว่าไงบ้าง พูดคุยกันได้นะค้าบ
MANGA DISCUSSION