ลีออนคิดในใจว่า ต้องรีบจัดการเค้กที่เหลือในมื้อเที่ยงให้หมด
—ครีมน่ะเสียง่าย ยิ่งกินให้หมดเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี
ว่าแล้วเขาก็เดินตรงไปที่ห้องของรอสไวส์ โดยไม่เคาะประตูแม้แต่นิดเดียว
…
เขาแค่ เปิดประตูเข้าไปอย่างหน้าตาเฉย
รอสไวส์ นอนอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก สวมชุดคลุมบางเบา
สายลมเย็น ๆ จากระเบียงพัดเข้ามาเบา ๆ ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายใจสุด ๆ
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า เธอไม่ได้ลุกขึ้นมามองดูเลยสักนิด
—เพราะทั้งวิหารมังกรเงินนี้ มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ บุกเข้าห้องเธอโดยไม่เคาะประตู
และคนนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากลีออน!
รอสไวส์เคย “ลงโทษ” ลีออนหลายครั้ง สำหรับพฤติกรรมบุกเข้าห้องโดยไม่เคาะประตูแบบนี้
แต่… นั่นมันเมื่อก่อน
ลีออนในอดีต—อ่อนแอและถูกเธอจัดการได้ง่าย ๆ
แต่ลีออนในตอนนี้—ดุดันราวกับสิงโตตัวผู้
รอสไวส์รู้ดีว่า ถ้าลงมือกับเขาง่าย ๆ มีหวังสถานการณ์ที่เคยคุมได้ต้องพลิกกลับมาเป็นฝ่ายเสียเปรียบแน่ ๆ
และสุดท้ายอาจนำไปสู่การพ่ายแพ้อย่างหมดรูป
ดังนั้น… เธอเลยเลือกที่จะ ปล่อยผ่านไป
ยังไงซะ ตอนกลางวันเธอก็ไม่ค่อยอยู่ในห้องอยู่แล้ว แค่ล็อกประตูตอนกลางคืนก็พอ
“หืม? เธอมาทำอะไรที่นี่?”
เมื่อเห็น ร่างอันสง่างามของรอสไวส์ นอนอยู่บนโซฟา ลีออนก็ถึงกับนิ่งไปครู่หนึ่ง
ปกติแล้ว ก่อนถึงช่วงเที่ยง รอสไวส์มักจะยุ่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ของวิหาร
จากนั้นก็ตรงไปยังห้องอาหารทันที
…
ดวงตาสีเงินของรอสไวส์เปิดขึ้นเล็กน้อย มองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
“นายบุกเข้าห้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วยังมาถามว่าฉันมาทำอะไรในห้องตัวเองเนี่ยนะ? ฟังดูสมเหตุสมผลไหม?”
ลีออนยักไหล่ แสดงท่าทางไม่สนใจ
…
ยังไงซะ เขาก็รู้อยู่แล้วว่า การทำแบบนี้จะทำให้รอสไวส์รู้สึกอึดอัด
…
และนั่นแหละ—เขาถึงทำ!
ยิ่งเธอไม่ชอบที่เขาทำอะไรบางอย่าง—เขาก็ยิ่งทำมันมากขึ้น
เป้าหมายหลักของลีออนคือการแสดง “เจตนากบฏ” โดยแท้
รอสไวส์ หลับตาลงและหาวเบา ๆ น้ำตาคลอเล็กน้อยตรงหางตาเพราะความง่วง
ลีออนยิ้มมุมปาก “บอู้งานสินะ?”
รอสไวส์ตอบเสียงเนือย ๆ “ฉันทำงานแปดโมงเช้าถึงห้าโมงเย็นทุกวัน ทั้งปีไม่มีวันหยุด จะกลับมานอนพักสักหน่อยมันผิดตรงไหน?”
“ไม่มีอะไร ผ่อนคลายตามสบายเลย”
ลีออนโบกมือพลางหันหลังให้เธอ “ผมแค่มาเอาเค้ก”
สายตาของลีออน เลื่อนไปที่เค้กชิ้นเล็กบนโต๊ะ
—ครีมทั้งหมดถูกปาดออกแล้ววางไว้บนกระดาษทิชชู่ข้าง ๆ
ลีออนหัวเราะเบา ๆ “เกลียดครีมขนาดนั้นเลย?”
รอสไวส์ไม่ตอบทันที
ความจริงแล้ว ลีออนเองก็ไม่ชอบครีมเท่าไหร่เหมือนกัน
เพราะ “ประสบการณ์ครีมพัฟ” ในวันงานกีฬาที่โรงเรียนยังตราตรึงอยู่ในใจ
…
แต่ทั้งคู่—ในฐานะคู่สามีภรรยาขี้แกล้งแบบไม่ยอมกัน
—ก็มักจะเล่นตาม “สูตรทำลายล้าง” แบบ ‘เจ็บตัว 800 เพื่อศัตรูเจ็บ 1,000’ เสมอ
ลีออนเลือกที่จะไม่ถามต่อ เพราะเริ่มรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักกับหัวข้อนี้
แต่คราวนี้ รอสไวส์กลับไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงกับเขาเหมือนเคย
เธอแค่พูดขึ้นเบา ๆ “กินครีมเยอะเดี๋ยวก็อ้วนหรอก”
พร้อมกับ เอื้อมมือไปหยิกต้นขาตัวเองเบา ๆ ผ่านเนื้อผ้าบางเบาของชุดคลุม
…
อืม… เหมือนน้ำหนักจะขึ้นอีกนิดหน่อยแล้วสิ
ถึงมันจะไม่ได้มากจนมองเห็นได้จากภายนอก แต่ประสาทสัมผัสของเธอนั้นแม่นยำเสมอ
ถ้ารู้สึกว่าอ้วนขึ้น นั่นแปลว่า… ใช่ อ้วนขึ้นจริง ๆ!
รอสไวส์รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย—
แม้ว่าเธอจะควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเคร่งครัดมาตลอดหลายสิบปี น้ำหนักตัวก็ยังคงที่เสมอ
แต่พักหลังมานี้ เจ้าก้อนเนื้อเล็ก ๆ เหล่านี้กลับโผล่มาเหมือนเห็ดหลังฝน—และเติบโตอย่างรวดเร็ว
หรือว่า… เธอจะมีพฤติกรรมแย่ ๆ บางอย่างโดยไม่รู้ตัว จนทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น?
รอสไวส์ครุ่นคิดอยู่สักพัก แต่ก็นึกอะไรไม่ออก
ทุกอย่างดูเหมือนจะเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนเลย
แต่ถ้าจะให้พูดถึง “ความแตกต่าง” จากเมื่อก่อนจริง ๆ ล่ะก็…
อืม… ก็คงจะเป็น—ช่วงนี้เธอกับลีออน “แลกเปลี่ยนการบ้าน” กันน้อยลง
ซี้ดด—
คิดมาถึงตรงนี้ รอสไวส์ก็หรี่ตาลงแน่น
รีบสะบัดหัวเพื่อสลัดความคิดบ้า ๆ นี้ออกไปทันที
—การแลกเปลี่ยนการบ้านช่วยลดน้ำหนักได้? นี่มันตรรกะบ้าอะไร?!
เธอไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนเลย!
…
รอสไวส์รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
เธอยืดตัวนั่งตรงขึ้น เตรียมจะพูดอะไรบางอย่างออกมา
แต่ทันใดนั้น—
การลุกนั่งเร็วเกินไปทำให้เลือดไหลเวียนไม่ทัน
ภาพตรงหน้ามืดลงชั่วครู่ พร้อมกับอาการวิงเวียนเล็กน้อย
ลีออนกำลัง หั่นเค้กเป็นชิ้นเล็ก ๆ และวางลงบนจาน
ขณะที่เขาเหลือบมองรอสไวส์ เธอดูแปลกไปเล็กน้อย
“ไม่สบายหรือเปล่า?” ลีออนถามด้วยน้ำเสียงเรื่อย ๆ
รอสไวส์ยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ “ไม่หรอก แค่มึนหัวนิดหน่อย”
“อ้อ… งั้นดื่มน้ำอุ่นเยอะ ๆ นะ” ลีออนตอบกลับแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ
รอสไวส์ ส่งสายตาเหยียดใส่เขา
ก่อนจะเลือกที่จะไม่พูดอะไรอีก
หลังจากรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย รอสไวส์ก็ลุกขึ้นจากโซฟา หยิบเสื้อคลุมมาสวม ก่อนจะเดินออกจากห้อง
ด้านลีออน หลังจาก หั่นเค้กเสร็จ เขาก็ยกมันไปที่ห้องอาหาร
ทั้งครอบครัวนั่งล้อมโต๊ะด้วยกัน โดยที่เค้กถูกวางพักไว้ก่อน รอทานเป็นของหวานหลังมื้ออาหาร
มูน นั่งตรงข้ามรอสไวส์ ไม่ไกลจากแม่มากนัก
เธอกะพริบตา จ้องแม่ด้วยความสงสัย ก่อนจะถามขึ้น
“แม่คะ… แม่ดูเหมือนไม่ค่อยได้นอนเลย”
รอสไวส์เงยหน้าขึ้นมองลูกสาว จัดทรงผมตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มบาง ๆ
“จริงเหรอ? แม่ไม่คิดว่างั้นนะ บางทีอาจจะเพราะวันนี้แม่ไม่ได้แต่งหน้า เลยดูง่วง ๆ หน่อยก็ได้”
“แม่ต้องดูแลตัวเองด้วยนะ” มูนพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย
“อืม… แม่รู้จ้ะ” รอสไวส์พยักหน้าเบา ๆ “รีบกินข้าวเถอะ ช่วงบ่ายหนูต้องเรียนกับพ่อไม่ใช่เหรอ?”
“อื้อ!” มูนตอบพร้อมรอยยิ้ม แล้วก้มหน้ากินข้าวอย่างตั้งใจ
ทั้งคู่ ลีออนและรอสไวส์สบตากันชั่วครู่ โดยไม่ได้พูดอะไร
แล้วก็ค่อย ๆ ทานอาหารต่อไปอย่างเงียบ ๆ
หลังจากผ่านไปสักพัก รอสไวส์ลุกขึ้นเตรียมตัวออกจากโต๊ะ
“อย่าหักโหมเกินไปนะตอนเรียน ผ่อนคลายบ้างนะ” เธอเตือนเบา ๆ ก่อนจะเดินออกไป
ลีออน เหลือบมองจานของรอสไวส์
—มีอาหารเหลืออยู่ค่อนข้างเยอะ
ลีออนสงสัยในใจ —หรือว่าเธอกำลังพยายามลดน้ำหนัก?
เขาเงยหน้ามองตามแผ่นหลังของรอสไวส์ที่กำลังเดินจากไป
ร่างสูงสง่างาม ผมยาวสลวย—รูปร่างสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ
—ช่วงขาเรียวยาว เอวคอดได้สัดส่วน
…เธอไม่จำเป็นต้องลดน้ำหนักเลยด้วยซ้ำ
ผู้หญิงนี่ช่างเข้าใจยากจริง ๆ
ลีออนถอนสายตากลับมา ก่อนจะหันไปหามูน
“มูน กินเยอะ ๆ หน่อยนะ หนูต้องใช้พลังงานเวลาเรียน”
“ค่า พ่อ!” มูนตอบอย่างกระตือรือร้น พร้อมตักข้าวเข้าปากอย่างตั้งใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จ ลีออนและมูนก็ไปพักผ่อนที่สวนหลังวิหารประมาณครึ่งชั่วโมง ก่อนจะเริ่มบทเรียนช่วงบ่าย
มูนมีความเข้าใจที่ดีและเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ลีออนพอใจมาก
ถึงแม้ว่ามูนมักจะถูกมองว่าเป็น “ตัวมาสคอต” ของบ้าน แต่เวลาที่เธอตั้งใจจริง ประสิทธิภาพในการเรียนรู้ของเธอก็ไม่แพ้โนอาเลย
และทั้งหมดนี้ ขึ้นอยู่กับตัวมูนล้วน ๆ ว่าอยากตั้งใจแค่ไหน
โนอา เป็นอัจฉริยะและคลั่งไคล้การเรียนรู้
ระดับต่ำสุดของโนอา ยังเป็นขีดจำกัดสูงสุดของคนอื่น ๆ
แต่สำหรับมูน…
เธอจะทุ่มเทอย่างเต็มที่ ก็ต่อเมื่อมีเป้าหมายที่อยากไปให้ถึง
เธอเคยบอกลีออนว่า “หนูอยากไล่ตามพี่สาวให้ทัน”
และนั่นคือเหตุผลที่เธอพยายามอย่างหนักในช่วงนี้
…
คุณพ่อผู้ภาคภูมิใจรู้สึกปลื้มใจอย่างล้นเหลือ
นี่มันไม่ใช่แค่การตั้งใจเรียนเพราะอยากกินสเต๊ก—แต่เป็นเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่มาก!
นี่แหละ ลูกสาวของเขาโดยแท้!!
…
ลีออนเริ่มจินตนาการถึงวันที่มูนตื่นขึ้นมาพร้อมพรสวรรค์ด้านเวทมนตร์
ถ้าหนูน้อยคนนี้ มีธาตุสายฟ้าเหมือนกับโนอา
…
คำว่า “ดีใจจนตัวลอย” คงไม่พอที่จะอธิบายความรู้สึกของเขาได้!
มันต้อง “เดินขิงทั่ววังมังกร” ถึงจะเหมาะสม!
ลีออนจินตนาการตัวเองกำลังเต้นอยู่บนหัวของรอสไวส์อย่างภาคภูมิใจ
—“เห็นไหมล่ะ ยัยมังกร! ลูกสาวทั้งสองของเราน่ะเก่งขนาดนี้ เพราะยีนของฉันล้วน ๆ!”
…
แต่ช้าก่อน… เก็บแชมเปญไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้ยังไม่แน่นอนนัก
ลีออนสะบัดความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป แล้วหันกลับมาตั้งใจสอนมูนต่ออย่างขยันขันแข็ง
ช่วงบ่ายแก่ ๆ ลีออนให้มูนพักเบรก พร้อมมอบโจทย์ฝึกฝนให้เธอทำเอง
จากนั้นเขาลุกขึ้น เดินไปยังชั้นหนังสือเพื่อเลือกหาหนังสือที่อาจช่วยไขปัญหาเรื่องพลังเวทที่หายไปของตัวเองได้
โนอาเคยบอกว่า ช่วงปิดเทอมฤดูหนาวของสถาบันจะเริ่มในอีกประมาณหนึ่งเดือน
ลีออนรู้ดีว่า เขาต้องฟื้นฟูพลังเวทให้ได้ก่อนถึงเวลานั้น
เพราะเขาได้สัญญาไว้แล้วว่า จะสอนเวทสายฟ้าเพิ่มเติมให้โนอา
…
เวลาเหลือน้อย แต่ภารกิจยังหนักหน่วง ลีออนไม่อาจปล่อยให้ตัวเองล่าช้าไปกว่านี้ได้
แต่ปัญหาคือ… แม้จะลองทุกวิธีที่พอจะนึกออกแล้ว เขาก็ยังไม่มีความคืบหน้าเลย
ลีออนยืนพิงชั้นหนังสือ ถือหนังสือเก่าไว้ในมือ พลางขมวดคิ้วแน่น
“มันผิดพลาดตรงไหนกันแน่… สาเหตุของการสูญเสียพลังเวทนี้คืออะไร?”
“สามารถรวบรวมพลังเวทได้บางส่วนตามปกติ ไม่มีปัญหากับวงจรเวทเลย
—ร่างกายและจิตใจก็แข็งแรงดี และก็ไม่ได้ถูกผนึกด้วยพลังภายนอกใด ๆ
—ผลข้างเคียงจากอาคมโลหิตก็แค่ทำให้หมดสติชั่วคราว ไม่เกี่ยวกับการสูญเสียพลังเวทสักนิด”
ลีออนถอนหายใจ “พิจารณาความเป็นไปได้ทุกทางแล้ว แต่ก็ยังหาสาเหตุไม่เจอ”
เขาขมวดคิ้วแน่นขึ้น “หรือว่า… ตั้งสมติฐานผิดแต่แรก?”
ขณะที่ความคิดของลีออนลึกลงเรื่อย ๆ บรรยากาศภายในห้องสมุดก็ค่อย ๆ หนักอึ้งขึ้น
เขายกมือขึ้น ตั้งใจจะปลดกระดุมคอเสื้อให้คลายความอึดอัด
แต่ทันทีที่มือสัมผัสหน้าอก การเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดชะงักทันที
ในเสี้ยววินาทีนั้น—
ไอเดียใหม่เอี่ยมก็วาบขึ้นมาในหัวของเขา
“หรือว่า… สาเหตุของทั้งหมดนี้—”
***
จบ 123
คห.ผ้แปล ช่วงนี้ไลค์น้อยบวกขี้เกียจด้วยน เนื้อหาไม่มีไรเลยไม่รีบอัพอะนะ 55 อยากให้อัพไวคงต้องไลค์เยอะกว่านี้สักนิดนิคละกันคร้าบบบบ
MANGA DISCUSSION